“มาช้าจังเลยนะ ยัยหนองโพ ที่บ้านเธอไม่มีนาฬิกาบอกเวลาหรือยังไง”
เสียงทักทายจากผู้ชายหน้าตาหล่อร้ายดังขึ้นทันทีเมื่อฉันกับโบอิ้งเดินเข้ามาที่โซนวีไอพีของ T-CLUB ผับชื่อดัง คนคนนี้ชื่อ ไม้เอก เขาเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกับขุนทัพ มักจะแวะมาที่ร้านชิคเก้นริงบ่อย ๆ โดยส่วนตัวฉันไม่ค่อยสนิทกับเขามากนักหรอก แต่เหมือนโบอิ้งจะสนิทกับเขาพอสมควรถึงได้มีฉายาเรียกกันได้น่ารัก (กัดฟัน) น่าชังขนาดนี้
“มีย่ะ แต่นายคงไม่เข้าใจวิถีคนสวยอย่างฉันหรอก ว่ามันต้องใช้เวลาขนาดไหน”
ฉันกับโบอิ้งนั่งลงฝั่งตรงข้ามขุนทัพและไม้เอก วันนี้พวกเขาหล่อมากเลยแฮะ โดยเฉพาะขุนทัพ ฉันไม่เคยเห็นเขาในลุคเที่ยวแบบนี้มาก่อนเลย พูดเลยว่า SO HOT มาก!
“เข้าใจสิ ทำไมฉันจะไม่เข้าใจเธอ ฉันว่าฉันเข้าใจ และรู้ใจเธอมากที่สุดแล้ว ฮ่า ๆ”
“พอเลย ๆ ทั้งสองคนนั่นแหละ เจอหน้ากันเป็นไม่ได้เลยนะ ต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อยเลย ยิ่งกว่าไม้เบื่อไม้เมาเสียอีก” ฉันบอกปรามทั้งคู่ ไม่รู้ทำไมสองคนนี้ชอบทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้า จะว่าเกลียดก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ถูกชะตากันก็ไม่เชิง
“มึงนี่ก็ชอบแหย่เขานะ ปากมึงจะเลิกหมาสักแป๊บหนึ่งมันจะตายหรือไง” ขุนทัพช่วยเสริมอีกคน ฉันเผลอสบตากับเขาโดยบังเอิญ พอเห็นออร่าความเท่บาดใจของเขา อยู่ ๆ มันก็เขินขึ้นมาเลย
“แหม่ ๆ ไอ้ขุน กูก็แค่แซวยัยหนองโพเฉย ๆ หรอก ไม่เชื่อถามยัยนี่ดูก็ได้ว่าโกรธไหม” ไม้เอกเขยิบตัวเข้ามาใกล้ ๆ และโอบไหล่โบอิ้ง ฉันอ้าปากค้างเลยทีเดียว เพราะปกติยัยตัวแสบไม่ค่อยให้ผู้ชายถึงเนื้อถึงตัวมาก่อน หมอนี่จะต้องไม่ตายดีแน่ ๆ “ว่าไงยัยหนองโพ เธอไม่โกรธฉันหรอกเนาะ”
“อืมมม ไม่โกรธเลย”
ผิดคาดแฮะ… ทำไมโบอิ้งไม่อาละวาดหรือโวยวายอะไรไม้เอกเลยละนั่น… สองคนนี้มีซัมติงอะไรต่อกันหรือเปล่านะ…
“งั้นมาสั่งเครื่องดื่มกันดีกว่าสาว ๆ คืนนี้ดื่มอะไรดี เดี๋ยวฉันสั่งให้” ดูเหมือนขุนทัพจะเห็นว่าฉันกำลังมึนงง เขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องโดยการถามหาเครื่องดื่ม ฉันเลยหันไปหาโบอิ้งเป็นเชิงปรึกษา ปกติไม่ค่อยได้สั่งของมึนเมาพวกนี้อะนะ
“ดื่มอะไรดีอะแก”
“โอ๊ยย ลิลลา ไม่ต้องถามยัยนี่หรอก ยัยนี่กินง่ายอยู่ง่าย แค่สั่งเหล้าขาวกับเสือ 11 ตัวมาให้ก็พอ ยัยหนองโพสุดสวยนี่ไม่เกี่ยงหรอก ยิ่งเป็นยาดองด้วยนะ เมื่อก่อนยัยนี่เป็นพริตตี้ประจำซุ้มยาดองเลย อะ โอ๊ยยย!!” ไม้เอกยังพูดไม่ทันจบก็ต้องร้องลั่นเมื่อถูกมือเล็ก ๆ ของโบอิ้งหยิกเข้าที่ท้อง
“เหรอคะ! คุณไม้เอก ช่างรู้ใจฉันจริง ๆ เลย แต่ทีหลังไม่ต้องค่ะ!”
“โอ๊ย ๆ ยัยโหด ฉันเจ็บแล้วนะ เธออยากกินอะไรก็สั่ง ๆ ไปสักที และเอามือออกจากท้องฉันด้วย ก่อนที่เนื้อมันจะหลุดติดมือเธอ เข้าใจไหมยัยบ้า!”
ฉันนั่งมองสองคนนั้นหยอกกันอย่างตามสถานการณ์ไม่ค่อยทัน เอาจริง ๆ นะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโบอิ้งกับไม้เอกไปสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมยัยเพื่อนตัวแสบไม่เล่าอะไรให้ฉันฟังเลยล่ะเนี่ย
“ของฉันเอาเป็น B52 แล้วกัน” โบอิ้งหันไปสั่งกับขุนทัพ ฉันจึงหันมองตามสายตายัยนั่นก็พบว่าขุนทัพกำลังมองมาที่ฉันอยู่
เอ่อ… เขามองฉันทำไมอ่า
“โอเค แล้วเธอล่ะ” ขุนทัพหันกลับไปพยักหน้ารับให้โบอิ้งก่อนหันกลับมาหาฉันอีกครั้ง เพิ่งสังเกตว่าเรานั่งใกล้กันพอสมควร
“ฉันขอที่มันไม่ค่อยแรงแล้วกัน วันนี้ไม่ค่อยอยากเมาเท่าไหร่”
ปกติฉันไม่ค่อยชอบเที่ยว ไม่ดื่มเหล้า พูดเลยว่าดื่มไม่เป็นด้วยซ้ำ แถมคออ่อนมากอีกต่างหาก ผิดกับโบอิ้งที่พอดื่มได้อยู่บ้างเวลาต้องสังสรรค์กันแบบนี้ ส่วนมากฉันเลยเลือกไม่ดื่มเพื่อคอยดูแลยัยตัวแสบแล้วหิ้วกลับบ้านน่ะนะ
.
.
.
“แกเมามากแล้วนะโบอิ้ง”
เวลาล่วงเลยไปจนดึกพอสมควร เหล่าผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้ายไปตามจังหวะเพลงมัน ๆ ที่เขาว่ายิ่งดึกยิ่งสนุกนี่มันเรื่องจริงสินะ เหมือนฉันกับโบอิ้งตอนนี้ที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกไปมาท่ามกลางฟลอร์และแสงไฟสลัว ผู้คนมากมายเบียดเสียดกันแน่นขนัด โบอิ้งที่ค่อนข้างเมามากกว่าฉันเริ่มยืนไม่ตรงแล้ว
“โอ๊ยยเมาอะไรแก จิ๊บ ๆ แค่นี้เด็ก ๆ หน่า” ยัยตัวแสบโฐกมือปฏิเสธ แต่หน้างี้แดง ตางี้หวานเชื่อมเชียว
“งั้นกลับโต๊ะกันก่อนเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว” ฉันไม่รอคำตอบ รีบลากเพื่อนรักเดินผ่านฝูงชนออกมา รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยจากสายตาล่าเหยื่อของพวกผู้ชายรอบตัวสักเท่าไหร่ โบอิ้งอาจจะไม่ทันสังเกตแต่ฉันน่ะมองคนพวกนั้นตั้งแต่เดินมาเต้นแล้วล่ะ สายตาแต่ละคนน่ากลัว ๆ ทั้งนั้น
“วู้ วู้ มันเป็นบ้าเลยแก นาน ๆ ทีจะออกมาปลดปล่อยแบบนี้” โบอิ้งทิ้งตัวลงที่โซฟาสีดำ ท่าทางเมาหนักกว่าปกติอีกแฮะ ไม่รู้วันนี้เกิดนึกอะไรถึงได้ดื่มเยอะขนาดนี้ แล้วนี่ขุนทัพกับไม้เอกหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เมื่อครู่ยังเห็นนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะนี่นา
“จ้า ๆ เต็มที่จริง ๆ เลยเพื่อนฉัน เอ่อ… งั้นเดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องก่อนนะ” ฉันดึงโบอิ้งให้นั่งตัวตรง แม้ตัวเองก็เริ่มจะมึน ๆ แล้วเช่นกันก็ตาม แต่ฉันยังไหวอยู่ ยังมีสติดีทุกประการนะ และตอนนี้ร่างกายก็ต้องการห้องน้ำมากด้วย
“อ้อ... โอเค เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน”
“ไม่ต้องหรอกแก แกนั่งพักไปเหอะ ฉันไม่ได้เมาน่า แค่นี้ไปเองได้ แกรออยู่นี่นะเดี๋ยวกลับมาแล้วเราค่อยไปแดนซ์กันใหม่” ฉันพูดแกมสั่งยัยเพื่อนรัก คงไม่ไหวถ้าต้องประคองยัยขี้เมานี่ไปเข้าห้องน้ำด้วยอะนะ ฉันไปคนเดียวน่าจะเร็วกว่าเยอะเลย
ฉันเดินออกมาจากโต๊ะโดยหันมองโบอิ้งเป็นระยะ ๆ ห่วงเพื่อนก็ห่วง ปวดฉิ้งฉ่องก็ปวด โอ๊ยลิลลลา! ฉันอยากจะบ้า ทำไมเวลาดื่มเหล้าแล้วต้องปวดฉิ้งฉ่องบ่อย ๆ ด้วยนะ ห่วงยัยตัวแสบชะมัด ไม่อยากปล่อยให้นั่งคนเดียวเลย
รอฉันก่อนนะเพื่อนรัก… ฉันจะรีบกลับไปหาแกโดยเร็วที่สุดเลยนะ ฮือออ!