INTRO
อังกฤษ
" ผมยินดีซื้อที่นั่นเอาไว้เอง เท่าไหร่ผมทุ่มไม่อั้น ขอแค่เอ่ยมา"
"มูลค่าและราคาผมไม่สามารถประเมินได้จริงๆ ผมไม่ขอรับเป็นเงินได้มั้ย " มาเฟียหนุ่มในวัยยี่สิบเศษลากเก้าอี้ปลายเตียงเข้ามานั่งแนบชิดติดกับเตียงผู้ป่าย เห็นทีว่าจะต้องใช้เวลาคุยนานพอควร อีกอย่างคนตรงหน้าก็ดูไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรงเพราะอาการป่วยที่ทรุดลงเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าเลยว่าจะดีขึ้นหรือฟื้นตัวขึ้นเลย เพราะเหตุนี้เขาจึงต้องรีบแจ้นมาที่โรงพยาบาลเพื่อคุยธุระสำคัญ ชัชวาล เป็นลูกน้องอาวุโสคนนึงที่เขานับถือ งานทุกอย่างต้องผ่านการตรวจสอบจากชัชวาลก่อนทุกครั้ง ไม่เคยมีเรื่องทุจริตเกิดขึ้นกับธุรกิจของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างเขาไว้วางใจผู้ชายคนนี้ได้ แม้แต่เรื่องถือเงิน เอกสารแบงค์ต่างๆ มันเป็นความซื่อสัตย์ที่ทำให้เขายอมรับนับถือ
"ได้สิ ขอแค่เอ่ยมา " ออสตินตั้งใจฟังอย่างจดจ่อขอแค่เอ่ยปากมา เขาสามารถทำให้ได้ทุกอย่าง ชัชวาลป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก อาการเกินเยียวยาจนถึงวาระสุดท้าย เขาหาหมอที่เก่งที่สุดและดีที่สุดเพื่อมารักษาและยื้อชีวิตลูกน้องที่แสนซื่อสัตย์คนนี้เอาไว้ แต่ก็เกินเยียวยา ถึงเวลาของเขาแล้ว คำสั่งเสียสุดท้ายจึงมีค่าสำหรับเขามากที่สุดในตอนนี้ อะไรที่สามารถตอบแทนความซื่อสัตย์ลูกน้องคนนี้ได้เขาก็จะทำให้อย่างเต็มที่ ให้สมกับความภักดีที่เขาได้รับจากลูกคนนี้เสมอมา
"นาย เมียผม ลูกสาวผม เธออยู่ที่นั่น รับปากผมได้มั้ยว่าจะดูแลพวกเขา ไร่ร้อยรักจะเป็นของนาย แต่ผมขออย่างเดียว ฝากพวกเขาด้วย ณดายังเล็ก ส่วนปราณีก็ไม่ค่อยรู้เรื่องระบบงานในไร่ พี่ชายของเธอจ้องจะแต่จะเอาไร่ร้อยรักมาเป็นของตัวเอง ผมเป็นห่วงลูกกับเมียมาก เกรงว่าถ้าผมตายไป ไร่ร้อยรักจะตกไปเป็นของคนอื่นที่ไม่เห็นค่า นาย รับปากผมได้มั้ยครับ ผมคงอยู่ได้อีกไม่นาน ถ้าอยู่ในมือนายผมก็ตายตาหลับ " ชัชวาลเอ่ยคำสั่งเสียพร้อมกับหยาดน้ำตา สิ่งเดียวที่เขาเป็นกังวลในตอนนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องครอบครัว เพราะพี่ชายของเมียหวังฮุบสมบัติของตน ตนรู้มาตลอดแต่เพราะไม่อยากเอ่ยปากให้ภรรยาต้องทุกข์ใจก็เลยปล่อยเลยตามเลย ถึงแม้ว่าตัวจะทำงานอยู่ไกลถึงอังกฤษแต่เพราะความตั้งใจและความซื่อสัตย์จึงทำให้ชัชวาลขยันเก็บเงินซื้อที่ดิน เก็บเล็กผสมน้อยจนกลายเป็นที่ผืนใหญ่นับพันไร่ ทำเกษตรแบบผสมผสาน ทั้งเลี้ยงสัตว์และปลูกพืช กลายเป็นไร่ขนาดใหญ่สร้างอาชีพให้คนท้องถิ่นได้มีงานทำ ส่วนตนก็ยังทำงานรับใช้เจ้านายคอยสอดส่องการทำงานของไร่อยู่ตลอดเวลา
"ฉันรับปาก ไม่ต้องห่วง ทั้งเมียและลูกของนายฉันจะดูแลเป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วงเรื่องไร่ร้อยรัก อยู่ในมือฉันแล้วรับรองว่าปลอดภัย "
"ขอบคุณมากครับนาย ขอบคุณครับ " คำขอของชัชวาลเป็นไปตามที่เจ้าตัวคาดหวัง เขาไม่ต้องการเงิน ที่ดินมูลค่าหลายสิบล้านเผลอๆ อนาคตอาจจะเป็นร้อยล้านมันไม่มีค่าเท่ากับความเป็นอยู่ที่สุขสบายของลูกกับเมียเลยสักนิด ทำงานมาค่อนชีวิตก็เพื่อภรรยาและลูกสาววัยกำลังน่ารัก เขาไม่เคยเสียดายถ้าไร่ร้อยรักจะตกไปเป็นของเจ้านายคนนี้ ออสตินในวัยยี่สิบเศษมีธุรกิจมากมาย เติบโตจนแข็งแกร่งด้วยตัวของเขาเอง ที่สำคัญเจ้านายของเขาเป็นคนพูดจริงทำจริงรักษาคำพูด หากรับปากแล้วไม่มีทางคืนคำแน่นอน เหตุผลนี้ที่ทำให้เขาเลือกเจ้านายหนุ่มมากกว่าญาติพี่น้องฝั่งภรรยาให้ดูแลไร่ร้อยรัก เวลาของเขาคงเหลืออีกไม่มาก
"อยากเจอลูกสาวกับเมียหรือป่าว ฉันจะให้คนไปรับ "
"คงไม่ทันแล้วครับนาย ฝากบอกเขาด้วยว่า ผมรักเขาทั้งสองคนมาก ให้เขาดูแลณดาให้ดี แค่นี่ล่ะครับ " สัญญาณชีพจรเต้นลงต่ำเรื่อยๆ สิ่งที่เขาห่วงที่สุดได้รับการปลดปล่อยเป็นที่เรียบร้อย ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปแล้วสักที นอนตายตาหลับอย่างสบายใจ ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ หลับลงอย่างช้าๆ ไม่นานเสียงชีพจรก็ดังเป็นเสียงลากยาว ออสตินยื่นมือมาแตะที่แขนของลูกน้องเบาๆ เป็นเชิงร่ำลาและตอกย้ำคำพูดที่เขาได้ลั่นเอาไว้ ถึงแม้ร่างตรงหน้าจะสิ้นลมหายใจไปแล้ว
"ฉันสัญญาว่าจะดูแลทั้งสองคนให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วง " ไม่นานก็มีทั้งหมอและพยาบาลเปิดประตูเข้ามาเช็ดอาการของผู้ป่วยที่เพิ่งนอนแน่นิ่งไป ผู้ป่วยรู้ชะตากรรมของตัวเองว่ายังไงก็ต้องไป จึงเลือกให้ทางโรงพยาบาลโทรบอกเจ้านายหนุ่มเดินทางมาพบอย่างด่วนที่สุด
"เวลาเสียชีวิต สิบห้านาฬิกา เก้านาที" แพทย์ใหญ่ลั่นเวลาเสียชีวิตหลังจากที่เช็คระบบทุกอย่างของร่างกายคนไข้แล้วว่าชีพจรหยุดเต้นแน่นิ่ง ทุกอย่างในร่างกายล้มเหลว
" จัดการเรื่องศพให้เรียบร้อย เตรียมคนของเราไปร่วมงานศพ จัดการเรื่องโรงแรมให้ฉันด้วย"
"ครับนาย " เรื่องงานศพและพิธีต่างๆ ออสตินจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด ทั้งการเดินทางไปที่ไร่ร้อยรักเพื่อไปร่วมงงานในครั้งนี้ด้วย ส่วนเรื่องเอกสารและการโอนกรรมสิทธิ์ของไร่ร้อยรัก ชัชวาลได้จัดการไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ ออสตินมีสิทธิ์บนที่พื้นนั้นทั้งหมด ไร่ร้อยรักเป็นของเขาโดยชอบธรรมและสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็น
.................................
ไร่ร้อยรัก
"ฮึก ค่ะ ฮึก ฮื่ออออ "
"แม่ณีจ๋า แม่ณีเป็นอะไรคะ แม่ณีร้องไห้ทำไม " ปราณีร่ำไห้ปานจะขาดใจเมื่อได้รับสายจากทางไกลว่าสามีที่รักเสียชีวิตลงอย่างสงบที่โรงพยาบาล ตอนนี้ศพกำลังเดินทางมาที่ไร่แห่งนี้ ความไร้เดียงสาของสาวน้อยวัยสามขวบเศษยิ่งทำให้ปราณีพูดไม่ออกได้แต่ร่ำไห้หนักกว่าเดิมพร้อมกับดึงลูกน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด เธอรู้สึกเคว้งคว้างและโดดเดี่ยวทำอะไรไม่ถูกนอกจากร้องได้กอดลูกไว้แบบนั้น มานพเมื่อได้ยินว่าน้องเขยเสียชีวิตแล้ว รอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด โอกาสของเขามาถึงแล้ว ไร่ร้อยรักต้องตกมาเป็นของเขา
"ฮึก ฮื่ออออ "
"แม่ณี ไม่ร้องนะคะ โอ๋ๆ ๆ ๆ " ณดาน้อยโอบกอดร่างมารดาที่เอาแต่สะอื้นไห้ไว้ในอ้อมกอดน้อยๆ ความไร้เดียงสาของลูกสาวที่ไม่รู้เลยว่าเวลานี้เราสองคนขาดเสาหลักของครอบครัวไปอย่างไม่มีวันกลับ ปราณีมองไม่เห็นหนทางข้างหน้าเลยว่าอนาคตของไร่ร้อยรักจะเป็นเช่นไร ลำพังแค่เธอเพียงคนเดียวคงไม่มีปัญญาจัดการกับงานทุกอย่างได้ ณดาน้อยก็ยังเล็ก เธอไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปเลยจริงๆ
"แม่ณีคิดถึงคุณพ่อหรอคะ เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมาหาเราแล้วนะคะ "
"ใช่จ่ะ ฮึก เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมา กลับมาอยู่กับเรา ตลอดไป " ไม่ว่าหนทางจะเป็นเช่นไรเธอจะดูแลลูกสาวตัวน้อยคนนี้ให้ดีที่สุด ชัชวาลรักณดามาก ปราณีไม่สามารถมีลูกได้อีกเพราะความอ่อนแอของร่างกาย ณดาจึงกลายเป็นลูกสุดที่รัก และเป็นลูกคนเดียวที่ชัชวาลหวงแหนที่สุด
"เย่ ตลอดไป แสดงว่าคุณพ่อจะไม่กลับไปทำงานที่อื่นอีกแล้วใช่มั้ยคะ"
"ไม่ไปแล้วจ่ะ ฮึก"
"ถ้าอย่างนั้นแม่ณีก็ต้องเลิกร้องไห้นะคะ เดี๋ยวเวลาคุณพ่อกลับมาจะไม่สวย"
"จ่ะ แม่จะไม่ร้องจ่ะ คนดีของแม่ " ถ้าวันใดที่ณดารู้ว่าคุณพ่อไปสวรรค์แล้ว ลูกจะรู้สึกยังไง
...................................
ข่าวการเสียชีวิตของชัชวาลแพร่กระจายไปจนทั่วไร่ คนงานต่างพากันมารอรับศพอยู่ที่เรือนหลังใหญ่ บางคนก็ร่ำไห้สะอึกสะอื้นเพราะเสียใจกับการด่วนจากไปแบบกระทันหัน บางคนก็เข้ามากอดปลอบปราณีที่ยืนหน้าเศร้าอยู่กับคุณหนูตัวเล็ก เด็กน้อยไร้เดียงสาต้องมากำพร้าพ่อ ทั้งๆ ที่วัยกำลังน่ารัก ชัชวาลเป็นที่รักของคนงานแทบทุกคน การกลับมาของชัชวาลทุกครั้งจะมีคนงานมาคอยต้อนรับเสมอ เพราะความเป็นกันเองไม่ถือเนื้อถือตัวจึงทำให้คนงานรัก ถึงแม้ว่าชัชวาลจะต้องไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองไทยกับอังกฤษ แต่เขาก็ไม่เคยบ่นเหนื่อยแวะเทียวมาดูธุรกิจในไร่อยู่ประจำ
"แม่ณี เสียใจด้วยนะ แล้วนี่จะบอกหนูณดาว่ายังไง "
"ยังไม่รู้เลย ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยตอนนี้" บุญสมหนึ่งในคนงานในไร่เดินเข้ามานั่งคุยเป็นเพื่อนกับปราณีในขณะที่รอรับศพ สายตาที่มองไปยังคุณหนูตัวเล็กเต็มเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูและสงสาร แววตาไร้เดียงสาไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ก็ทำให้เธออดน้ำตาคลอไม่ได้
"แล้วเจ้านายทางนู้นเขาว่ายังไงล่ะ"
"เขาบอกจะเป็นเจ้าภาพจัดงานให้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเขาจะเป็นคนออกให้ ทางเราแค่เตรียมสถานที่ไว้เท่านั้น "
"โชคดีนะแม่ณีที่พ่อชัชได้เจ้านายดี "
"พี่ชัชทำงานกับเจ้านายคนนี้มานาน เขาใจดีมาก ชอบซื้อขนมส่งมาให้ณดาประจำ "
"แล้วนี่ พี่นพไปไหนล่ะ ทำไมไม่มาอยู่กับแม่ณี" ปราณีกวาดสายตาไปตามกลุ่มคนงานเพื่อมองหามานพพี่ชายคนเดียวของเธอ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา
"สงสัยไปเกณฑ์คนงานมาเพิ่ม "
"แม่ณี คุณพ่อมาแล้วค่ะ รถคันนั้นณดาจำได้ "