"ผมยังคงตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้ครับ คงต้องให้ท่านประธานเป็นคนตัดสินใจเอง"
"อ้าว.. ตัดสินใจไม่ได้แล้วทำไมต้องเปิดประชุมผู้ร่วมหุ้นล่ะ" เป็นอีกคำที่เขาหักหน้าน้องชายอย่างจัง วันนี้แทนที่น้องชายจะได้แสดงความเป็นผู้นำออกมากลับถูกพี่ชายหักหน้าแล้วหักหน้าอีก ที่น่านฟ้าไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะเขายังแคร์ความรู้สึกของพี่อยู่ และพี่ชายก็ไม่ได้เกลียดชังน้องชายหรอก แต่เขาไม่ชอบความคิดของพ่อเลยพลอยต้องสั่งสอนน้องไปในตัวด้วย
คิดว่าถ้าพูดอะไรต่อไปพี่ชายก็คงจะหักหน้า น่านฟ้าเลยสั่งหยุดการประชุมแค่นี้ก่อน
นาคราชดันตัวลุกขึ้นก่อนผู้ร่วมหุ้นท่านอื่นแล้วก็เดินออกจากห้องไป
ออกมาไม่นานท่านประธานก็ให้ตามตัวผู้จัดการมาพบที่ห้องทำงาน
"นั่งสิ"
ชายหนุ่มใช้เท้าเขี่ยเก้าอี้ออกเล็กน้อยเพราะมันตั้งชิดกับโต๊ะทำงานเกินไป แล้วก็วางก้นลงนั่ง
สายตาคนเป็นพ่อมองปฏิกิริยานั้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ "..พ่ออยากให้เรานัดทานข้าวกับหนูนิวเยียร์"
"ได้ครับ"
"ถ้าเป็นไปได้ พูดเรื่องหมั้นหมายกันให้เรียบร้อย"
"ทำไมต้องรีบด้วยล่ะครับ"
"พ่อกลัวว่าถ้าชักช้าเดี๋ยวน้องจะกลับต่างประเทศก่อน"
"ถ้าเธออยากกลับรั้งไว้ก็คงไม่อยู่หรอกครับ"
"มันคือความหวังเดียวที่พ่อหวังกับลูก แค่นี้จะทำเพื่อพ่อไม่ได้เลยหรือไง"
"หึ" อารมณ์ตอนนี้มันบอกไม่ได้จริงๆ มันรู้สึกอัดแน่นอยู่ในอก ทนความอัดแน่นนั้นไม่ได้จนเกิดเป็นเสียงในลำคอ
"หรือเราคิดเห็นอย่างไร"
"พ่อถามความคิดเห็นของผมด้วยหรือครับ"
"นาคราชอายุของเราเหมาะสมที่จะมีครอบครัวได้แล้ว และหนูนิวเยียร์ก็เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม"
"ถ้าเธอเพียบพร้อมขนาดนั้นทำไมพ่อไม่ยกให้ลูกชายสุดที่รักของพ่อไปล่ะครับ"
"นาคราชเรากำลังปั่นหัวพ่ออยู่ใช่ไหม"
"เอาเถอะครับถ้าพ่อหวังในตัวผมขนาดนั้น เตรียมจองโรงแรมได้เลย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ดันตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองพ่อที่กำลังมองตามหลังอยู่
"ให้มันดีเหมือนปากเถอะ" ทำอะไรไม่เคยได้เรื่องสักอย่าง ผิดกับลูกชายอีกคน
สองวันต่อมา..
"ผู้จัดการครับ"
"มีอะไร"
"ท่านประธานบอกให้ผมจองห้องอาหารเย็นนี้ครับ"
"ไวจังเลยนะ"
"ให้จองเลยใช่ไหมครับ"
"ก็แล้วแต่มึงสิเขาเป็นคนจ่ายเงินเดือนมึงไม่ใช่เหรอ"
วันเดียวกันนั้นที่บ้านของนิวเยียร์..
"คืนนี้แต่งตัวสวยๆ นะลูกเดี๋ยวพี่เขาจะมารับออกไปทานข้าว"
"แล้วทำไมเขาไม่ชวนหนูเองล่ะคะ"
"เขาคงไม่อยากข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่"
"หนูไม่ว่างค่ะ"
"นิวเยียร์"
"จะชวนผู้หญิงไปทานข้าวทั้งทีชวนผ่านผู้ใหญ่ได้หรือคะ"
"เดี๋ยวพ่อจะให้พี่เขาโทรมาชวนเราแล้วกัน"
"ไม่ทันแล้วค่ะพ่อ" อยากจะเถียงพ่อให้มากกว่านี้แต่ดูท่าทางพ่อเหนื่อยมาก นิวเยียร์เลยหยุดค่อยเก็บแรงไว้ไปประชันกับผู้ชายคนนั้นแล้วกัน "ก็ได้ค่ะ"
"ลูกสาวพ่อน่ารักที่สุดในโลกเลย"
"พ่อไม่ต้องปากหวานหรอกค่ะ"
แยกจากพ่อแล้วนิวเยียร์ก็ขึ้นมาชั้นบน เธอมาคิดว่าจะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้ดี วันนั้นก็คิดว่าพูดให้เขาเข้าใจแล้วว่าเธอไม่อยากจะแต่งงานด้วย วันนี้ยังจะให้ผู้ใหญ่นัดทานข้าวอีก
แต่ถึงยังไงเธอก็จำใจต้องไปทานกับเขา ค่อยคุยให้รู้เรื่องอีกทีแล้วกัน
ไม่นานรถของนาคราชก็มารับเธอออกไปทานข้าว
"จอดตรงนี้แหละ"
"จอดทำไม"
"ฉันไม่อยากไปทานข้าวกับคุณ"
จบประโยคของเธอรถที่วิ่งอยู่ดีๆ ก็ เคลื่อนตัวเข้าไปจอดริมฟุตบาท
"?" จอดง่ายขนาดนี้เลยเหรอ แค่อยากจะทำให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้อยากไปกับเขาแต่ไม่คิดว่าเขาจะตอบสนองเร็วขนาดนี้ ..แต่ในเมื่อเขาจอดให้แล้วเธอก็ต้องลง
พอประตูรถปิดลงเท่านั้นแหละนคราชก็ขับรถออกไป
"เอ้าเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย!" คนบ้าเอ้ยแทนที่จะพูดอะไรออกมาหน่อย ถ้าเขาบอกว่ายังไงเราก็ต้องไปทานข้าวด้วยกันเธอก็อาจจะไปแต่อะไรกันเนี่ยแค่บอกว่าเธอจะลงก็จอดให้เลยเหรอ
วันต่อมา..
"ที่โรงแรมบอกว่าแกไม่ได้ไปทานข้าว" เห็นลูกชายลงมาจากชั้นบนคนเป็นพ่อก็เอาเรื่องเลย แต่แทนที่ลูกชายจะพูดเขากลับส่ายหน้า "นาคราชพ่อจริงจังกับเรื่องนี้นะ"
"แต่ฝ่ายหญิงไม่จริงจังเหมือนพ่อนี่ครับ"
"แกเป็นผู้ชายก็ต้องทำให้ผู้หญิงเขาหันมาสนใจแกให้ได้สิ"
"ผมว่างานนี้ลูกชายคนเล็กของพ่ออาจจะทำได้ดีกว่าผมก็ได้นะครับ" จบประโยคนาคราชก็ปรายหางตามองไปดูน้องชายที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน
"เย็นนี้แกต้องนัดน้องไปทานข้าวให้ได้นะ พ่อจะให้คนตามดู" ณภัทรยังคงตะโกนตามหลังลูกชายคนโตที่เดินออกไปจนจะถึงรถแล้ว