ร่างสูงค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งหลังได้ยินเสียงร้อง และถอยร่อนออกไปไกล ก่อนจะขมวดคิ้วนิ่วหน้า แสดงอาการปวดหัวขั้นรุนแรง
" Who are you guys? "
เพราะต่างคนต่างฟังกันไม่ออก การแสดงท่าทีของเธอจึงทำให้เขางง
" อะไร มันจะกินตะไคร้เหรอวะ "
" ไม่ใช่พ่อ~"
ทว่า หากเป็นประโยคสั้นๆ ที่ไม่ใช่ประโยคยาวๆ เธอพอจะรู้บ้าง
" พ่อเขาถามเราอะ "
"ถามว่า "
" เราเป็นใคร..."
เธอแปลให้พ่อเธอฟัง แต่เหมือนสีหน้าของเธอจะใส่แอคติ้งที่แรงไปหน่อย
" แกน่ะเป็นใคร?! "
บันลือจึงตะโกนกลับทันควัน นั่นยิ่งทำคนป่วยงงเข้าไปใหญ่ เขาดูตกใจหันมองเธอ ราวกับต้องการคนแปล
" เฮ้ย พ่อใจเย็น พ่อถอยไป เดี๋ยวหนูเอง "
" ไหนว่าพูดไม่ได้ "
" ก็พูดไม่ได้ไง แต่จะใบ้เอา "
ผกามาศหันกลับมาบอก ในขณะกระเถิบตัวเข้าไปใกล้เขา แล้วอยู่ในท่านั่งคุกเข่า
" เฮ้ นายดูนี่นะ ฉัน... ปะการัง นายล่ะ? "
ชี้มาที่ตัวเอง ก่อนเอามือทาบอก แต่เหมือนเขาจะยิ่งงุนงงกับท่าทางนี้หนักเข้าไปอีก คูดัสเอียงคอ
" หืม? "
"โอ๊ยเนอะ! เอาใหม่ ฉัน.. ปะกา ชื่อน่ะชื่อ ฉันชื่อปะการัง นายล่ะ..ชื่ออะไร? "
คราวนี้เธอถือวิสาสะยื่นนิ้วไปแตะที่แผงอกแกร่ง ซึ่งนั่นด้วยสัญชาตญาณของมาเฟียที่ยากต่อการเข้าถึงมาแต่ไหนแต่ไร ทำให้เขาสะดุ้ง แน่นอนพาเธอสะดุ้งตามไปด้วย ผกามาศชักมือออก ลบริมฝีปาก นั่งจ้องเขม็งไปยังเขาราวกับรอลุ้น เมื่อเห็นเขาทำหน้าเหมือนกำลังนึก ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างและพยักหน้ารัวๆ ภายหลัง
" my name? "
" yes เออ นั่นแหละ เนมนั่นแหละตะกี้มันติดอยู่ที่ปาก ฉันพูดไม่ออก ^^ ว่ามาเลย นายชื่ออะไร"
แต่ทว่า.. กลับต้องหุบทันควันเมื่อเขาส่ายหน้า
"I don't know"
" อ่าว "
แล้วหันไปทำหน้าเศร้ากับพ่อ ถอนหายใจไหล่ตก
ท่ามกลางความงงของคูดัส ที่เอาแต่นั่งมองพวกเขาสลับกันกับนิ่วหน้า เพราะปวดหัวและเจ็บระบมไปทั้งตัว พลางเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเธอหันกลับมา แต่ไม่รู้พูดว่าเรื่องอะไร
" ไม่เป็นไร นายนอนพักเถอะ ฉันกับพ่อจะออกไปข้างนอก "
มองตามไปเห็นเพียงเธอชี้ไปทางประตู ที่น่าจะหมายถึงนอกห้องนี้ ก่อนจะชี้มาที่ตัวของเขาเอง เตรียมจะลุก ทว่ากลับถูกหญิงสาวฉุดแขน แล้วดึงตัวกลับ
" ไม่ๆๆ ไม่ใช่นาย หมายถึงฉันกับพ่อ นายน่ะนอนอยู่ที่นี่ ..ตรงนี้ โอเคไหม? "
" OK."
" เฮ้อ ให้ตายสิ ตีหัวให้สลบแล้วเอาไปไว้ที่เดิมดีไหมเนี่ย "
เธอบ่นอุบ ในขณะเดินออกมา พร้อมท่าทางกระฟัดกระเฟียด ตามประสาวัยรุ่นใจร้อนขี้หงุดหงิด โดยมีพ่อกลั้นขำสลับกับส่ายหน้าเอือมระอาอยู่เบื้องหลัง
จากนั้นทั้งคู่จึงพากันเงียบ เมื่อรู้จุดหมายปลายทางที่จะไปคือที่ไหน
แต่แล้ว..
กลับต้องหันหน้ามองกันเองราวกับนัดหมาย เมื่อเรือกู้ซากที่ว่าไม่อยู่แล้ว
" ทำไงดีอะพ่อ "
" ข้าก็ไม่รู้ว่ะ "
ผกามาศเอ่ยถามในขณะคนเป็นพ่อยืนเท้าสะเอว บ่งบอกถึงความตึงเครียดที่จะต้องแก้ปัญหาอีกรอบ พลางถอนหายใจพรืด แล้วหันหัวเรือไปอีกทาง
" คงต้องพามันกลับไปกับเรา ให้หมอดูอาการมันก่อน เผื่อสมงสมองกระทบกระเทือน จะแย่เอาทีหลัง"
" แล้วเรื่องส่งกลับ "
" เรื่องส่งกลับ ข้าค่อยปรึกษาผู้ใหญ่เขาอีกที ดูจากแผลกับรอยสักข้างหลังแล้ว น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา "
" โจรเหรอพ่อ! "
เธอถามก่อนโพล่งขึ้น นั่นทำบันลือถึงกับตกใจ เร่งหันไปเอ็ด
" เอ นังนี่นิ เดี๋ยวปั๊ดตบปาก จะเสียงดังทำไม? "
" เขาไม่รู้หรอกพ่อ เขาฟังภาษาเราไม่ออก "
"เอาน่า ตราบใดที่เราไม่รู้ว่ามันเป็นใคร จำไว้ อย่าเชื่อใจมันเด็ดขาด เข้าใจไหมเนี่ย"
และออกคำสั่ง แต่เหมือนเธอจะพยักเข้าใจได้ไม่นาน ก็กลับมาทะเล้นอย่างเดิมอีก ที่คราวนี้ทำคนเป็นพ่อถึงกับควันออกหู
" ก็ต้องเข้าใจเนอะ ทำหน้าจริงจังซะขนาดนั้น "
" เฮ้อข้าละหน่าย.. เอ็งนี่กวนบาทาข้าจริงๆ เลยโว้ย"
" ก็หนูรักพ่อไง ^^ "
" เอ้อ ^^ "
" รอบนี้ขอส่วนแบ่งค่าปลา 60% "
" นังปะกา! "
" อ้ะๆ แน่จริงก็ปล่อยพวงมาลัยมาตีหนูเลยดิ กล้ารึเปล่า กล้ารึเปล่า~ "
ถ้าไม่ติดห่วงว่าเรือจะล่ม ป่านนี้ปะการังคงถูกพ่อตัวเองไล่เตะก้นไปหลายรอบแล้ว คงไม่ปาแค่รองเท้าแตะที่ใส่อยู่ไปโดนท้ายทอยเธออย่างเดียวหรอก
" ฮ่าๆๆ "
ท่ามกลางการได้ยินอยู่ของคูดัส ที่ฟังไม่ออกเอาเสียเลยเพราะติดตรงที่ภาษา ทว่าถึงจะไม่เข้าใจความหมาย แต่เสียงหัวเราะดังลั่นหมดเปลือกไม่มีเก็บนั้น ก็พอจะทำให้คนที่นั่งงงอยู่อย่างเขา พอจะดูรู้...เธอเป็นคนยังไง