“ฉันจะกลับบ้าน” ร่างบางพูดในขณะที่กระโดดลงจากเตียงคนไข้
“ไม่ให้กลับ” เพลิงลุกขึ้นยืนขวางทางคนตัวเล็กไว้
“คุณก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว อย่ามาสำออย!” มือเรียวผลักแผงอกกว้างให้พ้นทางทว่าเขายังคงยืนแน่นิ่งไม่สะทกสะท้านกับเเรงอันน้อยนิดของเธอ
“เธอต้องอยู่ดูแลฉัน ถ้าไม่ทำฉันจะบอกเรื่องของเรากับพ่อเธอ” เพลิงขู่ไม่จริงจังนัก
“ทำไมถึงได้เป็นผู้ชายที่ทุเรศแบบนี้ แกข่มขืนฉันแล้วยังข่มขู่กักขังหน่วงเหนี่ยวฉันอีก!” เธอด่าเขา
“ก็ลองทำตัวน่ารักๆดูสิ เผื่อฉันจะใจดีกับเธอบ้าง” เขายักคิ้วพูดเสียงอ่อนลง
“ฝันไปเถอะ ฉันควรจะเกลียดนายมากกว่า เกลียดที่สุดด้วย!” คนตัวเล็กพูดใส่หน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“เมียที่ไหนจะเกลียดผัวตัวเองได้ลงคอ” เพลิงกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นท่าทีของพราวตะวันเป็นเดือดเป็นร้อนกับคำที่เขาพูดออกไป
“อย่ามาพูดแบบนี้นะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” หญิงสาวไม่มีวันยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเด็ดขาด
“เป็นสิ” เพลิงเถียง
“เมื่อคืนฉันแค่ฝันร้าย อย่าคิดจะเอาเรื่องนี้มาข่มขู่ให้ฉันทำตามใจคุณเสียให้ยาก รู้จักพราวตะวันน้อยไปซะแล้ว!” เธอจะไม่มีวันให้เขาข่มขู่เช่นนี้อีกต่อไป
“ถ้าไม่ติดว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะ ฉันจะทำให้เธอครางจนต้องเรียกฉันว่าผัวให้ดู” เพลิงขู่อีกเพราะรู้สึกชื่นชอบเวลาที่เธอเกรี้ยวกราดใส่เขาอย่างบอกไม่ถูก
“แกมันทุเรศที่สุด! ฉันจะไม่ยอมให้พ่อทำงานกับคนที่ไม่มีจิตสำนึกแบบแกหรอกคอยดู” เธอขู่ฟ่อ
“ฮ่าๆๆ เธอนั่นแหละที่ต้องมาทำงานกับฉันเพราะพ่อเธอรับปากฉันไว้แล้ว” เพลิงโกหก
“ไม่จริง พ่อเขาต้องถามฉันก่อน” เธอเถียงคอเป็นเอ็น
"จริง เพราะฉันเป็นเจ้านายพ่อเธอ" เพลิงก็ไม่ยอมลดลาวาศอก
"ไหนบอกไม่ได้เป็นเจ้านายไง?" พราวตะวันขมวดคิ้วสงสัยกับคำพูดของเขา
"ก็...ฉันเป็นคนของนายใหญ่ นายใหญ่ส่งมาคุมงานที่นี่แทนนาย" เพลิงลืมตัวจึงหาทางออกแบบไหลไปเรื่อย
"ฉันไม่สนใจหรอกว่านายจะเป็นใครมาจากไหน แต่นายห้ามมายุ่งกับฉันอีกและก็ห้ามไปบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด!" เธอพูดประหนึ่งว่ากำลังออกคำสั่งกับเขา
"เอาล่ะๆ อยากพูดอยากทำอะไรก็ตามใจแต่ฉันจะพักผ่อน เธอต้องเฝ้าฉันอยู่ในนี้ห้ามหนีไปไหนเด็ดขาด" เพลิงชี้นิ้วคาดโทษ พราวตะวันเบือนหน้าหนีเขาและทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มร่างสูงกำยำเอนกายลงบนเตียงคนไข้และปิดเปลือกตาลง เขาฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีจนหญิงสาวนึกหมั่นไส้ขึ้นมา
'ทำไมมันถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้วะ!' พราวตะวันบ่นกับตัวเองในใจ
"ค่อก แค่ก!" เพลิงแกล้งไอเบาๆเมื่อแอบเหลือบมองเด็กสาวที่นอนอยู่บนโซฟากำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่สนใจแต่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของตน
"ขอน้ำหน่อย" เขาแกล้งทำเสียงแหบ
"ก็วางอยู่ข้างๆนายไงหยิบเอาเองสิ" เธอตะโกนโดยที่ไม่ยอมละสายตาจากหน้าจอสมาร์ทโฟน
"หนอย! เอามานี่!" เพลิงหยัดกายลุกขึ้นและก้าวลงจากเตียงคนไข้ เขาถือวิสาสะดึงโทรศัพท์ของเธอมาถือไว้
"ไม่มีมารยาท! เอาของฉันคืนมานะ" เธอพยายามแย่งโทรศัพท์มือถือคืนมาแต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด
"คุยกับใคร?" เพลิงถามเสียงดุ
"ไม่ใช่เรื่องของนาย!" ร่างบางเขย่งปลายเท้าเพื่อเอื้อมไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตนที่เพลิงยื่นขึ้นจนสุดปลายแขน
"นี่! ฉันอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพ่อเธอนะ อย่ามาเรียกว่านาย!" เขารู้สึกขัดหูที่เธอเรียกเขาเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว
"แล้วจะให้เรียกว่าอะไร คุณลุง คุณปู่หรือคุณทวดดี" พราวตะวันไม่ได้เกรงกลัวเพลิงเลยแม้แต่น้อยนิด
"เป็นเมียก็ต้องเรียกผัวสิ ผัวขาหรือที่รักอะไรแบบนี้เรียกเป็นหรือเปล่า?" เขายั่วโมโหเธอคืนบ้าง
"กรี้ดดดดด! อ๊าาาายยยยยยย!" เด็กสาวเหลืออดและรู้สึกรังเกียจคำๆนี้แต่กลับทำอะไรเขาไม่ได้จึงกรีดร้องออกมาเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
"โอ๊ย! เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย!" เพลิงยกมือขึ้นมาปิดหู เสียงของพราวตะวันทำให้พยาบาลและแพทย์รีบวิ่งมาที่ห้องพักฟื้นของเพลิงทันที
"มีอะไรวะไอ้เพลิง!" อรุณภพเปิดประตูเข้ามาก็แปลกใจที่เห็นเด็กสาวผิวขาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มยืนทำท่ากำลังจะกรีดร้องออกมาอีก
"หยุด! หุบปากเลยนะ!" เพลิงชี้หน้าออกคำสั่ง พราวตะวันได้ยินเสียงทรงพลังของชายหนุ่มและแปลกไปกว่าทุกครั้งจึงยอมหยุดแต่โดยดี
"คุณพยาบาลออกไปให้หมดครับ เดี๋ยวผมดูแลคนไข้เอง" นายเเพทย์อรุณภพหันไปบอกพยาบาลและหันกลับมาหาเพื่อนสนิท
"เอายัยเด็กบ้านี่ไปเช็คประสาทได้มั้ยวะ" เพลิงพเยิดหน้าไปหาพราวตะวันซึ่งยืนหน้าบึ้งอยู่เพราะความโกรธ
"ใครวะ แล้วแกไปทำอะไรเขาถึงได้ร้องลั่นโรงพยาบาลแบบนี้" นายแพทย์หนุ่มสงสัยอย่างหนักเรื่องข้อพิพาทของสองหนุ่มสาว
"ก็แค่พูดเรื่อง..." เพลิงกระตุกยิ้มมุมปากพลางจ้องมองไปยังร่างบาง
"หุบปากไปเลยนะไอ้บ้า!" อรุณภพหันขวับไปมองพราวตะวันหลังจากได้ยินคำพูดที่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครกล้าพูดกับเพลิง ฤตินาฏวรนันท์เช่นนี้มาก่อน แต่ที่แปลกไปยิ่งกว่านั้นคือคนที่กำลังโดนด่ากลับยืนอมยิ้มด้วยความพึงพอใจอยู่นี่สิ
"ไอ้เพลิง ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมแกถึงไม่โกรธที่เขาด่าแกขนาดนี้" นายแพทย์หนุ่มเค้นเอาคำตอบ
"แกไม่ต้องรู้หรอก ถอดสายน้ำเกลือให้ด้วยแล้วก็เอากุญเเจรถมายืมด้วย" เพลิงกระซิบบอกเพื่อนสนิทเพราะไม่ต้องการให้พราวตะวันรู้ว่าเขาแกล้งป่วย
ยี่สิบนาทีต่อมา
เพลิงดึงข้อมือเรียวให้เดินตามตนออกมาขึ้นรถของอรุณภพที่เขาให้ยืมมาซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าของโรงพยาบาล
"ฉันไม่ไปกับนายนะ นายออกโรงพยาบาลแล้วก็หมายความว่าหมดหน้าที่ของฉันแล้ว" พราวตะวันพยายามแกะมือเขาออกจากการฉุดรั้ง
"ฉันก็แค่อยากตอบแทนที่เธอช่วยดูแลฉันไงเล่า" เขาจับคนตัวเล็กยัดเข้าไปในรถอย่างง่ายดายและกดปุ่มล็อคประตูอัตโนมัติ
"อย่ามาเล่นลิ้น ฉันไม่ได้ดูแลนาย! ปล่อยฉันลงรถเดี๋ยวนี้นะ" เธอตะโกนใส่เขาเสียงดังในขณะที่เพลิงเข้ามานั่งประจำที่คนขับ
"ทำไมชอบเอะอะโวยวายเสียงดังฮะ! หนวกหู" เขาเอ็ดเธอและออกรถทันทีโดยไม่สนใจท่าทีไม่พอใจของเด็กสาวข้างกาย