บทที่ 1 มณีมุกดา 30%

1423 Words
๑ มณีมุกดา “ที่ไหนเนี่ย สวยจังเลย” ปานวาดกวาดตามองรอบข้างซึ่งเต็มไปด้วยแสงเย็นตา เธอยืนอยู่บนหาดทรายสีขาวสะอาด สว่างสดใสแต่ไม่ร้อนสักนิด ด้านหน้ามีทะเลสีฟ้าคราม ส่วนรอบข้างมีโขดหินและก้อนหินน้อยใหญ่สลับสีสันสวยงามแปลกตา ส่องประกายระยิบระยับราวกับอัญมณี “แม่วาดจ๋า ตามมาสิจ๊ะ หนูมีอะไรจะให้” ปานวาดหญิงวัยย่างสามสิบหันมองไปตามเสียงเรียก เห็นเด็กหญิงในชุดขาวละออตา สวมสร้อยมุกที่ข้อมือ ดวงหน้าจิ้มลิ้มน่ารักน่าเอ็นดู ผิวพรรณขาวผุดผ่อง “หนู น่ารักจังเลย ลูกใครจ๊ะเนี่ย” เธอเดินเข้าไปถาม “ลูกแม่วาดยังไงเล่าจ๊ะ” เสียงนั้นสะท้อนก้องไปมา “ลูกแม่หรือจ๊ะ แต่แม่ยังไม่มีลูกสักหน่อย” ปานวาดแย้ง เธอจะมีลูกได้อย่างไรกัน ในเมื่ออยู่กับสามีมาตั้งนานแล้วก็ไม่มีวี่แววจะตั้งครรภ์สักที แม้อยากมีลูกมากแค่ไหน เธอก็ไม่มีปัญญาหาเงินไปทำเด็กหลอดแก้วหรอกนะ เพราะเธอและสามีเป็นเพียงชาวประมงหาเช้ากินค่ำ ทำได้เพียงบนขอลูกจากพ่อปู่ภุชงค์และแม่ย่าทองคำศรีปางตาลที่อยู่ในถ้ำริมทะเลเท่านั้น ดวงตากลมโตของหนูน้อยอ่อนแสงลง เบะปากคล้ายจะร้องไห้ “แม่ไม่อยากได้หนูเป็นลูกหรือจ๊ะ” หนูน้อยถามอีกครั้ง “อยากสิจ๊ะ แม่อยากให้หนูมาเป็นลูกแม่” ปานวาดทรุดตัวลงนั่งต่อหน้าหนูน้อย เด็กหญิงยิ้มกว้างอย่างสดใส ดวงตาเป็นประกาย ก่อนที่จะยื่นไข่มุกเม็ดใหญ่เต็มฝ่ามืออูมเล็กนั้นมาให้ “นี่มณีมุกดา หนูให้แม่” ปานวาดยื่นมือไปรับ ไข่มุกเม็ดนั้นช่างสวยงามเหลือเกิน สวยงามกว่าไข่มุกเม็ดใดที่เธอเคยเห็น พลันหนูน้อยกลับกลายร่างเป็นหญิงสาวแสนสวยที่ยิ้มเยื้อนให้เธออย่างน่ารัก ขณะที่ส่วนขากลายเป็นงูใหญ่สีขาวมีประกายเลื่อมทองระยิบระยับ แล้วร่างนั้นก็สลายกลายเป็นไอหมอกสีขาวลอยเข้ามาในไข่มุกที่เธอถืออยู่ ปานวาดก้มมองจนกระทั่งไอหมอกสีขาวมีประกายระยิบระยับนวลตานั้นเข้าไปในไข่มุกจนหมด ไข่มุกยิ่งเปล่งประกายงดงาม เธอมองมันอย่างหลงใหล “มณีมุกดาหรือลูก สวย สวยเหลือเกิน...” ปานวาดพึมพำพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะตะโกนเรียกสามี เพราะอยากเอาไข่มุกในมือนั้นไปให้สามีดูด้วย “พี่เพิ่มจ๋า พี่เพิ่ม มาดูอะไรนี่สิ พี่เพิ่ม พี่เพิ่ม!” “วาด ๆ เป็นอะไรรึ นอนละเมอหรือเปล่า เรียกพี่ทำไม” แรงเขย่าตัวของสามีทำให้ปานวาดลืมตาตื่นด้วยความตกใจ หญิงสาวยกมือของตัวเองมาดู ไม่มีไข่มุกที่ส่องประกายสวยงามอยู่ในมือแต่อย่างใด เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความงุนงง เอ่ยเสียงแผ่วว่า “ฉันฝันน่ะพี่เพิ่ม” “ฝัน ฝันร้ายรึ ถึงได้ตะโกนเรียกพี่ซะเสียงดัง” คนเป็นสามีถาม ผู้เป็นภรรยาส่ายหน้า “เปล่า ฉันฝันดีมากเลยพี่ ฉันฝันว่ามีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักมาขอเป็นลูก หรือว่าฉันจะท้องจ๊ะพี่” ปานวาดวางมือลงบนท้องของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองสามี “จริงหรือ ฝันว่าอะไรหรือวาด” คนเป็นสามีรีบถาม “ฉันฝันว่ามีเด็กหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ตัวขาวจั๊วะ เอาไข่มุกมาให้ บอกฉันว่าเป็นมณีมุกดา จะมาอยู่ด้วย จะมาเป็นลูกเรานะพี่ แล้วเด็กก็กลายเป็นผู้หญิงสวยมาก ฉันยังจำหน้าได้ติดตา เธอยิ้มให้ฉันด้วย แต่ส่วนขาเป็นงูใหญ่สีขาวเกล็ดเลื่อมทองสวยเหลือเกิน แล้วร่างก็สลายเป็นหมอกลอยเข้ามาในไข่มุก จากนั้นไข่มุกก็ส่งประกายสวยมากเลยพี่ ฉันก็เลยตะโกนเรียกพี่ให้มาดู” ปานวาดเล่า เพิ่มนิ่งไป ก่อนจะยื่นมือไปจับท้องของภรรยา “เราอาจจะมีลูกงั้นหรือวาด” ผู้เป็นสามีถาม “จ้ะพี่ ฉันรู้สึกเหมือนฉันจะมีลูกนะจ๊ะพี่” ปานวาดเอ่ยน้ำตาซึมด้วยความดีใจ คนเป็นสามีขยับมากอดภรรยาไว้แนบอก เอ่ยเสียงสั่นเครือว่า “พี่ดีใจเหลือเกิน ขอให้เป็นอย่างที่คิดเถอะวาด พี่อยากได้ลูกเหลือเกินแล้ว มาเกิดเป็นลูกพ่อเถอะนะลูก” พูดพลางก็ลูบท้องของปานวาดไปด้วย ก่อนจะได้ยินเสียงฟ้าร้องครืน ๆ จึงดันร่างของภรรยาลงบนที่นอนอย่างเดิม “งั้นนอนเถอะนะวาด อีกตั้งสองสามชั่วโมงกว่าจะเช้า ฝนก็ทำท่าจะตก กรมอุตุฯ บอกว่าช่วงนี้จะมีมรสุม เราคงไม่ได้ออกเรืออีกหลายวัน ก็ดีเหมือนกัน วาดจะได้พัก ไม่ต้องตะลอน ๆ อยู่ในเรือกับพี่ เผื่อท้องไส้ขึ้นมาจะเป็นอันตราย” ผู้เป็นสามีว่า พลางดึงมุ้งที่ภรรยาถีบออกตอนละเมอเมื่อครู่นี้สอดเข้าใต้เบาะรองนอนอีกครั้ง แล้วล้มตัวลงนอนกอดเธอไว้ เพิ่มมองภรรยาที่พริ้มตาหลับด้วยความห่วงใย เขาอายุมากกว่าเธอห้าปี อยู่กินกันโดยไม่ได้แต่งงานมาราวสิบปีแล้ว เขาพาเธอหนีออกจากบ้าน เพราะพ่อแม่ของปานวาดไม่เห็นด้วยกับความรักของเขา ซึ่งเป็นเพียงชาวประมงฐานะยากจน อยากให้เธอแต่งงานกับลูกชายเถ้าแก่แพปลาที่ฐานะร่ำรวย ด้วยความรักปานวาดจึงยอมหนีมากับเขาในวัยเพียงยี่สิบปี เขามีสมบัติติดตัวเพียงอย่างเดียวคือเรือประมงที่พาภรรยาหนีมาจากบ้าน เดินทางรอนแรมข้ามทะเลมาหลายจังหวัด จนได้มาหลบพักพายุอยู่ที่นี่ ต่อมาจึงได้รู้จักชาวบ้านละแวกนี้ ซึ่งแบ่งปันที่ดินขายให้เขาได้สร้างหลักปักฐาน เขาออกเรือหาปลาจากอวนที่นำติดเรือมาด้วยเพื่อหาเงินซื้อที่ดินและสร้างบ้านไม้เล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ตอนนี้แม้ไม่ร่ำรวยแต่ก็ไม่ได้ลำบากยากเข็นนัก สิ่งที่รอคอยที่สุดก็คือ การได้มีลูกน้อยตัวเล็ก ๆ เป็นสักขีพยานแห่งความรักของเขา เขายกศีรษะขึ้นมองหน้าภรรยาแล้วก้มลงจุมพิตหน้าผากเธอเบา ๆ ด้วยความรัก ก่อนจะหลับตาลงพร้อมกับเสียงฝนตกและคลื่นลมแรงซัดกระทบชายฝั่ง จนดังมาถึงบ้านของเขาที่ห่างจากทะเลราวห้าร้อยเมตร เพิ่มตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงดังจากในครัว เขาควานหาก็เห็นว่าปานวาดลุกขึ้นจากที่นอนแล้ว เธอคงตื่นมาทำครัวตามปกติ เขาลุกขึ้นเก็บมุ้งหมอนที่นอน แล้วเดินเข้าไปในครัว “ทำอะไรจ๊ะวาด วันนี้ตื่นเร็วเชียวนี่เพิ่งจะตีห้า” “ทำกับข้าวใส่บาตรจ้ะพี่ แกงส้มปลากระบอกที่พี่หามาเมื่อวาน กับแกงจืดปลาหมึกยัดไส้ ฉันอยากทำบุญใส่บาตรเผื่อลูกมาเกิด จะทำบุญให้พ่อปู่แม่ย่าด้วย ท่านอาจจะให้ลูกเรามา” ปานวาดว่า สามีพยักหน้าเข้าใจ เพราะเขาและเธอไปกราบไว้พ่อปู่ภุชงค์กับแม่ย่าทองคำศรีปางตาลให้คุ้มครองอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นชาวเลเรื่องการบูชาพญานาคราช เจ้าผู้ปกครองบาดาลแห่งท้องทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันนี้ เป็นสิ่งที่ชาวเลอย่างเขาขาดไม่ได้ “อุ๊ย พี่ ดูแกงให้ฉันหน่อย ถ้าเดือดก็ยกลงเลย ฉันผะอืดผะอมยังไงก็ไม่รู้” ปานวาดว่าแล้วก็ทิ้งทัพพีให้สามี ก่อนจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำ แล้วส่งเสียงอาเจียน คนเป็นสามีรีบปิดเตาแก๊สแล้ววิ่งตามไป “วาด วาดแพ้ท้องใช่ไหม วาดแพ้ท้องแน่ ๆ แล้ว ใช่ไหม” เขาลูบหลังภรรยาไปพลางถามไปพลาง “ไม่รู้สิจ๊ะพี่ แต่มันผะอืดผะอมบอกไม่ถูก” ปานวาดบอกหลังจากตักน้ำมาบ้วนปาก ขณะที่ด้านนอกฝนซึ่งเพิ่งตกปรอย ๆ ก็เพิ่มระดับรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงคลื่นซัดสาดกระทบฝั่งดังชัดเจนผสมกับเสียงฟ้าร้องและเสียงลมฝนดังอื้ออึงไปหมด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD