บทที่ 10

1353 Words
หลังจากที่ได้รับเอกสารนั้นกลับคืนมาจักรกฤษณ์ก็ขอคุยกับนิวเยียร์เป็นการส่วนตัว แต่นาคราชไม่เปิดโอกาสให้ "คุณยังไม่มีตำแหน่งในบริษัทนี้คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามให้ผมพบกับคุณนิวเยียร์" "ตอนนี้ผมได้รับตำแหน่งจากคุณนิรากรให้เป็นผู้ช่วยของคุณนิวเยียร์" "ทำไมผมถึงไม่รู้" "ผมก็บอกคุณอยู่นี่ไง" "ผมไม่เชื่ออะไรง่ายๆ หรอกนะถ้าไม่ได้คุยกับคุณนิรากรด้วยตัวเอง" "ตอนนี้ท่านไม่ว่าง" "ไม่ว่างหรือกำลังรักษาตัวอยู่" "?" ไหนบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ไง นอกจาก?? พอคิดได้ก็ถึงกับส่ายหน้า เขาคิดว่าจักรกฤษณ์ต้องรู้มาจากนิวเยียร์แน่ จะไว้ใจอะไรคนขนาดนั้น แต่ทำไมกับเขาเธอถึงไม่ไว้ใจล่ะ "หึ.. ถ้าคุณนิรากรเข้ามาทำงานไม่ได้ทางบริษัทก็คงต้องหาผู้มาดูแลที่มีวุฒิภาวะมากพอ" "ผมก็บอกแล้วไงว่าช่วงนี้ท่านยังไม่ว่าง" "ดีงั้นผมจะเปิดประชุม หัวข้อหาผู้บริหารใหม่มานั่งตำแหน่ง" เพราะถ้าเปิดประชุมคนที่จะได้รับตำแหน่งนี้คงไม่พ้นตัวเขาเอง "คุยอะไรกันอยู่คะ" นิวเยียร์เปิดประตูห้องทำงานออกมาก็เห็นว่าคุณลุงจักรกฤษณ์กำลังคุยอยู่กับผู้ชายที่เธอเบื่อขี้หน้ามาก "ลุงแค่อยากจะมาปรึกษาเรื่องที่เราไม่ยอมเซ็น บริษัทเราต้องก้าวไปข้างหน้า ถ้าเครื่องจักร.." "คุณลุงเข้ามาคุยข้างในดีกว่าค่ะ" นิวเยียร์เปิดประตูออกให้กว้างเพื่อให้ลุงจักรกฤษณ์เข้ามา แต่พอนาคราชจะเดินตามเข้ามาเธอก็ยืนขวางไว้ "ฉันจะคุยกับคุณลุงแค่สองคน" นาคราชพยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่ได้ถอย ถึงแม้เธอจะยืนขวางตัวเล็กแค่นี้มีหรือที่จะขวางเขาได้ "เอ๊ะนี่คุณ!" คำว่าเอ๊ะนี่คุณเธอชักจะพูดกับอีตาหมอนี่บ่อยเกินไปแล้วนะ "อยากจะคุยก็คุยไปสิ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งโซฟาที่อยู่ไม่ไกลโต๊ะทำงานแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเขี่ยเล่น "เราไปคุยกันห้องลุงไหม" "ไม่ต้องหรอกค่ะคุยที่นี่แหละค่ะ" นิวเยียร์เลยพูดให้ฟังว่าทำไมเธอถึงยังไม่อนุญาต เพราะเธอเพิ่งเข้ามาทำงานแทนพ่อและไม่รู้เรื่องอะไรอีกมากมาย แต่เธอจะปรึกษาพ่อเรื่องนี้ก่อน "ลุงว่าอย่าเพิ่งปรึกษาพ่อเราเลย เห็นว่าท่านไม่สบายไม่ใช่หรือ" "หึ" คนที่กำลังเขี่ยโทรศัพท์อยู่ขำในลำคอออกมาแบบห้ามตัวเองไม่ได้ หรือจงใจจะขำใส่หน้าก็ไม่รู้ ที่เขาขำเพราะเธอบอกว่าจะแจ้งเรื่องนี้กับพ่อแต่อีกฝ่ายรีบห้ามไว้ ถ้าแค่นี้เธอดูไม่ออกก็ควรกลับไปอยู่ต่างประเทศปล่อยบริษัทให้อยู่ตามยถากรรมไปเถอะ จักรกฤษณ์เหลือบมองมาดูนาคราช ทีแรกคิดว่ามันจะเป็นก้างชิ้นเล็กๆ แต่ให้ค่ามันต่ำไป "เดี๋ยวนิวเยียร์จะลองสอบถามทางทีมงานซ่อมบำรุงดูนะคะ" "ถ้าเราคิดแบบนั้นก็โอเค มีอะไรติดขัดก็ถามลุงได้นะ" "ขอบคุณคุณลุงมากนะคะที่เข้าใจ" หลังจากจักรกฤษณ์ออกไปแล้วนิวเยียร์ก็กรอกตามองไปดูคนที่นั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ แต่อีกฝ่ายยังคงทำเนียนไม่มองมา "เชิญคุณออกไปค่ะฉันจะทำงาน" "ผมจะให้คนจัดโต๊ะทำงานในห้องนี้" "ไม่ได้ฉันไม่อนุญาต" "หรือคุณจะหาห้องทำงานใหม่ให้ผม" "ฉันจะให้คนจัดโต๊ะไว้ให้ข้างนอก" หญิงสาวไม่พูดเปล่ายังเดินไปเปิดประตูออกให้กว้างเพื่อเชิญให้เขาออกจากห้อง และก็หันไปบอกชไมพรเลขาหน้าห้องของพ่อว่าให้จัดโต๊ะมาไว้ให้กับผู้ช่วยของเธอ ชไมพรรีบทำตาม ไม่นานโต๊ะทำงานของนาคราชก็ถูกวางอยู่ข้างๆ โต๊ะชไมพร "ฉันชื่อชไมพรนะคะ" อยู่ดีๆ ก็มีหนุ่มหล่อมานั่งข้างๆ ทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยขึ้นมาเยอะเลย นาคราชก็ไม่ได้ตอบกลับแค่เขามองดูโต๊ะทำงานที่เรียบง่าย เขาจะทำให้ผู้หญิงคนนี้เห็นว่าตัวเขาเองไม่ได้มีค่าแค่นี้ บ่ายวันนั้นนิวเยียร์ลงมาดูเครื่องจักรที่จักรกฤษณ์บอกจะเปลี่ยนยกชุด แต่พอลงมาก็เห็นว่าผู้ช่วยของเธอวุ่นวายอยู่ในแผนกนี้แล้ว "คุณกำลังทำอะไรอยู่" "ดูเครื่องจักรน่ะสิ" "คุณซ่อมเครื่องจักรพวกนี้เป็นเหรอ" "ไม่เป็นหรอก" "แล้วคุณทำแบบนี้เครื่องจักรก็พังไปกันใหญ่น่ะสิ" "สวัสดีครับคุณนิวเยียร์" "สวัสดีค่ะคุณคือหัวหน้าช่างซ่อมบำรุงใช่ไหมคะ" "ใช่แล้วครับ" "เห็นคุณลุงจักรกฤษณ์บอกว่าเครื่องพวกนี้.." "ใช่แล้วครับถ้าเราเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่การผลิตชิ้นงานของเราก็จะมีคุณภาพมากขึ้น เพราะเครื่องจักรชุดนี้ก็ใช้งานมานานมากแล้ว" "แต่ผมคิดว่ามันยังใช้ต่อไปอีกได้เป็นสิบๆ ปีเลยนะ" เป็นนาคราชอีกนั่นแหละที่พูดแทรกขึ้นมา "คุณบอกไม่รู้เรื่องเครื่องจักรแล้วทำไมคุณถึงพูดได้ล่ะ" หัวหน้าช่างซ่อมบำรุงได้ยินที่นาคราชคุยกับนิวเยียร์แล้วว่าไม่รู้ "มองด้วยตาเปล่าก็ดูออก" "ถ้าจะมาหาเรื่องแบบนี้ฉันว่าคุณกลับบ้านคุณไปเถอะ" นิวเยียร์เห็นว่าเขากวนประสาททุกคนที่เข้ามาพูดกับเธอ "ถ้าตาคุณไม่บอดคุณก็คงมองเห็นว่าเครื่องจักรพวกนี้ยังทำงานได้ปกติ พ่อของคุณสั่งเครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน ถึงแม้ว่ามองแค่ผิวเผินพวกมันจะดูเก่าแต่ดูการทำงานของพวกมันยังปกติใช่ไหม" "พวกผมเพิ่งทำการซ่อมบำรุงตอนที่มันมีปัญหาครับ" "แสดงว่าฝีมือของพวกคุณยังใช้ได้ ถ้ามันมีปัญหาอีกก็แค่ซ่อม" "แต่ถ้าเราซื้อเครื่องใหม่มาก็จะลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมลงเยอะ" "ผมชักจะสงสัยแล้วสิ ว่าพวกคุณมีเอี่ยวกับบริษัทเครื่องจักรหรือเปล่า" "อะ อะไรนะครับ?" พอถูกจู่โจมด้วยคำพูดและสายตารู้ทันหัวหน้าช่างก็รับสถานการณ์ไม่ทัน "เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันจะปรึกษาท่านประธานดูอีกทีแล้วกัน ถ้าอันไหนชำรุดเสียหายพวกคุณก็ช่วยทำให้มันกลับมาใช้งานได้ปกติหน่อยนะคะ" จะว่าเขาหาเรื่องซะทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะเมื่อสักครู่เขาทำให้เธอมองเห็นอะไรบางอย่าง นิวเยียร์เลยเดินดูเครื่องจักรเครื่องอื่นๆ ในโรงงาน โรงงานของพ่อเธอเครื่องจักรถือว่าเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหลักๆ​ เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าไม่มีเครื่องจักรพวกนี้ชิ้นงานก็จะผลิตขึ้นมาไม่ได้ "ระวัง" ขณะที่เธอกำลังเดินมองเครื่องจักรโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้าง อยู่ดีๆ ก็มี วัตถุบางอย่างหล่นลงมา ตุ๊บ! เพล้ง!! "คุณเป็นอะไรไหม" ตอนที่ดังตุ๊บคือมันตกกระทบโดนมือของนาคราชและก็ตกลงพื้นอีกที ถ้าเขาไม่เอามือไปบังศรีษะเธอไว้มันคงกระทบเข้ากับศีรษะของเธออย่างจัง "ไม่เป็นอะไร" นาคราชทำได้แค่กัดฟันไว้แน่นระบายความเจ็บปวด "ฉันว่าไปหาหมอดีกว่า" เขาไม่ได้สนใจมือตัวเองแต่สิ่งที่เขาสนใจคือมันหล่นลงมาได้ยังไง ส่วนนิวเยียร์ตอนนี้มองแค่มือของเขาเพราะมันแดงช้ำกลัวว่ากระดูกมือเขาจะหักด้วยซ้ำ ไม่อยากคิดเลยถ้ามันตกลงมาใส่ศีรษะเธอโดยตรงจะเป็นยังไง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD