บทที่ 05 พิมพ์ของเฮีย [1]

1485 Words
บทที่ 05 พิมพ์ของเฮีย [1]  โรงพยาบาล “พิมพ์ถึงโรงพยาบาลแล้วค่ะเฮีย” [จะกลับแล้วโทรบอกเฮียแล้วกัน หรือถ้าเฮียเสร็จจากทางนี้แล้วจะโทรบอก] “ค่ะ ตั้งจะทำงานนะคะ” [ช่วงนี้เฮียไม่อินกับงานเท่าไร ไม่รู้หมดแพชชั่นตั้งแต่เมื่อไร เหมือนใจจะอยากไปรับส่งแฟนมากกว่า] ติ๊ง! “ถึงพอดีค่ะ พิมพ์วางสายก่อนนะคะ” [ครับ] แค่คำเดียวสั้นๆ ของเขาก็ทำให้เธออมยิ้มจนแก้มตุ่ยเฉย “คุณพิมพ์” “อ้าว คุณเปรมดิ์ สวัสดีค่ะ มาทำอะไรที่โรงพยาบาลเหรอคะ” พิมพ์พัชรทักทายเปรมดิ์วุฒิที่บังเอิญเจอกันหน้าห้องพักผู้ป่วยพอดี เธอกำลังจะเข้าไปเยี่ยมแม่ของเธอ ส่วนเขาเดินออกมาจากห้องฝั่งตรงกันข้าม “ผมแวะมาเยี่ยมลูกน้องน่ะครับ มอเตอร์ไซค์ล้มเมื่อวาน แล้วคุณพิมพ์ล่ะครับ ใครเป็นอะไร” เปรมดิ์วุฒิถามด้วยความห่วงใยทันที “พิมพ์กำลังว่าจะโทรหาคุณเปรมดิ์เรื่องนี้พอดีเลยค่ะ” ถือโอกาสบอกกับเขาเสียเลยก็น่าจะดี “เรื่องอะไรเหรอครับ” “เรื่องวันเสาร์นี้น่ะค่ะ พอดีแม่พิมพ์ลื่นล้มในห้องน้ำเมื่อเช้า พิมพ์ก็เลย...” “แล้วท่านเป็นอะไรมากไหมครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ หมอแค่ให้รอดูอาการกลัวว่าท่านจะปวดกล้ามเนื้อน่ะค่ะ อายุมากแล้ว” พิมพ์พัชรอธิบายยิ้มๆ “น้องพิมพ์” การมาของจิรภักดิ์ทำให้เธอหุบยิ้มลงทันที เปรมดิ์วุฒิสังเกตเห็นได้ชัดถึงสายตาที่เธอมองออกไปทางด้านหลังของเขา พอจะคาดเดาได้ว่าคนที่เรียกเธอเมื่อครู่ น่าจะเป็นเหตุผลที่เธอต้องการพาเขาไปพบกับครอบครัว “คนนี้ใช่ไหมครับ” เพื่อความแน่ใจ เปรมดิ์วุฒิจึงแอบกระซิบถามสักหน่อย พิมพ์พัชรมองเขาแล้วได้แต่พยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นถือโอกาสนี้พาผมไปเยี่ยมคุณแม่ของคุณเลยดีไหม” “คือว่า...” ไม่ทันที่พิมพ์พัชรจะได้พูดอะไร จิรภักดิ์ก็เดินมาถึงพอดี และไม่รู้เพราะความบังเอิญหรือเซนส์พิเศษอะไร เธอจึงก้าวไปหาเปรมดิ์วุฒิ ในขณะที่เขาเองก็ก้าวเข้ามาหาเธอ จิรภักดิ์มองด้วยความแปลกใจ แต่ยังคงยิ้มเพื่อรักษามารยาทเหมือนอย่างที่เปรมดิ์วุฒิเองก็ยิ้มทักทายเช่นกัน “เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” หลังชนฝาเธอก็ต้องหันหน้าสู้ ตัดสินใจเชิญเปรมดิ์วุฒิเข้าไปในห้อง เพราะตอนนี้คงต้องเอาตัวรอดจากจิรภักดิ์ไปให้ได้เสียก่อน “สวัสดีค่ะแม่” “อ้าว เลิกงานแล้วเหรอลูกพิมพ์ ทำไมมาเร็ว” “ขอหัวหน้าออกมาก่อนครึ่งชั่วโมงค่ะ ไม่อย่างนั้นรถจะติด” ในห้องพักมีเพียงแม่ของเธอนอนพักอยู่ ส่วนพ่อน่าจะยังไม่กลับจากที่ทำงาน เห็นสายตาของแม่เหลือบมองไปที่เปรมดิ์วุฒิแล้วเธอจึงเพิ่งนึกได้ แต่ใจหนึ่งก็ลังเลเพราะไม่รู้ว่าควรแนะนำเปรมดิ์วุฒิว่าอย่างไรดี ก่อนหน้านี้เธอนัดแนะกับเขาเอาไว้แล้ว เพียงแต่ตอนนี้แผนมีการปรับเปลี่ยนซึ่งเธอยังไม่ได้บอกเขา “สวัสดีครับคุณน้า ผมเปรมดิ์วุฒิ เป็นแฟนของคุณพิมพ์ครับ” ระหว่างที่พิมพ์พัชรกำลังลังเลเรื่องสถานะที่จะแนะนำ เขาก็ชิงแนะนำตัวเองไปก่อนแล้ว “ฟะ แฟน” ศศิวิไลถึงกับถามย้ำด้วยความตกใจ อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองจิรภักดิ์ที่ยืนหน้าตึงอยู่อีกด้านของเตียง “ครับ จริงๆ ผมคุณพิมพ์เพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่นานนี้ครับ กำลังศึกษากันอยู่ ฝากตัวด้วยนะครับ” ความเป็นธรรมชาติของเขาทำให้เธอได้แต่ยืนยิ้ม เหลือบมองจิรภักดิ์แล้วรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องนิดหน่อย แต่ไม่อยากเก็บมาใส่ใจเพราะทั้งหมดคือสิ่งที่เธอเองก็อยากจะจัดการให้มันเรียบร้อยสักที อาจจะผิดแผนไปบ้าง แต่ตอนนี้คงต้องไหลตามน้ำไปก่อน “แม่อย่ามองพิมพ์แบบนั้นสิคะ ลูกสาวแม่ออกจะสวย มีคนคุยบ้างไม่เห็นจะแปลกตรงไหน” “คุณพิมพ์สวยมากต่างหากครับ ตลกด้วยอีกหนึ่ง” เปรมดิ์วุฒิหันมาแซว เธอหัวเราะแล้วถือโอกาสแนะนำให้เขารู้จักจิรภักดิ์ “คุณเปรมดิ์คะ” “ครับ” “นั่นพี่ภักดิ์ค่ะ พี่ชายพิมพ์ค่ะ อยู่หมู่บ้านเดียวกันค่ะ พี่ภักดิ์เป็นคนพาคุณแม่มาส่งโรงพยาบาลเมื่อเช้าค่ะ” ยัดเยียดตำแหน่งพี่ชายให้อีกฝ่ายไปเสร็จสรรพ “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณภักดิ์” “ครับ” แม้จิรภักดิ์จะยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาดูไม่ค่อยถูกชะตากับเปรมดิ์วุฒิชัดเจน ทั้งเธอและเขามองออกแต่ทำได้แค่ไม่ใส่ใจ พิมพ์พัชรรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ไม่คิดว่าเปรมดิ์วุฒิจะวางตัวได้ดีและเนียนมากขนาดนี้ แม้แต่เธอยังไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจสักนิด “แม่รู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะ ปวดตรงไหนไหม วันนี้คุณหมอแวะมาดูบ้างหรือยัง” “มาเมื่อตอนบ่ายน่ะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว” “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมกับคุณพิมพ์แวะมารับนะครับ” “คุณเปรมดิ์ไม่ทำงานเหรอคะ” “เดี๋ยวผมสั่งผู้ช่วยเอาไว้ได้ครับ รถคุณยังไม่ได้เรียบร้อยไม่ใช่หรือไง” บทจะแสดงความเป็นผู้ใหญ่ออกมา เขาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดุๆ จริงๆ หนำซ้ำตอนที่เขายกมือขึ้นวางบนหัว เธอก็รู้สึกเหมือนได้รับความเอ็นดูขึ้นทันที “ผมจัดการเองดีกว่าครับ คงไม่กล้ารบกวน” จิรภักดิ์เอ่ยปากเสียงเข้ม เปรมดิ์วุฒินิ่งแล้วเหลือบมองพิมพ์พัชรเพราะเขาเกรงใจเธอ “แม่พิมพ์ ให้พิมพ์จัดการเองดีกว่าค่ะ แค่พี่ภักดิ์...” “เมื่อเช้าผมปรึกษาคุณลุงเรื่องปรับพื้นกระเบื้องในห้องน้ำให้คุณป้าแล้วนะครับ ท่านบอกว่าจะทำตั้งนานแล้วแต่ยังไม่มีเวลา ผมเลยอาสาจะจัดการให้ พรุ่งนี้ผมจะให้ช่างเข้าไปตรวจสอบดูก่อน ตั้งใจว่าจะติดไฟแสงสว่างทางเดินเผื่อคุณป้าเข้าห้องน้ำตอนดึกๆ ด้วยไปเลยครับ” จิรภักดิ์ยังคงถนัดสร้างความกดดันให้เธออย่างทุกที พิมพ์พัชรหงุดหงิดจนอยากจะโวยวาย แต่เปรมดิ์วุฒิเบรกเอาไว้เพราะเพียงแค่เขาหันมาเขี่ยปอยผมที่ปรกข้างแก้มไปเหน็บไว้ที่หลังหู เธอก็รู้สึกเหมือนโดนสะกด แม้แต่จิรภักดิ์ก็ยังต้องหันมามอง โชคดีที่พ่อของเธอเปิดประตูเข้ามาพอดี จึงดึงความสนใจของทุกคนไปได้ เปรมดิ์วุฒิยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มสุภาพอย่างเคย “นี่คุณพ่อพิมพ์ค่ะ พ่อคะ นี่คุณเปรมดิ์ แฟนพิมพ์ค่ะ” สีหน้าของประภพนิ่งไปทันที เหลือบมองหน้าภรรยาเพื่อสังเกตทิศทางของสถานการณ์แต่เหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไร “สวัสดีครับคุณลุง” ประภพได้เพียงยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นรับไหว้ ทว่าพอสบตากับพิมพ์พัชรก็เหมือนสายตาจะดุขึ้นเล็กน้อย เธอจึงได้แต่ฉีกยิ้มแกนๆ ตื้ด~ โทรศัพท์ของเธอสั่นแทรกขึ้นพอดี ชื่อเพียงคุณทำให้หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นในฉับพลัน “พิมพ์ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์สักครู่นะคะ” แม้จะรู้สึกเกรงใจเปรมดิ์วุฒิอยู่บ้าง แต่เธอก็จำเป็นต้องรับสาย ใจชื้นขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเขายิ้มโดยไม่มีอาการประหม่าสักนิด ดูเป็นคนที่จัดการกับความกดดันได้ดีมากทีเดียว “สวัสดีค่ะเฮีย” [เฮียเสร็จแล้วนะ เราเรียบร้อยหรือยัง ให้เฮียไปรับเลยหรือว่าอยากอยู่กับแม่ก่อน] “พิมพ์...” เธอจะตอบเขาว่าอย่างไรดี ถ้าหากให้เขามารับแล้วเปรมดิ์วุฒิล่ะ ลำพังเปรมดิ์วุฒิเธอคุยได้แน่ๆ แต่หากจิรภักดิ์รู้หรือสงสัยขึ้นมา เธอต้องปวดหัวทีหลังไม่จบไม่สิ้นแน่นอน “เดี๋ยวพิมพ์กลับเองก็ค่ะ อีกสักพักก็จะกลับแล้ว” เพราะเห็นจิรภักดิ์เดินออกมาพอดีเธอจึงรีบตอบ [มีอะไรรึเปล่าพิมพ์] “ไม่มีค่ะ เดี๋ยวพิมพ์รีบกลับนะคะ ถึงแล้วพิมพ์จะโทรบอกค่ะ” สายตาของจิรภักดิ์ทำให้เธอกดกันจนต้องรีบพูดรีบวางสายเพราะเขาดูตั้งใจจะออกมาพูดคุยกับเธอตั้งแต่แรก “มีอะไรเหรอคะพี่ภักดิ์” “พี่ไม่เชื่อว่าพิมพ์กับเขาคบกัน” เธอจะทำอย่างไรกับผู้ชายดื้อด้านคนนี้ดีนะ!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD