19 เศษใบไม้แห้งปลิวไสวลอยละลิ่วปลิ่วว่อนร่วงหล่นลงมาตามกระแสสายลมหนาวเย็นยะเยือก จนต้องนั่งห่อไหล่ผิงกองไฟอาศัยความร้อนแรงจากเปลวเพลิงขับไล่บรรยากาศหนาวเย็นผิดวิสัย ประกอบกับสีหน้าอิดหนาระอาใจของชายหนุ่มที่นั่งเอกเขนกบนแคร่ทำให้เกสรไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเข้าออกเต็มปอด เพียงนึกถึงช่วงเวลาหวาดผวาจนเสียวสันหลังวาบ ที่นางต้องเสียสละบาดแผลเป็นหนังมนุษย์ให้เจ้าคนพิลึกใช้ทดลองตำรับหยูกยาสีสันน่าขยาดหวาดกลัวเหล่านั้นละเลงบนเนื้อหนังจนปวดเเสบปวดร้อนซึมซาบเข้าสู่ชั้นกระดูก จนลอบปาดเหงื่อเย็นทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า เขยิบกายนั่งเว้นระยะห่างจากเขาเป็นโยชน์ ครั้นเกสรได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจึงเงยหน้าทอดสายตาคาดหวังไปทางต้นเสียง “ออกมาได้เสียที ข้าปวดเนื้อปวดตัวแทบแย่อยากจะเข้าไปซุกที่นอนอุ่นๆ อันใหม่ใจแทบขาด” ผืนดินบ่นกระปอดกระแปดตามประสา “รักษาแผลให้นางแล้วทำไมไม่ไล่ไป” น้ำเสียงทุ้มแฝงความร้อนตัวในน้ำเ

