บ้านเดริตโต้
ฉันเดินตามหลังโบอิ้งเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ บ้านอันแสนอบอุ่นที่มากี่ครั้งฉันก็รู้สึกดีกลับไปเสมอ ฉันเติบโตขึ้นมาด้วยการหาเลี้ยงตัวเองและน้องชาย ขาดความรักความอบอุ่นที่เรียกว่าครอบครัวไปนานจนจำไม่ได้แล้วว่ามันรู้สึกยังไง ตั้งแต่แม่เสียไป พ่อก็เริ่มทำตัวเหลวไหล ท่านเสียใจกับการจากไปของแม่ วัน ๆ ดื่มแต่เหล้าแล้วก็เมาหลับไป ไม่ได้ทำงานอะไรสักอย่าง
จนกระทั่งเมื่อหนึ่งปีก่อนที่ท่านหายตัวไป ตอนแรกฉันก็เป็นห่วงออกตามหาท่านนะ แต่ป้าแถวบ้านมาบอกว่าไปเจอพ่อของฉันอยู่ที่วัด ๆ หนึ่ง ฉันก็เลยไปหาแล้วก็พบว่าท่านขอพักอยู่ที่นั่นเพื่อถือศีลหวังพึ่งพาธรรมะบำบัด เพราะไม่อยากกลับมาเจอภาพความทรงจำเก่า ๆ ที่บ้านอีก ฉันก็เลยตามใจท่านน่ะ
“คุณลุงกับคุณป้าไม่อยู่เหรอ”
“อ้อ ป๊ากับม้าไปฮันนีมูนรอบที่ร้อยสิบหกแล้วอ่ะ” ฉันอ้าปากค้างเมื่อโบอิ้งหันมาตอบด้วยสีหน้าขำ ๆ เราสองคนเดินมาถึงห้องนั่งเล่นของบ้าน ฉันชินกับทุกห้องในบ้านหลังนี้แล้วนะ ยกเว้นอยู่ห้องเดียวน่ะที่ยังไม่เคยเข้าไป…
“เอ่อ… แล้วเฮียแกล่ะ”
“เหอะ! รายนั้นน่ะยังไม่กลับอีกตามเคย พอป๊าม้าไม่อยู่ หมาป่าก็เริงร่าเลยไง”
ขนม นม เนย ที่พวกเราแวะซื้อกันจากซูเปอร์มาร์เก็ตหน้าปากซอยถูกวางลงบนโต๊ะ ฉันจัดการรวบของทั้งหมดขึ้นมาถืออีกครั้งเพื่อจะนำไปจัดใส่จาน อย่างที่บอกว่าฉันรู้จักบ้านหลังนี้ดี แค่ห้องครัวน่ะ เดินไปสบายมาก
“แกขึ้นไปอาบน้ำแล้วเปิดหนังรอเลยก็ได้นะโบ เดี๋ยวฉันจัดการขนมพวกนี้เสร็จแล้วจะตามขึ้นไป”
“เฮ้ยไม่เอา ช่วยกันทำดิ แล้วขึ้นไปพร้อมกัน”
“เออน่า แกไปอาบก่อนเลย ฉันขี้เกียจขึ้นไปนั่งรอคุณหนูโบอิ้งอาบน้ำเป็นชั่วโมง ๆ เข้าใจนะ?” ฉันแย่งถุงขนมคืนมาก่อนจะส่งสายตาเอือม ๆ ให้มัน โบอิ้งทำแก้มป่องเล็กน้อยเพราะเถียงไม่ออกเรื่องที่ตัวเองเป็นผู้หญิงที่อาบน้ำนานที่สุดในสามโลก
“ก็ได้ ๆ แล้วรีบตามขึ้นไปล่ะ”
“โอเค”
.
.
.
สิบห้านาทีผ่านไป
“อื้อ… อ๊า…”
ฉันชะงักมือที่กำลังจัดขนมใส่จานเล็กน้อยเมื่อจู่ ๆ ได้ยินเสียงของใครคนหนึ่งลอยมาจากห้องรับแขก มันเป็นเสียงแหบพร่าของผู้หญิงที่ฟังแล้วเรียกเลือดลมฉันได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ เสียงของใครกันเนี่ย!
ฉันค่อย ๆ ย่องจากห้องครัวมาตรงห้องนั่งเล่นด้วยความอยากรู้อยากเห็นสุดพลัง ไม่ใช่อะไรหรอก ก็แค่สงสัยว่าโบอิ้งมันแอบมาเปิดหนังอีโรติกแถวนี้หรือเปล่าน่ะ ก็ไหนตอนแรกมันบอกว่าจะขึ้นไปเปิดดูบนห้องยังไงล่ะ แล้วทำไมถึงมีเสียงแบบนั้นเล็ดลอดมาจากห้องนั่งเล่นได้ล่ะ
เมื่อย่องมาจนถึงบริเวณห้องนั่งเล่นแล้ว ภาพเงาดำ ๆ ของชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่บนโซฟาที่ฉันกับโบอิ้งเคยนั่งก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้น และนั่นก็ทำให้ฉันถึงกับยืนช็อกไปเลย
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย! ตอนแรกฉันตั้งใจจะมาดูหนังอีโรติกนะ ไม่ได้จะมายืนดูหนังสดอะไรแบบนี้สักหน่อย!
“อื้ม… บัสคะ… เร็ว ๆ สิคะ… ฉันรอไม่ไหวแล้วนะ”
“ใจเย็น ๆ น่า… เดี๋ยวจะจัดให้หมดแรงเลย” ผู้ชายร่างสูงที่กำลังคร่อมทับเธอคนนั้นดึงตัวขึ้นสูงจนโผล่พ้นจากพนักโซฟาขึ้นมา สิ่งแรกที่ฉันเห็นก็คือผมสีดำและดวงตาเจ้าเล่ห์แพรวพราวของเขา ซึ่งมันทำให้ฉันจำเขาได้ในทันทีเลย
“ฮะ… เฮียแอร์บัส”
“ฮะ… เฮ้ยยย!!”
“กรี๊ดด!”
ตุบ!!
ฉันยืนนิ่งกะพริบตาปริบ ๆ หลังจากเปล่งเสียงเรียกชื่อเขาคนนั้นออกไปด้วยความลืมตัว ซึ่งเขาได้ยินมันเต็มสองหูแถมยังเงยหน้าขึ้นมองกันอีกต่างหาก ทันทีที่เราสองคนสบตากัน เขาก็ร้องลั่นพร้อมกับเด้งตัวขึ้นด้วยความรวดเร็ว ส่งผลให้เธอคนนั้นกลิ้งตกโซฟาไป ฉันยืนมองภาพเหล่านั้นด้วยความรู้สึกร้อนเห่อใบหน้าแปลก ๆ ยิ่งได้เห็นซิคแพคอันแข็งแกร่งของแอร์บัสโผล่พ้นเสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมจนหมด ฉันก็ยิ่งเขินหนักมาก!
ให้ตายสิลิลลา ทำไมจู่ ๆ ถึงรู้สึกเหมือนเลือดกำเดาจะไหลแบบนี้ล่ะ!
“ละ… ลิล… ลิลลา”
“...”
“เธอมาทำอะไรที่นี่?”
ฉันประมวลผลตัวเองหลายวินาทีก่อนจะเลื่อนสายตาลงมองผู้หญิงอีกคนที่ลุกขึ้นมายืนด้านข้างแอร์บัสเรียบร้อยแล้ว เสื้อผ้าหลุดลุ่ยเปิดเผยเนื้อหนังมังสาของเธอนั้นเรียกความร้อนบนใบหน้าฉันขึ้นมาอีกรอบ
น่าอายจริง ๆ เลย… เธอไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือไงกัน! นี่ฉันอายแทนเธอแล้วนะ!
“ใครเหรอคะบัส น้องสาวนายเหรอ?” เธอคนนั้นจีบปากจีบคอถาม สีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
“เอ่อ… ใช่ น้องสาวฉันเอง” แอร์บัสลูบหน้าลูบตาตัวเองราวกับกำลังเรียกสติ ส่วนฉันยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนไปไหน มันก้าวเท้าไม่ออกน่ะ หัวใจยังเต้นตึกตัก ๆ อยู่เลย อยู่ดี ๆ ได้ดูหนังสด เป็นใครจะไม่ตื่นเต้นบ้างล่ะ
“อ้อ ก็ว่าอยู่ ถ้างั้นเราไปต่อกันบนห้องนายไหม?”
“ไม่ เธอกลับไปก่อนนะมิกะ”
“เอ๊ะ แต่ว่า…”
“ฉันไม่ได้อยากจะพาเธอมาที่บ้านตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะ เอาไว้เราค่อยไปต่อกันที่อื่นโอเคไหม?”
“ก็ได้ ถ้างั้นฉันกลับก่อนนะ แล้วโทรหาฉันด้วยล่ะ”
เธอคนนั้นเขย่งจุ๊บแก้มแอร์บัสต่อหน้าต่อตาฉันอย่างไม่รู้จักอาย ก่อนจะหยิบกระเป๋าถือแล้วเดินเชิดออกไป ฉันมองตามเธอจนลับสายตาแล้วดึงสายตากลับมามองผู้ชายร่างสูงที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยตรงหน้า แอร์บัสเหลือบมองฉันนิด ๆ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งฉันก็ยืนรอให้เขาพูดเกือบนาทีแต่ก็ยังไม่ยอมปริปาก
เอ่อ… ถ้างั้นฉันไม่รอแล้วนะ มันเหมื่อยอ่ะ!
“เฮ้ย! เดี๋ยวสิ!”