ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ

1922 Words
หลายอย่างที่นี่เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยวันเวลา  แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่คือธรรมชาติและความสวยงามของดอกไม้ เอมี่เดินไปยังชิงช้าใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อาวุธตั้งใจทำอย่างมาก อีกทั้งใต้ต้นไม้ยังมีดอกไม้หลากสีปลูกล้อมรอบสร้างความเจริญตา คนที่คิดถึงสถานที่แห่งนี้อดใจไม่ได้จนต้องหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้  หากเดินทางกลับไปก็ไม่รู้อีกเมื่อไหร่จะได้กลับมา มือเรียวยกแขนถ่ายรูปรอบแล้วรอบเล่าในมุมต่าง ๆ เธอถ่ายรูปตัวเองกับสถานที่แห่งนี้เพื่อยืนยันกับหัวใจว่าได้กลับมาแล้ว  กลับมาพร้อมกับความสวยของร่างกายที่ประหนึ่งหญิงสาว  แต่คนที่กำลังสนใจการถ่ายภาพไม่ทันได้สังเกตใครบางคนที่เดินเข้าหาด้วยหวังดี  “ให้ผมช่วยถ่ายรูปไหมครับ” ตุ้บ!! สมาร์ตโฟนหลุดออกจากมือสู่พื้นหญ้าเมื่อหูได้ยินเสียงที่หัวใจโหยหา  แม้ไม่ได้หันไปก็รู้แก่ใจว่าใครคนนั้นคือ ...อดิศร  ชายหนุ่มตกใจที่เป็นเหตุให้หญิงสาวตื่นตระหนก เขาเข้าไปหยิบคว้าสมาร์ตโฟนที่นอนกับพื้นในจังหวะที่เอมี่ก้มลงพอดี  สองมือจับผสานวางทับพร้อมกับหัวใจใครบางคนที่หยุดเต้น  ดวงตาสั่นวาวจ้องมองชายตรงหน้า หัวใจคนที่แอบรักพยายามที่จะหนีเท่าไหร่แต่ก็ไม่พ้น  เขาคือชายที่รักที่อยู่ตรงหน้าแต่ไม่อาจเป็นเจ้าของ ทั้งที่อยากเข้าไปสวมกอดและหยอกเย้าเหมือนเช่นในอดีตแต่ก็ทำไม่ได้  เมื่อหางตามองเห็นหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเดินเข้ามา  “ผมขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ” อดิศรปัดสมาร์ตโฟนที่เปื้อนก่อนจะส่งให้กับหญิงสาวตรงหน้า  ใบหน้าสวยหวานที่เขากำลังจ้องมองฉายภาพใครบางคนขึ้นทับโดยที่เขาไม่อยากเชื่อ  แววตาของเธอตรงหน้าคล้ายกับคนที่จากไปไกลและไม่ติดต่อมา ทั้งที่อยากติดต่อแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำ  “มีอะไรหรือเปล่าศร” ปอแก้วเดินเข้ามาคล้องแขนแสดงความเป็นเจ้าของในทันที เพราะหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าสวยหยาดหยดจนแอบคิดไม่ได้ว่าคนรักหลงเสน่ห์ไปแล้ว “พอดีเราทำให้คุณ...เอ่อ....”  “เอมี่ค่ะ....” คนพูดยิ้มหวานแนะนำด้วยเสียงอันไพเราะ หลังจากผ่าตัดกล่องเสียงและเทคนิคมากมายก็ทำให้เธอมีเสียงที่อ่อนหวานเช่นเดียวกับผู้หญิง “เอมี่มาที่นี่ไม่บ่อยนัก เลยไม่รู้ว่าที่นี่จะมีคน...อยู่เยอะ ก็เลยตกใจที่เจอกับคุณน่ะค่ะ”  “มาไม่ค่อยบ่อย แสดงว่าเคยมาเหรอคะ จะว่าไปที่นี่ก็ไม่ใช่รีสอร์ต...คุณเอมี่เคยมาด้วยเพราะอะไรคะ” หญิงสาวที่กอดแขนอดิศรออกโรงพูด เพราะน้ำเสียงอ่อนหวานและสายตาที่จ้องมองชายคนรักทำให้เธออดทนไม่ไหว  “ปอแก้ว ทำไมถามแบบนี้” อดิศรตำหนิ  “เอมี่เป็นเพื่อนกับพี่อาวุธน่ะค่ะ...” เอมี่หาตัวช่วยเป็นชายที่เดินเข้ามาใหม่  เธอเดินเข้าไปกอดแขนเขาอย่างขอความช่วยเหลือ มีสีหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามนิ่งเฉยด้วยการุณบอกแล้วว่าบารมีมา “เราเจอกันโดยบังเอิญตอนที่เอมี่มาเที่ยวเชียงใหม่เมื่อหลายปีก่อน  เอมี่มาพักที่นี่ และก็ไม่เจอกับคุณน่ะค่ะ....เอิ่ม..คุณปอแก้ว  มันก็คงจะธรรมดาที่คุณปอแก้วจะไม่เจอกับเอมี่” ปอแก้วรู้สึกเสียหน้ากับคำพูดอ่อนหวานของหญิงสาวอีกคน คำพูดที่เหมือนจะปาดหน้าต่อว่าในสิ่งที่เธอถามออกไป สายตาจ้องมองไปยังเรียวแขนของเธอที่กอดสามีคนอื่นโดยไม่มียางอาย มองแล้วยิ่งทำให้คนที่หึงหวงรู้สึกไม่ชอบใจในคนตรงหน้า  “เอิ่ม... ใช่ เอมี่เป็นเพื่อนเราเอง” อาวุธรีบพูดอธิบายก่อนที่สายตาอดิศรจะตั้งคำถามไปมากกว่านี้ “แล้วเอมี่จะอยู่กี่วัน พี่จะได้เตรียมที่เที่ยว ของกิน และของที่ชอบ การุณเตรียมสั่งกับข้าวไว้เพียบเลย”  “น่ารักที่สุดค่ะ งั้น...เอมี่ไปบ้านกุหลาบก่อนละกันนะ อยากอาบน้ำจะแย่ ประเทศไทยร้อนกว่าที่คิด นี่ขนาดเชียงใหม่แล้วนะคะ”  “ทำไมคุณเอมี่ถึงได้พักบ้านกุหลาบล่ะ” เป็นอดิศรที่พูดออกไป เพราะบ้านพักกุหลาบใครก็รู้ว่าการุณหวง คนเดียวที่การุณจะให้เข้าพักคือบารมีเพื่อนสนิทที่จากไปเท่านั้น  แต่ตอนนี้กลับอนุญาตให้เพื่อนที่เขาเองก็เพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรกได้เข้าไปอยู่  คนที่กำลังเดินสะบัดผมก้าวเดินไปเป็นต้องหยุดชะงักในคำถาม เธอเองก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท  “ทำไมเอมี่พักไม่ได้ล่ะคะ...” เรียวขาสวยก้าวเดินเข้ามาหาอดิศร เธอส่งสายตาวาววับไม่สนใจปอแก้วที่จ้องตาเขม็ง “บารมีเพื่อนของเอมี่ที่เกาหลี  เธอบอกให้มาพักที่บ้านหลังนี้  เอมี่เลยกลายเป็นคนพิเศษ ที่เข้านอกออกในที่ไหนก็ได้ในไร่การุณนี้  มีปัญหาอะไรไหมคะ” ประโยคท้ายเอมี่ส่งสายตาไปหาปอแก้ว รู้สึกขัดหูขัดตาที่เธอแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้า ถึงจะรู้ว่าเป็นคนรักและกำลังจะแต่งงานก็ไม่จำเป็นต้องหวงแหนขนาดนี้ เพราะเธอไม่ได้กลับมาเพื่อแย่งชิง กลับมาเพื่อทดสอบแผลของใจหายดีแล้วใช่ไหม หลังจากส่งปอแก้วเรียบร้อยอดิศรได้ย้อนกลับมาที่ไร่การุณอีกครั้ง เพราะสิ่งที่เอมี่ได้พูดไว้ในความเป็นเพื่อนกับบารมีที่เกาหลี มันทำให้เขาอยากที่จะพูดคุยและถามไถ่ว่าใครคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ทันทีที่ขับรถเข้ามาในไร่เขาก็ตรงไปยังบ้านกุหลาบทันทีอย่างไม่รีรอ แต่ยังไม่ถึงบ้านกุหลาบสองเท้าก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเขาได้ยินเสียงพูดคุยอย่างสนุกสนานของอานัทและเด็กชายกรวีวัยสี่ขวบ  ยังมีเสียงใสของใครอีกคนที่อยู่ในชุดเอี๊ยมกางเกงยีนน่ารัก  เธอสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวมัดแกละสองข้างวิ่งเล่นกับเด็กชายกรวี ภาพที่เห็นราวกับต้องมนต์สะกด เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอสวยหยาดเยิ้มไปทั้งร่างกาย เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดหยิบกล้องที่อกขึ้นมาถ่ายภาพครั้งแล้วครั้งเล่า สายตาและรอยยิ้มบ่งบอกว่าเด็กหนุ่มสนใจในตัวหญิงสาวที่อายุมากกว่า คนที่เป็นชายด้วยกันย่อมดูออก  แต่ทำไมหัวใจเขาถึงหวงแหนไม่อยากให้เธอคนนี้เป็นของใครไปเสียได้ ปอแก้วคนรักของเขาหายไปไหนเมื่อสายตามองเห็นหญิงสาวคนนี้ การรักกันมานานปีทำไมลบเลือนเมื่อดวงตาหวานหยดที่คล้ายกับคนที่จากไปไกล “อ้าว!! ลืมอะไรไว้เปล่าศร” อาวุธถือจานขนมเดินมาหยุดข้างกายเพื่อน  เขาเห็นก่อนแล้วว่าอดิศรเพื่อนรักเข้ามาในไร่ และจากสายตาก็มองเห็นว่าเดินตรงไปยังบ้านพักกุหลาบอย่างไม่ต้องคาดเดา เพราะไม่อยากให้ใครต้องเจ็บปวดจึงได้พูดคุยกับการุณและเอมี่แล้ว  ว่าจะไม่มีใครพูดถึงมีมี่คนเก่าขึ้นมา จะมีแค่หญิงสาวที่ชื่อเอมี่เท่านั้นที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยหนึ่งเดือน  “ลืม.... เอ่อ..ลืมไปว่าเย็นนี้ฉันอยากกินข้าวด้วย”  “อ๋อ.....” อาวุธพยักหน้ารับ  เขาพยายามจะเชื่อว่าเพื่อนอยากที่จะกินข้าวเย็นด้วยไม่ใช่เพราะกลับมาหาหญิงสาวหน้าสวย  สายตามองไกลไปยังลูกชายที่กำลังวิ่งเล่น  กรวีเข้ากับเอมี่ได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับมีมี่คนเก่าที่เข้าได้กับทุกคน “งั้นเข้าไปเล่นกับเด็ก ๆ สิ เอมี่กำลังเหนื่อยเลย กรวีเข้ากับเอมี่ได้เร็วมาก”  “ทำไมฉันไม่เคยรู้ว่าแกมีเพื่อนเป็นผู้หญิงคนนี้”  “เห้ย... เพื่อนในผับแกฉันก็ไม่รู้จักตั้งหลายคน” อาวุธพยายามยกตัวอย่าง  “แต่มันต้องไม่ใช่ผู้หญิง ฉันรู้ว่าแกไม่มีทางสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนจนถึงขั้นกอดแขนแน่” เสียงเขียวของเพื่อนทำให้อาวุธคิดเถียงในใจ ‘ก็เอมี่ไม่ใช่ผู้หญิง’ แต่เมื่อทำไม่ได้เขาจึงเงียบและเลือกที่จะเดินเข้าไปหากลุ่มคนที่กำลังเล่นสนุก  “กรวี พี่ไม่ไหวแล้วนะคะ หมดแรงแล้ว เอาแรงมาจากไหนจ๊ะ...วิ่งเก่งขนาดนี้” เอมี่เหนื่อยหอบนอนราบไปบนเสื่อหนุนตักของอานัท โดยที่เธอไม่ทันได้สังเกตว่ามีชายผู้มาใหม่ และเขากำลังยืนเต็มความสูงจ้องมองมายังเธอที่หอบหายใจแรง  “ป้าเอมี่เถอะ หน้าตาพี่ไม่น่าอยู่กลุ่มพี่แล้วนะครับ” เป็นอานัทที่พูดทำลายความคิดของเอมี่ที่กำลังล่องลอย  “ปากเหรอ.... ขอกัดทีเถอะ!!”เธอลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะมองหน้าเด็กหนุ่มด้วยสายตาคาดโทษ จังหวะเดียวกันเด็กชายกรวีก็เข้ามากอดคอจากทางด้านหลัง “โอ๊ย.... วีวี่จ๋า ขอป้ากินน้ำแป๊บนะ”  “อยากเล่น วีอยากเล่นกับป้ามี่” เด็กชายกอดคอและเขย่าคนที่พยายามจะกินน้ำ  อดิศรจึงเป็นฝ่ายอุ้มเด็กชายขึ้นสู่อากาศให้คนที่เหนื่อยหอบได้กินน้ำอย่างเต็มที่  “ตัวแสบ  แรงเยอะนักเหรอ เดี๋ยวพาไปปล่อยป่าเลย”  “ไป ๆ วีอยากไป ป้ามี่ไปเที่ยวป่ากับวีไหม” เด็กชายวัยสี่ขวบก้มถามคนที่นั่งกับพื้น “ในป่ามีน้ำตกให้เล่นด้วย บ้านป้ามี่มีน้ำตกไหม”  “บ้านป้ามีทุกอย่างค่ะ ทุกอย่างในโทรศัพท์อะนะฮ่า ๆ” คนพูดหัวเราะร่าตอบเด็กชาย เธอหยิบขนมส่งให้กับคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของอดิศร “เรากินขนมเอาแรงก่อนดีกว่า แล้วค่อยไปเล่นกันต่อดีไหมครับ”  “ดีครับ ป้ามี่!!”  “หืม....” เอมี่พ่นลมหายใจพร้อมกับครางในลำคอ เพราะคนที่พูดไม่ใช่เด็กชายกรวี แต่เป็นเด็กหนุ่มอานัทที่อยากจะเย้าแหย่หญิงสาวต่างวัยมากกว่า  เมื่อส่งขนมให้กับกรวีเรียบร้อยเธอจึงหันมาหาเป้าหมายที่คาดโทษ “ฉันไม่ใช่ป้าเธอนะอานัท จะหนีไปไหน มานี่เลยนะ...นี่แน่ะ ๆ”  “ฮ่า ๆ พี่เอมี่อย่าทำผม ฮ่า ๆ พี่อาวุธช่วยผมด้วย ฮ่า ๆ" มือเรียวของเอมี่จิ้มไปที่ท้องและซอกคอของเด็กหนุ่ม ด้วยเธอรู้ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กว่าจุดอ่อนคือตรงไหน เด็กชายกรวีถูกปล่อยลงกับพื้นก่อนที่จะมาผสมโรงแกล้งคนที่ดิ้นไปมา  เสียงหัวเราะดังไปทั้งไร่ราวกับมันหายไปนานมากแล้ว  คนเดียวที่ชอบทำให้ทุกคนหัวเราะ... มันอดไม่ได้จริง ๆ ที่อดิศรจะคิดแบบนั้น เธอตรงหน้าทำให้เขาคิดถึงคนที่ห่างไกล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD