ทางหลี่อวี้หลันจู่ ๆ ก็พลันรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งร่าง นางชะงักฝีเท้าหันมองรอบกาย คิ้วเรียวขมวด สีหน้าฉงนสนเท่ห์
หลี่ฝูหรงเห็นนางหยุดเดินกะทันหันจึงหันมาถาม “มีอะไรหรือน้องหญิงรอง?”
หลี่อวี้หลันส่ายหน้าไล่ความรู้สึกแปลกประหลาด แย้มยิ้มงดงามจับตาพลางกล่าวช้า ๆ “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”
“อุ๊ย นั่นใช่เรือของรัชทายาทหรือไม่?” เสียงอุทานจากสตรีกลุ่มหนึ่งดังขึ้นข้างกายคนทั้งสอง หลี่อวี้หลันพลันหันมองไปทางทะเลสาบ เรืองดงามหรูหราลำหนึ่งกำลังล่องลอยเชื่องช้าอยู่กลางน้ำ บนหัวเรือปักธงสีทองของราชสำนัก บนผืนธงมีตราสัญลักษณ์ของรัชทายาทประดับอยู่ ดวงตางามพลันทอประกายเจิดจ้า
ในต้นฉบับก็มีฉากนี้ปรากฏขึ้นเช่นกัน ตอนหลี่ฝูหรงพลัดตกจากสะพาน เรือของรัชทายาทล่องอยู่ไม่ไกล เขาจึงเป็นคนแรกที่กระโดดลงน้ำไปช่วยนาง ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในต้นฉบับจะยังคงเหมือนเดิม แต่ต่างกันก็ตรงที่ครั้งนี้หลี่ฝูหรงไม่มีทางตกน้ำแล้ว เพราะต้นเหตุที่ทำให้นางเป็นเช่นนั้นอย่างนางร้ายหลี่อวี้หลันไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกแล้ว ขอเพียงไม่เดินข้ามสะพานนั่นก็จะไม่มีทางเกิดเหตุการณ์ตกน้ำอันใดอีก
“พวกเราข้ามไปฝั่งนู้นกันเถิด” คำชวนของหลี่ฝูหรงเรียกความคิดหลี่อวี้หลันกลับมา นางหันมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าซีดเผือดเล็กน้อย
อย่าบอกนะว่า… หลี่ฝูหรงกำลังชวนนางเดินข้ามสะพานนั่นน่ะ?
“ทำไมหรือ ไยเจ้าหน้าซีดเพียงนี้เล่า หรือว่าไม่สบายอีกแล้ว?” เมื่อหลี่ฝูหรงพูดจบ เหล่าพี่น้องรอบกายก็หันมามองหลี่อวี้หลันพร้อมกัน
หลี่เซียวหย่วนหอบของเล่นเต็มไม้เต็มมือเข้ามาหา สีหน้าฉายแววกังวล “อวี้เอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหนหรือ?”
หลี่อวี้หลันไม่อยากทำให้ทุกคนเป็นห่วงไปมากกว่านี้จึงพยายามปรับสีหน้าสงบนิ่งดั่งเดิม แย้มยิ้มตอบ “น้องสบายดี เพียงแค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นก็ไม่ต้องเดินต่อแล้ว รีบไปที่ศาลาอิ๋นโหย่วกันได้แล้วกระมัง” หลี่ซวนหยวนเอ่ยน้ำเสียงเคร่งขรึม เมื่อพี่ใหญ่เอ่ยปากเช่นนี้ น้อง ๆ ย่อมมิกล้าเอ่ยขัด ดวงตาเฉยชามองหลี่อวี้หลันแวบหนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินนำทุกคนขึ้นสะพานไป
หลี่อวี้หลันพลันชะงักฝีเท้า “พวกเราต้องข้ามสะพานด้วยหรือเจ้าคะ?”
หลี่ฝูหรงเดินอยู่ด้านข้างหันมาเลิกคิ้วตอบ “ใช่ เพราะศาลาอิ๋นโหย่วอยู่ฝั่งนู้นอย่างไรเล่า”
โธ่… ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องข้ามสะพานนี่อยู่ดีสินะ
ช่างเถิด ช่างเถิด จะอย่างไรก็คงไม่เกิดเรื่องเหมือนในต้นฉบับหรอกกระมัง ก็นางไม่ได้จ้างวานใครให้มาผลักหลี่ฝูหรงแล้วนี่ เช่นนั้นก็คงไม่ต้องกังวลแล้วกระมัง…
ปุง…
“อ๊ะ… มีดอกไม้ไฟด้วย”
ขณะที่กลุ่มของคุณหนูคุณชายสกุลหลี่เดินมาถึงกลางสะพาน เสียงดอกไม้ไฟก็ดังขึ้นกลางท้องฟ้าเรียกสายตาของทุกคนแหงนมอง ต่างคนต่างหยุดยืนอยู่กับที่เพื่อชื่นชมดอกไม้ไฟอย่างที่นานครั้งจะได้พบเห็น
“สวยจัง” หลี่ฝูหรงพึมพำเบา ๆ ดวงหน้างามล้ำแย้มยิ้มอ่อนโยน หลี่อวี้หลันผละสายตาจากดอกไม้ไฟบนท้องฟ้ากลับมามองคนข้างกาย นึกชื่นชมอีกฝ่ายในใจ หลี่ฝูหรงมีรูปโฉมที่งดงามมาก กิริยาท่าทางก็น่ามอง นางเหมาะสมกับบทนางเอกมังฮวาจริง ๆ เป็นเพราะนางเพียบพร้อมเช่นนี้กระมัง นางร้ายหลี่อวี้หลันถึงได้ริษยานางเพียงนั้น
เฮ้อ… มนุษย์เราหนอ ไฉนจึงมองเพียงข้อดีของผู้อื่น แต่กลับหลงลืมข้อดีของตนเองเสียเล่า หลี่อวี้หลันมีรูปโฉมสะคราญถึงเพียงนี้แท้ ๆ นางมิควรไปริษยาผู้อื่นจนทำให้ทั้งชีวิตของตนต้องทุกข์ทนไม่รู้จักจบสิ้นเช่นนั้นเลย
ทว่านางคิดปลงกับชีวิตของนางร้ายหลี่อวี้หลันได้ไม่ทันไร จู่ ๆ หางตาเหลือบไปเห็นรถม้าคันหนึ่งวิ่งกุกกักขึ้นมาบนสะพาน ผู้คนตรงต้นสะพานพากันแตกตื่นหลบหนีเข้าข้างทาง ขณะรถม้ากำลังวิ่งมาเกือบจะถึงตรงจุดที่กลุ่มของหลี่อวี้หลันยืนอยู่ จู่ ๆ ก็มีร่างสูงใหญ่ของคนผู้หนึ่งพุ่งออกมาจากทิศทางใดไม่รู้ คนคนนั้นกระแทกเข้ากับร่างบอบบางของหลี่ฝูหรงซึ่งกำลังเงยหน้ามองดอกไม้ไฟบนท้องฟ้าอยู่ นางไม่ทันระวังตัวร้องอุทานออกมาหนึ่งคำก่อนจะซวนเซไปชนกับราวกั้นสะพานด้านหลัง
“พี่หญิงใหญ่!” หลี่อวี้หลันเอื้อมคว้ามือหลี่ฝูหรงด้วยความรวดเร็ว นางฉุดดึงอีกฝ่ายกลับมาทว่าร่างของนางกลับพุ่งไปด้านหน้าเสียเอง ก่อนจะพลัดตกจากราวกั้นสะพานต่อหน้าต่อตาทุกคน
“อวี้เอ๋อร์!”
“น้องหญิงรอง!”
“พี่หญิงรอง!”
ชั่วขณะที่ร่างของหลี่อวี้หลันค่อย ๆ ดิ่งลงจากความสูงของราวกั้นสะพาน นางเบิกตากว้างมองสบตากับหลี่ฝูหรงที่มีสีหน้าตื่นตระหนกอย่างที่สุด เสียงเรียกของเหล่าพี่น้องดังก้องในหู ยามนี้นางถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าร่างของตนเองกำลังจะตกลงสู่ทะเลสาบเย็นเฉียบเบื้องล่าง
ไฉนเรื่องราวมันกลับตาลปัตรเช่นนี้ได้เล่า? นางช่วยพี่หญิงใหญ่ไว้ได้แล้วแท้ ๆ แต่ตนเองกลับเป็นฝ่ายตกน้ำเสียเองอย่างนั้นหรือ?
หรือว่านี่จะเป็นบทลงโทษสำหรับการฝ่าฝืนลิขิตสวรรค์? ไม่สิ… ต้องเป็นบทลงโทษที่นางเล่นนอกบทแน่ ๆ เพราะว่านางเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องที่มันควรจะเป็น นางจึงต้องรับผลกรรมเช่นนี้ใช่หรือไม่
ถ้าเช่นนั้น… ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ช่างเถิด… ก็แค่ตกน้ำเองไม่ใช่หรือ มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว ชาติก่อนนางเป็นนักว่ายน้ำของโรงเรียนเชียวนะ ทะเลสาบแค่นี้… คงไม่เท่าไหร่หรอกกระมัง
เมื่อคิดดังนั้นหลี่อวี้หลันจึงหลับตาลงอย่างเตรียมใจตกสู่ผืนน้ำอันแสนเย็นเฉียบ ทว่าในชั่วขณะนั้นรอบกายปรากฏสายลมหอบหนึ่งวาบผ่าน ก่อนเอวบางจะถูกบางสิ่งโอบรัดกระชับแน่น ความอบอุ่นสายหนึ่งแนบประชิดร่างบอบบาง สายลมวูบหนึ่งนำพากลิ่นหอมของสมุนไพรจาง ๆ ลอยปะทะจมูก ดวงตาคู่งามพลันลืมขึ้นในฉับพลัน
เอ๊ะ… นี่นางกำลังถูกอุ้มอยู่อย่างนั้นหรือ?
มะ ไม่ใช่… นี่ไม่ใช่แค่ถูกอุ้มแต่นางกำลังลอยอยู่กลางอากาศต่างหาก!