ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
บ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์ มีเจ้าของบ้านสืบเชื้อสายมาจากราชนิกุลผู้สูงศักดิ์และเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดหนึ่ง…ทางภาคใต้
นายหัวใหญ่ อดิศวร บดินทร์พิพัฒน์ อายุ 50 ปี ชายหนุ่มรูปงามที่อายุไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาของเขาหายไปตามกาลเวลา ถ้าคนที่พึ่งพบเจอเมื่อเห็นหน้าอาจจะคิดว่าเขาอายุเพียง 30 ปลายๆ มีภรรยาทั้งหมด 5 คน แต่ที่ตบแต่งออกหน้าออกตามีเพียงคนเดียว คือ ‘แม่ใหญ่’ มาลิกา บดินทร์พิพัฒน์ อายุ 45 ปี
นายหัวใหญ่ ชอบกินชอบเที่ยวผู้หญิงเป็นชีวิตจิตใจ ถูกใจใครมากหน่อยก็รับเลี้ยงเป็นเมีย ด้วยฐานะที่ร่ำรวยมั่งมีเงินทองและทรัพย์สินที่มีมาก ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ เหมืองแร่ รวมถึงเกาะน้อยเกาะใหญ่ทางภาคใต้ ก็ล้วนแต่เป็นของนายหัวใหญ่ทั้งนั้น จึงทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ต่างหมายปองอยากครอบครองชายคนนี้
แต่ยกเว้นแม่ของไอรดาที่หลังจากคลอดลูกสาวออกมาท่านก็ฆ่าตัวตายในทันที เพราะไม่อยากอยู่อย่างอัปยศอดสูเป็นเมียน้อยของชายที่หลอกให้รักไปจนวันตาย
ส่วนเธอ ไออุ่น ไอรดา รัตนะธิภา อายุ 22 ปี ลูกสาวที่เกิดจากเมียน้อยเพียงคนเดียวของนายหัวใหญ่ ไออุ่นถูกเลี้ยงและเติบโตมาโดยพี่เลี้ยงและได้แยกบ้านออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่ นายหัวใหญ่ไม่อยากมีปัญหากับเมียจดทะเบียนเลยให้ไออุ่นใช้นามสกุลมารดา และปลูกบ้านให้อีกหลังในตัวอำเภอเมืองภูเก็ตมีแม่นม 1 คน แม่บ้าน 2 คน คนขับรถอีก 1 คนที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่จำความได้ ส่วนคนเป็นพ่อเธอไม่เคยเจอหน้าจริงๆเลยสักครั้งนอกจากเธอจะเห็นตามข่าวและสื่อโชเซียลต่างๆ
วันนี้เป็นวันรับปริญญาของไออุ่น ไออุ่นเรียนจบคณะบริหาร สาขาการจัดการระหว่างประเทศ ด้วยเกียรตินิยมเหรียญทองอันดับ 1 เธอให้แม่บ้านแจ้งนายหัวใหญ่แล้วว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของเธอ แต่เขาบอกว่าติดธุระมาร่วมแสดงความยินดีด้วยไม่ได้ แต่ได้ส่งของขวัญมาร่วมยินดีแทน ของขวัญที่ใครต่อใครมองว่าเธอโชคดีที่มีพ่อสายเปย์
จะเป็นอะไรไปได้นอกจากรถยนต์สปอร์ตหรูที่คนรวยนิยมขับกัน แต่นั่นไม่ใช่ในสิ่งที่เธอต้องการ แต่เธอก็ไม่สามารถปฏิเสธความรักของพ่อที่มีต่อลูกได้(จดหมายที่แนบมากับรถเขียนไว้แบบนั้น) และเธอต้องจำใจรับไว้ทุกครั้งที่เป็นของขวัญจากพ่อผู้รักลูกมาก
เพื่อนร่วมคณะรู้เพียงว่าเธอเป็นลูกคนมีฐานะร่ำรวยแต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวนายหัวใหญ่ นอกจากเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอ ใบปอ ปริศรา เอกมณี และลูกชายลูกสาวฝาแฝดของแม่ใหญ่ที่มีอายุเท่ากันกับเธอมาวิน บดินทร์พิพัฒน์ นิสัยดีไม่หยิ่ง ไม่โอ้อวด ผิดกับน้องสาวฝาแฝด มาริน บดินทร์พิพัฒน์อย่างสิ้นเชิง รายนั่นเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ เกลียดเธอเข้าไส้เพราะเธอเป็นลูกเมียน้อย พอคิดมาถึงตรงนี้…เธอลืมไปได้ไงว่าสองคนนั้นก็รับปริญญาวันเดียวกันกับเธอนี่น่า นี่คงเป็นสาเหตุที่นายหัวใหญ่มางานรับปริญญาเธอไม่ได้สินะ คิดแล้วก็ขำตัวเองที่อยากจะกอดพ่อในวันสำคัญสักครั้งในชีวิตทั้งที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
“ไอ ป่ะกลับบ้านกันนี่มันมืดแล้วนะนายหัวคงมาไม่ได้แล้วหล่ะ เพราะเราเห็นมารินโพสต์รูปกำลังทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่ร้านอาหารดังในเมืองเมื่อไม่กี่นาทีนี่เอง กลับกันแม่ปรางค์โทรมาตามแล้ว ป่ะลุก อยากนั่งรถคันใหม่ของเพื่อนจะแย่แล้ว” ใบปอดสงสารเพื่อนไม่ได้แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนจมอยู่กับฝันลมๆแล้งจึงบอกความจริงออกไป
“อือ…กลับกัน” ไออุ่นตอบกลับเพื่อนเสียงเรียบ และทั้งคู่ก็เดินไปยังรถสปอร์ตหรูสีขาวพอขึ้นรถได้ไออุ่นก็ขับออกจากมหาลัยด้วยหัวใจที่ชาชินกับความเจ็บปวดเหมือนทุกๆครั้งที่หวังจะได้เจอหน้าพ่อสักครั้งในชีวิต
ไออุ่นขับรถไปส่งเพื่อนที่บ้านและขอตัวกลับทันทีแต่ไออุ่นไม่ได้กลับบ้าน เธอขับรถตรงไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายสุดท้ายก็มาจบที่ ‘แหลมพรหมเทพ’ เป็นสถานที่หลบภัยของเธอ ไออุ่นค้นพบที่นี่ตอนงานวันเกิดอายุครบ 19 ปี และในวันเกิดหรือวันสำคัญเธอก็จะเลือกมาที่นี่ สถานที่ที่ทำให้เธอสบายใจและอบอุ่นใจทุกครั้งที่เห็นพระอาทิตย์ตก เหมือนพระอาทิตย์กำลังโอบกอดเธอไว้ให้กายหายเหน็บหนาว ทำให้เธอมีกำลังใจลุกขึ้นสู้ในทุกๆครั้งที่ท้อแท้และสิ้นหวังในชีวิต
1 เดือนต่อมา…
“คุณหนูอุ่น นายหัวโทรมาอยากคุยกับคุณหนูค่ะ” แม่นวลแม่นมที่เป็นเพื่อนสนิทของแม่แท้ๆของเธอ ยื่นโทรศัพท์ให้กับคุณหนูที่เธอรักเหมือนลูกแท้ๆด้วยรอยยิ้มแห่งความดีใจที่พ่อลูกจะได้คุยกันในรอบ 22 ปี
“ขอบคุณค่ะแม่นวล” เสียงหวานเอ่ยขอบคุณบุคคลที่เธอรักเหมือนแม่แท้ๆ
“สวัสดีค่ะ หนูไออุ่น…”
“สบายดีนะไออุ่น”
“สบายดีค่ะ นายหัวมีอะไรรึเปล่าคะถึงได้โทรมา” ไออุ่นไม่อ้อมค้อมถามออกไปตรงๆ เพราะอีกครึ่งชั่วโมงเธอมีนัดกับเพื่อนเลี้ยงฉลองเรียนจบที่ผับดังในเมืองภูเก็ต
“พรุ่งนี้เข้ามาที่บ้านใหญ่ 10 โมงเช้า”
“ได้ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วไออุ่นขอวางสายนะคะ สวัสดีค่ะ…ตี๊ด” ไออุ่นไม่รอให้ปลายสายได้ตอบกลับก็ตัดสายวางไปก่อน
หลังจากวันที่ไออุ่นเรียนจบเธอได้บอกกับตัวเองไว้ว่าเธอไม่มีพ่ออยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสนทนากับผู้ชายคนนี้ให้เสียเวลา
“หนูอุ่นทำไมถึงพูดกับคุณพ่อออกไปแบบนั้นล่ะคะ ไม่น่ารักเลยรู้ตัวไหมแม่นวลไม่เคยสอนให้หนูอุ่นทำกิริยาไม่ดีแบบนี้กับคุณพ่อนะคะ” แม่นวลเอ่ยขึ้นเสียงแข็งอย่างไม่ชอบใจ
“แม่นวลไม่โมโหนะคะเดี๋ยวแก่เร็วอุ่นไม่รู้ด้วยนะ จุ๊บ อุ่นไปงานเลี้ยงฉลองเรียนจบกับเพื่อนนะคะ คืนนี้ถ้าอุ่นเมาอาจจะไม่ได้กลับบ้านนะคะ บาย ฟอด” ไออุ่นเข้าไปกอดจูบแม่นมที่รัก ก่อนจะเอ่ยบอกถึงโปรแกรมเที่ยวของวันนี้และรีบซิ่งหนีทันทีเมื่อรู้ว่าแม่นวลต้องบ่นเธออีกแน่
“หนูอุ่น กลับมาเดี๋ยวนี้นะแม่ไม่อนุญาตให้ดื่มเหล้านะ ตัวแสบ ตั้งแต่เรียนจบมานี่เคยฟังกันซะที่ไหน นายหัวก็เหมือนกันไม่รู้อะไรของเขา รักลูกสาวมากแต่กลับไม่มาเจอลูก ได้แต่ดูแลอยู่ห่างๆแล้วลูกจะรู้ไหมว่าพ่อรักและเป็นห่วงลูกสาวคนนี้มาก เฮ้อ!ปวดหัวกับคนรวย” แม่นวลตะโกนตามหลังคุณหนูของเธอแต่ก็ไม่ทัน เพราะได้ยินเสียงรถแล่นออกไปแล้วจึงเดินเข้าบ้านพร้อมกับบ่นพึมพำกับปัญหาโลกแตกของคนรวย
Bigboom ผับ
ผับหรูใจกลางเมืองภูเก็ต หนึ่งในกิจการของนายหัวใหญ่
เคร้ง?? “อ้าว~~ชน~~คืนนี้เรามีเสี่ยเลี้ยงยาวไปๆครับเพื่อนๆไม่เมาไม่เลิก”
ต้นเพื่อนในคลาสเรียนสนิทกันในระดับหนึ่งกับไออุ่น เจ้าชู้ กะหล่อนไปวันๆ แต่นิสัยดีกับเพื่อน แต่ยามเหล้าเข้าปากนิสัยจะเปลี่ยนรึเปล่าอันนี้ไออุ่นก็ไม่ทราบได้ คงต้องรอดูต่อไป
“เสี่ยที่ไหนมาเลี้ยงว่ะต้น” วรุตเพื่อนชายในกลุ่มถามขึ้น
“นายหัวใหญ่เสี่ยของวาวามัน เห็นบอกว่าตอนนี้หลงไอ้วาวามากทั้งรถทั้งบ้านเปย์ให้หมดแถมยังให้เงินใช้เดือนละเป็นแสน”
ต้นพูดขึ้นพร้อมกระดกแก้วเหล้าเพียวๆสายตาจับจ้องไปยังโต๊ะถัดไปที่มีเพื่อนสาวที่เขาพูดถึงกำลังจูบแลกลิ้นกับนายหัวใหญ่อย่างไม่แคร์สายตาคนในผับ
ใบปอเห็นเพื่อนสนิทมองไปที่โต๊ะนั่นอย่างไม่ละสายตาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงกุมมือเพื่อนไว้ไม่ห่างเพื่อปลอบใจ
“ไอไม่เป็นไร ชินแล้วล่ะ ขอบใจปอมากนะที่เป็นห่วงและหวังดีกับไอมาตลอด”
“จ้า ไม่คิดมากเนาะคนเก่งของใบปอ” ว่าพร้อมกับโน้มตัวเข้าไปกอดเพื่อนเพื่อปลอบใจ