จนถึงช่วงเย็นของวันนั้น..
วันนี้พ่อวุ่นวายกับเขาทั้งวันกลัวว่าจะผิดนัด เพราะผู้ใหญ่นัดให้เจอกันที่โรงแรมแล้ว พอถึงช่วงเย็นนาคราชก็เลยมาทำตามที่พ่อต้องการ เขารออยู่ไม่นานนิวเยียร์ก็มาถึงเช่นกัน
"คุณชอบทานอาหารแบบไหนสั่งได้เลยนะ"
"ฉันไม่เข้าใจคุณจริงๆ เลย"
"ขนาดผมยังไม่เข้าใจตัวเอง คุณไม่ต้องมาเข้าใจผมหรอก"
"นี่คุณฉันยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ"
"สั่งอาหารเถอะจะได้ไม่เสียเวลา" วันก่อนก็คุยกันดีๆ แต่วันนี้เขาชักจะอารมณ์เสียกับพ่อเลยไม่อยากพูดคุยแม้แต่กับเธอ
"ฉันไม่แปลกใจแล้วล่ะ" ที่เธอพูดว่าไม่แปลกใจเพราะในหลายวันมานี้เธอค้นหาข้อมูลของเขาและครอบครัวอนันต์ไพศาล สิ่งที่ค้นเจอมีแค่ลูกชายคนเล็กทำความดีความชอบให้กับบริษัทแถมการเรียนก็ดีด้วย ส่วนข้อมูลของลูกชายคนโตไม่ค่อยมีอะไรเลย แถมในบริษัทเขาก็เป็นรองน้องชายทุกอย่าง
แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจ เธอกลับประเทศมาแค่ไม่กี่วันก็รู้เรื่องของผู้ชายคนนี้แล้ว แต่ทำไมพ่อถึงไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะฝากบริษัทไว้ได้ด้วยเลย ถ้าปล่อยให้เขาบริหารงานมีหวังเจ๊งแน่
หลังสั่งอาหารเสร็จไม่นานพนักงานก็ยกอาหารที่สั่งออกมาบริการ นาคราชก็นั่งทานไปโดยที่ไม่ได้มีบทสนทนาระหว่างทั้งสองเลย
จนการนัดเจอผ่านผู้ใหญ่ครั้งนี้ได้จบลง
"รถคุณจอดอยู่ที่ไหน"
"พ่อให้รถที่บ้านมาส่ง"
"ถ้างั้นเดี๋ยวผมกลับไปส่งคุณที่บ้านก่อน" คิดว่านี่คงเป็นแผนของผู้ใหญ่อีกแน่
"ก็คงต้องเป็นแบบนั้น" หญิงสาวเดินตามเขาไปจนถึงรถพอปลดล็อกประตูด้วยรีโมทแล้ว นาคราชก็ขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับ "?" ความเป็นสุภาพบุรุษไม่มีเลยหรือไง คิดว่าผู้ชายจะมาเปิดประตูให้
ระหว่างทางที่นั่งรถมาทั้งสองก็ไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกัน จะพูดกันหน่อยก็แค่เรื่องที่รถคันหน้าขับไม่ถูกกฎจราจร
มาถึงบ้านก็เห็นว่าไฟในบ้านเปิดสว่างแทบจะทุกดวง และคนในบ้านก็เดินกันให้วุ่น
"มีอะไรเหรอพิมพ์" หญิงสาวรีบเดินเข้าไปถามพิมพ์ที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่
"คุณท่านค่ะ"
"พ่อเป็นอะไร?"
"ตอนนี้ถูกนำส่งโรงพยาบาลค่ะ"
ได้ยินว่าพ่อถูกนำส่งโรงพยาบาลนิวเยียร์ก็รีบวิ่งออกมาจากบ้าน นาคราชที่ยังไม่ไปไหนเห็นเธอออกมาเลยลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหา
"เกิดอะไรขึ้น"
"พาฉันไปโรงพยาบาลทีค่ะ"
"โรงพยาบาลไหน"
ลืมไปเลย แล้วนี่พ่อถูกนำส่งโรงพยาบาลไหนเนี่ย นิวเยียร์ทำอะไรไม่ถูกนาคราชเลยโทรไปหาใครไม่รู้ ไม่นานก็รู้ว่าท่านถูกนำส่งโรงพยาบาลไหน เขาเลยพาเธอรีบตามไป
ใช้เวลาไม่นานเพราะเขาพาเธอมาทางที่รถไม่ค่อยติดก็มาถึงโรงพยาบาล ..ลงจากรถนิวเยียร์ก็รีบตรงไปถามเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาล
"ขอโทษนะคะคุณนิรากร เทวทิพย์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลนี้ใช่ไหมคะ"
"คุณเป็นญาติของคุณนิรากรใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ"
"ตามมาทางนี้เลยค่ะ" นิวเยียร์รีบเดินตามเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาจนถึงห้องตรวจ
"พ่อฉันอยู่ในนี้ใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ"
นาคราชตามเธอเข้ามาในห้องตรวจด้วยเพราะดูเธอเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"พ่อคะ พ่อฉันเป็นอะไรคะคุณหมอ"
"ท่าน.." คุณหมอกำลังจะบอกอาการแต่นิรากรส่งสัญญาณบอกให้คุณหมอเงียบ
"บอกความจริงมาค่ะพ่อฉันเป็นอะไร"
"พ่อแค่ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ"
"ไม่จริงค่ะ พ่อเป็นอะไรก็บอกมาสิคะ"
"เราอยากให้พ่อเป็นอะไรงั้นเหรอ"
นิวเยียร์เงียบไปใครจะอยากให้พ่อเป็นอะไรล่ะ แต่อาการของท่านมันฟ้องว่าต้องป่วยเป็นอะไรแน่
"ขอบใจนาคราชมากนะลูกที่ดูแลน้องแทนพ่อ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณลุงพักผ่อนให้มากนะครับ"
"ช่วงนี้พ่อคงต้องอยู่โรงพยาบาลไปก่อน จะเป็นไปได้ไหมถ้าพ่ออยากฝากให้เราดูแลบริษัท"
"พ่อพูดอะไรคะ" นิวเยียร์หันขวับไปมองหน้าเขา เธอกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยจะฝากเขาดูแลบริษัทได้ยังไง
"ก็ในเมื่อลูกไม่อยากเข้าไปบริหารงาน พ่อก็คงต้องฝากให้คนที่พ่อไว้เนื้อเชื่อใจ"
"พ่อจะอยู่โรงพยาบาลอีกทำไมก็เห็นพ่อพูดได้อยู่นี่คะ"
"ท่านต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเช็คอาการให้ดีก่อนครับ" คำนี้คุณหมอเป็นคนตอบญาติคนไข้
เธอยังไม่ได้ตกลงปลงใจว่าจะเอายังไงกับผู้ชายคนนี้เลย แล้วจะฝากให้ดูแลทุกอย่างที่พ่อสร้างขึ้นมาได้ยังไง
"นิวจะเข้าไปดูงานแทนพ่อเองค่ะ"
"จริงหรือลูก" ได้ยินลูกสาวรับปากแบบนี้พ่อก็ดีใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสบายใจเพราะลูกสาวบริหารงานไม่เป็น ลูกสาวของท่านอ่อนต่อโลกมากคงไปสู้รบปรบมือกับใครไม่ได้ "นิวเยียร์"
"คะพ่อ"
"พ่อขอร้องได้ไหมลูก ให้พี่เข้าไปดูงานช่วยหนู"
"พ่อคิดว่านิวจะทำงานแทนพ่อไม่ได้เหรอคะ"
"พ่อรู้ว่าหนูเก่ง แต่หนูไม่เคยทำงานบริหารมาก่อน พี่เขาบริหารงานมานานแล้ว" ตอนที่คุยกับลูกสาวนิรากรก็มีอาการไอ แต่ก็พยายามไม่ส่ออาการมากนัก
"พ่อนอนพักเถอะค่ะ วันนี้หนูจะอยู่ดูแลพ่อเอง" ประโยคหลังนิวเยียร์หันมองไปสบตานาคราช และเขาก็รู้ว่ามันเป็นการไล่ทางอ้อม
"ถ้างั้นผมขอกลับก่อนนะครับ วันหลังเดี๋ยวผมมาเยี่ยมใหม่"
"หนูกลับไปพร้อมพี่เขาเถอะลูกช่วงนี้คุณหมอคงไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมพ่อ แล้วยังไงเดี๋ยวพ่อจะติดต่อไปนะ"
"ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะคะ" นิวเยียร์ได้ยินพ่อบอกว่าหมอจะไม่ให้เยี่ยม เธอเลยหันไปถามคุณหมอดู เพราะแบบนี้แหละทางโรงพยาบาลถึงไม่อยากจะปิดบัง ญาติคนไข้บางคนก็ไม่ค่อยเข้าใจ
"ใช่ครับ คนไข้ต้องการการพักผ่อนให้มาก"
"พ่ออยากไปรักษาตัวที่ต่างประเทศไหมคะ" นิวเยียร์หันมาถามพ่อ เธอไม่ค่อยชอบการรักษาคนป่วยของโรงพยาบาลนี้เลย พ่อป่วยจะไม่ให้ลูกเข้ามาดูแลมันใช่เหรอ
"เชื่อหมอเถอะลูก" นิรากรลืมตาไม่ค่อยขึ้นแล้วเพราะยาที่ให้ไปเริ่มจะออกฤทธิ์
"ปล่อยให้ท่านพักผ่อนก่อนดีกว่า" นาคราชเห็นว่าเธอไม่ยอมฟังเหตุผลเลยพาตัวเธอออกมาจากห้องนั้นก่อน
"ปล่อยนะคุณนาคราช"
"ท่านก็บอกแล้วไงว่าท่านกำลังทำการรักษาตัวอยู่ สิ่งที่ท่านเป็นห่วงที่สุดคือบริษัท คุณก็ทำให้ท่านเห็นสิว่าคุณบริหารงานแทนท่านได้"
"เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันคุณไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน"
"เก่งจังเลยนะครับคุณ"
"ถอยไปนะ"
"ไม่เห็นเหรอว่าพ่อคุณต้องการพักผ่อนมากแค่ไหน ยังจะไปพูดรบกวนท่านอยู่อีก"
"หึ!" นิวเยียร์ไม่รู้จะทำอะไรได้แล้ว เป็นห่วงพ่อก็เป็นห่วง เรื่องบริษัทเธอยังไม่รู้อะไรเลย มัวแต่คุยกับพ่อเรื่องอาการป่วยของท่าน เลยไม่ได้ถามว่าต้องเริ่มงานแบบไหน