ผมเข้าบริษัทก่อนเวลางานหลายชั่วโมง ตื่นตั้งแต่ตีสี่มาถึงบริษัทหกโมงครึ่งเช้าขนาดนี้มีแค่ยามที่ยืนต้อนรับ เวลานี้คงยังไม่มีใครมาทำงานนอกจากแม่บ้าน
"ซื้อมาฝากอีกแล้ว"
"ร้อน ๆ เลย วันนี้มีปาท่องโก๋ด้วยนะ"
"แต่งตัวสวยจะไม่อยู่กับป้าแล้วใช่มั้ย" ผมหยุดเดินได้ยินน้ำเสียงคุ้นหูจนต้องหยุดฟัง เช้าขนาดนี้รีบมาทำไม
"โบต้องทำงานให้พี่เกื้อค่ะ สัญญาว่าจะมาแต่เช้าแล้วซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาฝากป้าแดงทุกวัน" ผมเผลอยิ้ม ยายนี่จิตใจดีตลอด แบบนี้จะให้ลืมได้ยังไง
"ลำบากแย่ งานเลขามันเหนื่อยนะป้าเห็นไอ้มิ้นหัวฟูกลับบ้านทุกวัน บางวันดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังนั่งทำงานอยู่เลย" ป้าแม่บ้านนี่ก็พูดเกิน แต่ก็จริงแต่คงไม่ถึงขนาดนั้น
"โบอยากช่วยพี่เกื้อบ้างค่ะ เหนื่อยแค่ไหนโบก็จะสู้ เหมือนป้าแดงไง" นั่นสิ ยิ่งได้ฟังก็ทำให้มีกำลังใจ ผู้หญิงคนนี้มีพลังบวกในตัวเยอะมากจริง ๆ ผ่านเรื่องร้ายความลำบากมาตั้งมากยังมีพลังเหลือช่วยฮีลคนอื่นอีก
"ป้าน่ะยังไม่รู้เลยว่าจะมีแรงทำงานได้อีกนานแค่ไหน เกรงใจทุกคนเหมือนกัน "
"ป้าแดงต้องสู้นะ อย่างน้อยก็มีโบเป็นกำลังใจให้ไง" ผมไม่รู้หรอกว่าป้าแม่บ้านคนนี้มีปัญหาอะไรและผมก็ยังยืนฟังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
"มันก็ต้องสู้แหละนะ ป้าทำน้ำพริกมาเผื่อเอาไปกินสิ"
"จริงเหรอคะ อยากกินอยู่พอดี" ความสัมพันธ์ต่างวัย ผมมองเห็นความนอบน้อมและน่ารักในตัวเธอ เพราะแบบนี้ไง ทำตัวแบบนี้จะไม่ให้คนอยู่ใกล้เอ็นดูได้ยังไง
"อ่ะ ป้าทำใส่กล่องมาให้"
"ขอบคุณค่ะ จะกินให้หมดเลย" ผมเดินออกจากตรงนั้นแล้วกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเอง ช่วงสายพี่ดาเข้ามาแจ้งว่าเลขาผมอาการไม่ดีขึ้นเลย
"โดนผู้ชายเทมาด้วยค่ะพี่ไปเยี่ยมก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนคนเมาตลอดเวลา บอกแล้วว่าไอ้นี่มันไม่ดีก็ยังไม่เชื่อฟัง" ผมนั่งฟังพี่ดาสาธยายเรื่องเลขาที่เดินตกท่อขาหัก สรุปสั้นๆ คือผู้ชายทิ้งเมาแล้วเจ็บตัว
"หาคนใหม่ให้ผม"
"มันไม่ง่ายน่ะสิคะ" สีหน้าของพี่ดาไม่ค่อยสู้ดีนัก ผมรู้ว่ามันกะทันหัน เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ในเมื่อมันเกิดแล้วก็ต้องแก้ปัญหา มัวโทษนั่นโทษนี่งานคงไม่เดิน
"ใช่ครับ ถ้าไม่มีเลขาแล้วงานผมจะเป็นระเบียบได้ยังไง ตารางงาน เอกสารผมไม่เละหมดเหรอครับ"
"พี่ขอเวลาหนึ่งอาทิตย์"
"ถ้าได้วันนี้เลยจะดีมากครับ" ทำงานเหมือนคนร้อนวิชานั่นแหละผม วันนี้ผมต้องได้จับงาน ได้เห็นหน้าเลขา
"คุณพอร์ช พี่จะไปหาจากไหนคะ"
"ขออนุญาตค่ะ" เสียงเล็กนั่นทำให้ผมกับพี่ดามองไปที่ประตู
"น้องโบเหรอลูก กาแฟใช่มั้ย เข้ามาได้เลยค่ะ" เจ้าของชื่อเดินถือถาดที่มีแก้วกาแฟหอมกรุ่นเดินเข้ามาในห้อง เธอก้มหน้าไม่ยอมสบตาผม
"วางตรงไหนคะ"
"บนโต๊ะฉันสิ ของผมใช่มั้ยครับพี่ดา"
"ใช่ค่ะๆ ไปวางบนโต๊ะคุณพอร์ชเลย" เธอพยักหน้าแล้วเดินมาที่ข้างโต๊ะแล้วยกแก้วกาแฟวางลงเบา ๆ
"ชงเองหรือเปล่า"
"ค่ะ"
"ผมอยากได้น้องของพี่ดาเป็นเลขา" พี่ดาอ้าปากค้าง ในห้องตกอยู่ในความเงียบจนผมเริ่มพูดต่อ " งานพี่เกื้อคงเบาลงแล้ว ได้ข่าวว่าจะลาพักร้อนพาน้องพายไปเที่ยว เลขาพี่เกื้อคงว่างงานผมขอยืมก่อนได้มั้ยครับพี่ดา" พี่ดาอีกอัก เธอเองก็พูดไม่ออก ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้ดี ถ้าอยากทำงานเป็นและเก่งเร็วๆ ก็ต้องมาอยู่กับผมนี่แหละ
"น้องโบ ไหวมั้ยลูก"
"เอ่อ พี่เกื้อลาพักร้อนจริงๆ เหรอคะ โบขอถามพี่เกื้อก่อนได้มั้ยคะ"
"ถ้าไม่ได้เลขาภายในวันนี้ผมคงพิจารณาตำแหน่งพี่ดาใหม่นะครับ" ผมไม่ได้ใจร้าย นี่มันคือการทำงาน พี่ดาคือหัวหน้าฝ่ายบุคคลและยังต้องรับผิดชอบงานสำคัญอีกหลายอย่าง ผมเสนอทางออกให้แล้วนี่ไง จะรับหรือไม่รับอันนี้ก็แล้วแต่
"เอ่อ ขอเวลาสักสิบนาทีนะคะ พี่ขอเคลียร์กับน้องโบแป๊บนึง" ผมพยักหน้าแล้วผายมือเชิญ
10 นาทีผ่านไป
"ว่าไงครับ"
"พี่สั่งให้คนมาขนของยายมิ้นออกแล้วค่ะ กำลังเปลี่ยนโต๊ะให้ใหม่ด้วย" ผมกระตุกยิ้มพอใจ
"ยกเข้ามาไว้ในห้องผมเลยครับ เลขาใหม่คงยังไม่ค่อยรู้เรื่อง"
ฉันได้ยินคำสั่งทั้งหมดแล้ว เมื่อกี้ก็เพิ่งโทรหาพี่เกื้อ เรื่องลาพักร้อนเป็นเรื่องจริงถือว่าดีมาก ๆ พี่เกื้อจะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว น้องพายคงมีความสุข ส่วนงานเลขาฉันตกลงยอมรับข้อเสนอ ไม่อยากให้พี่ดาเดือดร้อนอีกนั่นแหละ
"ไม่ต้องกลัวนะ ตั้งใจทำงานให้เต็มที่" พี่ดาเดินเข้ามาจับไหล่ฉันแล้วพยักหน้าให้กำลังใจ
"ค่ะพี่ดา"
เสร็จเรื่องฉันก็เดินเข้ามาในห้องท่านประธาน เขานั่งก้มหน้าอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะ หน้าเครียดเชียว
"โบ"
"คะ"
"มานี่หน่อย" ฉันรีบเดินไปหาเขาทันที ยังทำตัวไม่ถูกด้วยว่าต้องเริ่มต้นตรงไหน
"มีอะไรคะ"
"รู้จักเลขาที่ขาหักมั้ย" ฉันพยักหน้า กับพี่มิ้นไม่ถึงกับสนิทมากแต่ก็คุยกันบ่อย ฉันยังไม่ได้ไปเยี่ยมพี่มิ้นที่โรงพยาบาลเลยได้ยินพี่ดาพูดถึงแล้วก็สงสาร อยากรู้จังว่าผู้ชายคนไหนที่ทิ้งพี่มิ้นไป
"คุณมีอะไรจะถามเกี่ยวกับพี่มิ้นเหรอคะ"
"แล้วหัวหน้าฝ่ายบัญชีล่ะ รู้จักมั้ย" ฉันเม้มปากแล้วใช้ความคิด เคยเห็นผ่าน ๆ แต่ก็จำชื่อไม่ค่อยได้
"ไม่รู้จักค่ะแต่ก็เคยเห็น"
"อืม ไม่มีอะไรแล้ว ออ ฉันหาหอใหม่ให้เธอได้แล้วนะ ห้องพักบริษัทเต็ม"
"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันนึกว่าเขาลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ห้องพักบริษัทเต็มก็จบตรงนั้นไม่ต้องหาห้องใหม่ให้ฉันก็ได้
"เธอไม่เคยดูข่าวข่มขืนแล้วฆ่าหรือไง น่ากลัวจะตายไป เป็นเลขาฉันแล้วต้องมีชีวิตที่ดีไม่ใช่อยู่ที่น่ากลัวแบบนั้น" ที่แบบนั้นไม่ดีตรงไหน ฉันก็อยู่มาได้หลายเดือนแล้วไม่เห็นมีอะไรเลยนอกจาก ถูกขี้เหล้าแซวตอนเดินเข้าซอย แล้วก็เคยโดยกระชากกระเป๋าครั้งหนึ่งแต่ก็ได้คืนเพราะตำรวจขับรถผ่านมาพอดี
"ถ้าแพง ฉันไม่อยู่นะ"
"ถ้าไม่อยากจ่ายแพงก็มาอยู่กับฉันสิ"
"นี่คุณ"
"พูดเล่น แล้วนี่รับงานพิเศษอยู่หรือเปล่า" งานพิเศษ คงรู้มาจากพี่เกื้อหรือไม่ก็ป้าวจี
"รับค่ะ"
"ทำอะไรได้บ้าง"
"ทุกอย่างยกเว้นขายตัวค่ะ" ฉันตอบตามความจริง
"ฉันเพิ่งซื้อคอนโดใหม่ไม่ไกลจากบริษัท อยากได้แม่บ้านเห็นว่าเป็นงานที่เธอเคยทำฉันจะจ้าง สนมั้ย"
"ฉันรับงานสอนพิเศษน้องพายกับพี่พิมเอาไว้ เกรงว่าคงไม่ได้ค่ะ"
"ฉันจะรับน้องพายมาอยู่ด้วยช่วงเย็น แบบนี้ได้มั้ย" เขาจะให้ฉันรับงานให้ได้เลยใช่มั้ย "ว่าไง เงินดีนะ" ฉันไม่ได้งกถึงขนาดต้องรับสองงานซ้อนแต่ถ้าเงินดีก็น่าสนฉันจะได้ไม่ต้องรบกวนเงินค่าเทอมจากพี่เกื้อ
"ขอลองก่อนได้มั้ยคะ"
"ได้สิ ได้แน่นอน เริ่มงานเย็นนี้เลยนะ"
"ก็ได้ค่ะ ว่าแต่คอนโคคุณชื่ออะไรคะ"
"กลับพร้อมกัน" ยังไม่ทันได้อ้าปากเขาก็ชี้กองเอกสารตรงหน้าแล้วสั่งให้ฉันเอาไปเก็บ ฉันมีหน้าที่ทำตามเพราะต้องเรียนรู้งานจากเขา มีที่ไหนประธานบริษัทต้องมาสอนงานเลขา
ช่วงบ่ายหลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จฉันก็เข้ามาเตรียมกาแฟแล้วก็ของว่างให้ท่านประธาน เป็นหน้าที่ประจำที่ฉันเห็นพี่มิ้นทำบ่อย ๆ พอเตรียมเสร็จฉันก็ยกถาดออกมา
"อุ๊ย ขอโทษค่ะ" ฉันเกือบชนคน ต้องรีบก้มหัวขอโทษเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร ฝ่ายบริหารหรือเปล่า ซุ่มซ่ามอีกแล้ว
"ไม่เป็นไรครับ เป็นอะไรหรือเปล่า ดูสิกาแฟหกแล้ว" ฉันรีบเงยหน้ามองถาดในมือ จริงด้วยกาแฟหกเลอะเปื้อนถาดหมดเลย คุกกี้ในจานก็ขยับลงมาซับกาแฟจนเปื่อยยุ่ย
"ตายแล้ว! "
"ผมช่วยมั้ย"
"เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะโบซุ่มซ่ามเอง" เห็นหน้าแวบแรกฉันพอนึกออกแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือหัวหน้าแผนกบัญชี
"เลขาใหม่ของท่านประธานใช่มั้ย"
"ใช่ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ" หรือว่าเขาคนนี้กำลังจะเข้าพบท่านประธาน ตายจริง! กาแฟก็ยังเลอะคามืออยู่แบบนี้
"มีเอกสารต้องชี้แจงนิดหน่อย แต่ว่าผมไม่รีบเท่าไหร่คงมาก่อนเวลาด้วยซ้ำ" มาก่อนเวลาก็จริงแต่ท่านประธานไม่ได้ออกไปไหนเข้าพบได้ตลอด มื้อเที่ยงก็รับในห้องไม่รู้จะขยันอะไรนักหนา
"ท่านประธานอยู่ในห้องค่ะ เชิญได้เลยค่ะ"
"ผมช่วยคุณโบก่อนดีกว่าครับ"
"เลขาผมจัดการเองได้ เชิญในห้องดีกว่าครับ ผมรีบ มีธุระต้องทำต่ออีกมาก" ฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ ลำบากใจที่สุด มองไปทางไหนก็มีแต่คนต้องเกรงใจแล้วก็เคารพ
"คุณพอร์ช ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยหรือครับ"
"ผมออกมาตามกาแฟต่างหาก"
"โบจะรีบทำให้ใหม่แล้วรีบเข้าไปเสิร์ฟให้นะคะ"
-----