“คุณพ่อสั่งสอนไอ้ลูกหมาจรเสร็จแล้วเหรอครับ”คชาเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นสองคนพ่อลูกเดินลงมาจากห้องทำงานด้านบน
“พ่อกูไม่ใช่พ่อมึงไอ้ช้าง”
“มึงยังจำได้ด้วยเหรอไอ้ปรินซ์ว่ามีพ่อแม่รออยู่ที่บ้าน กูคิดว่ามึงเป็นหมาจรไปแล้วซะอีก”
“เดี๋ยวเถอะมึงไอ้ช้าง มึงมันตัวดีใส่ไฟฟ้องพ่อกูหาว่ากูไม่ทำงาน”
“ใส่ไฟที่ไหน ผมพูดจริงทุกคำครับเลยครับลุงราม ไอ้หมาจรนี่มันมัวแต่ไปนอนเฝ้าหน้าบ้านลูกสาวชาวบ้านไม่ยอมทำงานทำการ”คชาหันไปฟ้องอีกรอบ คราวนี้ถ้ามันยังหนีงานอีกเขาจะไปฟ้องแม่มัน
“ไอ้ช้างเช็ด”
“ไอ้ลูกหมาโดนทิ้ง”
“พอ กูละปวดหัวกับพวกมึงสองคน จะกลับบ้านกับกูไหมไอ้ปรินซ์”
“กลับครับ”ราเชนทร์เดินตามบิดาออกไป ไม่วายยังคงหันมาชี้หน้าคาดโทษเพื่อนรักที่ยืนหัวเราะสะใจอยู่
“พรุ่งนี้กูจะมาจัดการมึงไอ้ช้างเช็ด”
“กูจะรอมึงเลยไอ้ลูกหมา”
“แม่จอมคนสวย คิดถึงจังเลยครับ”ราเชนทร์เดินเข้าไปโอบกอดมารดาที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่กับบิดาอีกคน เขาซบหัวลงบนไหล่ของมารดาในวัยใกล้เลขห้าที่ยังดูสาวและสวยอยู่
“ปากบอกคิดถึงแม่ แต่หายหน้าหายตาไปจนแม่ต้องให้พ่อไปตามกลับบ้านเนี่ยนะ”
“ก็ที่นี่มีคนอยู่ตั้งเยอะแยะไหนจะเฮียคิงส์ ไหนจะเจ๊ควีนที่หอบหลานมาให้แม่ช่วยเลี้ยงทุกวัน”ตั้งแต่พี่สาวเขามีลูกชายฝาแฝด แม่เขาก็ไม่เคยว่างอีกเลยเพราะมัวแต่เห่อหลาน จนอาจจะลืมลูกชายอย่างเขาแล้วก็ได้
“แกก็เลยไปซุกหัวอยู่แต่บ้านไอ้ภัทรว่างั้น”ชวินเอ่ยแซะลูกชายที่เพิ่งมาถึงก็อ้อนเมียเขายกใหญ่แถมมันยังแย่งเมียเขาไปกอดอีก
“ก็บ้านนั้นมีแต่คนแกอยู่กันแค่สองคน ผมก็แค่เป็นห่วงอาๆเขานะป๊า”
“แน่ใจว่าเป็นห่วงอา ไม่ได้ไปนอนเฝ้าหน้าบ้านรอลูกสาวเขากลับมาเหรอ”
“ไม่ได้รอสักหน่อย ใครมันจะไปรอยัยผู้หญิงใจร้ายคนนั้นกัน”
ราเชนทร์สะบัดหน้างอนทันที เมื่อใครต่อใครต่างก็กล่าวหาว่าเขารอผู้หญิงคนนั้น เขาไม่รอคนใจร้ายอย่างเธอสักหน่อย เธอไม่รักก็ไม่รักสิ ใครเขาจะไปรอเหมือนหมาหน้าโง่กัน กับอีแค่คำพูดที่หลอกให้เขามีความหวังแค่ไม่กี่คำ คนอย่างเขาหรือจะรอเธอได้นานตั้งสี่ปี สองเดือนกับอีกแปดวัน
“เฮียไม่อยู่เหรอครับ”เขาเอ่ยถามถึงพี่ชายคนโตทันทีก่อนที่จะโดนจี้ใจดำเอาอีก
“รายนั้นก็ไม่ต่างจากแก หายไปอยู่เกาะรังนกจะสามเดือนแล้วยังไม่กลับมาให้พ่อให้แม่แกเห็นหน้าเลย”
ชวินเอ่ยตอบ ลูกชายคนโตของเขาก็หายเงียบไปอยู่เกาะรังนก จนตอนนี้พวกเขาแทบจะลืมไปแล้วว่ามีลูกชายอยู่สองคน
“เฮียคิงส์แอบซุกเมียไว้ที่นั่นหรือเปล่าครับ”
“พี่แกซุกเมียก็ดีสิ”รามิลที่นั่งอยู่โซฟาฝั่งตรงข้ามเอ่ยบอก เขากลัวแต่ลูกชายคนโตของเขามันจะกำลังรอใครบางคนอยู่นะสิ และก็คงไม่แคล้วเป็นหญิงสาวคนเดียวกับที่ลูกชายคนเล็กของเขาไปนอนเฝ้ารออยู่หน้าบ้านสาวเจ้าทุกวัน
“หิวกันหรือยัง แม่ทำผัดเปรี้ยวหวานกุ้งไว้ให้ลูกด้วย”
“มีของโปรดแบบนี้ ปรินซ์จะไม่หิวได้ไงครับ”ราเชนทร์ทั้งกอดทั้งหอมแก้มมารดาจนคนเป็นพ่อทั้งสองเริ่มทนไม่ไหว คันตีนอยากถีบลูกชายขึ้นมาทันที เลิกกอดเลิกหอมเมียกูได้แล้วไอ้ปรินซ์”เจ้าของฉายาคนหวงเมียอย่างชวินผลักหัวลูกชายให้ออกห่างจากเมียรักทันที
“ผมกอดผมหอมแม่ผมต่างหาก พ่อปล่อยผม”เขาลอยหน้าลอยตาต่อเถียงไม่กี่คำก็โดนบิดาใจโหดอย่างรามิลจิกหัวแล้วลากเขาออกห่างมารดาทันที
เมื่อทนเห็นพ่อลูกเขาแสดงความรักกันต่อไปไม่ไหวจอมขวัญจึงชวนทั้งสามไปทานข้าว ความวุ่นวายทั้งหมดถึงได้สงบลง แค่เธอเอ่ยปากก็ไม่มีใครกล้าโวยวายขึ้นมาอีก
อีกฟากหนึ่งที่เกาะรังนก ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังช่วยคนงานเก็บรังนกอย่างขะมักเขม้น โดยที่ตัดขาดการสื่อสารกับโลกภายนอกมานานเกือบสามเดือนแล้ว
“นายครับ”ราชันย์หันไปถามเสียงเรียกของชายหนุ่มที่เป็นลูกน้อง แถมตอนนี้มันเริ่มทำตัวเป็นพ่อเขาเพิ่มด้วยอีกตำแหน่ง
“อะไร”
“คุณจอมโทรมาหาผม บอกให้นายกลับบ้านไปให้เธอเห็นหน้าเห็นตาบ้างครับ ถ้านายยังไม่ยอมกลับเธอจะมาหานายที่นี่เอง”
กระทิงเอ่ยบอกผู้เป็นเจ้านายที่เขาเคารพและรักเหมือนเป็นน้องชายของตนอีกคนด้วยว่าเจ้านายหนุ่มนั้นอายุน้อยกว่าตนเพียงสองปี
“โทรบอกแม่จอมว่าไม่ต้องมา”เสียงเรียบเอ่ยตอบในขณะที่มือยังคงง่วนอยู่กับการทำงาน
“ครับ ว่าแต่ทำไมนายไม่โทรไปบอกคุณจอมเองครับ”เขาก็แค่สงสัยว่าราชันย์ก็มีโทรศัพท์เหตุใดจึงใช้เขาเป็นทางผ่านติดต่อกับคนอื่นอยู่ตลอดเวลา
ราชันย์หันมามองคนช่างจ้อที่ยอกย้อนเขาด้วยสายตานิ่งเฉยแทนคำตอบ เขาทำอย่างนี้จนติดเป็นนิสัยแล้ว ปกติแล้วเขาจะมีน้องสาวฝาแฝดที่ชอบพูดคุยกับคนอื่นแทนเขาจึงทำให้เขาติดนิสัยใช้ความเงียบในการสื่อสาร แต่หลังจากที่น้องสาวเขาแต่งงานไปก็จะเป็นต้องสื่อสารความรู้สึก ความต้องการด้วยตัวเองมากขึ้น ดีหน่อยที่มีผู้ช่วยอย่างกระทิงที่ชอบพูดเป็นชีวิตจิตใจค่อยช่วยอยู่ตลอด แม้ว่ากระทิงมักจะเข้าใจบางอย่างไม่ตรงกับที่เขาต้องการจะสื่อสารก็ตาม