ศพ

939 Words
อีกฝั่งหนึ่งของโลกตรงกันข้ามทวีปกับแก๊งอัลฟายืนอยู่ บนท้องทะเลกว้างใหญ่ไพศาล ไล่ระดับสีฟ้าอ่อนเข้มแล้วแต่ระดับความตื้นลึก มีหมู่เกาะเล็กใหญ่รายล้อมมากมาย ถูกแต่งเติมไปด้วยธรรมชาติ ทว่ามีบางเกาะที่เต็มไปด้วยชาวประมง " ไอ้ปะกา จะไปทำไมว้า ทำไมไม่อยู่กับแม่เอ็ง " เสียงทุ้มใหญ่พอๆ กับขนาดตัว ร้องถามในขณะมือกำลังระวิงบังคับพวงมาลัยเรือ " ขึ้นมาแล้วพ่อ มาได้ครึ่งทางแล้วด้วย ไม่ต้องบ่น" " เฮ้อ~" " ไม่ต้องถอนหายใจด้วย ได้ข่าววันนี้ปลาเยอะ พ่อไปคนเดียวอยากจะแพ้คนอื่นเขารึไง ดูดิ ไม่มีเรือจอดเทียบท่าเลยสักลำ ป่านนี้คงไปจับจองที่ ทำเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ไม่เหลือไว้ให้พ่อแล้วมั้ง" พร้อมสายตาทอดมองออกไปไกลลิบสลับกับบุตรสาว ที่นั่งบ่นเสียงกระจ้อยร่อยลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ ด้วยความเอ็นดูปนหมั่นไส้เขาอยากจะมะเหงกกลางหัวเธอ ถ้าไม่ติดว่าขับเรืออยู่ " ถ้างั้นก็นั่งเงียบๆ ไปเลย " " พ่อชวนหนูคุยเองน้า " " นังปะกา" " จ๋าาา จ้ะ" " ฮ่าๆๆ " เธอจัดว่าเป็นคนตลก ม้าดีดกะโหลก ที่มักจะทำให้คนในครอบครัวส่ายหน้าวันละหลายๆครั้ง ทว่าความทะเล้นนั้นกลับสร้างความสุขให้พวกเขาในยามเครียดได้มากมายเลยทีเดียว " อุพ่อ! นั้นอะไรน่ะ " " บอกว่าอย่าพูดไง " " ไม่พูดไม่ได้แล้ว พ่อดูนั่น " แต่แล้ว... ในขณะพวกเขากำลังร้องเพลงผสานเสียงตามประสาพ่อลูกด้วยกันอยู่นั้น อยู่ๆสายตาของปะการังก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างอยู่กลางทะเล คล้ายๆ เรือกู้ซาก พร้อมเจ้าหน้าที่หลายนาย และเพราะไม่ค่อยจะเห็นอะไรแบบนี้บ่อยนัก พร้อมระยะการมองเห็นที่ไกลเกิน จึงทำให้บันลือต้องเอื้อมมือไปหยิบกล้องทางไกลมาส่องดู " ตาดีเชียวนะเอ็ง " " ก็ไม่ได้แก่เหมือนพ่อนี่ " " เดี๋ยวเถอะ! " " ฮ่าๆๆ " เสียงหัวเราะของเธอไม่ได้เป็นอุปสรรคแก่การส่องมองของเขาเลย แม้บันลือจะเกิดความเครียดหลังจากนั้น กับการเห็นเหตุการณ์ผ่านกล้องอย่างชัดเจน " มีอะไรหรือพ่อ " ทว่าเสียงถามของลูกสาวกลับทำให้เขาหลุดจากภวังค์ สีหน้าเคร่งเครียดเมื่อครู่แปรเปลี่ยนทันที " น่าจะเรืออับปาง ไม่มีอะไรหรอก" " ขอดูบ้าง " แต่เหมือนสาวเจ้าจะไม่เชื่อ แบมือออกไปตรงหน้า ก่อนที่เขาจะทันได้เก็บกล้อง " นังนี่ " " ก็แค่ขอดูเอง ไม่ซุ่มซ่ามทำกล้องของพ่อตกหรอกน่า " พร้อมสีหน้าอยากรู้อยากเห็นออกมาอย่างจริงจัง เขาเลี่ยงที่จะไม่ให้ไม่ได้ " ของแพงนะโว้ย อย่าเชียว " " รู้ล่ะน่ะ " ปะกาเอ่ย พลางดึงกล้องจากมือเขาไป เธอเงียบไปอึดหนึ่งใจ ในขณะกำลังส่องดู " เรือท่าจะใหญ่เอาการอยู่นะพ่อ เรือกู้ซากถึงได้หลายลำขนาดนี้ ว่าแต่นั่นตู้อะไรเหรอ " " คอนเทนเนอร์ " ก่อนจะลดลงจากตาสวย "อ่าว พ่อรู้ด้วยเรอะ ฉันเห็นเขาเพิ่งจะลากออกมาเมื่อตะกี้" " โถ่ นังปะกา นี่พ่อเอ็งนะ เป็นชาวประมงมาค่อนชีวิต เรือลำใหญ่ขนาดนั้นจะไม่รู้เชียวหรือว่าขนอะไรมา " " งั้นพ่อรู้ไหมล่ะ ข้างในนั้นมีอะไร โอ๊ย! " ไม่ทันได้พูดจบดี ปะกากลับต้องลูบหัวตัวเองป้อยๆ เมื่อคราวนี้ถูกผู้เป็นพ่อมะเหงกลงมาจริงๆ " ไม่ต้องรู้ เอากล้องคืนมา" " อะไรของพ่อเนี่ย ทำขี้งกไปได้ " " ถ้าก่อนหน้านี้เอ็งไม่ทำอวนข้าขาด คงไม่เป็นแบบนี้หรอก" ก่อนจะแย่งกล้องในมือเธอไป พร้อมขึงตาใส่ ส่วนเธอนั้นเลิกคิ้วพลางยิ้มเจื่อน " อุย.." " นั่งเงียบๆ ไปเลย " " พ่อจะไม่ไปดูหน่อยเหรอ นั่นมันน่านน้ำใกล้บ้านเรานะ " " ไม่ ไม่ใช่กงการอะไรของข้า" "โอโห พ่อมีลูกอย่างหนูได้ไงเนี่ย นิสัยไม่เห็นเหมือนกันเลย" " เอ็งมันสอดรู้สอดเห็นเหมือนกับแม่! " " เอ้อ" " ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะยังคงผสานกัน ท่ามกลางแรงปะทะสายลมที่พากันพัดโชยเข้ามา บวกเสียงเครื่องยนต์ที่ทะยานออกไปตีกับเกลียวคลื่น ก่อนจะดับเครื่องหลังจากถึงที่หมาย เขตจับจองที่เอาไว้เพื่อทิ้งอวน จนกระทั่งเสร็จสรรพจึงจะติดเครื่องยนต์เดินสมอเรือต่อ เพื่อเข้าฝั่งเกาะใกล้เคียงอีกที นอนรอจนกว่าถึงเวลาเก็บอวน จึงจะเดินทางกลับบ้าน เนื่องระยะทางที่ห่างไกล ยากต่อการไปกลับได้ นั่นเป็นกิจวัตรประจำวันของชาวประมงที่หาชาวกินค่ำ หากคิดจะเก็บหอมรอมริบก็คงต้องอาศัยโชคช่วย ในช่วงที่มีปลาชุกชุม ซึ่งกว่าจะมี นานทีปีหนเห็นจะได้ วิถีเส้นทางชีวิตของนางสาวผกามาศ หรือปะการัง อายุวัย 24 ปี ที่มีมาตั้งแต่เกิด เธอจำความได้ก็เห็นตัวเองนอนนั่งอยู่บนเรือลำนี้แล้ว เรียกได้ว่านี่คือยานพาหนะเครื่องมือทำมาหากิน ที่เปรียบเสมือนเป็นบรรพบุรุษของครอบครัวเธออีกคน แต่แล้ว.. วันนี้กลับไม่เป็นอย่างทุกๆวันที่ผ่านมา เมื่อเรือมาจอดเทียบท่า แล้วพบว่า... " พะ พ่อดูนั่น! " " อะไรอีก?! " คราวนี้เหมือนจะเรื่องใหญ่กว่าเก่า เมื่อปะการังชี้ไปยังร่างเปลือยท่อนบนของใครคนหนึ่งซึ่งนอนคว่ำเกยหาด " ศพ! "
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD