ลงมาถึงชั้นล่างของโรงพยาบาลแทนที่นิวเยียร์จะเดินไปขึ้นรถกับนาคราชแต่เธอเดินออกไปเรียกแท็กซี่
ชายหนุ่มมองตามแล้วก็อดส่ายหน้าให้กับความดื้อรั้นของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้
เช้าวันต่อมา.. นิวเยียร์ตื่นขึ้นมาก็เตรียมตัวจะเข้าบริษัท หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเธอก็เข้าไปดูห้องของพ่อ ว่าพอมีเอกสารหรืออะไรที่พ่อทิ้งไว้ในห้องไหม
"เราต้องทำยังไงเนี่ย" เข้ามาก็ไม่เห็นมีอะไรเกี่ยวกับบริษัทเลย ..เอาวะรู้ว่าบริษัทพ่ออยู่ที่ไหนก็ดีเท่าไรแล้ว
หญิงสาวลงมาก็ให้คนขับรถของพ่อพาไปส่งที่บริษัท ที่นี่บางคนไม่รู้จักเธอหรอก จะรู้จักเธอก็ส่วนน้อย
"สวัสดีค่ะมาติดต่อเรื่องอะไรคะ" พนักงานต้อนรับคิดว่าเป็นลูกค้าหรือไม่ก็คนมาติดต่องาน
"ฉันเป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัทที่นี่"
"คะ?"
"ฉันเป็นลูกสาวของคุณนิรากร เทวทิพย์"
พนักงานต้อนรับหันไปมองเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพื่อนอีกคนเลยรีบเดินเข้ามาหา
"ขอโทษนะคะคุณชื่ออะไรคะ"
"ฉันชื่อนิวเยียร์ เทวทิพย์"
"คุณรอตรงโต๊ะรับแขกครู่หนึ่งนะคะ"
นิวเยียร์ไม่ค่อยพอใจแต่ก็ต้องรอ เธอเป็นฝ่ายผิดเองที่ไม่สนใจงานของพ่อจนพนักงานที่นี่ไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของท่าน
ขณะเดียวกันนั้นที่โรงพยาบาล.. นิรากรให้คนตามนาคราชเข้ามาหาที่โรงพยาบาลอยากคุยกับเขาส่วนตัว
"สวัสดีครับคุณลุง" วันนี้ดูท่านสดชื่นขึ้นมากคงเพราะฤทธิ์ยาของคุณหมอ
"ลุงจะไม่อ้อมค้อมนะ เราคงเห็นอาการป่วยของลุงแล้ว"
"ครับ"
"ลุงเป็นโรคที่ใครเป็นแล้วอาจจะรักษาไม่หาย"
"อะไรนะครับ?"
"ช่วงนี้หมอจะให้คีโม"
"ครับ?" นาคราชตกใจมากเขาไม่คิดว่าท่านจะป่วยหนักขนาดนี้ เพราะคนที่ได้รับคีโมก็คือคนเป็นโรคมะเร็ง
"พ่ออยากฝากเราดูแลบริษัทและดูแลลูกสาวคนเดียวของพ่อได้ไหม" ท่านเปลี่ยนจากคำว่าลุงเป็นพ่อเพราะอยากได้นาคราชมาเป็นลูกเขยจริงๆ
"ทำไม?" นาคราชสงสัยว่าทำไมต้องเป็นเขา แล้วทำไมท่านไม่เลือกน่านฟ้าคนที่ทุกคนให้ความสนใจ
"พ่อเชื่อใจเรา" ท่านเคยไปมาหาสู่กับณภัทร ถึงแม้จะเห็นความสามารถของลูกชายคนเล็ก แต่ด้วยสายตาของท่านมองว่าลูกชายคนโตของณภัทรก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าน้องเลย "เรื่องอาการป่วยของพ่อ เราอย่าบอกน้องได้ไหม"
"ครับ" เขารู้ดีว่าโรคนี้ถ้าใครรู้ก่อนก็จะเป็นคนปิดบัง เพราะถ้าญาติรู้ก่อนก็จะไม่บอกคนป่วย กลับกันถ้าคนป่วยรู้ก่อนก็ไม่อยากจะบอกญาติให้คิดมากไปด้วย
"และมีอีกเรื่องที่เราต้องรู้ไว้"
"เรื่องอะไรครับ"
"ให้ระวังคนที่ชื่อจักรกฤษณ์"
ในเวลาต่อมาที่บริษัทเทวทิพย์..
นิวเยียร์นั่งรออยู่ครู่หนึ่งก็มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหา
"ใช่นิวเยียร์ไหมลูก"
"ค่ะ" นิวเยียร์ไม่รู้จักคุณลุงตรงหน้าหรอก แต่คิดว่าคงเป็นคนสนิทของพ่อ
"ลุงชื่อจักรกฤษณ์นะ เป็นผู้ร่วมหุ้นอีกคนหนึ่งของบริษัทพ่อเราเอง"
"สวัสดีค่ะคุณลุง"
"ไหว้พระเถอะหนู นิรากรเคยพูดถึงหนูให้ฟังอยู่บ่อยๆ แต่ไม่มีโอกาสได้เจอกับหนูสักที"
"ตอนนี้พ่อป่วยนอนอยู่โรงพยาบาลค่ะ นิวเยียร์เลยจะเข้ามาดูงานแทนพ่อ"
"อะไรนะ? พ่อเราป่วยเหรอ?" สีหน้าและแววตาของจักรกฤษณ์เปลี่ยนไปแต่ก็รีบปรับอารมณ์ให้ไว
"ใช่ค่ะ ช่วงนี้นิวเลยจะเข้ามาดูงานแทนพ่อ"
"ได้เลยเดี๋ยวลุงจะเป็นคนเทรนงานให้หนูเอง"
"จริงหรือคะ ขอบคุณมากค่ะคุณลุง"