“สองขีด ให้ตายสิ “ นักศึกษาแพทย์สาวมือสั่นเหงื่อแตกพลั่ก ขาเปลี้ยอ่อนแรงแทบยืนไม่ไหว แท่งสีขาวในมือสั่นระริก ขีดสีแดงสองขีดคือผลตรวจยืนยันแน่ชัดว่ามีเด็กกำลังเจริญเติบโตอยู่ในท้องของเธอ
หลังจากบ่ายวันนั้นที่กลับมาถึงเธอก็รีบซื้อยาคุมฉุกเฉินกินทันที อาจจะไม่ได้ผลเพราะเกินระยะเวลา แต่ก็ไม่ได้คิดวิธีอื่นเอาไว้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป อาจจะมีสักสิบเปอร์เซ็นที่พอจะเป็นไปได้
สิบเปอร์เซ็นไม่เข้าข้างเธอเลยหรือ
หลังจากตรวจพบว่ากำลังตั้งครรภ์ รินรดาตัดสินใจจะเก็บเด็กไว้อย่างไม่คิดลังเล ช่วงบ่ายเธอเดินทางไปยื่นใบลาออกจากมหาวิทยาลัยโดยไม่ระบุเหตุผลแล้วกลับมาหมกตัวอยู่ที่บ้านหลังเก่ากับแม่แถวชานเมือง
ปล่อยเช่าคอนโดหรูที่เคยได้จากเขาให้กับเซเลปดังคนหนึ่ง สัญญาเช่าห้ามเปิดเผยที่อยู่ของเธอและเบอร์ติดต่อ แม้แต่เพื่อนสนิทของเธอก็ไม่รู้สาเหตุของการลาออกครั้งนี้ มีแต่แม่คนเดียวเท่านั้น จากนี้ไปเธอจะดูแลท่านไม่ห่างและเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องนี้ด้วย
โรงแรมห้าดาวติดแม่น้ำเจ้าพระยาสถานที่สำหรับจัดงานมงคลสมรสระหว่าง นายแพทย์อัครพล อัคราพิทักษ์กุล กับ แพทย์หญิง ปานิศรา เลิศวรกุลดิลก ทายาทโรงพยาบาลเอกชน ทั้งคู่ดูเหมาะสมราวกิ่งทองใบหยก แขกในงานชมไม่ขาดปากว่าเจ้าสวยราวกับนางฟ้าส่วนเจ้าบ่าวก็หล่อไม่เบา
ภายในงานถูกประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวหลากหลายชนิด ธีมงานเอิร์ธโทนอบอุ่นตามความต้องการของเจ้าสาว
“ไหวมั้ยฟ้า “
“ไหวค่ะ อัครพาฟ้าไปนั่งหน่อยสิ “ อัครพลประคองว่าที่ภรรยามานั่งพักที่เก้าอี้หลังจากถ่ายรูปกับแขกเหรื่อในงานจนครบทุกโต๊ะ
ว่าที่ภรรยาของเขามีอาการเหนื่อยหอบจนน่าห่วง อัครพลจำต้องรีบอุ้มเจ้าสาวเข้าพิธีสุดท้ายโดยเร็ว พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างรีบเร่งเมื่อเห็นท่าไม่ดี
“แม่ขอให้ทั้งคู่มีความสุข หนักนิดเบาหน่อยให้อภัยกันนะลูก “ ฝั่งแม่เจ้าสาวอวยพรไปกอดลูกไปทั้งน้ำตา ได้เห็นรอยยิ้มน้อยๆนั่นก็ทำให้คนเป็นแม่ชื่นหัวใจ สุขใดเล่าจะเท่าเห็นความสุขของลูก
“ขอบคุณค่ะแม่ “
“อัครพ่อฝากฟ้าด้วยนะลูก “ เจ้าบ่าวพยักหน้าแล้วโอบไหล่เจ้าสาวเข้ามากอดไว้แน่น ปานิศรายิ้มให้ผู้เป็นพ่อแล้วเอนศีรษะซบไหล่ว่าที่สามีด้วยความรู้สึกเหนื่อยกว่าทุกครั้ง
“ให้หนูฟ้าพักผ่อนดีกว่าค่ะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว อัครดูแลหนูฟ้าให้ดีนะลูก “
-----------