#8

1260 Words
ตอนที่ 8 พาคนอื่นเข้ามา ร่างสูงกำยำในชุดสูทขับรถแล่นมาจอดก่อนจะย่างก้าวลงจากรถพลางใช้มือสองข้างถอดดึงหมวกกันน็อกวางลงบนรถบิ๊กไบค์ที่จอดอยู่แล้วเดินเข้าไปภายใน “สวัสดีครับพี่เซ็น” ลูกน้องสองคนหน้าประตูเอ่ยทักทาย ผมจึงยิ้มยักไหล่ให้พวกมันไปหนึ่งครั้ง ภายใน วันนี้ลูกน้องทุกคนถูกเรียกตัวมา ผมก้าวเท้าเดินเข้าไปภายในเห็นพวกมันยืนเรียงแถวโดยมีพี่ใหญ่และน้ำยืนอยู่เบื้องหน้า วันนี้เธอสวมชุด กี่เพ้าสีขาวดูสวยอย่างบอกไม่ถูก พี่ใหญ่ยืนถือธูปกำลังไหว้บรรพชน เมื่อผมเดินเข้าไปถึง พี่ใหญ่จึงหันหน้ามาหาผม “แกมาก็ดีแล้วเซ็นเข้ามาใกล้ๆ ฉันสิ” ผมเอ่ยกับเจ้าน้องชายที่ผมรักมากก่อนจะวนธูปที่ถืออยู่ในมือเบื้องหน้าของมันสามครั้งแล้วปักลงบนกระถาง “ต่อจากนี้ไปเซ็นกับฉันพวกเราสองคนคือพี่น้องร่วมสาบานกัน เช็นมีอำนาจสั่งงานพวกแกเหมือนกับฉันห้ามมีใครต่อต้านมันเด็ดขาดจำเอาไว้” ผมเอ่ยสั่งลูกน้องเพราะอยากจะยกตำแหน่งของเซ็น ให้สมกับที่มันช่วยงานผมและเป็นน้องชายที่ดีของผมมาโดยตลอด “ขอบคุณครับพี่ใหญ่” ผมเอ่ยเบาๆ เพราะรู้สึกสำนึกผิดที่แอบมีอะไรกับน้ำ ยิ่งพี่ใหญ่ดีกับผมมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเกลียดตัวเองที่ทำแบบนั้น ผมกำมือแน่นระงับความคับแน่นในใจ “ไปเว้ย ไอ้น้องชายวันนี้ฉันมีคนที่จะแนะนำให้แกรู้จัก” ผมจับไหล่เซ็นเบาๆ แล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก “เซ็นพลาวคิดถึงคุณจังเลยค่ะ” ฉันยิ้มจนแก้มแทบจะปริเมื่อได้เห็นหน้าผู้ชายที่ฉันรักอีกครั้ง แต่เซ็นน่ะเขาไม่รักฉันหรอกมีแค่ฉันที่รักเขาข้างเดียว พูดแล้วก็สงสารตัวเอง “พลาวกลับจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เจอตั้งนานทำไมยังขี้เหร่เหมือนเดินเลยล่ะ” ผมเอ่ยหยอกล้อเธอเพราะอยากจะให้น้ำหึงและยอมตัดใจจากผม “เราไปกันเถอะให้เซ็นมันได้สานสัมพันธ์กับยัยพลาวจะดีกว่า” ผมเอ่ยบอกกับเหมยก่อนจะจับมือเธอเดินออกมา หากยัยพลาวไม่ใช่น้องสาวห่างๆ ของผม ผมก็ไม่ช่วยเธอจีบเซ็นมันหรอก นี่ก็หลายปีแล้วยังจีบไม่ติดอีกผมได้แต่ยิ้มร่าในความด้านชาของหัวใจเซ็น มันคิดจะไม่รักใครเลยรึไงน่ะ “ฉันขอตัวกลับห้องไปนอนก่อนนะคะน้ำรู้สึกไม่ค่อยสบาย” ฉันบอกกับเฉินตูแล้วค่อยๆ ดึงมือออกจากเขา “ให้ผมไปส่งหรือเปล่า หรือให้ผมพาคุณไปโรงพยาบาลดีไหม” ผมเอ่ยถามเหมยด้วยความเป็นห่วงแต่เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องพักของเธอ การกระทำของเธอมันดูห่างเหินจนผมเริ่มหงุดทว่าก็ทำได้เพียงยิ้มระงับอารมณ์เอาไว้ ผมคงจะไม่ได้ทำอะไรให้เหมยไม่พอใจหรอกนะ เธอถึงได้เดินหนีผมแบบนี้ ผมมองแผ่นหลังของเธอเดินขึ้นบันไดจากไป ภาพมันเหมือนกับ 15 ปีก่อนในตอนนั้นที่เหมยงอนผม ผมรักใบหน้านี้มากจริงๆ ผมอยากเห็นรอยยิ้มของเธออีกสักครั้ง เหมือนกับตอนนั้นที่เราได้รักกันก่อนที่ เธอจะตายจากผมไป... ครั้งแรกที่ผมเจอใบหน้าผู้หญิงที่เหมือนคนรักของผมในวันนั้น ผมไปเก็บหนี้เงินที่บ้านของเศรษฐีผัวเมียตกอับหลังหนึ่ง