“แม่ขา ลูกอินไม่ไปๆ ไม่ไปๆ ฮื่อ “
“ลูกอินไม่ร้องสิลูก โรงเรียนมีเพื่อนให้หนูเล่นด้วยเยอะแยะเลยนะ “ผู้เป็นแม่เกลี้ยกล่อมลูกสาววัยสามขวบด้วยถ้อยคำอ่อนโยนเพื่อโน้มน้าวให้มือเล็กๆ ปล่อยแขนแล้วเดินเข้าโรงเรียน อาจไม่หรูหรา ค่าเทอมก็ตามกำลังพนักงานออฟฟิศพอจ่ายไหว แต่นี่ก็คือความตั้งใจที่ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียว
“ลูกอินอยากกอดแม่ ที่โรงเรียนไม่มีแม่ “ครูเวรที่ยืนรอ ยิ้มรับความน่ารักน่าเอ็นดูของสาวน้อยวัยสามขวบ รินลดากอดลูกที่รักดั่งดวงใจแน่น เป็นการห่างลูกครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ลูกอินถึงเกณฑ์เข้าเรียน ความไร้เดียงสาเพิ่งเคยห่างอกแม่อาจมีงอแงเล็กน้อยตามประสาเด็ก
“แม่จะรีบมารับ ในนั้นมีของเล่นเยอะแยะมีสิ่งแปลกใหม่ที่ลูกอินยังไม่เคยเห็น แม่สัญญาว่าปลอดภัย “
“สัญญานะคะ”
“สัญญาค่ะ ลูกอินของแม่เก่งที่สุด หนูต้องทำได้ “
“ก็ได้ ลูกอินจะไม่ร้อง “รินลดายื่นถุงนอนและกระเป๋านักเรียนใบจิ๋วให้ครูเวร รู้สึกใจหาย ลูกอินเดินก้าวพ้นประตูรั้วโรงเรียนแล้วหันกลับมาโบกมือพร้อมกับส่งยิ้มน่ารักมาให้ แม้จะแอบใจหายแต่เธอก็รู้สึกภูมิใจที่ลูกอินพูดง่ายและเข้าใจแม่
อาจเพราะเรามีกันสองคนมาตลอด ถ้าแม่ของเธอไม่เสียไปป่านนี้ก็คงได้อยู่ดูแลหลาน หลงวาจาคำอ้อนที่เจ้าตัวเล็กมักใช้กับเธอ
“ฝากลูกอินด้วยนะคะครู “
“ไม่ต้องกังวลนะคะคุณแม่ ทางโรงเรียนจะดูแลเด็กๆ ให้เป็นอย่างดี คุณแม่สบายใจได้ค่ะ” เธอฉีกยิ้มให้ครูเวรแล้วหันมองลูกสาวที่กำลังใช้มือเช็ดน้ำตาลวกๆอีกครั้ง
“ขอบคุณมากนะคะ แม่ไปนะคะลูกอิน “
“มารับเร็วๆ นะคะ ลูกอินคิดถึงแม่”
รินลดาเสียแม่ไปเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคร้าย มะเร็งคร่าชีวิตแม่ของเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ ชีวิตของเธอพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เธอทำงานหนักมากกว่าเดิมหลายเท่าเพราะหมดค่ารักษาไปมาก ยอมทุ่มเงินเพื่อยื้อชีวิตของแม่ให้อยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ นานหลายเดือนร่วมปีก่อนแม่สิ้นใจ รถยุโรปคันหรูที่เคยได้เป็นของขวัญจากชายเคยรักถูกแปลงเป็นเงินสดเพื่อนำมาเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น ยังดีที่มีคอนโดย่านทองหล่อสมบัติชิ้นสุดท้ายที่แสนมีค่า เธอตั้งใจจะเก็บไว้ให้ลูกอิน อย่างน้อยๆ ลูกสาวจะได้มีสมบัติเป็นของตัวเอง สมบัติที่พ่อของเขาเป็นฝ่ายซื้อให้
เมื่อรู้ว่าท้องรินรดาจำต้องลาออกจากคณะในฝันของตัวเองเพื่อมาตั้งหน้าตั้งตาหางานทำ เงินเก็บที่มีต้องแบ่งเป็นค่ารักษาแม่ อีกส่วนก็แบ่งไว้ให้ลูก พยายามแบ่งสันปันส่วนให้ลงตัวมากที่สุด เพื่ออนาคตข้างหน้าจะได้ไม่ต้องกลับมาเป็นหนี้อีกครั้ง โชคดีเงินก้อนนั้นยังอยู่และมากพอทำให้ชีวิตของเธอกับลูกสุขสบายไม่ยากลำบาก
“พี่น้อยสวัสดีค่ะ”
“ไปส่งลูกอินมาแล้วเหรอ เป็นไงร้องมั้ย “
“เกือบค่ะ คุยกันรู้เรื่องก็เลยไม่หนักเท่าไหร่ “รินลดารู้สึกภูมิใจเมื่อเล่าเรื่องลูกให้รุ่นพี่ที่ทำงานฟัง เมื่อนึกถึงเจ้าแก้มยุ้ยดวงตากลมโตดั่งตุ๊กตาเธอก็จะยิ้มแล้วรู้สึกดีทุกครั้ง เรื่องเล่าเช้านี้ทำให้นิรนาทยิ้มตามไม่หุบ
เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องเมื่อสองปีก่อนกับวันนี้ช่างต่างกันนัก เธอโตขึ้นในหลายเรื่อง สิ่งที่เห็นชัดคือรอยยิ้มที่แสนสดใส มองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกหลง หากไม่มีลูกติดรินรดาคือหญิงสาวที่น่ามองมากคนหนึ่ง กิริยามารยาท คำพูดคำจาน่าฟังน่ามองไปหมด เธอน่าจะไปได้ไกลกว่า นิรนาทไม่อาจรู้ว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับรุ่นน้องคนนี้ คงหนักหนาและสาหัสอยู่มากโข
“กาแฟมั้ย “
“ตามสบายเลยค่ะพี่น้อย พยายามดื่มแล้วทำงานไม่ไหวเลยทุกที สงสัยแก้มคงไม่ถูกกับกาแฟ “
“เรื่องเรียนถึงไหนแล้ว มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้นะ “
“ลงทะเบียนแล้วค่ะ เสาร์อาทิตย์คงต้องหาพี่เลี้ยงให้ลูกอินไม่รู้ว่าลูกอินจะยอมรึเปล่า “รินรดาทำหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัด นิรนาทวางถ้วยกาแฟแสนน่ารักในมือลงแล้วเดินมาคุยใกล้ๆ เผื่อจะช่วยให้รุ่นน้องผ่อนคลายเรื่องในอกออกได้บ้าง “ถ้าแม่ยังอยู่ แก้มคงไม่ห่วงเรื่องนี้ “
-------