ยังเหลือสาวให้เสียอีกเหรอ

4136 Words
“งั้นเราไปเที่ยวป่ากันดีไหม เอมี่จะได้ไปเที่ยวน้ำตกท้ายไร่การุณด้วย” เสียงพูดของอดิศรทำลายความเงียบของทุกคน ท่ามกลางการทานอาหารว่างใต้ต้นไม้หลังจากการวิ่งเล่น คนถูกเอ่ยชื่อหันมองหน้าการุณเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแย้มสดใส เธอตกใจที่เขาเป็นคนอาสาและแอบดีใจที่จะได้ไปไหนกับเขา แต่ก่อนที่จะได้มีใครพูดอะไรออกมาคนที่ไม่ได้ไปก็รีบพูดขัดขึ้นเสียก่อน “วันอื่นไม่ได้เหรอครับ ผมต้องขับรถไปรับพ่อกับแม่ที่สนามบิน อยากไปด้วยอ่า” อานัทพูดเสียงอ่อนใช้มือดึงแขนเสื้อเอมี่อย่างน่ารัก มันสร้างรอยยิ้มให้การุณที่รู้เต็มอกว่าหญิงสาวผู้นี้คือใคร แต่ไม่ว่าจะเป็นมีมี่คนเก่าหรือเอมี่คนใหม่ก็ยังสร้างความน่ารักให้เกิดกับทุกคนได้ “ไม่ต้องมาอ้อน ไปรับคุณลุงคุณป้าเลย แล้วพี่จะเที่ยวเผื่อนะจ๊ะ..พ่อรูปหล่อ” เอมี่จับคางมนของเด็กหนุ่มอีกทั้งยังไม่วายวางปลายนิ้วที่เปื้อนซอสมะเขือเทศลงกับริมฝีปากเขาอย่างกลั่นแกล้ง “อุ้ย..ไม่ได้ตั้งใจนะ เปื้อนหมดเลย” “ฮ่า ๆ น้าอานัทปากเปื้อน ฮ่า ๆ” กรวีหัวเราะร่าชอบใจที่น้าชายถูกกลั่นแกล้ง เด็กชายรู้สึกเหมือนมีเพื่อนเพิ่มมาอีกหนึ่งคนหลังจากได้เล่นกับหญิงสาวแสนสวยที่มากรอยยิ้ม “ไม่ต้องมาไม่ตั้งใจเลย พี่ตั้งใจชัด ๆ นี่แน่ะ ๆ ” “อานัท...ทำไมต้องทำร้ายคนสวย วีวี่ช่วยป้าด้วยอร๊าย....ช่วยด้วย” “ไม่ต้องเลย” อาวุธจับรั้งคนตัวเล็กที่เตรียมเอานิ้วจิ้มซอสมะเขือเทศเข้าไปผสมโรง “เล่นซนเป็นเด็กเลยเอมี่ อานัทไปล้างหน้าแล้วเตรียมไปรับพ่อ ส่วนเอมี่ถ้าอยากจะไปน้ำตกก็ฝากกรวีด้วยนะ รายนี้ไม่พลาดแน่ถ้าไปน้ำตก” “ได้ค่ะ เอมี่คนสวยยินดีรับใช้ เอมี่ขอเวลาสิบนาทีไปล้างหน้าและทาครีมกันแดดเพิ่มแป๊บ เดี๋ยวกลับไปเกาหลีแล้วคนจะตกใจ ฮุฮุ” คนพูดยกมือทาบริมฝีปากหัวเราะตามนิสัย หากแต่คนมองอย่างอดิศรกลับรู้สึกว่าเอมี่มีความคล้ายคนที่หายไปมากกว่าด้วยตา หลายสิ่งหลายอย่างบนพื้นฐานของการกระทำที่เหมือนเรื่องทั่วไป แต่มันกลับบอกกับเขาว่าเธอคล้ายจนแทบจะเป็นคนเดียวกัน การุณมองเห็นสายตาแห่งความสงสัยจึงรีบเข้าไปกอดแขนเพื่อนสนิท แท้จริงเธอไม่อยากให้เพื่อนไปไหนกับอดิศรเลยด้วยซ้ำ “เอมี่ เดี๋ยวเราพาไปล้างหน้านะ” “ไม่ต้องจ้ะ คนสวยมีขาเดินเองได้โอเค!” รอยยิ้มหวานพร้อมกับมือที่จีบทำท่าอย่างที่ปากพูด ก่อนที่เธอจะลุกออกไปจากเสื่อที่นั่งอยู่ “เพื่อนพี่คนนี้โคตรน่ารักเลย ทำไมผมเกิดช้าจัง” อานัทพูดออกมาลอย ๆ พร้อมกับสายตาหวานที่มองไปยังหญิงที่เดินออกไปไกล “อย่ามาร้ายนะอานัท เราอายุห่างจากพี่เอมี่เป็นสิบปีเลยนะ ไป ๆ ไปรับแม่กรุณากับพ่อประกอบเลย” “หวง...” อานัททำตาค้อนลุกจากเสื่อที่นั่ง แต่สายตาก็ยังไม่วายมองไปยังบ้านกุหลาบด้วยความรู้สึก “เพื่อนพี่น่ากลัวขนาดนี้ ยังจะหวงผมอีกเหรอ พี่ต้องห่วงผมมากกว่าหรือเปล่า ฮ่า ๆ” +++++++ “ไม่ยักรู้ว่าท้ายไร่การุณจะมีน้ำตก พิเศษสุดเลยแฮะ” เอมี่พูดไปถ่ายรูปไปอย่างมีความสุข เพราะเธอไม่เคยเข้ามาที่นี่ตอนที่ได้มาพักอาศัย การเดินไปตามทางเดินของธรรมชาติทำให้เธอมีความสุขจนไม่ทันได้สังเกตชายที่เดินตามหลัง กว่าจะรู้ตัวว่าถูกจ้องมองก็เมื่อมือของเด็กน้อยกรวีสัมผัสลงที่บ่า “ป้ามี่ อุ้มวีหน่อยครับ” เอมี่หันมายิ้มหวานให้กับเด็กชายที่อยู่ในอ้อมกอดของอดิศร และมันก็ทำให้เธอได้เห็นแววตาคู่นั้นที่มองจับจ้องอย่างไม่วางตา แม้จะหลบสายตาไปยังเด็กน้อยที่ออดอ้อนให้อุ้มก็ยังรู้สึกได้ว่าเขายังมองเธอไม่ละไปไหน “ให้ป้าอุ้มเหรอ มาสิ...” เอมี่อ้าแขนรับแต่อดิศรไม่ยอม เขาโอบกระชับและเดินนำหญิงสาวไปตามทางเดิน เพราะในสายตาของเขาเธอคือผู้หญิงตัวเล็กจะเอาแรงที่ไหนมาอุ้ม ถึงจะสูงยาวด้วยหุ่นนางแบบก็มองเธอเป็นผู้หญิงที่บอบบางคนหนึ่งเท่านั้น “ลุงศร อยากให้ป้ามี่อุ้ม ป้ามี่ตัวหอม ๆ ” “อ้าว..ไอ้แสบ ว่าลุงตัวเหม็นเหรอ” อดิศรโวยโดยไม่ได้หันมองคนที่เดินตามหลัง “ไม่เหม็น แต่ไม่หอมไงครับ” “มันก็ความหมายเดียวกันไหมเล่า” อดิศรบ่นอุบอิบ “ป้าเอมี่ตัวแค่นี้จะอุ้มวีไหวเหรอ ไม่กลัวแขนป้ามี่หักเหรอ” เอมี่ยิ้มหวานพร้อมกับสองเท้าที่เดินตาม เธออยากจะเดินเข้าไปกอดแขนประหนึ่งว่าเป็นสามีภรรยาและลูกที่มาเที่ยวป่าใจจะขาด อีกทั้งเขายังห่วงใยกลัวว่าเธอจะแขนหัก ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะเธอมีร่างกายที่เหมือนผู้หญิง หรือเพราะอะไรก็ตาม มันก็ทำให้เธอได้มีความสุขอย่างที่สุด “เอมี่แข็งแรงนะคะพี่ศร วีวี่ตัวแค่นี้ถือว่าสบายมาก” “ชอบเด็กเหรอ...” คำพูดห้วน ๆ ที่ทำให้คนฟังกลอกตาด้วยความคิด เด็กที่หมายถึงเด็ก หรือเด็กที่หมายถึงผู้ชาย แต่ไม่ว่าจะหมายถึงอะไรสำหรับเธอคำตอบก็คือชอบ “ก็ชอบค่ะ เด็ก ๆ น่ารักดี” “นั่นสิ เห็นเอาใจทั้งเด็กเล็ก และเด็กหนุ่ม” เอมี่บึนปากกลอกตามองฟ้าเมื่อได้ยินประโยคเสียดสี เด็กหนุ่มที่ชายหนุ่มว่าก็คงไม่พ้นอานัทที่เธอคลุกคลีเป็นแน่ ถึงอานัทจะโตเป็นหนุ่มแล้วแต่ในสายตาของเอมี่ก็ยังเป็นเด็กที่เธอแค่อยากกอดอยากหอมแกล้งเป็นธรรมดา “ป้ามี่มองอะไรครับ บนฟ้ามีอะไรเหรอ” เด็กชายกรวีร้องถามกับสายตามองบนที่เอมี่มักทำเวลาหมั่นไส้ใคร แต่เมื่อถูกเด็กชายจับได้ชายหนุ่มที่เดินนำก็หันมามองตาเขียว “มองนกไงคะ เมื่อกี้บินผ่านตัวใหญ่มาก....” เอมี่ลากเสียงยาว “สงสัยจะเป็นนกหึงแล้วค่ะ” “มีด้วยเหรอครับ นกหึงแล้ว.. นกหึงแล้วหน้าตาเป็นยังไงครับลุงศร” เด็กชายหันไปหาคนที่โอบอุ้มสลับกับการมองขึ้นไปบนฟ้าอย่างสงสัย เขาเข้าป่ากับอดิศรบ่อยและได้รู้จักนกหลายชนิด แต่นกที่เอมี่พูดขึ้นมากลับไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีอยู่จริง คนถูกถามถึงชนิดของนกทำสีหน้าเรียบไม่ตอบ ขณะที่คนวางระเบิดวิ่งลิ่วไปตามทางเดิน เธอได้ยินเสียงน้ำดังมาไกล ๆ จากทางเดินไปไม่มากก็คงจะได้เห็นน้ำตกที่เด็กชายกรวีได้พูดโอ้อวดไว้ และมันก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อได้เห็นน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มากไหลลงจากเนินหิน มีแอ่งน้ำขนาดเท่าสระว่ายน้ำสีใสน่าเล่น “ว้าว... น้ำตกจริง ๆ ด้วย โอ้มายก๊อด...ไม่อยากเชื่อเลยว่าไร่ของแม่ชะ..” คนพูดหยุดชะงักพร้อมกับปิดปากก่อนที่จะมองไปทางด้านหลัง จนต้องถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่ออดิศรมัวแต่สนใจเด็กชายกรวี “วีวี่..เล่นน้ำกับป้าไหม” “เล่นครับ” พูดแล้วเอมี่ก็ถอดรองเท้าผ้าใบของตัวเองในทันที โทรศัพท์และข้าวของถูกวางเอาไว้บนโขดหิน เช่นเดียวกับเด็กชายกรวีที่เหลือเพียงกางเกงชั้นในสีฟ้าลายโดราเอมอน มีอดิศรที่พาลงไปในน้ำอย่างสุภาพบุรุษ คนที่อยู่ในที่อากาศหนาวและไม่ได้เล่นน้ำตกมานานหลายปีออกจะตื่นเต้นอย่างมาก “กรี๊ด!!อร๊าย!! เย็น.... กรี๊ด!!..” เอมี่ร้องลั่นป่าจนได้ยินเสียงนกที่บินออกจากพุ่มไม้ ทั้งที่พยายามจะเก็บกลั้นความตื่นเต้นเต็มที่ แต่มันก็เก็บไม่อยู่ นอกจากความคิดถึงที่มีให้กับผู้คน ก็คงไม่พ้นความสุขต่อสถานที่ในดินแดนบ้านเกิด “ป้ามี่เป็นอะไรครับ ป้ามี่โดนปูกัดเหรอ” “ฮ่า ๆ ปูไม่ได้กัดค่ะ แต่ป้าดีใจที่จะได้เล่นน้ำ กรี๊ด!!” ตู้ม!! คนที่บอกว่าดีใจกระโดดลงน้ำอย่างเต็มแรง ดีที่เธอเลือกใส่กางเกงยีนขาสั้นและเสื้อยืดมา การเล่นน้ำของเธอจึงดูง่ายดายประหนึ่งว่ากระโดดเล่นน้ำในลำคลองเหมือนเมื่อวัยเด็ก อดิศรมองเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม จ้องมองหญิงสาวที่กระโดดและว่ายกลับไปมาอย่างมีความสุข รอยยิ้มที่ไม่รู้ว่ามันปรากฏตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ต้องควบคุมให้หยุดยิ้มไปเสียได้ ++++++++ “ทำไมใส่เสื้อสีขาวมาเล่นน้ำ” เสียงห้วนเอ่ยพูดคล้ายกับไม่ใส่ใจ ทั้งเอมี่และกรวีต่างเล่นน้ำกันจนเหนื่อย เนินหินที่ตัวยังแช่ในน้ำจึงเป็นที่พักชั้นดีของคนทั้งสาม เอมี่ก้มมองตัวเองที่สวมเสื้อสีขาวจนมองทะลุเห็นเสื้อในสีดำที่สวมใส่ ไม่อยากจะพูดว่าเวลาที่เธอออกสถานบันเทิงมันจะเป็นชุดที่วาบหวิวกว่านี้หลายเท่า แค่นี้ถือว่าน้อยมากเลยก็ว่าได้ “คือ.....เอมี่มีเพื่อนกะเทยเยอะน่ะค่ะ เพื่อนก็เลยสอนให้เอมี่รู้ว่า ทุกคนก็ได้แต่มอง เอาไปไม่ได้” อดิศรส่ายหัวเมื่อคิดถึงใครอีกคน ถึงจะพูดไปว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ใช่กะเทย แต่มองก็รู้ว่าเธอเชื่อแบบนั้นและไม่แคร์สายตาใครก็ตามที่มอง ทั้งที่อกอวบได้รูปสวยนั้นทำให้ชายอย่างเขาลอบกลืนน้ำลายหลายรอบ “เอิ่ม... เอมี่บอกว่าเป็นเพื่อนกับมีมี่ ตอนนี้มีมี่เป็นยังไงบ้าง” คนถูกถามหันไปมองหน้าชายหนุ่มในทันทีทันใด หัวใจของคนฟังคล้ายจะหลุดออกไปจากอกด้วยแรงกระชากลงจากที่สูง ทั้งความดีใจและตกใจปะปนกันไปหมด “....พี่ถามได้ใช่ไหม” “อ่า.. ต้องได้สิคะ มีมี่เหรอ” เอมี่ตั้งสติและพยายามที่จะตอบคำถามเขา “ตอนนี้ก็อยู่กับป้านะคะ ก็สบายดีแหละ ชีวิตก็เที่ยวเล่นหาความสุขใส่ตัว ตามประสากะเทยไม่มีผัวแหละค่ะ” อดิศรพยักหน้า เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงอยากรู้ เพราะเขาได้มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับบารมีไปแล้วในค่ำคืนที่เมาอย่างหนัก หรือเพราะแท้จริงแล้วเขาคิดถึงและอยากจะรู้ว่ามีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง “อื้ม.. มีมี่พูดให้ฟังด้วยว่า พี่ศรกับแฟนกำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ นางฝากความยินดีมาด้วย ดีใจด้วยนะคะ และขอให้รักกันนาน ๆ” เงียบ... ทุกอย่างกลายเป็นความเงียบและมีเพียงเสียงการเล่นน้ำของกรวีเท่านั้น คนพูดความยินดีเองก็จุกอกพูดอะไรไม่ออก ความยินดีที่เธอไม่ล่วงรู้ว่ากลับมาในจังหวะที่เขาจะแต่งงาน คนฟังเองก็ตีบตันพูดอะไรไม่ได้ เพราะส่วนลึกเองก็รู้เสมอว่าบารมีคิดยังไงกับตน “คุณศรครับ คุณอาวุธให้มารับคุณกรวีกลับครับ” เสียงคนงานในไร่เอ่ยพูด เด็กชายกรวีที่เล่นน้ำก็พลันหันมาหาเจ้าของเสียง “คุณการุณทำอาหารเสร็จแล้วครับ ให้มาตาม..” “หิว วีหิวครับลุงศร วีหิวป้ามี่” เด็กชายที่ออกแรงไปเยอะกับการเล่นน้ำเอ่ยพูด “งั้น...พี่ศรกับวีวี่กลับไปก่อนเลยค่ะ เอมี่ขอนั่งเล่นอีกแป๊บ จำทางกลับได้สบายมากจ้า” เอมี่พูดแล้วก็พุ่งตัวลงไปในน้ำ เธอยังอยากที่จะอยู่กับความเย็นฉ่ำของที่นี่แม้ว่าจะเริ่มเย็นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้อยากอยู่เพราะหัวใจหวั่นไหว การพูดอวยพรด้วยความยินดีทั้งที่ไม่เต็มใจเจ็บลึกไม่น้อย อดิศรไม่ได้ทำตามที่หญิงสาวร้องขอ เขาขึ้นจากน้ำแต่งตัวให้กับกรวีจนเรียบร้อย ก่อนจะบอกให้คนงานในไร่อุ้มพาเด็กชายกลับไป สายตาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ลอยตัวในน้ำหลับตาพริ้ม แต่เพียงปลายเท้าของเขาก้าวลงไปในน้ำเธอก็ดีดตัวนั่งด้วยรู้ว่ามีใครบางคนเข้ามา “อ้าว คิดว่าพี่กลับไปแล้ว ตกใจนึกว่าโจร ..คิดว่าจะได้เสียสาวเสียแล้ว” เธอพูดทีเล่นทีจริงทั้งที่ตัวเองไม่มีความสาวให้เสีย ต่อให้เธอจะแปลงเพศแล้วก็ตาม ชีวิตกะเทยอย่างเธอก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงที่จะต้องรักนวลสงวนตัว พอใจใครเธอก็ไปด้วยตามนิสัยและความต้องการ “อายุขนาดนี้ยังเหลือสาวให้เสียอีกเหรอ” “แรง แต่ก็ตามนั้นแหละค่ะฮุฮุ ไม่เหลือให้เสีย...” เธอยิ้มหัวเราะและว่ายน้ำไปรอบ ๆ ชายหนุ่ม สายตาอยากจะใช้มือสัมผัสไปกับร่างกายแต่ก็ไม่กล้าเพียงพอ “แล้ว......มีมี่มีแฟนหรือยัง!!” เอมี่จีบปากเม้มเป็นเส้นตรงก่อนจะยืนในน้ำ ระดับน้ำที่สูงเพียงอกโอบล้อมร่างกาย เธอเดินเข้าไปหาคนถามเมื่อเขาถามถึงใครคนเดิม รู้สึกดีระคนเสียใจจนคิดอยากจะทำอะไรบางอย่าง “ถามถึงกะเทยบ่อย ชอบมันเหรอคะ แบบนี้..ผู้หญิงอย่างเอมี่เสียใจแย่” คนพูดยืนประจันหน้าวางมือบนอกของเขาด้วยความรู้สึกที่อยากกระทำ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของชายหนุ่มที่แม้จะราบเรียบแต่ก็แอบแฝงด้วยความหวั่นไหว แต่ไหนแต่ไรอดิศรไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ที่หลงใหลใครง่าย ๆ แต่กับเอมี่หญิงสาวที่สวยเพียบพร้อมกลับทำให้บารมีคิดว่า....ที่ผ่านมาเธอคิดผิด ลมหายใจร้อนรินรดใบหน้ากับแววตาลุ่มลึกตามความต้องการของชาย “มองแบบเนี้ย ไม่ดีเลยนะคะ...” เอมี่ลากมือขึ้นไปหาพวงแก้มของชายที่ตัวสูงกว่า หากแต่เขาจับมันเอาไว้ วงแขนแข็งแรงโอบกระชับร่างบางเข้าหา มันสร้างความตกใจให้กับเอมี่ไม่น้อย แต่เธอไม่ได้เป็นสาวใสไร้เดียงสาที่อ่อนต่อโลกและผู้ชาย “เอมี่ไม่ใช่คนปากสว่าง อะไรที่มันจะเกิด....จะรู้แค่เรา เท่านั้น” อดิศรแนบชิดกดริมฝีปากกับหญิงสาวในอ้อมกอดที่ตัวหอมราวกับมวลดอกไม้ มันจริงดั่งเช่นที่กรวีได้บอกเอาไว้ หญิงสาวตัวหอมโดดเด่นน่าหลงใหล ร่างกายเบียดชิดเข้าหาพร้อมกับแลกเรียวลิ้นอย่างไม่มีใครยอมใคร ใต้น้ำเย็นจัดเอมี่ลูบไล้เข้าไปในชายเสื้อสัมผัสความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ปลดเข็มขัดและกระดุมกางเกงด้วยความกระสันอยากจะเข้าไปหา ชายตรงหน้าคือชายที่รักแม้เขาจะมีเจ้าของ หากมีสิ่งใดเกิดก็เป็นสิ่งที่เธอปรารถนาต้องการ ร่างกายถูกลากเข้าไปหาเนินหินราบเรียบพร้อมกับการพิงพาดและบดจูบ อดิศรร้อนวูบไปทั้งตัวไม่อาจควบคุมได้เมื่อมือเล็กสอดเข้าไปในกางเกงที่ปลดรูด เขาดึงเสื้อยืดขาวบางไว้เหนือเต้าอวบก่อนจะดูดดึงยอดถันด้วยความปรารถนา ร่างกายกระสันเสียวทุกเวลาที่มือเล็กลากไปตามความยาว เธอเร่าร้อนและร้อนแรงเกินกว่าหญิงสาวคนไหนที่เขาเคยพานพบ และเธอทำให้ใบหน้าหญิงสาวคนรักที่กำลังจะแต่งงานหายไปจนหมด “อร๊าส์...อื้ม” ร่างเล็กบดเบียดเต้าอวบเข้าหาริมฝีปากหยักหนา ต้องการให้เขาดูดเร้าด้วยความกระสันเสียว เลือดในกายพลุ่งพล่านอย่างไม่อาจควบคุม แกนกายแข็งแรงที่เธอสัมผัสได้และรู้สึกหลงใหลในทันที มือหนาเคล้นคลึงสองเต้าพร้อมกับการปลดเปลื้องให้เสื้อตัวน้อยของหญิงสาวหายไปจากตัว มันได้รับการอำนวยจากคนใต้ร่างด้วยการปลดบราตัวน้อยออกไปจากการขวางกั้น อดิศรพอใจเข้าไปครอบครองเต้าอวบราวกับเขาต้องการหยดน้ำนมเพื่อการหล่อเลี้ยง ดูดเลียยอดถันที่แข็งเป็นไตพร้อมกับมองใบหน้าสวยในแสงสลัว +++++++ “อร๊าส์....พี่ศร ซี๊ด เสียวจังเลย” มือเรียวสอดเข้าไปกับไรผมของเขาพร้อมกับการแอ่นเอนให้เขาสัมผัสใกล้ชิด เธออยากให้เขาตราตรึงเข้ามาในหัวใจจะขาดเมื่อเขาเป็นคนที่เธอต้องการมาเสมอ สองมือเรียวจับรั้งใบหน้าของชายหนุ่มขึ้นมาจูบด้วยความโหยหา หากรู้ว่าการกลับมาพร้อมกับร่างกายหญิงสาวจะได้รับความใกล้ชิดจากชายที่รักคงจะกลับมานานแล้ว รสจูบที่ซาบซ่านกับหัวใจที่โป่งพองล่องลอยในอากาศ เธอมีความสุขราวกับไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นดิน แต่ความสุขของเธอก็เป็นช่วงเวลาอันสั้น เมื่อมีใครบางคนที่เดินเข้ามาตามหาจนถึงชายน้ำตก แต่ด้วยความมืดสลัวของพระอาทิตย์ที่เจียนลับขอบฟ้า เขามองไม่เห็นคนทั้งสองที่กำลังกอดจูบกันด้วยความรู้สึกหลากหลาย “พี่มี่ครับ อยู่ไหมครับ พี่ศร..มืดแล้วนะครับ” เสียงอานัทดังก้องไปทั่วป่า ร่างกายชายหญิงที่กำลังกอดจูบด้วยความเร่าร้อนเป็นต้องผละตัวออกจากกัน เธอหยิบเสื้อยืดสีขาวมาสวมใส่แบบร้อนรนจนลืมไปว่ามันไร้ซึ่งบราตัวน้อยที่ขวางกั้น อดิศรมองเห็นและดึงรั้งเธอเอาไว้ได้ก่อนที่จะเดินออกจากโขดหิน “เสื้อใน ยังไม่ได้ใส่” เขากระซิบบอก สองมือรูดซิบและจัดระเบียบร่างกาย “มันหาไม่เจออ่า ไปอย่างนี้แหละ” “จะบ้าเหรอ!!”อดิศรคว้ามือหาเศษผ้าชิ้นน้อยที่คนตัวเล็กกว่าบอกว่าไม่เป็นไร แต่เพราะความมืดและความต้องการที่ไม่รู้ว่าโยนมันไปไว้ตรงไหนแล้ว เมื่อหาไม่เจอเขาจึงถอดเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่ให้กับคนตรงหน้า “ใส่เสื้อ หรืออยากอ่อยอานัท” “อ่อยหมดแหละค่ะ ถ้าเป็นผู้ชาย” เอมี่ร้องว่าแต่มือก็หยิบเสื้อของเขามาใส่ ในใจคิดอยากจะตบหัวอานัทสักทีที่เข้ามาขัดจังหวะความสุขของตนไปเสียได้ แบบนี้จะมีโอกาสที่ไหนได้สานต่อเมื่อเขากำลังจะแต่งงานเป็นตัวเป็นตน “พี่มี่ พี่ศร..อยู่ไหนครับ” “อยู่นี่อานัท” อดิศรช้อนร่างกายที่ใส่เสื้อของเขาเรียบร้อย “อยู่เฉย ๆ ถ้าไม่อยากให้เด็กมันรู้ว่าทำอะไร” “รู้แล้วยังไง เรื่องเพศศึกษาไม่รู้เหรอคะ” “อย่าทำลายอนาคตของชาติ...” “ทำลายคนที่กำลังจะแต่งงานได้ว่างั้นอื้มม” อดิศรกดจูบกับคนที่เอ่ยปากเถียงไม่หยุด เพราะความมืดสลัวและยังเดินไม่พ้นโขดหินจึงทำให้เขาอยากจะทำโทษคนพูดมาก “เป็นพระเอกหนังไทยเหรอ เถียงไม่ได้ก็จูบ ระวังจะติดใจจนต้องเลิกกับเมียนะ” “ปากเก่งจริง ๆ” อดิศรบ่นในลำคอพร้อมกับอุ้มร่างกายของคนช่างเถียง ทั้งที่พบกันวันนี้เป็นวันแรก แต่สำหรับชายหนุ่มกลับรู้สึกว่าสนิทสนมคุ้นเคยกับเธอมาเนิ่นนาน ทั้งการต่อล้อต่อเถียง พูดยียวนชวนให้หมั่นไส้ “พี่มี่เป็นอะไรอะครับ...” “เป็นคนสวยค่ะ” คนที่ถูกอุ้มลอยหน้าลอยตาตอบ “โห.. ผมอุตส่าห์เป็นห่วง รู้หรอกว่าเป็นคนสวย แต่เป็นคนสวยที่โคตรน่ากลัวเลย” อานัทร้องว่า ทั้งที่รู้ว่าน่ากลัวแต่ก็รู้สึกอยากเข้าใกล้ทุกเวลา ถึงจะถูกว่าถูกล้อเลียนเรื่องอดีตก็ไม่มีผลกับใจเมื่อเขาหลงรักไปแล้ว “พี่หกล้มน่ะ เจ็บขามากเลย” คนตัวเล็กที่ถูกอุ้มโอบรอบลำคอของชายหนุ่มอย่างรู้งานและเข้าใจเหตุผลที่อุ้ม “ดีที่พี่ศรเขาช่วยอุ้ม ไม่งั้นพี่จมน้ำตายแน่” “ให้ผมช่วยไหมครับ” “ไม่เป็นไรพี่ไหว” เอมี่แอบยกยิ้มที่ชายหนุ่มไม่ยอมให้อานัทอุ้ม เขาพาเธอขึ้นจากน้ำขณะที่อานัทถือข้าวของเดินตามหลัง คนขี้แกล้งที่ถูกอุ้มก็ยังไม่วายใช้ปลายนิ้วลูบไล้แผงอก เมื่อหลบมุมสายตาของอานัทก็เว้าวนหัวนมของเขาพร้อมกับรอยยิ้ม ยิ่งเห็นตาเขียวอย่างมันเขี้ยวที่มองมาก็ยิ่งทำให้ได้ใจ กระทั่งมาถึงบ้านกุหลาบการุณรีบเข้ามาประคองเพื่อน คนแกล้งเจ็บส่งสายตาหวานให้ชายหนุ่มที่ตัวเปียกเช่นเดียวกับเธอ แต่ไม่ทันจะได้ร่ำลาอะไรเพื่อนหญิงแม่ชีน้อยก็ลากเข้าห้องปิดประตูลงกลอน “ยิ้มแบบนี้หมายความว่ายังไง เล่ามาเลยนะ ไม่งั้นเราโกรธ” “เล่าอะไรล่ะจ๊ะแม่ชีน้อย... ไม่มีอะไรจะเล่านอกจาก อรี๊ด!!!!!!!” เอมี่เอาหมอนอุดหน้าและกรี๊ดออกมาจนสุดเสียง ร่างกายที่เปียกชื้นกระโดดไปมาด้วยความดีใจ “แม่ชี แม่ชี...โอ๊ยแม่ชีน้อยของฉันมาจูบที” ว่าแล้วเอมี่ก็ตรงเข้าไปหอมแก้มและกอดการุณเสียยกใหญ่ เธอดีใจจนสติแทบจะหลุดออกไปจากตัว “อะไรกันเนี่ย ทำไมต้องดีใจขนาดนี้ เอมี่เล่ามานะมันมีอะไร” “ฉัน กับ พี่ศร...เกือบจะฟินกันอยู่แล้วอ่า ถ้าไอ้เจ้าอานัทไม่เข้ามาขัดจังหวะก็คงฟินไปแล้ว” การุณหน้าหม่นเศร้าเมื่อได้รับรู้สิ่งที่เพื่อนดีใจ จริงอยู่ว่าเพื่อนรักของเพื่อนมานานนมแล้ว แต่เพราะชายผู้นั้นจะแต่งงานในไม่ช้า ความสุขที่เพื่อนจับต้องจึงไม่ยั่งยืน “แม่ชี ไม่ต้องทำหน้าเศร้า ฉันไม่ได้มาเพื่อแย่งอะไรเลย มาเพื่อได้เห็นว่าเขามีความสุขดีและเยี่ยมทุกคนก็เท่านั้น แต่ถ้าหากมันจะมีอะไรเกิดขึ้น มันก็ไม่เสียหาย ฉันไม่ใช่ผู้หญิง ฉันไม่ท้องค่ะ” การุณยังเงียบ สิ่งที่เพื่อนพูดไม่ได้ทำให้เพื่อนรู้สึกดี “เพื่อนคนนี้ไม่ทำลายครอบครัวพี่ศรแน่ค่ะ และเพื่อนคนนี้ก็รักตัวเองพอที่จะดูแลหัวใจ ขออาบน้ำแป๊บ แล้วเดี๋ยวไปกราบแม่กรุณาและพ่อประกอบ” เอมี่เดินยิ้มเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการธุระของตัวเอง แต่งตัวเรียบร้อยก็ตามเข้าไปในบ้านใหญ่ที่เริ่มจัดเตรียมโต๊ะอาหาร หญิงสาวที่มาช้ากว่าทุกคนรีบเข้าไปหากรุณาและประกอบก่อนที่จะนั่งลงกับพื้นและกราบลงแนบตัก “คิดถึงคุณแม่และคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ” เธอทักทายเฉกเช่นตัวเองคือมีมี่ แต่เพราะเพื่อนได้บอกแล้วว่าเล่าเรื่องทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟังเรียบร้อย “แม่ก็คิดถึงจ้ะ ยิ่งโตยิ่งสวยนะเรา จริงไหมคะพี่ประกอบ” “อื้ม...” คนเป็นพ่อตอบเพียงสั้น ๆ เขาวางมือบนหัวของลูกสาวคนใหม่ที่ดูจะก๋ากั่นไม่แพ้คนเดิม “อุ้ยตาย คนสวยเพิ่งคิดได้ แบบนี้กรวีต้องเรียกคุณพ่อคุณแม่ว่าอะไรล่ะคะ” เอมี่เอามือทาบอกเมื่อเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ กรุณาส่ายหัวพร้อมกับรอยยิ้มในท่าทีน่ารักที่คุ้นเคย ถึงจะหายไปนานหลายปีแต่ก็มีคนเดียวเท่านั้นที่แสดงท่าทีแบบนี้ “กรวีมีแค่ตากับยายจ้ะ ไม่มีปู่กับย่า โตอีกหน่อยก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง” “อย่ามัวคุยดีกว่าค่ะ อาหารเรียบร้อยแล้ว เราไปทานอาหารดีกว่านะคะคุณพ่อคุณแม่” การุณเอ่ยเชื้อเชิญ เพื่อนหญิงที่นั่งกับพื้นก็รีบลุกอย่างว่องไว ยังไม่ลืมที่จะประคองหญิงสูงวัยให้ลุกเดินไปตามทางเดิน สายตาก็แอบมองไปยังชายหนุ่มที่สวมเสื้อลำลองกางเกงบอลชวนให้คิดถึงตอนที่อดิศรชอบเล่นบอลในมหา'ลัย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD