EP.15 [โลกกลมหรือพรหมลิขิต]

958 Words
ใบหน้าสวยรูปไข่ ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่ารัก ดวงตากลมโตแสนหวาน ผมจำทุกสิ่งทุกอย่างของเธอได้ไม่เคยลืมเลือน เธอคนนั้นเดินมาหยุดยืนบนทางม้าลายฝั่งตรงข้ามกับผม สายตาเศร้า ๆ ของเธอเหม่อลอยราวกับมีเรื่องในใจให้คิดมากมาย [ฮัลโหล… ไมล์ ได้ยินเหมยพูดไหม] เสียงเรียกของเหมยหลินเรียกสติที่หลุดลอยไปของผมให้กลับมา ชั่วขณะที่ดวงตาสวยหวานคู่นั้นกำลังเลื่อนมองมาทางผมพอดี ผมรีบหมุนตัวหันหลังพร้อมกับดึงหมวกฮู้ดขึ้นมาคลุมศีรษะทันที เวรเอ๊ย… ก็รู้ว่ามาย่านนี้แล้วอาจจะพบเธอ… แต่ไม่คิดว่ามันจะได้เจอจริง ๆ นี่หว่า นี่โลกมันกลมหรือพรหมลิขิตกันแน่วะ… . . . [บทบรรยาย ไกอา] วันนี้จินหลงไม่กลับห้องอีกแล้ว… เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนจินหลงโทรมาบอกว่าจะไม่กลับห้องคืนนี้ เขาบอกให้ฉันทานข้าวและเข้านอนได้เลยไม่ต้องรอเขา ฉันจึงเลือกทานง่าย ๆ ด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่แหละ หลังจากแวะซื้อบะหมี่และของใช้ส่วนตัวสองสามอย่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตแถวคอนโดเสร็จ ฉันเดินเอื่อย ๆ มาหยุดรอข้ามฝั่งริมถนนบนทางม้าลาย ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลายามเย็นซึ่งคนพลุกพล่านมากที่สุด ถือเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนของใครหลาย ๆ คน ซึ่งไม่รวมฉัน สัญญาณไฟข้ามถนนเปลี่ยนเป็นสีเขียว ทุกคนรอบกายเริ่มก้าวเท้าลงสู่พื้นถนน ฉันก้าวตามด้วยความเหม่อลอยเช่นกัน ภายในหัวคิดทบทวนถึงเรื่องหัวข้อวิจัยอย่างไม่ตก ฉันคิดเรื่องนี้มาหลายวันแล้วนะ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ตกสักที ยอมรับตรง ๆ ว่าฉันสนใจข้อเสนอของพันเก้ามาก ถ้าหากฉันได้ทำหัวข้อวิจัยกับทางร้านอาหารของพันเก้าจริง ๆ ทุกอย่างมันจะลงล็อกมาก เพราะร้านนั้นเป็นร้านอาหารไทย-จีนชื่อดังของฮ่องกง แถมยังมีคอนเทนต์ที่ดีมากด้วย เหมาะกับการทำหัวข้อวิจัยสุด ๆ แต่… มันติดที่เขาคนนั้นเป็นผู้ดูแลร้านอาหารอยู่ในขณะนี้น่ะสิ Rrr… เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นในตอนที่ฉันก้าวเท้าขึ้นมายืนบนฝั่งริมถนนเรียบร้อยแล้ว ฉันหยุดยืนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายพลางเงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบกายไปด้วย ขณะนั้นสายตาหยุดลงตรงแผ่นหลังของร่างสูงซึ่งยืนหันหลังอยู่ห่างจากฉันไม่กี่ก้าว เขาคนนั้นสวมเสื้อฮู้ดคลุมศีรษะมิดชิด วูบหนึ่งฉันเห็นเขาเอียงใบหน้ามาด้านข้างเหมือนกำลังมองมาทางที่ฉันยืนอยู่ นอกจากเขาจะสวมฮู้ดปิดคลุมศีรษะมิดชิดแล้ว เขายังสวมแมสสีดำปิดใบหน้าไว้ด้วย คิ้วสวยขมวดนิด ๆ ด้วยความรู้สึกคุ้นเคยแปลก ๆ แต่ในความคุ้นเคยนั้นก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาในใจ [ฮัลโหลไกอา แกได้ยินใช่ไหม รับสายแล้วทำไมเงียบอ่ะ] เสียงเล็ก ๆ จากปลายสายเรียกความสนใจฉันกลับมาที่บทสนทนา “อ้อ… โทษทีแก พอดีฉันอยู่ริมถนนน่ะ เสียงรอบตัวมันดังไปหน่อย” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ก็ยังลอบมองร่างสูงคนนั้นอยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งเขาก็ยังไม่ยอมขยับเดินไปไหน ทั้งที่ผู้คนรอบกายเดินพลุกพล่านไปหมด [อ้าวเหรอ คุยได้ไหมอ่ะ ไว้ฉันโทรไปใหม่ป่ะ] “ไม่ต้อง ๆ คุยได้เลย เดี๋ยวฉันเดินเข้าซอยก็เงียบแล้ว” ฉันพูดไปเดินไป เลิกหันไปสนใจเขาคนนั้นแล้ว จากตรงนี้ถึงคอนโดของฉันระยะทางไม่ค่อยไกลเท่าไหร่ แค่เดินเข้าซอยไปก็ถึงแล้ว รีบกลับบ้านให้เร็วที่สุดดีกว่า แม้ย่านนี้จะเป็นย่านใจกลางเมือง แต่พวกโจรนี่ชุกชุมพอสมควรเลยล่ะ [โอเค เดินกลับดี ๆ ล่ะ เดี๋ยวฉันคุยเป็นเพื่อน] พันเก้าทำเสียงเป็นห่วง ฉันยิ้มนิด ๆ ให้กับความน่ารักของเพื่อนรัก “ว่าแต่แกมีอะไรสำคัญหรือเปล่าถึงโทรมาตอนนี้ ปกติเวลานี้แกจะยุ่งกับเด็ก ๆ ไม่ใช่เหรอ” [อ้อ วันนี้เฮียทัพพาเด็ก ๆ ไปบ้านคุณปู่น่ะ ฉันว่างก็เลยโทรหาแก มีเรื่องจะโทรบอกหลายวันแล้วแต่เพิ่งมีเวลา] ฉันเดินเข้ามาในซอยคอนโดที่เริ่มเงียบสงบต่างจากบรรยากาศหน้าปากซอยโดยสิ้นเชิง ในซอยนี้จะมีตรอกเล็ก ๆ ค่อนข้างมืดและน่ากลัวอยู่เยอะ แต่ฉันเดินกลับจนชินแล้วล่ะ เลยไม่ค่อยรู้สึกหวาดกลัวสักเท่าไหร่ “แล้วเรื่องอะไรล่ะที่อยากจะบอกน่ะ” [ก็เรื่องหัวข้อวิจัยของแกไง ฉันโทรบอกเฮียไมล์ให้แล้วนะว่าแกจะเข้าไปทำหัวข้อวิจัยที่ร้าน] “เรื่องนั้นฉันยังไม่ได้ตัดสินใจเลยนะแก” ฉันแย้งอย่างลำบากใจ [ไม่รู้แหละ แกมัวแต่ลังเลไม่ได้นะไกอา เดี๋ยวก็ไม่จบหรอก เชื่อฉันเหอะน่า แกทำวิจัยกับร้านฉันนี่แหละ อีกอย่างฉันฝากฝังเฮียไมล์ให้คอยดูแลเทคแคร์แกแล้วด้วย แล้วเฮียก็รับปากแล้ว เพราะฉะนั้นแกสบายใจหายห่วงได้เลย] งั้นเหรอ… เขารับปากอย่างนั้นจริง ๆ น่ะเหรอ “แต่ว่า…” [ตกลงตามนี้แหละ แกพร้อมเมื่อไหร่เข้าไปหาเฮียไมล์ที่ร้านได้เลยนะ เฮียรอแกอยู่] พันไมล์รอฉันอยู่อย่างนั้นเหรอ… บ้าจริง… ทำไมฉันถึงรู้สึกเจ็บแปลก ๆ กับคำนี้นะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD