Boston
หมับ! หลังจากที่ผมบอกความต้องการของตัวเองไปแล้ว ผมก็จัดการอุ้มตัวของวารินมาที่โซฟารับแขกในห้องทำงานของผม ผมวางเธอลงอย่างเบามือตอนนี้เธอกำลังนอนหงายและมองที่ผมซึ่งสายตาของเธอนั้นมันชวนเคลิ้มซะจริง ๆ สิ่งหนึ่งที่ผมยอมเกี่ยวกับวารินนั่นก็คือสายตาและดวงตาของเธอ มันนิ่งและเย็นชามากแต่ก็มีเสน่ห์มากเหมือนกันไม่ว่าจะมองเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลยสักนิด
พรึ่บ! ผมจัดการถอดกางเกงของตัวเองออกและโยนมั่ว ๆ ไปที่มุมไหนของห้องสักมุมนึงและจากนั้นก็เข้ามาจัดการกับร่องสวยของวาริน ซึ่งผมต้องการผลิตน้ำหวานออกมาให้เยอะที่สุดก่อนจะใส่แก่นกายของผมเข้าไปผมไม่อยากให้เธอเจ็บ
“แผล่บ! แผล่บ!”
“อะอ๊ะ เฮียบอสทำไร อ๊า!”
“เลียไง...หนูจะได้ไม่เจ็บต้องเฮียเสียบ” ผมตอบคำถามของวารินเรียบร้อยแล้วก็ก้มหน้าก้มตาใช้ลิ้นเลียที่ร่องสาวของเธอทั้งดูดทั้งเลียและชอนไช้เข้าไปในรูน้อย ๆ นั่นอย่างหน้ามือตามัว ตอนนี้ไม่ว่าจะเอามาห้ามก็ไม่ได้แล้วละผมหลงร่างกายของเธอไปแล้ว ไม่ว่าจะสัมผัสตรงไหนก็รู้สึกไปหมดเลย
“ซี๊ดดดดอ๊า! เฮียบอสขา!” เสียงครางของวารินหวานกว่าผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยเจอมาสักอีก
“สูดดดด~ อ๊า แผล่บ ๆ ๆ ” และยิ่งได้ยินชื่อตัวเองที่ออกมาจากปากของวารินเขาก็ยิ่งเลียแรงขึ้นเรื่อย ๆ และแน่นอนว่าน้ำรักก็ออกมาเยอะเช่นกัน
“อ๊ะ ๆ ๆ ” วารินพยายามหนีบขาเข้ามาแต่ผมก็อ้าออกและจับขาของเธอเอาไว้แน่น
“ไม่ไหวแล้ววะ....ซี๊ดดดดด~” ผมยืดตัวขึ้นมาและดันตัวของวารินให้เข้ามาใกล้ในตอนนี้ผมทนไม่ไหวแล้ว หยิบถุงยางออกมาจากลิ้นชักข้างโซฟาฉีกและสวมมันภายในเวลา 5 วินาที
แคววกกกกก!
“จะใจเย็นก่อน...” กึก! สวบบบบ! เมื่อสวมถุงยางเรียบร้อยผมก็เสียบแก่นกายเข้ามาในรูรักของวาริน
“ซี๊ดอ๊า รูโคตรดีวารินนนนนน”
“อร๊ายยยยย เฮียบอสเจ็บบบบบบบ” เธอร้องบอกผมแน่นอนว่าเธอต้องยังเจ็บอยู่เพราะว่านี่พึ่งเป็นครั้งที่สองของเธอเท่านั้น แม้ว่าครั้งแรกที่เราทำกันจะหลายรอบก็ตามเถอะ ซี๊ด ให้ตายเถอะร่องของวารินรัดแก่นกายผมแน่นมาก
“อดทนแปบเดียว อ๊า เดี๋ยวก็หายเจ็บ หู้ยยยยย รัดแน่นมากวาริน” ผมแช่แก่นกายไว้สักพักแล้วจากนั้นก็เริ่มขยับช้า ๆ
พั่บ พั่บ พั่บ ยิ่งกระแทกยิ่งขยับเท่าไหร่ก็ยิ่งเสียวมากขึ้นเท่านั้น
“อ๊า ๆ ๆ ๆ ฮะเฮียบอสหนูเสียวอ๊า” เสียงครางโคตรหวานเลย
“เฮียก็เสียวรูหนูดีมากวาริน เอาโคตรมันส์เลย” หมับ ผมจับเอวของวารินแน่นก่อนจะเพิ่มความเร็วและความแรงของกระแทกเข้าไปอีก ยิ่งลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งเสียวเท่านั้นวารินเองก็ครางได้เร้าใจจริง ๆ
ตับ! ตับ! ตับ!
“อ๊ะ ๆ ๆ ๆ ฮะเฮียขา อ๊า!”
“วารินทำไมรูหนูมันดูดขนาดนี้ อ๊า เอาเท่าไหร่ก็ไม่เบื่ออออออ ซี๊ดดดด~” หมับ ผมยื่นมือไปขย้ำหน้าอกของเธอที่มันซ่อนรูปอยู่
“อ๊ะ ๆ ๆ ๆ ระแรงเลย”
“ขอมาก็จัดให้ อ๊า โคตรเสียวววววว~ วารินนนนน~”
“เฮียบอส หนูจะแตกแล้ว อ๊า!”
“เหมือนกัน ซี๊ดดดดด~ รัดขนาดนี้ถ้าเอาสดแตกนอกไม่ทันแน่ ซี๊ดดดดด” พั่บ พั่บ พั่บ ผมล็อกแขนของวารินไว้และจากนั้นก็กระหน่ำซอยกระแทกแก่นกายเข้าไปในร่องรักรัว ๆ
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ๊ะ ๆ ๆ ๆ มะไม่ไหวแล้วววววว เฮียบอสหนูจะแตกกกกกกกก!”
“แตกเลย ซี๊ดดดดดดดดดดดด~” ปึกกกกก ผมกระแทกรอบสุดท้ายอย่างแรงเพื่อปล่อยน้ำอสุจิออกมาและมันก็พุ่งออกมาใส่ถุงยางที่ผมสวมไว้
“แฮ่ ๆ ๆ -/////-” วารินหอบด้วยความเหนื่อยใบหน้าของเธอแดงไปหมดแถมยังเหงื่อท่วมตัวอีก
“เหนื่อยไหม? ฟอดดดด” ผมถามและก้มลงไปหอมแก้มของเธอ
“สุด ๆ”
“หึ วันนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว” ผมบอกกับเธอ
“ไม่เอาหยุดเมื่อวานไปไม่ได้บอกผู้จัดการล่วงหน้า โดนหักค่าแรงไปตั้งสามวันแหนะ” เธอบอกกับผมซึ่งนั่นทำผมงงทันทีเลยว่าโดนหักเงินเรื่องอะไร?
“หักเรื่องอะไร?” ผมเลยถามวารินออกไป
“ก็เวลามีคนหยุดโดนไม่ได้แจ้งล่วงหน้าผู้จัดการจะหักแรงไปจะกี่วันก็แล้วแต่ผู้จัดการเขาน่ะ” วารินบอกผม
“ร้านที่ไม่เคยมีนโยบายแบบนั้นนะ?” สงสัยผมต้องทำการตรวจสอบหน่อยแล้วละ
“อ้าว! หนูมาทำงานที่นี่ก็เจอกฎนี้แล้วนะ”
“วันนี้ไม่ต้องทำลาไปอีกวัน...”
Rrrrrr!
ผมกำลังพูดอยู่เสียงโทรศัพท์ของวารินก็ดังขึ้นมา
“ใคร?” ผมถามทันที
“น่าจะผู้จัดการมั้งคงไม่เจอหนูเลยโทรมาน่ะ” หมับ ผมจัดการแย่งโทรศัพท์มาจากมือของวารินและรับสายแทน
ติ๊ด!!
(อยู่ไหนไม่มาทำงานอีกเหรอวะอยากโดนหักเงินอีกใช่ไหมวาริน?) ยังไม่ทันได้พูดอะไรไอ้ธานีซึ่งเป็นผู้จัดการของร้านก็พ่นไฟออกมา
“ลาป่วยไม่สบาย”
(ใครวะอย่าบอกนะว่าผัววาริน?)
“เออ”
(บอกให้ยัยนั่นมาคุยสิสงสัยอยากโดนไล่ออกซินะหรือว่าหักเงินมันไม่พอ?)
“ก็กูบอกว่าวารินลามึงฟังไม่เข้าใจเหรอ?”
(ลาได้แต่ต้องล่วงหน้าไปบอกเลยนะว่าถ้าไม่มาทำงานกูไล่ออก!!) และมันก็วางสายไป
“โดนด่าเลย..” วารินทำเซ็ง ๆ
“เดี๋ยวเฮียไปด่ามันเองนอนพักเถอะแล้วก็จะเรียนอะไรเดี๋ยวบอกเพื่อนที่เป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยให้?” ผมถามเธอ
ในเมื่อวารินยอมตกลงทำตามข้อตกลงผมก็ทำตามที่เคยบอกเอาไว้
“วิศวะ”
“ไม่ให้เรียนเอาอย่างอื่น” จะไปเรียนคณะที่มีผู้ชายเยอะทำไมวะไม่เอา ไม่ให้เรียนโว้ยยยย!!
“งั้นไม่เรียนและเอาเงินห้าแสนแล้วแยกย้าย” แม่งเอ๊ยยยย! เป็นพวกไม่กลัวอะไรเลยสินะกล้าต่อรองและกล้าใช้เล่ห์เหลี่ยมกับผม
“ไม่ให้ตกลงแล้วถือว่าสัญญาเป็นอันเสร็จสิ้น”
“งั้นก็ให้เรียนวิศวะสิ”
“ไม่เอา~ เรียนอย่างอื่นไม่ได้เหรอคณะนั้นผู้ชายมันเยอะ นะ...วารินนน~” ผมพยายามอ้อนวอน ผมแม่งไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยนะ เลียก็ทำให้คนแรกด้วยปกติผมไม่ทำหรอกนะ -.-
“คิดไม่ออกนอกจากคณะนี้-_-” หน้าตาเริ่มไม่สบอารมณ์ละ
“การตลาด บัญชี อะไรก็เรียนไปสิทำไมต้องสายนี้ด้วยละ?” เรียนก็ง่ายไปนั่งสวย ๆ ห้องแอร์สบาย ๆ ทำไมไม่เรียนละเมียจ๋า~
“ใครเรียน?” เธอถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาและหน้านิ่งมากกกกกกกก
“วาริน”
“ใช่ไง แล้วเฮียจะมาห้ามทำไมเนี่ย?” เธอเริ่มเท้าเอว
“ก็ผู้ชายมันเยอะง่า~”
“เขามาเรียนกันทั้งนั้นแหละหรือไม่ก็มาหาเพื่อน”
“คณะอื่นเถอะ เฮียขออออออออ~”
“เลือกเอาแล้วกันจะให้เรียนวิศวะหรือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ?”
“วารินงะ”
“หนูไม่เอาก็ได้ห้าแสน ไม่เรียนก็ได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ไม่แคร์กันเลยสินะมีแต่ผมเนี่ยรั้งเธอเอาไว้ เหอะ
“ก็ได้ แต่ขอสาขาที่ผู้ชายน้อย ๆ ได้ไหม?”
“จะไปรู้ไหมสาขาไหนน้อยอะ?” เออ ก็จริงวะ
“ไปเรียนที่ไม่เหนื่อย แต่งตัวสวย ๆ ดีกว่านะหนู...”
“วิศวกรรมไฟฟ้าเอาอันนี้จบ...ถ้าเฮียยังห้ามทุกอย่างโมฆะ”
“วารินน”
“ตกลงหรือไม่ตกลง?”
“แม่งเอ๊ยยยยย เออ ก็ได้ ไฟฟ้าก็ไฟฟ้าวะ” เดี๋ยวให้ไอ้เจอาร์มันหาห้องที่ผู้ชายน้อย ๆ เอา
“แค่นั้นแหละ” คนอะไรเย็นชาใจร้ายที่สุด!!
เวลาต่อมา
“ไอ้แอดซ์เข้ามานี่สิ” หลังจากคุยกับวารินเสร็จผมก็ให้เธอไปนอนที่ห้องนอนผมซึ่งมันมีประตูเชื่อมกับห้องทำงานผมและก็เรียกไอ้แอดซ์เข้ามา
“ครับ เฮีย”
“เดี๋ยวร้านปิดเรียกประชุมหน่อย”
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ?” มันทำหน้างงเพราะปกติผมไม่ค่อยเรียกประชุมเท่าไหร่นักเว้นจะมีเรื่องสำคัญจริง ๆ
“กูได้ยินมาว่าไอ้ธานีมันหักคนไม่มาทำงานแบบกะทันหันขั้นต่ำสามวัน”
“สามวัน! เท่ากับทำงานฟรีเลยนะครับนั่น”
“ก็ใช่ไงเพราะงั้นกูต้องจัดการไอ้พวกมีหัวโขนแล้วทำตัวสถุนหน่อย”