หอพักบ้านธานี
ห้อง 1702
Rrrrr! Rrrrr! Rrrrr!
ตุบ! ตุบ!
“ฮัลโหลลลล~” ฉันกรอกเสียงแหบ ๆ ลงไปในโทรศัพท์ซึ่งดังอย่างต่อเนื่องจากระยะนึงแล้ว
(อยู่ไหนเนี่ยไม่มาทำงานทำไมไม่ลา?!) ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่นักซึ่งฉันก็สามารถเข้าใจได้นั่นแหละก็ฉันเล่นหยุดงานโดยไม่ลาก่อนนี่น่าแต่จะทำยังไงได้ละฉันเองก็ตื่นไม่ไหวจริง ๆ นิ ยิ่งได้กินยาเข้าไปแล้วก็ยิ่งหลับไม่รู้เรื่องเลยก็ว่าได้
“ขอโทษค่ะ แต่ฉันไม่สบายกินยาไปเลย...”
(อย่ามาแก้ตัวนะวารินถ้าไม่มาก็ควรโทรมาสิ แบบนี้ร้านเสียหายนะ!) เฮ้ออ! พนักงานเยอะแยะฉันหยุดคนเดียวมันไม่ได้วุ่นวายขนาดนั้นหรอกเขาจะหาเรื่องฉันและหักเงินอีกละสิ
“ขอโทษนะคะแต่ฉันคงไปไม่ไหวจริง ๆ ถ้าผู้จัดการจะหักเงินก็ได้ค่ะ” มันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนิ
(ฉันจะหักสามวัน!)
“สามวัน?”
(ใช่ ถ้าไม่อยากโดนหักสามวันก็มาทำงานซะ!)
“เหอะ! งั้นหักไปเถอะ” ติ๊ด! ฉันวางสายก่อนจะหลับตาลงเพื่อนอนต่อ
หลังจากออกมาจากร้านแล้วก็ถึงหอพักของฉันก็เลยแวะร้านขายยาเพื่อซื้อยาคุมฉุกเฉิน ยาแก้ปวดและแก้อักเสบเพราะรู้สึกเจ็บที่ตรงนั้น แล้วนอกจากนั้นยังมีอาการไข้ด้วยก็เลยกินยาแก้ไข้ไปด้วยเลยทำให้ฉันเกิดอาการเบลอยาและนอนหลับไม่รู้เรื่องแบบนี้ไงละ
“เฮ้ออออ!” แต่พอได้ตื่นแล้วก็ฉันนอนไม่หลับแล้ว
ก๊อก ๆ และในขณะที่ฉันกำลังนอนหงายท้องตีพุงอยู่นั่นเองจู่ๆที่ประตูห้องของฉันก็มีเสียงเคาะขึ้นมาซึ่งโดยปกติแล้วไม่เคยมีใครมาเคาะห้องของฉันมาก่อน เนื่องด้วยจากว่าฉันไม่ได้มีเพื่อนสนิทสักคนใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวมาโดยตลอด เจ้าของหอเองก็ไม่ค่อยมายุ่งวุ่นวายเท่าไหร่เพราะงั้นฉันถึงได้ชอบที่นี่และอยู่ที่นี่มาหลายปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเคาะก็ไม่ได้แปลว่าวันนี้จะมาเคาะไม่ได้นี่นา...
ก๊อก ๆ หลังจากที่มัวแต่สงสัยอยู่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้งทำให้ฉันต้องพยายามดันตัวเองที่กำลังป่วยไข้ให้ลุกขึ้นมาเพื่อเดินไปเปิดประตู
แกร็ด แอดดดด
“ทำอะไรอยู่ทำไมช้า?” และเมื่อฉันเปิดประตูห้องออกมาก็พบกับบุคคลที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ เขาถามเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินสวนเข้ามาในห้องของฉันโดยที่ยังไม่ทันได้รับอนุญาตใดๆทั้งสิ้นแต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเขารู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?
“ฮะเฮียมาทำอะไรที่นี่คะ?”
“มาหาไงเห็นไม่ไปทำงานเลยมาดูว่าเป็นอะไรหรือเปล่า?” เขาตอบและมองไปรอบห้องของฉัน
“ไม่เป็นอะไรคะแค่ไข้นิดหน่อย”
“ไม่มีแฟนจริงด้วยสินะ...” เขาไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยใช่ไหมเนี่ย?
“ก็ไม่มีไงคะ...ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปเถอะค่ะเพราะฉันต้องการพักผ่อน” ทำไมต้องมาสนใจด้วยก็ไม่รู้แทนที่จะทำเหมือนที่ผ่านมา
แปะ!
“ตัวร้อนจริงด้วย...นอนด้วยสิเดี๋ยวเฮียดูแลเอง^^” เขาพูดและยิ้มให้ฉันแต่ว่าเขาจะมาดูแลฉันทำไม?
“ไม่ต้องการค่ะ”
“ปฏิเสธแบบไม่คิดเลยนะในเมื่อเฮียเป็นคนทำให้เราต้องป่วยแบบนี้เพราะฉะนั้นเฮียก็ควรจะรับผิดชอบด้วยการมาดูแลไม่ใช่เหรอวาริน?” เขายื่นหน้าเข้ามาถามฉันใกล้ๆฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาจะต้องทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมแบบนี้ด้วยถึงแม้ว่าเราจะนอนด้วยกันไปเมื่อคืนนี้แต่มันก็เป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจและมีเหตุผลจำเป็นก็เท่านั้นเองไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องมาสนใจอะไรฉันขนาดนี้
“บอกว่าไม่ต้อง...” หมับ!ในขณะที่ฉันกำลังจะปฏิเสธเขาออกไปเป็นรอบที่ล้านจู่ๆก็เกิดรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาแต่โชคดีที่เขาคว้าตัวของฉันไปกอดไว้ได้ทันทำให้ฉันไม่ล้มไปหัวฟาดกับพื้น
“เพราะว่าดื้อแบบนี้ไงเลยเกือบจะเป็นเรื่องใหญ่แล้ว...ไปนอนทำตามที่เฮียบอกและทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” เขาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงดุๆจากนั้นก็ค่อยๆประคองฉันให้เดินมาที่เตียงนอนและค่อยๆวางฉันลงช้าๆ
“ถามจริงๆนะคะว่าเฮียจะมายุ่งวุ่นวายกับฉันทำไมในเมื่อทุกอย่างมันเกิดจากความไม่ตั้งใจและที่ผ่านมาเฮียก็ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบอะไรต่อผู้หญิงที่นอนด้วยเลยสักคน แต่ทำไมกับฉันเฮียถึงวุ่นวายไม่เลิกแบบนี้?” ฉันถามออกไปเพราะอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ
“เพราะว่าฉันเป็นคนแรกของเธอไง”
“เรื่องนั้นฉันไม่ถือสาค่ะ”
“เพราะว่าเธอช่วยฉันเอาไว้ไง”
“ไม่ได้ตั้งใจช่วยด้วยซ้ำ”
“เพราะว่าเธออาจจะท้องก็ได้ไงไม่ได้ใส่ถุงด้วยเมื่อคืนนี้”
“กินยาคุมฉุกเฉินแล้ว”
“เฮ้ออออ!” เขาถอนหายใจออกมาแรงเมื่อฉันสามารถดักเขาเอาได้ทุกทาง ก็ฉันไม่ต้องการจริง ๆ นิจะมาบังคับทำไม -_-
“กลับไปเถอะค่ะ”
“ต้องการให้รับผิดชอบยังไงบอกฉันมาได้เลย” เฮียบอสตันเท้าเอวและมองหน้าของฉันด้วยสีหน้าจริงจัง สิ่งที่ฉันตอบกลับไปมันยังไม่จริงจังพออีกหรือไงฉันไม่ได้เล่นตัวแต่อย่างใดแต่ฉันพูดเรื่องจริงว่าไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรฉันทั้งนั้นเพราะว่าฉันไม่ต้องการพาตัวเองไปอยู่ในสังคมของเขาหรือว่าชีวิตของเขามันดูวุ่นวายเกินไป
“เฮียไม่ต้องรับผิดชอบฉันหรอกค่ะ....ฉันสมยอมเอง” พูดรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ยทำไมเขาเข้าใจอะไรยากจัง หรือว่าความจริงแล้วเขาต้องกวนประสาทของฉัน?
“และท้องขึ้นมาล่ะ?”
“กินยาแล้วไม่ท้องหรอก”
“ยาคุมน่ะมันไม่สามารถคุมได้ร้อยเปอร์หรอกนะ” เรื่องนั้นฉันเองก็รู้ดีตอนที่ฉันเรียนม. ปลายก็เคยได้ยินมาบ้างว่าการคุมกำเนิดนั้นไม่มีวิธีการไหนได้ผล 100% แม้กระทั่งการสวมถุงยางอนามัยเองก็ยังมีเปอร์เซ็นต์ที่จะท้องได้แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะซวยขนาดว่ากินยาคุมฉุกเฉินแล้วก็ยังท้อง...
“คงไม่ซวยขนาดนั้นหรอกมั้งคะ?”
“ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกอย่าประมาท...”
“เฮ้อออออ!”
“ถ้ายอมให้ฉันรับผิดชอบตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องเหนื่อยใจแบบนี้แล้ววาริน...”
“แค่รับผิดชอบก็จบใช่ไหมคะอะไรก็ได้??” ฉันถามออกไป
“อืม อะไรก็ได้” บางทีจนถึงตอนนี้ฉันก็คิดว่าที่เขามาตามตื๊อต้องการรับผิดชอบนั่นก็เพื่อให้ฉันเรียกร้องอะไรบางอย่างเพื่อให้ตัวเขาเองนั้นสบายใจขึ้นมาก็เท่านั้น เนื่องจากว่าฉันมีเขาเป็นคนแรกที่ทำแบบนั้นเขาก็เลยรู้สึกผิดนิดหน่อยละมั้งถ้าหากว่าฉันเรียกร้องอะไรบางอย่างออกไปคงจะทำให้เขาสบายใจขึ้นและก็เลิกตามตื้อฉันไปเอง
“งั้นขอเงินสักห้าแสนแล้วกันนะคะเพื่อเป็นการรับผิดชอบ”
“เงิน?”
“ค่ะ”
“ไม่อยากแต่งงานเหรอ?”
“ไม่”
“แต่งงานกับฉันได้เยอะกว่าห้าแสนอีกนะ”
“อยากได้แค่นี่-_-” เพลย์บอยอย่างเขาพูดเรื่องแต่งงานเนี่ยนะ
“รอดูอีก 1 เดือนแล้วกันถ้าเธอไม่ท้องฉันจะให้ห้าแสน”
“แต่ถ้าท้อง...เธอต้องแต่งงานกับฉัน”
“ไม่”
“วารินนนนนนน!” เขางอแงเหมือนกับเด็กที่กำลังโดนขัดใจ
“เฮียต้องการอะไรจากฉันกันแน่คะ?”
“ต้องการรับผิดชอบไง”
“ไม่เชื่อ”
“อ้าว!” บอกตามตรงว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะเชื่อ ไม่ว่าจะดูยังไงเขาก็ดูมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัดถึงฉันจะไม่ได้เรียนสูงไม่ได้จบปริญญาแต่ถึงอย่างนั้นประสบการณ์ชีวิตของฉันก็สามารถสอนให้ฉันมองคนออก และแน่นอนว่าคนตรงหน้าของฉันกำลังมีจุดประสงค์บางอย่างๆ แน่นอน เพราะฉะนั้นฉันจะไม่มีทางเล่นตามเกมของเขาให้ชีวิตตัวเองต้องตกที่นั่งลำบากแค่นี้ก็เหนื่อยกับการใช้ชีวิตจะแย่อยู่แล้ว