“อารักขา หนูขอไปหายายทวดได้ไหมคะ”
แม่ค้าตัวน้อยอยู่ในร้านมาทั้งวันก็ชักเบื่อ อยากจะหาเรื่องออกไปวิ่งเล่น
“ได้สิคะ”
“ขอบคุณค่ะ อารักเฝ้าร้านดี ๆ นะคะ เดี๋ยวหนูกลับมาค่ะ”
“รับทราบค่ะ”
พอหลานสาวเปิดประตูหลังร้านออกไปแล้ว แม่ค้าจำเป็นก็หยิบผ้ามาเช็ดเคาน์เตอร์ เก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ แล้วเดินไปเช็ดโต๊ะอย่างอารมณ์ดี กระทั่งเสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านดังขึ้น
คนที่กำลังเช็ดโต๊ะหันขวับไปมองทันที
แสนรักไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขาจะลงทุนขับรถกลับมาเพื่อต่อว่าเธอ แต่... อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เขาอาจจะลืมอะไรบางอย่างไว้ในร้าน
แสนรักคิดเข้าข้างตัวเอง แต่พอสบตาคมดุของหมอวิน หญิงสาวก็หันรีหันขวาง มองหาตัวช่วย
ตอนนี้ตาหวานไม่อยู่ในร้านด้วย แสนรักจึงต้องเผชิญหน้ากับเขาเพียงลำพัง
ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้หญิงสาว เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ระยะห่างแค่หนึ่งช่วงแขน
“กาแฟเค็ม”
เขาบอกสั้น ๆ แต่เสียงดุมาก
“เอ่อ... เค็มได้ยังไงคะ รักไม่ได้ใส่เกลือสักหน่อย ต่อมรับรสของคุณหมอมีปัญหาหรือเปล่าคะ”
“กาแฟเค็ม”
หมอวินย้ำคำเดิมอีกครั้ง เขาจะไม่คาดคั้น แต่เขาอยากให้เธอสารภาพและเอ่ยคำขอโทษออกมาเอง
“ไม่มีกาแฟเค็มในโลกนี้หรอกค่ะ คุณหมออย่ามาหาเรื่องรักนะคะ”
“จะไม่ยอมรับใช่ไหม”
แสนรักถอนหายใจแรง
“ไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้นค่ะ”
“งั้นก็ลองชิมดู”
หมอวินยื่นแก้วกาแฟไปตรงหน้าหญิงสาว
“ไม่ชิมค่ะ”
“แสดงว่ารู้อยู่แล้วว่ากาแฟแก้วนี้เค็ม”
“สงสัยต่อมรับรสของคุณหมอน่าจะมีปัญหาจริง ๆ นะคะ”
“งั้นก็คงต้องพิสูจน์สักหน่อยล่ะว่า ต่อมรับรสของผมมีปัญหา หรือคุณจงใจใส่เกลือลงไปในกาแฟ”
หมอมาวินยกแก้วกาแฟในมือขึ้นดื่ม แต่เขาไม่กลืนมันลงคอ เขาวางแก้วลงบนโต๊ะ แล้วขยับเข้าไปใกล้แม่ค้าขี้แกล้ง วงแขนแกร่งข้างซ้ายโอบกอดเอวคอดไว้แน่น มือหนาข้างขวาบีบแก้มนวล บังคับให้เธอแหงนเงยหน้า แล้วเขาก็ประกบปากลงบนกลีบปากอิ่ม กดแรงแนบแน่น แล้วป้อนกาแฟรสชาติเค็มปี๋ให้เธอได้ลิ้มรส เขากดปากแนบสนิทอยู่นาน จนมั่นใจว่าเธอกลืนกาแฟลงท้องแล้ว จึงปล่อยเอวคอด ปล่อยมือจากใบหน้านวล และถอยออกมา
แสนรักใช้หลังมือเช็ดปากแรง ๆ หลายครั้ง กระนั้นเธอก็ยังรู้สึกถึงความเค็มของกาแฟที่อวลอยู่ในปาก และรู้สึกราวกับว่าความอุ่นร้อนของปากคุณหมอหนุ่มยังแนบอยู่กับปากของเธอ
น้ำตาเอ่อคลอเต็มหน่วย โกรธที่เขาทำนิสัยไม่ดีกับเธอ ถึงเขาไม่ได้สอดลิ้นเข้ามาในปากของเธอ แต่เธอก็ไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้ และเขาก็ไม่ควรทำมันด้วย
“เค็มไหม”
แสนรักมองหน้าคนถามด้วยแววตาโกรธขึ้ง น้ำตาร่วงเผาะเพราะความโกรธ เธอไม่ตอบคำถามเขา เธอผลักอกกว้าง แล้วตั้งท่าจะวิ่งหนีไปทางหลังร้าน แต่ก็ต้องชะงักและเบิกตากว้าง เมื่อเห็นว่า ตาหวานยืนอยู่ตรงประตูหลังร้าน หลานสาวของเธอกะพริบตาปริบ ๆ มองเธอกับลุงหมอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
เสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านดังขึ้น ทำให้ทั้งสามคนที่อยู่ในร้านหันไปมองพร้อมกัน
แสนกล้า กมลฉัตร และตาตั้มกลับมาแล้ว แล้วพอเห็นน้ำตาบนแก้มน้อง แสนกล้าก็ถามด้วยความเป็นห่วง
“รักเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”
แสนรักอึกอัก เธอไม่กล้าตอบ
เสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้ง ป้าเล็ก... ป้าข้างบ้าน ขาประจำของร้าน และป้าข้างบ้านผู้ใฝ่รู้เรื่องชาวบ้านก็เปิดประตูเข้ามาพอดี
และก่อนจะมีใครพูดอะไร ตาหวานก็พูดเสียงดังฟังชัด ฟ้องป๊ะป๋าว่า
“หนูเห็นลุงหมอกอดอารัก แล้วก็กัดปากอารักด้วย กัดอยู่ตั้งนาน อารักต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลยค่ะ เพราะอารักร้องไห้ ลุงหมอนิสัยไม่ดีเลยค่ะ”
ตอนที่ 2
เป็นเรื่องแล้ว
หลังจากตาหวานพูดจบ ก็บังเกิดความเงียบไปทั้งร้านชั่วขณะ ยัยหนูก้าวมายืนตรงหน้าอารัก แหงนเงยหน้าจนคอตั้งบ่า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
“ลุงหมอนิสัยไม่ดี ลุงหมอแกล้งอารัก ลุงหมอต้องขอโทษอารักนะคะ” บอกแล้วก็กอดอก มองหน้าลุงหมอด้วยความไม่พอใจ
แสนกล้าขยับเข้าไปยืนข้างน้องสาว เขามองหน้าหมอวินอย่างเอาเรื่อง
คนที่รู้ตัวว่าทำเรื่องไม่สมควรมองคนที่เช็ดน้ำตา และปั้นหน้าบึ้งมองเขาอย่างโกรธขึ้ง
“ขอโทษนะครับ”
เขาเอ่ยคำขอโทษด้วยความรู้สึกผิดจริง ๆ เพราะแม้ว่าเธอจะแกล้งเขา แต่เขาก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับเธอ เขานิสัยไม่ดีอย่างที่ตาหวานว่า
แสนรักสะบัดหน้าหนี เธอไม่รับคำขอโทษจากเขา หญิงสาวขยับไปยืนหลบหลังพี่ชาย
“พี่แสน รักไม่เป็นไร เขาขอโทษแล้ว พี่แสนไล่เขาออกจากร้านได้แล้ว”
ไม่ต้องมาขอโทษ ยังไงเธอก็ไม่มีทางยกโทษให้ แต่ตอนนี้เธอไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้ว
แสนกล้าขมวดคิ้ว เขาเหลียวหลังไปมองน้องสาว ปกติแสนรักไม่ค่อยยอมใคร แต่คราวนี้ทำไมยอมง่าย ๆ
“พี่แสนบอกให้เขากลับไปได้แล้ว”
พอน้องสาวย้ำอีกครั้ง แสนกล้าจึงหันไปมองหน้าหมอวินด้วยสายตาเคืองขุ่น รังแกน้องสาวเขาขนาดนี้ แค่คำขอโทษมันน้อยไป แสนกล้าถกแขนเสื้อสองข้าง พร้อมเอาคืนให้น้องเต็มที่
“แสน...” กมลฉัตรรีบเข้ามายืนใกล้สามี เธอจับต้นแขนเขาไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรรุนแรง