บทที่ 5

955 Words
"ผมยังคงตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้ครับ คงต้องให้ท่านประธานเป็นคนตัดสินใจเอง" "อ้าว.. ตัดสินใจไม่ได้แล้วทำไมต้องเปิดประชุมผู้ร่วมหุ้นล่ะ" เป็นอีกคำที่เขาหักหน้าน้องชายอย่างจัง วันนี้แทนที่น้องชายจะได้แสดงความเป็นผู้นำออกมากลับถูกพี่ชายหักหน้าแล้วหักหน้าอีก ที่น่านฟ้าไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะเขายังแคร์ความรู้สึกของพี่อยู่ และพี่ชายก็ไม่ได้เกลียดชังน้องชายหรอก​ แต่เขาไม่ชอบความคิดของพ่อเลยพลอยต้องสั่งสอนน้องไปในตัวด้วย คิดว่าถ้าพูดอะไรต่อไปพี่ชายก็คงจะหักหน้า น่านฟ้าเลยสั่งหยุดการประชุมแค่นี้ก่อน นาคราชดันตัวลุกขึ้นก่อนผู้ร่วมหุ้นท่านอื่นแล้วก็เดินออกจากห้องไป ออกมาไม่นานท่านประธานก็ให้ตามตัวผู้จัดการมาพบที่ห้องทำงาน "นั่งสิ" ชายหนุ่มใช้เท้าเขี่ยเก้าอี้ออกเล็กน้อยเพราะมันตั้งชิดกับโต๊ะทำงานเกินไป แล้วก็วางก้นลงนั่ง สายตาคนเป็นพ่อมองปฏิกิริยานั้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ "..พ่ออยากให้เรานัดทานข้าวกับหนูนิวเยียร์" "ได้ครับ" "ถ้าเป็นไปได้ พูดเรื่องหมั้นหมายกันให้เรียบร้อย" "ทำไมต้องรีบด้วยล่ะครับ" "พ่อกลัวว่าถ้าชักช้าเดี๋ยวน้องจะกลับต่างประเทศก่อน" "ถ้าเธออยากกลับรั้งไว้ก็คงไม่อยู่หรอกครับ" "มันคือความหวังเดียวที่พ่อหวังกับลูก แค่นี้จะทำเพื่อพ่อไม่ได้เลยหรือไง" "หึ" อารมณ์ตอนนี้มันบอกไม่ได้จริงๆ มันรู้สึกอัดแน่นอยู่ในอก ทนความอัดแน่นนั้นไม่ได้จนเกิดเป็นเสียงในลำคอ "หรือเราคิดเห็นอย่างไร" "พ่อถามความคิดเห็นของผมด้วยหรือครับ" "นาคราชอายุของเราเหมาะสมที่จะมีครอบครัวได้แล้ว และหนูนิวเยียร์ก็เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อม" "ถ้าเธอเพียบพร้อมขนาดนั้นทำไมพ่อไม่ยกให้ลูกชายสุดที่รักของพ่อไปล่ะครับ" "นาคราชเรากำลังปั่นหัวพ่ออยู่ใช่ไหม" "เอาเถอะครับถ้าพ่อหวังในตัวผมขนาดนั้น เตรียมจองโรงแรมได้เลย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ดันตัวลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองพ่อที่กำลังมองตามหลังอยู่ "ให้มันดีเหมือนปากเถอะ" ทำอะไรไม่เคยได้เรื่องสักอย่าง ผิดกับลูกชายอีกคน สองวันต่อมา.. "ผู้จัดการครับ" "มีอะไร" "ท่านประธานบอกให้ผมจองห้องอาหารเย็นนี้ครับ" "ไวจังเลยนะ" "ให้จองเลยใช่ไหมครับ" "ก็แล้วแต่มึงสิเขาเป็นคนจ่ายเงินเดือนมึงไม่ใช่เหรอ" วันเดียวกันนั้นที่บ้านของนิวเยียร์.. "คืนนี้แต่งตัวสวยๆ นะลูกเดี๋ยวพี่เขาจะมารับออกไปทานข้าว" "แล้วทำไมเขาไม่ชวนหนูเองล่ะคะ" "เขาคงไม่อยากข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่" "หนูไม่ว่างค่ะ" "นิวเยียร์" "จะชวนผู้หญิงไปทานข้าวทั้งทีชวนผ่านผู้ใหญ่ได้หรือคะ" "เดี๋ยวพ่อจะให้พี่เขาโทรมาชวนเราแล้วกัน" "ไม่ทันแล้วค่ะพ่อ" อยากจะเถียงพ่อให้มากกว่านี้แต่ดูท่าทางพ่อเหนื่อยมาก นิวเยียร์เลยหยุดค่อยเก็บแรงไว้ไปประชันกับผู้ชายคนนั้นแล้วกัน "ก็ได้ค่ะ" "ลูกสาวพ่อน่ารักที่สุดในโลกเลย" "พ่อไม่ต้องปากหวานหรอกค่ะ" แยกจากพ่อแล้วนิวเยียร์ก็ขึ้นมาชั้นบน เธอมาคิดว่าจะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้ดี วันนั้นก็คิดว่าพูดให้เขาเข้าใจแล้วว่าเธอไม่อยากจะแต่งงานด้วย วันนี้ยังจะให้ผู้ใหญ่นัดทานข้าวอีก แต่ถึงยังไงเธอก็จำใจต้องไปทานกับเขา ค่อยคุยให้รู้เรื่องอีกทีแล้วกัน ไม่นานรถของนาคราชก็มารับเธอออกไปทานข้าว "จอดตรงนี้แหละ" "จอดทำไม" "ฉันไม่อยากไปทานข้าวกับคุณ" จบประโยคของเธอรถที่วิ่งอยู่ดีๆ ก็ เคลื่อนตัวเข้าไปจอดริมฟุตบาท "?" จอดง่ายขนาดนี้เลยเหรอ แค่อยากจะทำให้เขาเห็นว่าเธอไม่ได้อยากไปกับเขาแต่ไม่คิดว่าเขาจะตอบสนองเร็วขนาดนี้ ..แต่ในเมื่อเขาจอดให้แล้วเธอก็ต้องลง พอประตูรถปิดลงเท่านั้นแหละนคราชก็ขับรถออกไป "เอ้าเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย!" คนบ้าเอ้ยแทนที่จะพูดอะไรออกมาหน่อย ถ้าเขาบอกว่ายังไงเราก็ต้องไปทานข้าวด้วยกันเธอก็อาจจะไปแต่อะไรกันเนี่ยแค่บอกว่าเธอจะลงก็จอดให้เลยเหรอ วันต่อมา.. "ที่โรงแรมบอกว่าแกไม่ได้ไปทานข้าว" เห็นลูกชายลงมาจากชั้นบนคนเป็นพ่อก็เอาเรื่องเลย แต่แทนที่ลูกชายจะพูดเขากลับส่ายหน้า "นาคราชพ่อจริงจังกับเรื่องนี้นะ" "แต่ฝ่ายหญิงไม่จริงจังเหมือนพ่อนี่ครับ" "แกเป็นผู้ชายก็ต้องทำให้ผู้หญิงเขาหันมาสนใจแกให้ได้สิ" "ผมว่างานนี้ลูกชายคนเล็กของพ่ออาจจะทำได้ดีกว่าผมก็ได้นะครับ" จบประโยคนาคราชก็ปรายหางตามองไปดูน้องชายที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน "เย็นนี้แกต้องนัดน้องไปทานข้าวให้ได้นะ พ่อจะให้คนตามดู" ณภัทรยังคงตะโกนตามหลังลูกชายคนโตที่เดินออกไปจนจะถึงรถแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD