Chapter 6 เคลียร์ความรู้สึก

3063 Words
[ เธียร์ ] หลังจากที่ผมเริ่มแผนการล้วงความรู้สึกของไอริณเพราะผมอยากยืนยันให้ชัดเจนก่อนที่ผมจะเริ่มต้นเดินหน้าต่อว่าเธอยังรู้สึกกับผมเหมือนเดิมไหมแล้วตอนนี้ผมก็ได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วเพราะเธอเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับเอ่ยคำพูดที่แฝงไปด้วยความน้อยใจตัดพ้อผม ผมไม่รู้ว่าเธออยากพูดมันจริงๆ หรือเพราะความเมากันแน่ที่ทำให้เธอกล้าที่จะพูดแบบนั้นออกมา แต่ก็นั่นแหละครับ... มันคือสิ่งผมอยากฟังและผมก็พอใจ “นี่มันอะไรกันค่ะเธียร์!!??” ริสาที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมพอเห็นไอริณพูดแบบนั้นเธอที่ขมวดคิ้วถามผมทันที “โทษทีนะ ผมขอตัว” “เธียร์คุณจะทิ้งริสาแบบนี้ไม่ได้นะค่ะ!! เธียร์!!!” ผมรีบก้าวเท้าเดินตามไอริณออกไปด้านนอกร้านโดยที่ไม่ได้สนใจริสาที่ตะโกนไล่หลังมาเลย จริงๆ แล้วคืนนี้ผมแค่ใช้ประโยชน์จากริสาเท่านั้น ใช้ประโยชน์จากการที่เธอชอบผมเพื่อมาพิสูจน์ความรู้สึกของไอริณ ยอมรับครับว่าเลว แต่ผมกับริสาเราไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน ผมรู้จักเธอตอนที่เรียนอยู่ต่างประเทศเธอดูสนใจผมเป็นพิเศษแต่ผมไม่ได้ยุ่งกับเธอ ผมให้ได้แค่คำว่าเพื่อนกับเธอเท่านั้น ริสาเธอกลับไทยมาก่อนผมกับไอ้ธูร์พอเธอรู้ว่าผมเองก็กลับมาไทยเธอจึงติดต่อผมมาอีกครั้ง ผมถึงได้ใช้เธอมาร่วมแผนในวันนี้โดยที่เธอไม่รู้ตัว..... “ไอริณหยุดก่อน!” ผมเดินไปดึงแขนของไอริณไว้เพราะเธอกำลังจะเดินไปขึ้นแท็กซี่ แรงดึงของผมไม่ได้มากมายอะไรแต่ทำเอาคนเมาเซถลามาหาทันที เธอหันมาสบตากับผมด้วยขอบตาแดงช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มา พอเห็นแบบนี้ผมก็ชะงักไปครู่นึง ...เผลอทำน้องร้องไห้เข้าแล้วสินะไอ้เธียร์!... “ปล่อยค่ะ!!” ไอริณพยายามบิดข้อมือเล็กของเธอออกจากมือของผม ใบหน้าหวานของเธอแดงก่ำ “มาคุยกับพี่ก่อน” ว่าแล้วก็ออกแรงดึงแขนเธอให้เดินตามไปยังรถที่จอดอยู่ “แต่ไอไม่มีอะไรจะคุยกับพี่!! ปล่อย!!” ถึงจะเมาแต่เธอก็ยังมีแรงที่จะเถียงกับผมแถมขืนตัวเองไม่ยอมเดินตามมาอีก ผมถึงกับต้องผ่อนลมหายใจหนักๆ ออกมาเลยก่อนจะอุ้มเธอขึ้นพาดบ่าแล้วพาเดินไปยังรถที่จอดอยู่แทน ไอริณที่ถูกผมอุ้มเธอก็โวยวายทันทีพร้อมกับดิ้นไปมา มือเล็กทุบลงบนแผ่นหลังของผมไปด้วย ถามว่าเจ็บไหม? ตอบเลยว่าไม่ครับเพราะแรงของคนเมาไม่ได้มากมายอะไร “พี่เธียร์ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!! บอกให้ปล่อยไง!!” “เงียบ!” เสียงทุ้มต่ำดุเธอไป แต่มันก็ได้ผลไอริณที่ถูกผมยัดเข้าไปนั่งในรถถึงกับเงียบเลย เธอเอาแต่จ้องหน้าผมนิ่งแววตาของเธอสั่นระริกจนเห็นได้ชัด ทำเอาผมรู้สึกผิดเลย “พี่ขอโทษ” “ช่างมันเถอะค่ะ เพราะพี่ก็เป็นแบบนี้เสมออยู่แล้ว แสนดีกับทุกคนยกเว้นไอ.... ปล่อยไอได้แล้วค่ะไอจะกลับบ้าน” “เมาขนาดนี้จะกลับเองได้ไง” “มันเรื่องของไอ!!” “ไอริณ!!” เถียงเก่งจริงๆ เลยขนาดเมาอยู่นะ “........” สิ้นเสียงผมไอริณก็เงียบไปเลยพร้อมกับก้มหน้าไม่ยอมมองหน้าผมอีก ผมไม่ชอบเลยกับสถานการณ์แบบนี้แต่ที่เธอเป็นแบบนี้มันก็เพราะผม ผมผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยื่นมือทั้งสองข้างไปประคองใบหน้าหวานของเธอให้เงยขึ้นมามองผม ทันทีที่สบตากันผมก็รู้สึกเหมือนใจกระตุกวูบเพราะคนตรงหน้าตอนนี้เธอกำลังร้องไห้แต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมเปล่งเสียงอะไรออกมาเลย ริมฝีปากอวบอิ่มนั่นแม้มเข้าหากันแน่นจนห้อเลือด ผมใช้นิ้มโป้งกดลงไปเบาๆ บนริมฝีปากของเธอเพื่อให้เธอคลายแรงกัด “อย่าทำแบบนี้เดี๋ยวเลือดออก” เสียงเข้มดูอ่อนลง “ทำไมพี่ชอบทำแบบนี้ค่ะ ทำไมชอบทำเหมือนสนใจในตอนที่ไอพยายามจะตัดใจ ฮึกๆ... หกปีที่ผ่านมามันยังไม่พออีกเหรอค่ะ ฮึกๆ...” เสียงหวานเอ่ยออกมาแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยินมันเหมือนกับว่าเธอกำลังพูดกับตัวเอง “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องตัดสิ... พี่ไม่ได้อยากให้ไอตัดใจจากพี่ พี่อยากให้ไอเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ พี่อยากให้ใจของไอเป็นของพี่แค่คนเดียว” ผมจ้องมองหน้าเธอนิ่งและทุกคำที่ผมพูดผมรู้สึกกับมันจริงๆ “พี่หมายความว่ายังไง??” แววตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสสั่นระริกเหมือนว่าเธอกำลังกลัว “คิดว่าจะหนีความรู้สึกของตัวเองไปถึงเมื่อไร คิดจะบอกพี่ตอนไหนเหรอ” “พี่.... พี่รู้เหรอค่ะ” ไอริณมองผมพร้อมกับเบิกตากว้าง ปกติก็ตาโตอยู่แล้วตอนนี้มันโตขึ้นกว่าเดิมซะอีกจนผมนึกขำกับท่าทางของเธอ “พี่ไม่ได้โง่นะ ยัยเด็กขี้เมาเอ้ย” รอยยิ้มบางๆ ถูกส่งให้เธอก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาออกจากดวงหน้าหวาน “ไอ้พี่เธียร์!! พี่มันขี้โกง ฮึกๆ ฮือออออ.....” อ้าว! ร้องหนักกว่าเดิมอีก “พอแล้วหยุดร้อง เดี๋ยวใครมาเห็นก็หาว่าพี่แกล้งเธอหรอก” ผมว่ายิ้มๆ “ตั้งแต่เมื่อไรค่ะ... พี่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ไอว่าไอยังไม่เคย.....” “ใช่...ไอไม่เคยบอก แต่ไอก็ไม่เคยปิดมันมิดเลยถึงแม้ว่าจะพยายามแล้วก็ตาม... พี่พูดถูกไหมครับ?” สิ่งที่ผมพูดเหมือนกับการต้อนเธอให้จนมุมแต่มันก็ได้ผลเพราะไอริณเงียบไปเลย “.......” “แล้วที่เป็นอยู่ตอนนี้คือกำลังหึงพี่กับริสาอยู่.... ถูกไหมครับ?” “........” “พี่พูดถูกทุกอย่างสินะ” รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าทันทีแต่ไอริณกลับเอาแต่เม้มริมฝีปากเข้าหากัน ทำไมผมถึงรู้สึกภูมิใจนะเมื่อรู้ว่าเธอกำลังหึง “เปล่าค่ะ ไอจะหึงพี่ทำไมเราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย” พูดเสียงอ่อมแอ้มอยู่ในลำคอและยังคงไม่ยอมมองหน้าผม “แน่ใจ? งั้นพี่กลับไปหาริสาก่อนนะ” ผมทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในร้านแต่มือเล็กของเธอกลับรั้งข้อมือของผมไว้ ผมยกยิ้มมุมปากทันที จริงๆ แล้วก็ไม่ได้คิดจะกลับเข้าไปหรอกครับเพียงแค่อยากแกล้งเธอก็เท่านั้น “พี่นี่มันจริงๆ เลย!!” ไอริณช้อนสายตาดุๆ มองผม แต่ผมยิ้มกว้างส่งกลับไปให้เธอแทน “ก็ไหนว่าไม่หึงแล้วจะรั้งพี่ไว้ทำไม?” “งั้นถ้าพี่อยากไปก็ไปเถอะค่ะ ไอจะไปเรียกแท็กซี่กลับบ้าน” ว่าแล้วก็ลุกออกมาจากรถทันทีพร้อมกับตั้งท่าจะเดินไปจริงๆ แต่ผมไวกว่ารีบคว้าเธอไว้แล้วดันเธอเข้าไปนั่งในรถตามเดิมก่อนจะเดินอ้อมเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วเอื้อมมือไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ไอริณนั่งนิ่งมองการกระทำของผม ใบหน้าของเราสองคนตอนนี้ห่างกันแค่คืบจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผสมกลิ่มแอลกอฮอล์จากเธอ มือหนายกขึ้นเชยคางมนไว้หลวมๆ ก่อนจะค่อยๆ กดริมฝีปากหนาชื้นของตัวเองลงไปบนริมฝากอวบอิ่มของเธอ เจ้าตัวที่เห็นว่าผมกำลังทำอะไรถึงกับเบิกตากว้างแล้วผลักบ่าผมออกห่าง ผมก็ยิ้มบางๆ ให้เธอแต่เธอกลับส่งสายตาดุมาให้ “ทำอะไรของพี่ค่ะ??” “จูบไงไม่รู้จักเหรอ” “พี่เธียร์!! พี่มันร้ายกาจ” เสียงหวานดุผมพร้อมกับใบหน้าแดงระเรื่อไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือว่าเพราะเมา “ยอมรับครับว่าพี่มันร้ายกาจ แต่พี่ยังร้ายได้มากกว่านี้อีกนะ หึๆ” คำพูดของผมทำเอาไอริณนิ่งไป “ที่พี่ทำทั้งหมดนี่เพราะแค่ต้องการแกล้งไอใช่ไหม?” “เปล่า พี่แค่อยากง้างปากของเด็กดื้ออย่างไอไง” ยกยิ้มมุมปากไปให้เธอแต่เหมือนไอริณจะโกรธผมเข้าให้แล้วเพราะตอนนี้เธอจ้องหน้าผมนิ่ม “สนุกนักเหรอค่ะ?! พี่หายไปจากชีวิตไอตั้งหกปี กลับมาก็ทำเฉยชาใส่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทำเหมือนสนใจแต่ก็กลับเย็นชาแล้ววันนี้ยังมาทำแบบนี้อีก... แค่นี้ไอก็จะบ้าอยู่แล้ว หยุดเล่นกับความรู้สึกของไอสักที .... ไอขอร้อง” สิ่งที่เธอพูดมาผมรับรู้ว่าเธอจริงจังแค่ไหน ไอริณที่ผมรู้จักเธอเป็นคนเข้มแข็งไม่เคยอ่อนแอกับอะไรง่ายๆ และตอนนี้เธอก็ดูจะเป็นแบบนั้นด้วย สายตาที่มองมาที่ผมมันนิ่งมาก นิ่งจนผมรู้สึกกลัวขึ้นมาเลย “พี่ไม่เคยเล่นกับความรู้สึกของไอ แต่ที่พี่หายไปพี่มีเหตุผลของพี่” “เหตุผล? เหตุผลอะไรค่ะ? พี่ปิดกั้นการติดต่อทุกทาง ไอพยายามติดต่อพี่จนไอเลิกพยามไปแล้ว ไอยอมรับค่ะว่าคิดถึงพี่มาก ก่อนจะไปพี่ก็ไม่เคยบอกลา พี่แม่งโคตรใจร้าย...” คนเมาเริ่มน้ำตาคลออีกแล้วจนผมต้องเอื้อมมือไปจับแก้มของเธอเบาๆ “บอกแล้วไงว่าพี่มีเหตุผลของพี่ เอาไว้พี่พร้อมพี่จะเล่าให้ไอฟังคนแรกเลย แต่ตอนนี้สัญญากับพี่ก่อนว่าจะไม่ร้องไห้อีก..... ต่อจากนี้ไปอาจจะมีเรื่องอะไรเข้ามามากมาย แต่สัญญากับพี่ได้ไหม...ว่าไอจะยังรู้สึกกับพี่เหมือนเดิม ความรู้สึกนั้น....มันจะเป็นของพี่แค่คนเดียว...” “พี่แม่งเห็นแก่ตัว... แต่ช่างเหอะยังไงไอก็รู้สึกอยู่คนเดียวอยู่แล้ว แล้วตอนนี้พี่ก็รู้แล้วด้วย ต่อจากนี้ไปถ้าไอจะทำอะไรตามใจของไอบ้างพี่ก็อย่ามาขวางก็แล้วกัน” เธอพูดเสียงราบเรียบท้ายประโยคเหมือนคำขู่ผมเลย แต่ผมก็ชอบนะที่ไอเป็นแบบนี้แต่จะให้ดีก็ไม่อยากให้เธอขู่ผมแบบนี้เหมือนกัน “ร้ายขึ้นเยอะน่ะเราอ่ะ หึๆ” ผมยิ้มบางๆ ให้เธอพร้อมกับยืนหน้าเข้าไปจูบปากของเธออีกครั้ง จะเรียกว่าจูบก็คงไม่ใช่เพราะแค่ปากแตะปากเท่านั้น แต่แค่นั้นมันก็ทำให้ไอริณเขินหน้าแดงแล้ว “เขินแบบนี้ อย่าบอกนะว่าไม่เคยจูบกันใครน่ะ? อายุ 21 แล้วนะเราอ่ะ” ว่ายิ้มๆ ให้เธอ ผมรู้ดีว่าไอริณไม่เคยคบกับใคร แต่กลับโดนเธอดุกลับมา “พี่เธียร์!! ใครจะเหมือนพี่กันเล่า คบผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เรื่องแบบนี้คงเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพี่สินะ” “หึๆ” ไม่ตอบอะไรเธอไปเพียงแค่ยิ้มขำๆ แต่ไอริณโกรธจนหันหน้าออกนอกหน้าต่างรถทันที ผมที่เห็นแบบนั้นถึงกับส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะขับรถออกจากร้านมุ่งหน้ากลับบ้าน ตลอดระยะทางกลับบ้านไอริณเอาแต่เงียบไม่พูดอะไรสักคำจนผมต้องหันไปมองแต่ปรากฏว่าคนเมาหลับไปซะแล้ว “โถ่ คิดว่าจะแน่ หึๆ” ผมมองหน้าไอริณไปขับรถไปก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของผมจะดังขึ้น Rrrr…. เป็นเบอร์ไอ้ธูร์ที่โทรเข้ามา ผมกดรับสายมันผ่านหูฟังเอียร์พอด “ว่า....” “(มึงอยู่ไหนเนี้ย?? แล้วไอหละ??)” ผมยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยมันก็สวนคำถามมาทันทีน้ำเสียงมันดูจริงจังเชียวครับ “กำลังพากลับบ้าน” “(มึงออกมาจากร้านตั้งนานทำไมเพิ่งกลับ?)” “มีเรื่องคุยกับน้องนิดหน่อยน่ะ แต่ตอนนี้น้องหลับไปแล้ว” “(มึงไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม?)” “พูดเหมือนไม่เชื่อใจกู” “(เออ!! กูเชื่อก็ได้... แต่ถ้าพ่อรู้ มึงรู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น)” “เออ กูรู้... แต่กูไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ฉะนั้นเลิกขู่กู” “(อย่าทำให้น้องเสียใจแล้วกัน)” เสียงไอ้ธูร์อ่อนลงแต่ยังแฝงไอด้วยความจริงจังในน้ำเสียง และผมก็รู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร “กูสัญญา” ผมตอบกลับมันไปก่อนจะวางสาย ผมใช้เวลาขับรถประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านของไอริณ ตอนนี้ใกล้เที่ยงคืนแล้วแต่ในบ้านของเธอยังเปิดไฟสว่างอยู่ สงสัยคงจะรอลูกสาวกลับบ้าน ผมหันไปมองไอริณที่หลับไม่รู้เรื่องก่อนจะส่ายหัวเบาๆ “เอาว่ะ ปล่อยให้โดนแม่ดุบ้างก็ดีจะได้เลิกกินเหล้าจนเมาแบบนี้” พึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะลงจากรถแล้วกดกริ่งที่หน้าประตูรั้ว จากนั้นผมก็เดินกลับไปเปิดประตูรถแล้วอุ้มไอริณออกมาจากรถ ไม่นานน้ากิ่งแม่ของไอริณก็เดินออกมาเปิดประตูพร้อมกับป้าบัว สีหน้าของท่านดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นไอริณหลับไหลอยู่ในอ้อมกอดผม “เธียร์!! ทำน้องเป็นแบบนั้นหละลูก แล้วทำไมน้องถึงกลับมากับเธียร์ได้?” “ผมเจอน้องที่ร้านน่ะครับ เห็นเมาก็เลยพากลับมาด้วย นี่ก็หลับมาตลอดทางเลยครับ” “ตายจริงไอริณ!! ทำไมถึงทำตัวแบบนี้นะ... เข้ามาก่อนจ้ะลูก” “ครับ” ผมอุ้มไอริณเดินเข้ามาภายในบ้าน “เดี๋ยวผมอุ้มน้องไปส่งข้างบนก็ได้ครับ” “จ้ะ รบกวนเธียร์หน่อยนะ” “ครับ” น้ากิ่งเดินนำหน้าผมขึ้นไปชั้นสองแล้วเปิดประตูห้องนอนของไอริณผมก็เดินเข้าไปพร้อมกับวางร่างบางของเธอลงบนเตียงกว้างก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มให้คนเมาโดยมีน้ากิ่งกับป้าบัวยืนอยู่ข้างๆ ผมที่รู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่จนต้องหันกลับไปมองท่านทั้งสอง “ครับ??” เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ไม่มีอะไรจ้ะ... ขอบใจนะที่พาน้องมาส่ง ดึกแล้วเธียร์กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวตอนเช้าน้าคงต้องจัดการไอริณซะหน่อยที่เมาจนไม่รู้เรื่องแบบนี้เนี้ย” “ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ.... สวัสดีครับน้ากิ่งสวัสดีครับป้าบัว” ผมลาทั้งสองท่านก่อนจะเดินออกจากห้องของไอริณแล้วเดินออกจากบ้านตรงไปที่รถของตัวเอง จากนั้นก็ขับรถเลยบ้านไอริณมานิดหน่อยก่อนจะเลี้ยวเข้าประตูรั้วบ้านของตัวเอง หลังจากเธียร์กลับไปแล้วหญิงวัยกลางคนสองคนก็มองหน้ากันพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ “ป้าว่าคุณเธียร์เนี้ยดูเหมือนจะชอบหนูไอเลยนะค่ะ” “ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละป้า แต่ธูร์เองก็ดูห่วงใยยัยไอมาก ...แล้วอย่างนี้ลูกสาวตัวแสบของฉันชอบใครกันนะ ระหว่างสองแฝดธูร์กับเธียร์” กิ่งกานต์มองหน้าลูกสาวที่ตอนนี้นอนหลับไหลไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงพร้อมกับใช้ความคิดเพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าลูกสาวของเธอมีใจให้กับใครกันแน่...... ผมจอดรถเสร็จก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับผิวปากไปด้วยอย่างอารมณ์ดี เดินตรงไปยังห้องครัวเพื่อจะหยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นไปบนห้อง แต่ก่อนจะได้เดินขึ้นบันไดก็ต้องชะงักเท้าไว้เพราะพี่ชายของผมกำลังยืนจ้องหน้าผมอยู่พร้อมรอยยิ้มกวนของมัน “ไงมึง...” “อะไร?” เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “สรุปได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วสิถึงได้ยิ้มหน้าบานแบบนี้” “อืม” ผมยักไหล่พร้อมรอยยิ้มกวน “มึงนี่มันร้าย แต่จะทำอะไรก็ระวังหน่อยแล้วกันน้องยังเด็ก” “อายุ 21 นี่ไม่เด็กแล้วนะ หึๆ.... เชื่อใจกูบ้างเหอะกูไม่ทำอะไรหรอก... มันยังไม่ถึงเวลา” ผมว่าก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป ไอธูร์เองก็เดินตามมาติดๆ แต่ก่อนจะก้าวเท้าต่อผมหยุดเดินแล้วหันไปหามันที่เดินตามหลังมา ก่อนจะเอ่ยถามคำถามบางอย่างกับมันไป “มึงโอเคใช่ไหมถ้ากูจะเดินหน้าต่อ” “กูโอเค... กูเคยบอกมึงแล้วไงว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การเสียสละ แต่เป็นการมองคนที่กูรักก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันต่างหาก” พี่ชายผมมันยิ้มบางๆ มาให้ก่อนจะตบบ่าผมเบาๆ “อืม....” “เลิกคิดเรื่องกูซะ แล้วเอาเวลาไปคิดว่าทำยังไงน้องจะหายโกรธมึงเรื่องที่มึงหายไปตั้งหกปี กูว่างานนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย... มึงรู้ใช่ไหมว่าน้องเป็นคนยังไง” “อืม... กูรู้ วันนี้กูก็โดนมาแล้วดอกหนึ่ง เล่นเอาซะกูจุกเลย” “ฮ่าๆ สู้ๆ นะไอ้น้องชาย เดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะคอยยืนซ้ำเติมมึงอยู่ตรงนี้” “ไอ้เวร!!” “ฮ่าๆๆ” จากนั้นพวกผมก็พากันเดินขึ้นห้องนอนของตัวเอง สองหนุ่มเดินเข้าห้องนอนของตัวเองโดยที่ไม่ได้สังเกตุว่ามีใครบางคนยืนพิงประตูฟังพวกเขาพูดคุยกันอยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านหลังใหญ่นี้... วิสุทธิ์ ยืนฟังลูกชายฝาแฝดคุยกันก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเพราะบทสนทนาที่เขาได้ยินมันทำให้เขาสบายใจได้ว่าลูกชายคนเล็กของเขาที่เคยให้คำสัญญาบางอย่างไว้กับเขาก่อนจะไปเรียนต่อต่างประเทศนั้น เจ้าตัวยังคงรักษามันไว้อย่างดี...... “ไอ้หมาเธียร์เอ้ย หึๆ” วิสุทธิ์ยกยิ้มก่อนจะส่ายหัวไปมาแล้วเดินกลับเข้าห้องของตัวเอง...........
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD