Episode 1 ผู้หญิงในฝัน
Levi part
“เอาเป็นว่าเราเลื่อนงานเปิดตัวครั้งนี้ออกไปก่อนนะครับ เพราะถึงยังไงมันก็ไม่คุ้มทุนอยู่ดี”
“แต่ ณ ตอนนี้ข่าวลือ เรื่องวัน เวลา การเปิดตัวได้แพร่ไปมากแล้ว ผมเกรงว่ามันอาจจะเสียภาพลักษณ์ของแบรนด์นะครับ”
“แต่ถึงอย่างไร ทางแบรนด์ก็ไม่เคยประกาศอย่างเป็นทางการนิครับ เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น”
“แต่ถึงแม้เราจะเลื่อนการเปิดตัวการเกงรุ่นนี้ออกไป ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้รับ Benefits ในครั้งหน้านะครับท่านประธาน”
เหล่าคณะกรรมการของบริษัทยักษ์ใหญ่กำลังฉะกันเกี่ยวกับการเปิดตัวเสื้อผ้ารุ่นใหม่กันอย่างเคร่งเครียด เนื่องจากเกิดปัญหาอย่างกระทันหัน ก็อยู่ ๆ ทางแบรนด์คู่แข่งกลับประกาศโชว์สินค้าเสื้อผ้ารุ่นใหม่ตัดหน้าบริษัทผมนะสิ แถมยังมีลูกเล่นดีเทล ทั้งสีทั้งลายถูกใจสายแฟชั่นสุด ๆ อันที่จริงก็ต้องยอมรับว่าสินค้าของแบรนด์คู่แข่งครั้งนี้เด่นกว่าสินค้าทางแบรนด์ผมเยอะมาก ขืนเราเปิดตัวไปตอนนี้ก็ดับอยู่ดี จะให้ลดราคาลงอีกมันก็ไม่คุ้มทุน อีกอย่างผมไม่ชอบให้ใครมาฉีกหน้าผมเล่น ขืนยังฝืนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองลุกไม่ไหว ผลออกมายังไงก็แพ้
ผมยักไหล่ให้อาวุโสทั้งหลายก่อนจะลุกขึ้นยืน มีหลายคนที่ไม่เห็นด้วย และก็มีอีกหลายคนที่เห็นด้วย หลายคนในที่นี้ก็มีแค่ 5-6 คนเท่านั้นแหละ (แอบกระซิบ)
“โอเคครับ ผมไม่เถียง ที่คุณนิพลบอกว่าเราอาจจะไม่ได้อะไรกลับมาก็ได้ ในการเปิดตัวครั้งหน้า ใช่ครับ มันก็แค่อาจจะ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ได้อะไรกลับมาเลยนิครับ จากที่เปรียบเทียบดูแล้ว เปิดตัวครั้งนี้ยังไงก็ขาดทุนและผมก็พนันได้เลยว่ากางเกงของเราขายสู้อีกแบรนด์ไม่ได้แน่นอน กับการเลื่อนการเปิดตัวออกไปอาจจะเป็นเดือนหน้า ซึ่งในช่วงนั้นเป็นฤดูร้อน ยังไงแบรนด์เราก็ขายได้แน่นอน เอาเป็นว่าผมไม่อนุมัติครับ”
ตึ่ง!!
ว่าแค่นั้นผมก็วางรีโมทจอมอนิเตอร์ลงบนโต๊ะไม้ทรงกลมทันที ทำเอาท่านคณะกรรมการชั้นผู้ใหญ่อาวุโสทั้ง 5-6 คนถึงกับถอนหายใจพรางส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นกับประธานหนุ่มไฟแรงอย่างผมทันที
“เดี๋ยวเราจะนัดประชุมใหญ่กันอีกนะครับ”
“ได้ครับคุณลีวาย”
“โอเค ปิดการประชุม”
ผมว่าพร้อมปรบมือทำท่าปิดฉากทันที ดูท่าแล้วทุกคนก็คงเหนื่อยไม่น้อย ก็แหง่สิครับ การเปิดตัวสินค้ามันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ถึงฤดูเปิดตัวทีไร เรามักจะประชุมกันถี่แบบนี้เสมอ และนี่ก็เป็นเพียงการประชุมกันภายในครอบครัว ใช่ครับ จะเรียกว่าเป็นการปรึกษาหาลือกันก็ว่าได้ โดยแต่ละคนก็จะบริหารอยู่ในแต่ละบริษัทสาขาหรือบริษัทลูก ซึ่งที่ผมอยู่และรักษาการอยู่ตรงนี้คือสำนักงานใหญ่
และไม่ว่าจะเป็นเพียงการหาลือกันในวงเล็ก ๆ (ที่มีแต่คนสนิทรุ่นอาวุโสก็ตาม) ในกฎของบริษัทผมที่นี่เรามักจะพูดให้เกียรติกันเสมอ ถึงแม้ว่าตัวเองจะแก่กว่าจนจะเกษียณอยู่แล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องแปลกใจไปหรอกว่าทำไมลุงๆ อาๆ ทั้งหลายถึงพูดจาดูเกรงขามผมจัง ความจริงมันไม่ใช่หรอกครับ พวกท่านแค่ให้เกียรติ ไม่ได้หมายความว่าพวกท่านเกรงกลัวกับตำแหน่ง
“คุณอาครับ ช่วงนี้เจ้าแอนตันแอบไปเล่นกับพุดดิ้งบ่อย จนหยิบติดมือกลับมา”
พอจบการประชุม เราก็ถือว่าเป็นคนสนิทกันได้ ผมเอ่ยเรียกคุณอามานพที่ดูท่าทางใจดียิ้มแย้มตลอดเวลา ผมเห็นแกมาตั้งแต่เด็กไม่เคยมีสักวันที่จะไม่ยิ้ม ก่อนจะหยิบยื่นตุ๊กตาหมาเน่าของสุนัขที่ชื่อพุดดิ้งให้อามานพทันที
“ฮ่า ๆ อาให้หลานแอนตันเองแหละ เห็นยัยเหมยบอกว่างอแงจะไม่กลับบ้านถ้าไม่ได้ตุ๊กตาตัวนี้กลับบ้าน”
“พุดดิ้งคงใจหายแย่เลย”
“เห่าทั้งวันเลยลีวายเอ้ยย” ชายอาวุโสยิ้มหัวเราะชอบใจจนตาหยี๋
“โอ้ยยย อย่าว่างั้นงี้เลยลีวาย พาแอนตันไปหาลุงบ้างสิ ไปแต่บ้านไอ้มานพไม่เบื่อบ้างรึไง”
“ก็บ้านแกมันไกลลล หลานไม่ไปหรอก” อามานพเถียงลุงนิพลกลับทัน ผมก็ได้แต่มองอาวุโสเถียงกัน ก่อนจะเหลือบไปมองเลขา ที่ดูเหมือนจะมีเรื่องรายงานอยู่
“ผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ”
ว่าแค่นั้นก็เดินออกมาแต่ก็ไม่ลืมที่จะเป็นเด็กหนุ่มอ่อนน้อมถ่อมตน ถึงแม้บริษัทนี้ผมก็จะเป็นประธานที่มีตำแหน่งสูงสุด แต่ก็ไม่เคยทำตัวกร่างวางอำนาจเลยสักครั้ง อย่างน้อยพวกท่านก็คือคนที่แก่กว่าและมีประสบการณ์มากกว่า เป็นผมด้วยซ้ำที่ต้องคอยเรียนรู้งานจากพวกท่าน
หลายคนอาจสงสัยว่ามันจะรอดหรอธุรกิจแบบครอบครัว อีกหน่อยก็คงแตกคอกันทุจริตกันไม่สนว่าใครจะเป็นใคร ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าพวกเขาคือศัตรู พวกเขาน่ะ รักและทุ่มเทให้กับบริษัทนี้ แบรนด์นี้ มากกว่าผมสะอีกแล้วก็อย่าลืมนะครับ ว่าไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบไหน ถ้าคนของคุณไม่มีคุณภาพมันก็ทุจริตกันได้
อ้อ!! ลืมบอกไปเลย แอนตันที่ผมพูดถึงเมื่อกี้คือลูกชายผมเอง ผมนะเป็นพ่อเลี้ยงเดียว (ติดกันไหม...) ตอนนี้แอนตันก็ห้าขวบแล้ว กำลังซนเลยแหละ อยากรู้อยากเห็นไปหมด ลูกชายมักจะไปเล่นที่บ้านอามานพเสมอ เพราะมีเจ้าหมาชื่อพุดดิ้ง
ลูกชายผมนะชอบสัตว์มาก ชอบเก็บนั้นหานี่มาเลี้ยงตลอด ล่าสุดจับได้ว่าแอบเลี้ยงหนูบ้าน วันนั้นจ้าละหวั่นกันทั้งแม่บ้านทั้งคนสวน วิ่งไล่จับหนูกันสนุกเชียวส่วนไอ้ลูกรักก็วิ่งตามพยายามจะมาห้าม พอโดนดุ ก็เลยเปลี่ยนไปเล่นกับหมาบ้านอามานพทุกวัน โชคดีที่บ้านอยู่ติดกัน ฮ่า ๆ แต่ทว่าไปเล่นไม่พอแต่กลับจิกตุ๊กตาของหมามานี่สิ มันน่านักนะ! ลำบากผมต้องเอาคืนอยู่เรื่อย ซื้อให้ใหม่ก็ไม่เอาด้วยนะ เฮ้ออ ไอ้ลูกชายย
“ว่าไงแวน” ทันทีที่ผมนั่งก็เอ่ยถามคนสนิททันที
“นี่ครับนาย นี่คือผลงานของนักสเก็ตซ์ภาพทั่วประเทศ และคนที่มีชื่อเสียงทั่วโลกครับ”
แวน ชายหนุ่มคนสนิท หรือจะเรียกว่าเลขาคนสนิทที่เป็นเหมือนเพื่อนผมก็ได้ มันวางไอแพตตรงหน้าผมไม่รอช้ารีบหยิบขึ้นมาดู หลายคนอาจสงสัยว่าจะตามหานักสเก็ตซ์ภาพมาทำไม ตามหาใครรึป่าว ...ใช่ครับ ผมกำลังตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่ผมไม่เคยรู้จักและมั่นใจว่าในชีวิตนี้ผมไม่เคยเจอเธอมาก่อน แต่เธอกลับโผล่มาในฝันผมทุกคืน คืนแล้วคืนเล่า จนผมจำเธอได้แม่น จำได้ทุกสัดส่วนของร่างกาย แต่กลับไม่เคยเจอเธอตัวเป็น ๆ สักที
“เยอะจังวะ”
“ประมาณ 200 ภาพสเก็ตซ์ครับ”
“ไอ้แวน แล้วกูจะเลือกยังไง!?”
ผมขมวดคิ้วเอ็ดมันไปที มันทำได้ทุกอย่างแหละครับ ติดอย่างเดียวคือมันบื้อ!
“ก็ผมเลือกไม่ถูก ผมเองก็ไม่เคยเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นนิครับ”
“ตาสองชั้น จมูกโด่งเชิ่ดปลาย เนื้อปากอวบอิ่ม ใบหน้ารูปไข่ รูปร่างสัดส่วน...” ไม่ ไม่ดีกว่า ผมไม่อยากบรรยายถึงรูปร่างของเธอคนนี้ให้ใครฟัง
“แต่ที่ผมเอามาให้นายเลือก มีทุกอย่างตรงตาม Ref. ที่นายบอกเลยนะครับ”
“เวรกรรม”
ผมยกมือขึ้นกุมขมับอย่างเหนื่อยใจพร้อมใช้นิ้วอีกข้างเขี่ยปัดหน้าจอไอแพตไปซ้ายที ขวาที มอง ๆ ไปแต่ละคนก็หน้าตาไม่ต่างกันมาก แต่กลับไม่มีใครเหมือนหญิงสาวที่อยู่ในความฝันผมสักคน
“อ้อ ไปบอกแพตตี้ด้วยว่าให้แทรกคิวประชุมใหญ่ให้ฉันหน่อย ขอภายในอาทิตย์นี้” ในขณะที่กำลังเลือกอยู่นั้นก็ไม่ลืมออกปากสั่งคนที่ยืนสำรวมอยู่ตรงหน้า ส่วนแพตตี้คือเลขาหน้าห้องผมเอง
“ครับนาย” ว่าแค่นั้นมันก็เดินออกไปทันที
“เธอคือใครกันแน่”
ผมบ่นพึมพำกับตัวเองซ้ำ ๆ ไม่อยากจะบอกว่าผมตามหาเธอมาเกือบ 2 ปีแล้ว ไม่ว่าจะวิธีไหนผมก็ทำมาหมด จนเหลือวิธีสุดท้าย ถ้าผมไม่ได้ภาพสเก็ตซ์ของเธอผมก็ให้คนอื่นช่วยหาไม่ได้ ใช่ไหมละ ก็ในเมื่อมีผมเพียงคนเดียวที่เคยเห็น ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองบ้าหรือประสาทหลอนอยู่หรอก ที่ฝันหาผู้หญิงคนเดียวซ้ำ ๆ ทุกวันทุกคืนเนี่ย แต่จะทำไงได้ในเมื่อหมอจิตเวชบอกว่าผมปกติทุกอย่าง สิ่งเดียวที่จะยืนยันได้คือผมต้องหาตัวผู้หญิงคนนี้ให้เจอ ไม่ว่าเธอจะมีตัวตนหรือไม่ก็ตาม
“โอ้ะ!!” นี่มันหน้าคุ้น ๆ ผมเลื่อนมาถึงสไลด์ที่ 179 ก็ต้องหยุดทันที ภาพนี้ดูคุ้น ๆ และใกล้เคียงที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว
“ไอ้แวนนนน!!!” ผมตะโกนเรียกทันที
พรึ่บ!
คนข้างนอกเปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าแตกตื่น เกรงว่าตัวเองจะทำอะไรผิดหูผิดตาอีก ก็มันโดนผมดุบ่อยนะสิ จนหลอนไปหมด
“ครับนาย”
“คนนี้คือใคร?” แวนเดินเข้ามาพร้อมก้มมองพรางขมวดคิ้วทันที
“มะ..ไม่ทราบนะครับ ก็คือภาพสเก็ตซ์หญิงสาวที่นายให้ตามหาไงครับ ผมเองก็ยังไม่รู้จักเธอเช่นกันครับ”
“โทษที กูถามผิด ภาพนี้ใครวาด”
“อ้อ นายชนันท์ เป็นอาจารย์อยู่โรงเรียน JKH ครับ”
“ติดต่อมาให้กูด้วย”
“นายเจอแล้วหรอครับ!” แวนเอ่ยปากถามด้วยความดีใจ มันคงเบื่อกันงานนี้เต็มทีสินะ
“อืม ไม่แน่ใจแต่คิดว่าใช่”
“ดีใจด้วยนะครับนาย! แล้วผมจะติดต่อให้เร็วที่สุดครับ!”
“พรุ่งนี้”
“ห้ะ!”
“ติดต่อมาให้กูวันพรุ่งนี้”
“แต่นายครับ พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์นะครับ คุณชนันท์น่าจะสอนอยู่”
“จ่ายไม่อั้น ไม่ว่ายังไงแกต้องพาคนนี้มาพรุ่งนี้”
“ได้ครับ!”
#ฝากติดตามด้วยนะคะ😃🙏