"เมื่อคืนนี้ไปก่อเรื่องอะไรมา" ณภัทรที่นั่งดื่มกาแฟอยู่เห็นลูกชายคนโตเดินลงมาก็ถามออกไป
"ผมไปทำอะไรครับ"
"อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ แกไปทำอะไรที่คลับนั่น"
"อ้อ"
"ทำไมไม่พาน้องไปที่ดีๆ กว่านี้"
"อย่างเช่นเข้าโรงแรมหรือครับ?"
"นาคราช!"
"ก็จะได้สมใจพ่อไปเลยไง"
"มีอะไรกันหรือเปล่าครับ" เสียงคนที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบนขัดจังหวะการทะเลาะกันของสองพ่อลูก
"อ้าวจะเข้าบริษัทแล้วหรือลูก"
"หึ" นาคราชอดขำไม่ได้ พอพูดกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนก็ใช้อีกโทนเสียงหนึ่งเลยนะ
"ใช่ครับพ่อแล้วนี่พ่อกับพี่กำลังคุยอะไรกันอยู่ครับ"
"กรรชัยโทรมาบอกว่าเมื่อคืนพี่แกไปก่อเรื่อง ทางคลับได้โทรมาถาม ว่าเป็นลูกของฉันจริงไหม" กรรชัยก็คือผู้ช่วยของณภัทร "แล้วนั่นแกจะไปไหน" ตอนที่พ่อคุยกับน้องชายอยู่นาคราชก็จะออกไป
"นอกจากเข้าบริษัทแล้วผมจะไปไหนได้ล่ะครับ"
"ดูพี่ชายแกนะ ไม่เอาถ่านอะไรเลย" ณภัทรหันมาพูดกับน่านฟ้าลูกชายอีกคน
"ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับ"
"แล้วเราไม่ทานอะไรก่อนเหรอ"
"ไม่หรอกครับเดี๋ยวผมไปทานที่บริษัท"
"อย่าลืมนะว่าวันนี้มีประชุมสำคัญ"
"ครับ" น่านฟ้าก็คือลูกชายคนเล็กของณภัทร น่านฟ้าเป็นผู้ชายที่หยิบจับอะไรก็ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การเล่าเรียนแล้วเขาคว้าเกียรตินิยมมาให้พ่อเชยชมได้ และความหล่อของพี่น้องคู่นี้กินกันไม่ลงจริงๆ
ณภัทรถึงไว้วางใจให้ลูกชายคนเล็กเป็นผู้สืบทอดกิจการต่อ ส่วนลูกชายคนโตก็ยังคงเป็นผู้บริหารในบริษัท แต่ตำแหน่งของเขาก็ไม่ได้สูงเทียบเท่าน้องชาย
ออกจากบ้านนาคราชก็ตรงเข้าบริษัท เขาทำเท่าที่พ่ออยากเห็นในตัวเขาและไม่ได้ทำตัวเด่นเหมือนน้องชาย และนคราชก็ไม่ได้สนใจเลยว่าใครจะเห็นน้องดีกว่า เพราะมันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่จบอนุบาลแล้วมั้งพ่อชอบมองเปรียบเทียบลูกทั้งสอง และกดดันให้เขาทำทุกอย่างให้ได้เหมือนน้อง
[บริษัทอนันต์ไพศาล]
ประธานบริษัทก็ยังเป็นณภัทร ส่วนรองประธานก็คือน่านฟ้าผู้ที่รอก้าวขึ้นแทนตำแหน่งประธานได้ตลอดเวลา ส่วนตำแหน่งของนาคราชคือผู้จัดการใหญ่ของบริษัท
"ผู้จัดการครับ เอกสารเรื่องร่วมหุ้นเมื่อคืนนี้ครับ" ผู้ช่วยของเขานำเอกสารเมื่อคืนนี้เข้ามาให้ในห้องทำงาน
"ทำไมไม่ไปให้คนที่มีตำแหน่งใหญ่กว่านี้ล่ะ"
"ท่านประธานบอกให้นำเอกสารมาให้ผู้จัดการครับ"
"หึ.." เขาทำแค่แสยะยิ้มมุมปากแล้วเอื้อมไปรับเอกสารนั้นมาเปิดดู การเซ็นสัญญาครั้งนี้ทำไมนาคราชจะดูไม่ออกว่าพ่อต้องการเขี่ยเขาออกไปให้พ้นทางน้องชาย
หลังจากเปิดอ่านเอกสารจนถี่ถ้วนแล้วมันยิ่งทำให้เขาสงสัยมากขึ้น ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้?
"ท่านประธานเข้ามาหรือยัง"
"วันนี้ท่านเข้าสายครับ"
"มีประชุมผู้ร่วมหุ้นไม่ใช่เหรอ"
"ท่านให้ท่านรองนั่งตำแหน่งประธานในที่ประชุมครับ"
"ผลักดันกันจังเลยนะ" ว่าแล้วนาคราชก็ดันตัวลุกขึ้น
"ผู้จัดการจะไปไหนครับ"
"ก็เข้าห้องประชุมไง" หยิบได้เอกสารเขาก็เดินออกมาจากห้องทำงานแล้วตรงไปทางห้องประชุมใหญ่
เข้ามาผู้ร่วมหุ้นก็ได้เข้ามากันครบในที่ประชุมแล้ว แต่มีอีกหนึ่งคนที่ยังไม่เข้ามาก็คือประธานในที่ประชุม เพราะต้องเตรียมที่ประชุมให้พร้อมก่อนประธานถึงจะเข้ามา
"สวัสดีครับ" กล่าวสวัสดีผู้ร่วมหุ้นแล้วนาคราชก็เดินตรงไปนั่งลงหัวโต๊ะ และเป็นเก้าอี้ตัวที่ประธานในที่ประชุมนั่ง
ผู้ร่วมหุ้นในบริษัททำได้แค่มองหน้ากันเพราะรู้ว่าคนที่จะมานั่งเก้าอี้ตัวนี้คือใคร
ไม่นานน่านฟ้าก็เข้ามาในห้องและมองไปเห็นว่าเก้าอี้ตัวที่เขาต้องนั่งวันนี้พี่ชายชิงนั่งไปก่อนแล้ว
"ท่านรองครับ"
"ไม่ต้องหรอก" น่านฟ้ารู้ว่ากรรชัยกำลังจะไปบอกให้พี่ชายลุกออกจากเก้าอี้ตัวนั้นเลยห้ามไม่ให้บอก และน่านฟ้าก็เดินไปเลื่อนเก้าอี้ตัวรองออกมานั่ง
ทุกคนมองมาที่สองพี่น้องเป็นตาเดียว แต่คนน้องทำเหมือนไม่เห็นว่าพี่กำลังขัดแข้งขัดขาเขาอยู่
"สวัสดีครับ" น่านฟ้ากล่าวสวัสดีเพื่อทักทายผู้ร่วมหุ้นที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว "วันนี้คุณพ่อติดธุระอาจจะเข้าบริษัทช้าหน่อย"
"รู้ว่าท่านประธานเข้าช้าทำไมถึงรีบเปิดล่ะไม่รอท่านประธานก่อน"
"เรื่องที่จะคุยมันรอช้าไม่ได้ครับ"
"อ๋อเหรอ" นาคราชทำทีเข้าใจคำพูดของท่านรองแล้วก็เอนตัวนั่งพิงพนักเก้าอี้ในท่าสบาย
"มันทำอะไรของมันวะ" ณภัทรที่ดูกล้องวงจรปิดในห้องประชุมเห็นลูกชายคนโตนั่งเก้าอี้ประธานในห้องประชุมก็ไม่พอใจเอามากๆ
"ให้โทรไปหาคุณกรรชัยไหมครับ" ผู้ช่วยอีกคนของณภัทรหยิบโทรศัพท์ออกมารอคำสั่งจากเจ้านาย
"ไม่ต้อง"
"เรื่องที่ผมอยากจะคุยกับผู้ร่วมหุ้น เป็นเรื่องที่เซ็นทำสัญญาคู่ค้ากับบริษัทเทวทิพย์เมื่อคืนนี้ครับ" แล้วน่านฟ้าก็พูดเท่าที่จะพูดได้ ที่จริงวันนี้ไม่มีชื่อของนาคราชอยู่ในที่ประชุมด้วย เขาเลยเลี่ยงที่จะพูดเรื่องที่จะส่งนาคราชไปบริษัทนั้น
แต่ทำไมนาคราชถึงจะไม่รู้ว่าการประชุมผู้ร่วมหุ้นครั้งนี้เกี่ยวกับเขาไม่มากก็น้อย "ถ้าท่านรองพูดมาแบบนี้หมายถึงว่าจะส่งผู้บริหารในบริษัทของเราไปเป็นนอมินีกับบริษัทนั้นหรือ?" และนาคราชก็ไม่ได้เก็บสิ่งที่ตัวเองคิดเขาพูดออกมาในที่ประชุมนั้นเลย
ถึงแม้น่านฟ้าจะเลี่ยงคำพูดพวกนี้คนที่ทุกคนมองว่าไม่ได้เรื่องแบบนาคราชยังเข้าใจได้ แต่ไม่ถึงขั้นให้ไปเป็นนอมินีหรอก เพราะแค่อยากให้ลูกชายคนโตหลีกทางให้น้องชาย การที่จะดันน่านฟ้าขึ้นมาบริหารบริษัทโดยที่ยังมีลูกชายคนโตอีกคนมันยากมาก เพราะต้องเจอคำครหาของผู้คน แต่ถ้านาคราชแต่งงานกับลูกสาวอ**บริษัทปัญหานี้ก็จะหมดไป
"?" สิ้นคำพูดของพี่ชายน่านฟ้าถึงกับเหลือบมองไปดูกล้องวงจรปิด และนาคราชก็เห็นสายตาน้องชายแล้ว แสดงว่าวันนี้มันคือแผนของพ่อที่ไม่เข้าร่วมประชุมเพราะอยากให้น้องแสดงสปิริตของผู้นำออกมาก่อนที่จะเขี่ยเขาให้พ้นทาง..