“นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? คิดว่าการที่เดินตากฝนกลับห้องทั้งที่ตัวเองไม่มีร่ม มันจะไม่สามารถทำอะไรนายได้หรือไง”
“….”
“ถึงนายจะคิดว่าร่างกายของตัวเองแข็งแรงดีก็เถอะ แต่ยังไงก็ช่วยกลัวโดนฟ้าผ่าบ้างสิ” เสียงบ่นของคุณอีคอนทำเอาปิซาแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อย หลังก่อนหน้านี้เพียงไม่นานนักปิซาเพิ่งจะบอกกับอีกคนว่าเขาจะเดินกลับห้องพักของตัวเองแม้ว่าฝนจะเริ่มตกหนักแล้วก็ตาม
ซึ่งก็แน่นอน…คุณอีคอนไม่ยอมให้ปิซาทำแบบนั้น
“นี่นายกำลังกลัวพวกเรามากกว่ากลัวฟ้าผ่าอีกเหรอ?” คราวนี้คุณเทรย์เวอร์เป็นฝ่ายถามบ้าง ซึ่งในขณะที่อีกฝ่ายกำลังถามนั้นใบหน้าของเจ้าตัวก็มีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่และเท่าที่ปิซาสังเกตดูแล้ว ก็ดูเหมือนว่าคุณเทรย์เวอร์จะยิ้มได้ง่ายกว่าคุณอีคอนที่มักจะทำหน้านิ่งราวกับคนที่ไม่มีความรู้สึก
“ไม่นี่ครับ แล้วทำไมผมต้องกลัวพวกคุณด้วยล่ะ?” ปิซาโกหกคำโตแล้วถามทั้งคู่กลับ “ถ้าพวกคุณเป็นมนุษย์เหมือนกันกับผม มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมต้องกลัวพวกคุณนี่ครับ”
“….”
“หรือว่าพวกคุณไม่ใช่คน?” แม้จะกลัวผู้ชายทั้งสองคนมากแค่ไหน แต่ปิซาก็ยังทำใจกล้าถามทั้งคู่อยู่ดี
“แล้วนายคิดว่าเราใช่คนไหมล่ะ?” คุณอีคอนถามกลับมาพลางสบตากับปิซาตาไม่กะพริบ
“ข—ของแบบนี้ มันก็ต้องพิสูจน์กันสิครับ” พูดจบ ปิซาก็เดินเข้าไปใกล้ทั้งสองคนทั้งหัวใจเต้นแรง หากแต่ว่าเขาไม่ได้กำลังหวั่นไหวกับคุณเทรย์เวอร์หรือคุณอีคอน แต่เป็นเพราะเขากำลังกลัวทั้งคู่ต่างหาก
“จะทำอะไรกับพวกเรา?” คุณเทรย์เวอร์เป็นคนถาม
“ก็พิสูจน์ไงครับ” สิ้นเสียงของปิซา เขาก็ยื่นมือไปสัมผัสกับท่อนแขนของทั้งคู่และจัดการลูบไล้มันอย่างเชื่องช้าทันที หลังในตอนแรก…ตอนที่ปิซาได้สัมผัสกับร่างกายของคุณอีคอนอย่างไม่ได้ตั้งใจ ร่างกายของอีกคนเย็นเฉียบมากจนทำให้เขาต้องตกใจ
แต่ทว่าคราวนี้มา…ร่างกายทั้งสองกลับกำลังอุ่นเหมือนอย่างมนุษย์ทั่วไปเสียอย่างนั้น โดยนั่นก็ทำเอาปิซารู้สึกฉงนอยู่ไม่น้อย
“ตอนนี้นายได้คำตอบหรือยังล่ะ?” เพราะถูกคุณอีคอนถามเช่นนั้น ปิซาจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อไปสบตากับดวงตาสีดำสนิทของอีกฝ่ายแล้วค่อย ๆ ผละตัวออกห่าง ซึ่งยังไม่ทันที่ปิซาจะได้ให้คำตอบอะไรกลับไปเสียงของคุณเทรย์เวอร์ก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ดูแล้ว…เราน่าจะได้อยู่ด้วยกันจนกว่าฝนจะหยุดตกนะ” หลังจากที่คุณเทรย์เวอร์พูดเช่นนั้น ปิซาก็รีบมองออกไปด้านนอกร้านทันที แล้วมันก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่านั่นแหละ เพราะในตอนนี้มันยังไม่มีท่าทีว่าฝนจะลดความรุนแรงลงเลย มีแต่จะทวีความรุนแรงมากเรื่อย ๆ
“ถ้าอย่างนั้นระหว่างที่รอให้ฝนหยุดตก เรามาเล่นอะไรสนุก ๆ กันดีกว่าไหม?” อีกฝ่ายพูดต่ออย่างนึกสนุก โดยนั่นก็ทำให้ปิซาต้องสบตากับคุณเทรย์เวอร์อย่างหวาดระแวงทันที
“คุณจะเล่นอะไรครับ?” ปิซาถาม
“….”
“พวกคุณจะเล่นอะไรกันก็เล่นไปนะ แต่ผมไม่เอาด้วยดีกว่า” เขารีบออกตัวทันที เมื่อสายตาของคุณอีคอนและคุณเทรย์เวอร์ในเวลานี้ดูไม่น่าไว้วางใจเอาเสียเลย โดยในหลังจากนั้นปิซาก็ได้ปลีกตัวออกห่างจากทั้งคู่แล้วไปนั่งเก้าอี้ในร้าน เพื่อรอให้ฝนหยุดตกอย่างใจจดใจจ่อ
นี่ปิซากำลังฝันอยู่หรือเปล่า?
หลังลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วมองเห็นโคมไฟบนเพดานที่จำได้แม่นว่ามันถูกติดเอาไว้ตรงเคาน์เตอร์คิดเงิน นั่นก็ทำให้ปิซาถึงกับขมวดคิ้วทันที เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เขากำลังนอนแผ่หลาอยู่บนเคาน์เตอร์คิดเงิน โดยในระหว่างที่ปิซากำลังงุนงงอยู่นั้นเขาก็ต้องถูกดึงความสนใจไปทางอื่น เมื่อเขารู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองกำลังเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าปกปิดอยู่และมันก็กำลังมีของเหลวบางอย่างเปรอะเปื้อนไปทั่วร่างกายของเขาด้วย
ซึ่งของเหลวที่ว่านั้นมันก็คือไซรัปกลิ่นต่าง ๆ ที่มีไว้ใส่ในเครื่องดื่ม
“นี่พวกคุณจะทำอะไร?” หลังหันหน้าไปเห็นคุณเทรย์เวอร์ที่กำลังจะโยนขวดไซรัปที่หมดแล้วทิ้งใส่ถังขยะ ปิซาก็เอ่ยถามทันที โดยในตอนนี้เขาก็ยังไม่มั่นใจนักว่ามันคือความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่
“เราก็กำลังจะกินนายยังไงล่ะ?” คุณอีคอนที่กำลังยืนอยู่ตรงปลายเท้าของปิซาเป็นคนให้คำตอบ ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดเปล่าแต่ยังจับขาทั้งสองข้างของปิซาให้ชันขึ้นและจับอ้ามันออก ทำเอาปิซาถึงกับใจกระตุกวูบแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นนั่งในทันที แต่ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้ลุกไปไหน ปิซาก็ถูกคุณเทรย์เวอร์กดหัวไหล่ทั้งสองข้างของเขาลงกับโต๊ะเสียก่อน
“นี่ไม่ใช่ความฝันหรอกเหรอ” ปิซาถาม
“ถ้านายจะคิดว่านี่เป็นความฝันก็ได้นะ มันไม่เป็นอะไรหรอก…เพราะจะคิดแบบไหนผลลัพธ์มันก็เหมือนเดิมอยู่แล้ว” คุณเทรย์เวอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ แต่ทว่านั่นก็ไม่สามารถทำให้ปิซาเข้าใจอะไรได้อยู่ดี
“ผมไม่เข้าใจ” ปิซาพูดทั้งคิ้วขมวดและคุณเทรย์เวอร์ก็มีความใจดีมากพอที่จะอธิบายอะไร ๆ ให้เขาได้ฟังต่อ
“แล้วเพื่อนนายทำอะไรเอาไว้ล่ะ? ...ได้ทำพิธีเรียกเราหรือเปล่า? ส่วนนายก็เริ่มมีความสงสัยในตัวพวกเราแล้วใช่ไหม เพราะก็เริ่มมีการไปอ่านตำนานอะไรนั่นแล้วนี่นา…”
“….”
“สุดท้ายเราก็เจอกันจนได้นะที่รัก อุตส่าห์ตามหามาตั้งนาน” พูดจบ คุณเทรย์เวอร์ก็โน้มหน้าลงมาจุ๊บที่ข้างแก้มของปิซาเบา ๆ ในขณะที่คุณอีคอนก็ยังยืนกอดอกอยู่ตรงบริเวณปลายเท้าของเขา
“น—นี่มันเป็นเรื่องจริงเหรอครับ” ฝั่งของปิซา เมื่อเขาเริ่มปะติดปะต่อทุกอย่างในหัวได้แล้ว เขาก็ถึงกับต้องถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเทา หลังก่อนหน้านี้เขาภาวนามาโดยตลอดว่าทุกอย่างมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ปิซาก็แค่ไปชื่อซ้ำกับกล่องดวงใจของเทรย์เวอร์กับอีคอนเข้าพอดี
และผู้ชายสองคนนี้ก็แค่บังเอิญชื่อซ้ำกับคนในตำนานเท่านั้น…เขาภาวนาให้มันเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด แต่ทว่าคำภาวนาของเขากลับไม่เป็นจริง ซึ่งนั่นก็ทำให้ปิซาถึงกับน้ำตารื้นทันที เนื่องจากเขากลัวจับใจว่าตัวเองจะต้องตายเพราะถูกตามแก้แค้นจากคนรักในอดีตกาล
“แล้วทำไมนายถึงไม่เชื่อว่าทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริงล่ะ?” คราวนี้คุณอีคอนเป็นฝ่ายถามบ้าง พลางกลั้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอแล้วค่อยพูดต่อ “นายคิดว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันล่ะ? เพราะความบังเอิญงั้นเหรอหรือว่าโชคชะตา?”
“….”
“ทุกอย่างมันไม่มีความบังเอิญอะไรทั้งนั้นแหละ มันมีแต่ความตั้งใจของเรา…รวมไปถึงเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่าแพรอะไรนั่นด้วย นายคิดว่าสาเหตุอะไรที่ทำให้เธอมาสนใจตำนานพวกนี้กันล่ะ?”
“แล้วถ้าอย่างนั้น…ผมจะตายไหม?” ปิซาถามในสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด เพราะถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาชีวิตของเขามันจะขื่นขมมาก แต่ปิซาก็ยังปรารถนาที่จะมีลมหายใจต่อไปอยู่ดี
“แล้วทำไมเราต้องฆ่าคนรักของตัวเองด้วยล่ะ นายเคยทำอะไรผิดไว้หรือไง” อีกฝ่ายถามกลับมา
“ไม่เอาน่าอีคอน…เลิกแกล้งที่รักของเราได้แล้ว” คุณเทรย์เวอร์พูดขึ้นทันทีแล้วสบตากับปิซาตาไม่กะพริบ ก่อนที่ในเวลาต่อมาอีกฝ่ายจะโน้มหน้าลงมาใกล้แล้วกระซิบเข้าที่ข้างใบหูของเขา
“อีคอนมันชอบแกล้งให้กลัว เพราะงั้นที่รักก็อย่าไปถือสามันเลยนะ”
“….”
“แล้วในหลังจากนี้ไม่ว่านายจะปรารถนาอะไร ไม่ว่าจะเป็นแก้วแหวนเงินทองหรือว่าเกียรติยศที่มนุษย์ปรารถนาเราก็สามารถให้ได้ทั้งนั้น….แต่ต้องแลกกับการให้เรากิน” สิ้นเสียงของคุณเทรย์เวอร์ คุณอีคอนก็ได้ขยับตัวเข้ามาใกล้ปิซาอีกครั้งแล้วจัดการจับขาทั้งสองข้างของเขาให้อ้าออกทันที โดยยังไม่ทันที่ปิซาจะได้เอ่ยท้วงอะไร ริมฝีปากของเขาก็ถูกปิดเอาไว้ด้วยริมฝีปากของคุณเทรย์เวอร์เสียก่อน
ทั้งสองกำลังจัดการกับปิซาราวกับว่าเขาเป็นอาหารจริง ๆ
“อย่า…อ๊ะ!” ยังไม่ทันที่ปิซาจะได้ส่งเสียงร้องห้ามออกมา เสียงครางผะแผ่วของเขาก็ต้องดังขึ้นเสียก่อน เมื่อยอดอกข้างหนึ่งที่มีไซรัปราดเอาไว้จนชุ่มกำลังถูกคุณเทรย์เวอร์ครอบครอง เล็มเลียและใช้เรียวลิ้นตวัดรัว ๆ จนทำให้มันชูชันขึ้น โดยในขณะเดียวกันนั้นส่วนกลางลำตัวของปิซาก็กำลังถูกคุณอีคอนครอบครองด้วยปากเช่นกันและในบางครั้งอีกฝ่ายก็เคลื่อนใบหน้าลงไปต่ำกว่านั้น เพื่อระรัวลิ้นตรงบริเวณช่องทางรักให้ ทำเอาปิซาถึงกับยกสะโพกหนีแทบไม่ทัน
“อือ ย—อย่าเลียตรงนั้น” ปิซาเอ่ยห้ามทั้งคู่ทั้งน้ำตาคลอเบ้า พร้อมพยายามใช้ปลายเท้ายันหัวไหล่ของคุณอีคอนเอาไว้แต่ทว่าอีกคนกลับปัดมันออกอย่างไม่ใยดี แถมคุณเทรย์เวอร์ก็ยังเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาใกล้กับเขาและบีบแก้มของปิซาเบา ๆ เพื่อให้เขาได้แลกลิ้นกับอีกฝ่ายด้วย
“พ—พอแล้ว ฮือ” ปิซาเริ่มส่งเสียงงอแงออกมา เมื่อเขากำลังถูกคุณเทรย์เวอร์ใช้นิ้วสะกิดเข้าที่ยอดอกทั้งสองข้างของเขาพร้อม ๆ กันจนมันชูชันขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้อีกฝ่ายได้ครอบครองพร้อมตวัดเลียไปทั่วแผ่นอกของเขา เนื่องจากคุณเทรย์เวอร์ต้องการจะจัดการไซรัปหนืด ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนร่างกายของปิซา
หลังก่อนหน้านี้อีกฝ่ายนึกสนุกเทไซรัปราดบนตัวเขาจนหมดขวดและจัดการเลียไปทั่ว
“เสียวหรือไง? เดี๋ยวต่อจากนี้จะรู้สึกมากกว่านี้อีก” พูดจบ คุณอีคอนก็เคลื่อนหน้าขึ้นมาครอบครองที่แท่งรักของปิซาอีกครั้งแล้วระรัวลิ้นตรงบริเวณปลายหัวหยักอย่างจงใจ ราวกับอีกฝ่ายรู้ดีว่าเขาชื่นชอบแบบไหนมากเป็นพิเศษ ก่อนที่ในเวลาต่อมาปิซาจะได้ยินเสียงหัวเข็มขัดตกกระทบพื้น พร้อมกับมีก้านนิ้วยาวแทรกเข้ามาในช่องทางรักของเขาอย่างช้า ๆ
แต่ทว่ามันกลับไม่ทำให้เขารู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิด
“อ้าขากว้างกว่านี้หน่อย เพราะมันยังเอาเข้าไปได้ไม่สุด” คุณอีคอนสั่งการทั้งคิ้วขมวด เมื่ออีกฝ่ายกำลังสอดแก่นกายเข้ามาในร่างของปิซา แต่ทว่ามันกลับใส่เข้ามาได้แค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น
“แต่ว่ามันเข้ามาลึกแล้วนะครับ”
“ก็จะเข้าไปอีกไง” พูดจบ คุณอีคอนก็จับขาข้างหนึ่งของปิซาขึ้นพาดบ่าของตัวเองเอาไว้ แล้วจัดการดันความเป็นชายเข้ามาในร่างของปิซาจนสุดโคน ทำเอาคนที่กำลังถูกคุณเทรย์เวอร์เล้าโลมส่วนบนให้อยู่นั้นรู้สึกเสียววูบตรงบริเวณท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูก
“ห้ามเกร็งด้วย อา…อย่างนั้นแหละ” คุณอีคอนว่าพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง โดยในขณะเดียวกันนั้นคุณเทรย์เวอร์ก็ได้ผละตัวออกจากปิซา แล้วเริ่มจัดการส่วนนั้นของตัวเองด้วยการใช้มือพร้อมกับจ้องมองภาพที่คุณอีคอนกำลังกระแทกกระทั้นเข้ามาในร่างของปิซาไปด้วย
“ค—คุณเทรย์เวอร์ครับ…เอาของคุณ”
“….”
“เอาของคุณเข้ามาในปากผม” ปิซาที่เห็นเช่นนั้นรีบพูดขึ้นทันที ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่คำสั่งการแต่อย่างใด แต่มันเป็นการขอร้องคุณเทรย์เวอร์ให้อีกฝ่ายนำส่วนนั้นของเจ้าตัวยัดเข้ามาในปากปิซาต่างหาก หลังในตอนนี้เขากำลังรู้สึกว่าปากของเขามันช่างว่างเหลือเกิน
แล้วมันก็คงจะดีอยู่ไม่น้อย หากได้ส่วนนั้นของอีกคนเข้ามาเติมเต็มในปากให้
“ที่รักจะใช้ปากให้หรือไง?” คุณเทรย์เวอร์เลื่อนสายตาหันกลับมาถามปิซา พร้อมสาวเท้าเดินเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง
“อือ ยัดมันเข้ามาในปากผมนะ” ปิซาที่กำลังตัวสั่นคลอนเล็กน้อยตามแรงกระแทกของคุณอีคอนพูดเสียงแผ่ว พลางช้อนตามองอีกคนอย่างอ้อนวอนและอ้าปากรอแท่งรักจากคุณเทรย์เวอร์ ซึ่งนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายถึงกับกลั้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอแล้วจัดการจับแก่นกายของตัวเองตีเข้าที่ข้างแก้มของปิซาเบา ๆ อย่างหยอกเย้า ก่อนจะค่อย ๆ สอดมันเข้ามาในปากของปิซาตามที่เขาปรารถนา
“เด็กตะกละ หิวเหรอ?”
“….”
“หิวใช่ไหม หืม?” ระหว่างที่ปิซากำลังเริ่มใช้ปากปรนเปรอให้อีกคน คุณเทรย์เวอร์ก็คอยเอ่ยถามเขาอยู่เป็นระยะ ๆ พร้อมกับใช้นิ้วโป้งเช็ดคราบน้ำรักที่เจ้าตัวได้ฝากมันเอาไว้ตรงบริเวณข้างแก้มของปิซาออกให้ด้วย โดยในเวลาเดียวกันนั้นปิซาก็พยายามอย่างยิ่งที่จะโชว์ทักษะการใช้ปากของตัวเองให้คุณเทรย์เวอร์ได้เห็น
หลังก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่เพียงลำพังในห้อง ปิซาก็มักจะฝึกการใช้ปากของตัวเองกับแท่งรักแบบซิลิโคนอยู่ตลอด
“อา…ใช้ปากเก่งจัง เลียอย่างนั้นแหละ” คุณเทรย์เวอร์เอ่ยเสียงพร่าพร้อมพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง เมื่อปิซากำลังใช้ลิ้นของตัวเองถูไถไปตามความยาวของแก่นกายอีกฝ่าย ซึ่งคุณเทรย์เวอร์ก็ได้จ้องมองภาพเหล่านั้นตาไม่กะพริบ
“อะ…อ๊า ๆ!” ทว่ายังไม่ทันที่ปิซาจะโชว์ฝีมือจนทำให้คุณเทรย์เวอร์แตกคาปากของตัวเอง เขาก็ต้องส่งเสียงครางกระเส่าออกมา เมื่อคุณอีคอนที่ยังคงไสกายเข้ามาในร่างของเขาอย่างต่อเนื่องได้จัดการเปลี่ยนท่าใหม่ จนทำให้แก่นกายของอีกฝ่ายสอดเข้ามาได้ลึกกว่าเดิม
“อย่าทแยงแบบนั้นซี่” ปิซาเอ่ยสลับกับส่งเสียงครวญครางออกมาด้วย
“….”
“มันลึก…มันลึกเกินไป” เขาว่าพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง
“แต่ว่านายก็ชอบไม่ใช่เหรอ? แบบนี้น่ะ” ว่าจบ คุณอีคอนก็ตะบี้ตะบันเข้ามาในร่างของปิซาอีกครั้งอย่างไร้ความปรานีทำเอาปิซาถึงกับตัวสั่นเทาราวกับเจ้าเข้า และในเวลาเดียวกันนั้นคุณเทรย์เวอร์ก็ได้ยัดแก่นกายของตัวเองเข้ามาในโพรงปากของปิซาอีกครั้ง จนทำให้ในตอนนี้ปิซารู้สึกเหมือนเขากำลังถูกทั้งคู่ทำโทษอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เพราะคนหนึ่งก็ได้แทรกกายเข้ามาในร่างของเขาไม่ยอมหยุด ทำเอาปิซาทั้งรู้สึกเสียวและสะใจในเวลาเดียวกัน ส่วนอีกคนก็ได้จับแก่นกายของตัวเองยัดเข้ามาในปากของปิซา เพื่อให้เขาได้จัดการมันเหมือนอย่างที่ปรารถนาเอาไว้ในตอนแรก
“นายอย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหมปิซา เดี๋ยวมันจะไม่จบสักที” คุณอีคอนพูดต่ออย่างอารมณ์เสีย เมื่อเวลาผ่านไปได้พักใหญ่แล้วและอีกฝ่ายก็ได้ปลดปล่อยใส่ในตัวของปิซาเป็นครั้งที่สองแล้วเช่นกัน
โดยทั้งคุณเทรย์เวอร์และคุณอีคอนก็ได้สลับกันแทรกกายเข้ามาในร่างของปิซาอยู่อย่างนั้น พออีกคนปลดปล่อยเสร็จ อีกคนก็จะเดินเข้ามาอุ้มปิซาเข้าเอวต่อแล้วสอดใส่เข้ามาในร่างของปิซาอีกครั้ง ราวกับไม่ต้องการจะให้เขาได้หยุดพัก
ซึ่งท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างแรง พวกเขาทั้งสามคนก็ได้ระเริงรักไปทั่วร้าน ตั้งแต่หลังร้าน หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน บนพื้นกระเบื้องยามที่ใครบางคนปรารถนาจะให้ปิซาอยู่ในท่าคลานเข่าหรือแม้แต่บนโต๊ะที่ลูกค้ามักจะใช้งานเป็นประจำ
ในเวลานี้มันก็เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบต่าง ๆ เต็มไปหมด
ส่วนปิซาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่าความเหนื่อยล้า แต่ถึงอย่างนั้น…เขาก็ยังยอมให้ทั้งคู่เข้ามาในร่างของตัวเองอย่างไม่หยุดพักอยู่ดี ราวกับร่างกายของเขาถูกสร้างมาเพื่อคุณเทรย์เวอร์และคุณอีคอนโดยเฉพาะ
แม้ในตอนนี้ร่างกายของเขาจะเริ่มบอบช้ำแล้ว จากการเดินชนขอบโต๊ะอย่างไม่ได้ตั้งใจหรือในบางครั้งพวกเขาก็มีการสอดใส่เข้ามาในร่างแล้วทำกันแรง ๆ ที่ข้างกำแพงร้านก็ตาม
“เอาผม….เอาผมแรง ๆ เลยนะ” ปิซาร้องขอคุณเทรย์เวอร์อย่างน่าสงสาร พร้อมเริ่มร่อนสะโพกทับแก่นกายของอีกคนที่กำลังนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ทันที ซึ่งปิซาก็ได้กระทำทุกอย่างออกมาราวกับเป็นคนที่เจนสนามรักเหลือเกิน ทั้งที่มันก็เป็นครั้งแรกของเขาเหมือนกัน
เพราะก่อนหน้านี้ปิซาก็ใช้อุปกรณ์ในการช่วยตัวเองมาโดยตลอด
“ก็ไม่เคยผ่อนแรงให้อยู่แล้วนะ” คุณเทรย์เวอร์ตอบกลับมาพร้อมตวัดแขนโอบรอบเอวของปิซาเอาไว้ ก่อนจะตอกกายสวนขึ้นมาอย่างแรง ทำเอาปิซารู้สึกสั่นสะท้านไปหมด แต่เขาก็ยังปรารถนาจะให้คุณเทรย์เวอร์กระแทกกายเข้ามาแรง ๆ และปลดปล่อยในตัวเขาอยู่ดี