การละมือจากพังงาและวางหางเสือแล้วนั้น นั่นหมายความว่าเรือได้จอดเทียบท่าเป็นที่เรียบร้อย ถึงเวลาที่ลูกเรือและผู้โดยสารจะต้องลง
ใครจะรู้ นาทีนี้คนงงสุดจะเป็นเขา มาเฟียโหด ที่ฆ่าใครต่อใครในสนามรบ ยามมีการหักหลังกันทางธุรกิจจนต้องสะสางภายหลังจะมายืนอยู่จุดนี้...มาเดินตามหลังผู้หญิงต้อยๆ
ผ่านน้ำเค็ม ไต่ระดับตั้งแต่เทียบหน้าแข้ง ลงมาถึงตาตุ่ม จนกระทั่งเหยียบเม็ดทราย ก่อนจะหยุดชะงักกลางคันเพราะมีใครบางคนเดินมาขวางไว้ เขาคนนั้นอุตส่าห์ทิ้งลูกบอลวิ่งมาหา แค่เพียงได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเรือมาแต่ไกล เพื่อให้เธอด่า ทั้งที่เกือบจะทำประตูนำฝ่ายตรงข้ามแล้ว
ซึ่งแน่นอนคนที่ไม่ค่อยจะชอบนิสัยเขาอย่างผกามาศ เมื่อเห็นเขามาแต่ไกลเช่นเดียวกัน ถึงกับทำหน้าเซ็ง
" อะไร "
เธอเลิกคิ้วเอ่ยถามคำถามแรก หลังร่างสูงในสภาพเปลือยท่อนบน เหลือแต่กางเกงขาก๊วยสีกรม พร้อมเหงื่อเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้า ก่อนจะทำปากอมลม บ่งบอกถึงความไม่พอใจสูงสุด จ้องหน้าคนข้างหลังเขม็ง
" ไอ้ฝรั่งนั่น ใคร? "
" ทำไม? "
" พี่เห็นลงเรือมากับเอ็ง "
" ก็แล้วไง? "
" ไม่เอาน่าปะกา พี่แค่ถาม "
" ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว ไม่เห็นหรือว่ามีพ่อด้วย"
ร่างบางเริ่มขึ้นเสียง แสดงสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด พลางบุ้ยปากไปที่บันลือพ่อของเธอ ซึ่งปลีกตัวไปอีกฝั่ง เร่งไปบ้านผู้ใหญ่ ก่อนจะหันมามองเขา คนมาใหม่ที่กำลังเป็นเป้าสายตา ตั้งแต่เด็กเล็กแดงน้อย คนหนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ไปถึงคนเฒ่าคนแก่ เรียกได้ว่าเกือบจะทั้งเกาะ..
แน่นอน เขาเองก็รู้ตัว!
คูดัสกวาดสายตาไปรอบๆ ประสบเกือบทุกสายตาที่กำลังมองมา ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ดวงตาของปะการัง ซึ่งขมวดคิ้วยืนเท้าสะเอวมองเขาอยู่ก่อนแล้ว ทว่าไม่นานก็หันไปคุยกับคู่กรณี ด้วยภาษาที่เขาไม่เข้าใจ แต่ดูจากสีหน้าและท่าทาง เหมือนไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่
" เห็น พี่เห็นว่ามีลุงบันลือ แค่อยากรู้ว่ามันเป็นใคร"
" พ่อฉันกำลังเดินไปบอกพ่อพี่ไง พี่ก็เดินไปถามพ่อพี่เองดิ "
เธอจบการสนทนาเพียงแค่นั้น ก่อนจะเดินออกไป โดยไม่วายดึงแขนคูดัสไปด้วย ทั้งที่ยังเบลอๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แน่นอนในขณะกำลังจะผ่านคนร่างสูงพอๆ กับเขา จังหวะนั้นดวงตาสีดำสนิทดูไม่เป็นมิตรประสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าของเขาพอดิบพอดี!
" ปะกาเดี๋ยวปะกา ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย อะไรวะ! "
ก่อนเขาจะแตะทรายจนฝุ่นตลบด้วยความโกรธ หลังตะโกนเรียกเธอ แต่เธอกลับแสร้งทำไม่ได้ยิน แถมเร่งฝีเท้าเดินหนีไปเสียเฉยๆ
ผกามาศเผลอบีบแขนเขาอย่างลืมตัว ฉุดกึ่งวิ่งกึ่งเดินไม่สบอารมณ์มาตลอดทาง จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงบ้านหลังเล็ก ที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ก่อนจะหันมาคุยกับเขา
" นายนั่งรอตรงนี้นะ "
แต่แล้ว...
กลับต้องตีหน้าผากตัวเองดังโปะ เมื่อคนที่เธอสื่อสารด้วยเหมือนจะไม่เข้าใจ
" เวรกรรม "
" หืม? "
" จะหงจะหืมอะไรเล่า นั่งรอตรงหน้านี้ไง "
เธอบอกพลางชี้ไปตรงระเบียงที่จงใจทำยื่นออกมา เผื่อมีแขกเทียวไปเทียวจะได้นั่ง แล้วพึมพำคนเดียว "เขาเรียกว่าอะไรน้า อ่อ! sit อ่ะ sit "
" Sit down? "
" ใช่ๆ อันนั้นแหละ ตรงนี้... แปปเดียว เดี๋ยวมา"
ก่อนจะยิ้มกว้างภายหลัง พร้อมชี้ไปที่เดิม
คราวนี้เหมือนเขาจะเข้าใจ คูดัสพยักหน้า ยอมทำตามอย่างว่าง่าย มองตามร่างบางซึ่งกระโดดข้ามขั้นบันไดขั้นที่สองโดยไม่เหยียบขั้นแรกหายวับเข้าบ้านไป และไม่นานก็ออกมาพร้อมใครคนหนึ่ง ที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายเธอ พลางมาหยุดอยู่ใกล้เขา
" คนนี้น่ะเหรอ "
" ใช่แม่ "
" ตายแล้วปะกา แล้วเขาจะฟังเรารู้เรื่องเหรอลูก "
"ก็ไม่นะแม่ กว่าจะพามานั่งตรงนี้ได้ ฉี่แทบราด โอ๊ย ตื่นเต้น จะต้องขุดเอาออกมาใช้จนได้ ทั้งที่เป็นวิชาที่โง่ที่สุดสมัยเรียน "
พร้อมบทสนทนานั้น ที่ทำให้เขาซึ่งนั่งหันหลังอยู่ต้องหันกลับมา วินาทีแรกที่เห็นคือเธอกำลังจะถูกคนมาใหม่ยกกำปั้นมะเหงกลงกลางหัว และแน่นอนเธอหลบทัน ก่อนทั้งคู่จะหันมาสนใจเขา
"หืม ตาสีฟ้าสวยเชียว ดูยังไงก็ไม่ใช่โจรหรอกปะกา"
" แต่เขาไม่กล้าบอกชื่อเรานะแม่ โจรชัวร์ เชื่อปะกาสิ พ่อกำลังไปเรียกผู้ใหญ่กับหมอมาดู เขาโดนจับแน่ "
บัวผันหันมองลูกสาวก่อนจะส่ายหน้าเอือมระอา พร้อมโน้มหน้าเข้าไปใกล้ ตามประสาคนแก่สายตาสั้นที่อยากจะมองหน้าเขาให้ชัดอีกหน่อย
สำหรับเขาถึงจะฟังบทสนทนาไม่ออก แต่ด้วยสีหน้าและท่าทางก็พอจะดูรู้ หล่อนเป็นคนใจดี
สรุปครอบครัวนี้ใจดีกันทั้งบ้าน หากจะเป็นแกะดำก็คงจะเป็นเธอ.. กุลสตรีที่ไม่เหมือนกุลสตรีเสียทีเดียว
" เขาคงจะยังเบลอๆ อยู่นะปะกา หัวแตกด้วยนี่"
" ใช่แม่ ปะกาเป็นคนทำแผลเอง จริงๆ แล้วแผลนั้นควรจะเย็บด้วยซ้ำ เพราะมันลึกมาก แต่ตอนนั้นบนเรือเราไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย.."
ประโยคท้ายเธอเอ่ยเสียงแผ่ว หลังอธิบายเสียงยืดยาวถึงขนาดบัวผันต้องอมยิ้ม หันไปพยักหน้ากับคูดัส เสมือนหาแนวร่วม พลางส่ายหน้า
" แล้วถ้ามี ปะกาจะเย็บให้เขาเหรอลูก "
" เปล่าค่ะ ปะกาเย็บไม่เป็น ฮ่าๆๆ "
" เฮ้อ~ เรานะเรา ขี้คุยเหมือนพ่อไม่มีผิด "
" แต่พ่อบอกว่าปะกาเหมือนแม่ "
" แหนะ ^^ " ก่อนจะยิ้มกว้างเปลี่ยนเป็นส่งสายตาเอ็นดูไปให้ใหม่ เมื่อเธอพูดไม่หยุด พลางตัดบทสนทนา " ไปๆ ชวนพี่เขาเข้าบ้าน คงหิวแย่แล้ว "
พร้อมหมุนตัว หวังจะเข้าบ้านไปก่อน เพราะทอดปลาทิ้งไว้
แต่แล้ว...
กลับต้องหันกลับมาใหม่ เพราะประโยคนี้
" แม่บอกว่า ให้นายไปหุงข้าว "
" ปะกา..."
" จ๋า~ "
" เดี๋ยวเถอะ! เล่นไม่เลือกรุ่น เรานั่นแหละ เข้ามาช่วยแม่ "
" TT.TT"