ในวันนั้นผมนั่งอยู่ในรถผมเห็นเธอเดินผ่านไปผมตกใจมากจนแทบจะไม่เชื่อว่ามีคนหน้าตาคล้ายกันขนาดนี้อยู่ หลังจากวันนั้นผมก็เรียกหาเธอตั้งแต่ตอนนั้น ผมตกลงกับพ่อแม่ของเธอว่าจะยอมปลดหนี้ทั้งหมดให้หากยอมส่งตัวเธอให้มาแต่งงานกับผม ผมรู้ดีว่าการกระทำของผมมันเป็นการบีบบังคับแต่เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่จะทำให้ผมได้เจอเธออีก ผู้หญิงที่ผมรัก ผมเลยต้องทำ บนห้องนอน เมื่อเดินขึ้นมาบนห้องฉันก็ได้แต่ยืนมองบรรยากาศนอกกระจกใส ชีวิตของฉันเหมือนลูกนกในกรงที่จะถูกหิ้วไปตรงไหนก็ได้ ใช้ให้ทำอะไรก็ได้ มันแทบจะไร้ซึ่งอิสระและความสุข ฉันเสียใจมากที่เห็นผู้หญิงคนนั้นสวมกอดเซ็นในวันนี้ เขาทำเหมือนฉันไร้ตัวตนทั้งๆ ที่ร่างกายของฉันตกเป็นของเขาแล้ว ฉันได้แต่เอนตัวลงนอนบนเตียงขณะครุ่นคิดว่าจริงๆ แล้วฉันควรจะรักเขาอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ เขาแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ ฉันยังควรที่จะรักเขาอยู่อีกหรือเปล่า ดวงตาคู่สวยของฉันมันร้อนผ่าวก่อนจะรู้สึกเปียกชุ่มไปด้วยน้ำสีใสที่ไหลหยดลงเบาๆ ระหว่างที่นอนครุ่นคิดไม่ตก “ก๊อกๆๆ ขออนุญาตเข้าไปนะคะ” เสียงสาวใช้หน้าประตูก่อนที่เธอจะเดินเข้ามา ในมือเรียวถือถาดมีนมอุ่นๆ วางอยู่พร้อมกับยาคงจะเป็นเฉินตูสั่งมาสินะ “คุณท่านเป็นห่วงซ้อมากนะคะ ท่านให้พิมพ์นำนมมาให้ค่ะ และนี่คือยานะคะ คุณท่านสั่งกำชับว่าให้ซ้อทานมันด้วยนะคะ” “อือขอบใจนะ” ฉันตอบรับสาวใช้ของเฉินตูก่อนจะรับนมมาดื่มและทานยาตาม ยังดีที่เขาไม่ได้เลวร้ายหรือทำรุนแรงกับฉันมากนักนอกจากข่มขู่ ยามที่ฉันอยู่ใกล้เขาๆ มักจะเรียกฉันว่าเหมย ซึ่งฉันไม่รู้เลยว่า เหมยคือใคร แล้วทำไมเขาถึงคิดว่าเป็นฉัน “พักผ่อนนะคะซ้อ” สาวใช้เอ่ยก่อนจะรีบถือถาดนมเดินออกมาจากห้องเพื่อให้อาซ้อได้พักผ่อนและเพื่อจะรายงานคุณท่านที่ยืนรออยู่ ทันทีที่มือเรียวของสาวใช้ปิดประตูลงเธอ ก็รีบย่อตัวเบาๆ “ซ้อหลับไปแล้วค่ะ ท่าน” “อือ เธอไปทำงานของเธอต่อเถอะ” ผมเอ่ยสั่งกับสาวใช้ก่อนจะเหลียวดวงตามองไปที่ประตูห้องของเหมยผมอยากจะเดินเข้าไปดูเธอด้วยตนเองแต่เธอคงจะไม่อยากเห็นหน้าผม ผมรู้ดีว่าเธอไม่ได้รักผมหรอก ทว่า ผมก็ไม่ได้สนใจสักนิดเพราะสิ่งที่ผมต้องการจากเธอไม่ใช่ความรัก ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มพลันใช้มือหนาขยับแว่นเลนส์ใสแล้วหันหลังเดินกลับไปที่ห้องทำงาน ร่างสูงสวมใส่สูทสีดำเอนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรูในท่าไขว้ขา ก่อนจะใช้มือหนาหยิบแฟ้มเอกสารมาตรวจดูทีละเล่มทีละเล่มต่อให้เบื้องหลังของผมจะเป็นธุรกิจสีเทาทว่าเบื้องหน้ากลับเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ผมเป็นเจ้าของคอยดูแล โลกสมัยนี้คนที่ดีมากมักจะมีชีวิตแสนสั้น ดังนั้นผมจึงจำเป็นที่จะต้องซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้ เบื้องหลังเพื่อเกื้อหนุนอำนาจให้มั่นคง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD