คอนโดGH
ไต้ฝุ่น ตรีชฏา
“เห้อ” ฉันถอนหายใจรอบที่ร้อยแปดเมื่อนั่งมองหน้าพี่พายุ
“เห้อ อะไรหนักหนาครับคุณฝุ่น” พี่พายุที่นั่งพิมพ์งานในโน้ตบุ๊คอยู่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา
“เบื่อขี้หน้า” ฉันพูดขึ้นและยกแขนขึ้นมากอดอก
“งานไม่มีทำรึไง?” พี่พายุเลิกคิ้วเอ่ยถามฉัน ฉันก็เบะปากมองแรงใส่เขา สอบเข้ามหาลัยเพิ่งจะผ่านมาไหนจะต้องไปรับน้องอีก ฉันก็เบื่อจะตายแล้วเนี่ย
“จะมีได้ไง เป็นลูกสาวคนเล็กที่วันๆ หนึ่งไม่ต้องทำอะไรนอกจากเที่ยวกินนอนและช้อป” ฉันเอ่ยพูดเยาะเย้ยพี่พายุไป พี่พายุคือพี่ชายสุดหล่อของฉันเอง เราเป็นพี่น้องที่ดูเหมือนจะรักกัน แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลยค่ะ
สวัสดีฉันชื่อไต้ฝุ่นน่ะ ชื่อจริง นางสาว ตรีชฏา ภิมภยานนท์ อายุ19ปีบริบูรณ์เต็ม กำลังจะเข้าเรียนที่มหาลัยDL มหาลัยชื่อดังระดับประเทศและใหญ่ที่สุดด้วย ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กมีพี่ชายชื่อพายุ นายพชร ภิมภยานนท์อายุ21ปี ฉันเป็นลูกสาวนักการเมืองที่ใหญ่และมีชื่อเสียง คุณพ่อของฉันมีบริษัทอยู่ทุกๆ ประเทศอ่ะแถมยังเป็นเจ้าของโรงพยาบาลKKด้วยน่ะ ไม่ได้อยากจะอวดว่าตัวเองรวยหรอกนะ แต่ทำไงได้อ่ะ ก็คนมันรวยและสวยมากจบป่ะ! ฉันมีเพื่อนรักอยู่หนึ่งคน ฉันรู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน เธอเป็นคนน่ารัก นิสัยดีและมองซื่อๆ ไม่ค่อยทันคน เธอชื่อว่าเวียงพิงค์ ชื่อก็เพราะนิสัยก็ดี และที่สำคัญ พี่ชายฉันชอบเธอ
“จ้า คุณลูกสาวคนเล็ก ที่คุณมาหาผมถึงที่คอนโดของผมนี้จะมาทำอะไรเหรอครับ?” พี่พายุพูดล้อเลียนฉันด้วยท่าทางกวนโอ้ยฉัน นี้ฉันเห็นว่าเขาเป็นพี่ชายหรอกน่ะ ไม่งั้นฉันด่ากระเจิงไปแล้ว ผู้ชายอะไรจีบปากจีบคอดิกยิ่งกว่าผู้หญิงอีก
“ขอยืมเงินหน่อยดิ” ฉันยื่นมือสองข้างไปตรงหน้าของพี่พายุพลางทำสายตาออดอ้อนเขา คุณพ่อกับคุณแม่ยึดบัตรฉันอีกแล้ว เพราะว่าอาทิตย์ก่อนฉันไปด่าลูกชายเพื่อนของคุณแม่นะสิเพราะท่านให้ฉันไปทำความรู้จักอยากจะให้ฉันหมั้นกับไอผู้ชายหน้าเต้าหู้นั้น หึ๊ยแค่คิดก็อยากจะอาเจียนแต่เสียดายของที่ฟรีที่ของพี่พายุที่ฉันเพิ่งจะกินไป
“หึๆๆ โดนยึดบัตรอีกแล้วสิ” พี่พายุเอ่ยถามฉันพลางเเสยะยิ้มอย่างยั่วอารมณ์ของฉัน ถ้าฉันไม่เดือดร้อนฉันก็ไม่อยากที่จะมานั่งออดอ้อนขอเงินเข้าแบบนี้หรอกน่ะ
“ก็รู้ๆๆ กันอยู่” ฉันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และลอยหน้าลอยตาตอบพี่พายุไป เขาก็ยกยิ้มขึ้น เพราะเป็นแบบนี้ประจำเวลาที่ฉันไปดูตัวกับลูกชายของบรรดาเพื่อนๆ คุณแม่ของฉัน ฉันก็มักจะโวยวายด่ากราดเขากลับไปทุกครั้งและทุกครั้งก็จะโดนคุณแม่ยึดบัตรเครดิตทุกใบอายัดเงินในบัญชีของฉันทุกเล่ม เห้อแค่คิดก็ปวดจิต มีทางเดียวที่ฉันจะไม่โดนคุณแม่หาคู่ให้อีก คือมีสามีเป็นตัวเป็นตนสักทียังไงล่ะ
พรึบ
“อ่ะ พี่ให้” พี่พายุหยิบบัตรเครดิตหนึ่งใบมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าของฉัน ฉันก็กำลังจะยื่นมือไปคว้าบัตรมาแต่ก็โดนสายตาคู่คมของพี่พายุมองมา แหม่ไอเราก็นึกว่าจะให้ง่ายๆ ซะอีก
“อะไรว่ามา?” ฉันเอ่ยถามพี่พายุไป บนโลกนี้ไม่มีของที่ได้มาฟรีๆ หรอกนะจ๊ะ ฉันจะบอกให้ พี่พายุยิ้มหวานให้ฉัน
“เบอร์หนูผิง” เขาตอบฉันมาอย่างมั่นอกมั่นใจ ฉันว่าแล้ว ว่าทำไมครั้งนี้ให้ง่ายจัง ฉันก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ ใส่เขาและยื่นมือไปตรงหน้าเขาเพื่อขอโทรศัพท์ของเขา เขาก็ยิ้มอย่างดีใจและยื่นโทรศัพท์เครื่องหรูของเขามาให้ฉัน ฉันก็หยิบโทรศัพท์จากเขามาและกดเบอร์ของฉันอีกเบอร์ให้เขาไป หึๆ ใครจะให้ง่ายๆ เบอร์หนูผิงนางฟ้าตัวน้อยที่แสนดีของฉันล่ะย่ะพี่พายุ ฝันไปเถอะ
“อ่ะ ที่นี้ฝุ่นเอาไปได้แล้วใช่ป่ะ?” ฉันส่งโทรศัพท์กลับคืนไปให้พี่พายุและยื่นมือไปหยิบบัตรเครดิตของพี่พายุมาและเอ่ยถามเขา เขาก็มองจอโทรศัพท์และยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยังกับคนที่กำลังเพ้อฝันอะไรอยู่แบบนั้น แหม่เป็นเอามากน่ะพี่ฉัน
“ไม่ตอบงั้นเอา” ฉันลุกขึ้นและรีบเดินออกมาจากห้องของพี่พายุทันที มุ่งหน้าไปยังคอนโดของฉันที่อยู่ถัดจากคอนโดของพี่พายุไปสองซอย
“ม๊วฟ ที่นี้คุณแม่ก็ทำโทษฝุ่นไม่สำเร็จอีกแล้วนะคะ คุณแม่ขา^_^” ทันทีที่ฉันเข้ามานั่งในรถของฉัน ฉันก็จุมพิตลงไปบนบัตรสีทองอร่ามตาที่มีวงเงินการใช้ไม่อั้น หึๆ พี่ชายของฉันหล่อและใจดีใช่ม่ะล่ะคริๆๆ
“คืนนี้ฉันจะไปแดนซ์!!” ฉันพูดขึ้นและรีบสตาร์ทรถขับออกมาจากที่จอดรถคอนโดพี่พายุทันที เปิดเสียงเพลงให้ดังกระหึ่มลั่นรถไปเลย ฉันใช้เวลาไม่นานในการขับรถจากคอนโดของพี่พายุมาถึงคอนโดของฉัน แต่ฉันจอดแวะร้านสะดวกซื้อซะก่อน ไปหาของกินมาตุนไว้เยอะๆ
ปึง
“เห้ย!!!!!” ฉันร้องขึ้นอย่างตกใจที่ฉันกำลังจะถอยหลังรถเข้าที่จอดแต่ก็ได้ยินเสียงดังปึงและเเรงกระแทกกับรถของฉันอย่างแรง ทำให้ฉันตกใจรีบเปิดประตูลงไปจากรถก็พบกับร่างของผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไม่ได้ติดกระดุมเสื้อบนสี่เม็ดทำให้เห็นแผงอกสุดล่ำและขาวซีดของเขาแต่ที่คอของเขามีสร้อยทองเหมือนโซ่ที่เขาเอาไว้ผูกคอสุนัขสวมอยู่เส้นใหญ่มากน่าจะหนักสิบบาทได้ล่ะมั่งและเขาก็สวมกางเกงรัดรูปสีแดงแปร๊ดยืนเอามือปิดปากตัวเองมองไปที่ท้ายรถของฉันอีกมือเอากระเป๋าหนีบไว้ตรงรักแร้
“นี่นังชะนี!!” เสียงสูงปี๊ดดดของผู้ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นพลางชี้นิ้วมาที่ฉันที่กำลังยืนสตั้นค้างอยู่ในท่าที่อึ้งและดวงตาเบิกกว้างเมื่อมองไปที่ท้ายรถสปอร์ตคันสีแดงของฉันที่คุณพ่อของฉันเพิ่งจะซื้อให้เป็นของขวัญที่ฉันสอบติดคณะแพทยศาสตร์เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เองน่ะ
“เธอชนหน้ารถของฉัน!!” เสียงแหลมปี๊ดเอ่ยขึ้นอีกทำให้ฉันละสายตาจากท้ายรถของฉันหันกลับไปมองหน้าเขา ก็ต้องตกใจอีกเพราะผู้ชายคนนี้ปัดแก้มทั้งสองข้างซะสีแดงแปร๊ดเหมือนกำลังจะไปเล่นละครลิงยังไงยังงั้นเลย และทรงผมของเขาก็คือทรงหัวเห็ดที่เด็กวัยรุ่นนิยมกันนั้นแหละ
“อะไรกันย่ะ ฉันถอยของฉันอยู่ดีๆ นายนั้นแหละที่เบี่ยงหน้ารถมาหาท้ายรถฉัน!!” ฉันเดินเข้าไปหาเขาแล้วยกเเขนขึ้นมาเท้าเอว รถก็เก๋าเก่ามันยังขับได้เหรอนั่น?
“กรี๊ดดดด!” เสียงกรี๊ดร้องของกระเทยคนนี้ทำให้ฉันยกมือขึ้นมาปิดหูแทบไม่ทัน
“จะกรี๊ดอะไรหนักหนาว่ะ รำคาญ!!!” ฉันโวยขึ้นทำให้เขาหยุดกรี๊ดและเปลี่ยนมามองหน้าฉันแทน ฉันก็ยกแขนเปลี่ยนมายืนกอดอกและใช้สายตาพิจารณาการแต่งตัวของเขาที่มันเชยได้อีก และรถกระบะเก่าที่มีแต่สนิ่มเต็มไปหมด
“นี่นางชะนี!” เขายกมือขึ้นมาชี้หน้าฉัน นิ้วชี้ของเขาขาวออกไปทางซีดๆ แต่นิ้วนี้อ่อนดีจริงๆ ทำให้ฉันนึกถึงไปตอนที่ลิเกออกมารำเปิดตัวยังไงยังงั้นเลย
“อะไรย่ะ โปรดอย่าเรียกฉันว่าชะนี เพราะวันๆ ฉันไม่ได้ร้องหาแต่ผัวๆ เหมือนเธอ!!!” ฉันพูดขึ้นพลางใช้สายตาดูถูกเหยียดหยามมองไปยังเขาและชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนที่ยืนขนาบข้างเขาทั้งสองข้าง ตอนแรกฉันว่าเขามาคนเดียวแต่พอยืนไปยืนมาทำไมมีคนโผล่มาอีกสองคนได้ก็ไม่รู้
“กรี๊ดดดด โคโค้คะ คิงคี้คะ ดูนางชะนีนี้มันว่า ไคไค้สิคะ ไคไค้รับไม่ได้กรี๊ดดดด!!” เสียงกรี๊ดร้องแหลมเอ่ยขึ้นอย่างใส่จริตในการพูดของผู้ชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกรี๊ดร้องขึ้นมาอีกพลางชี้นิ้วมาที่ฉันและหันไปออดอ้อนผู้ชายร่างใหญ่ทั้งสองคนนั้น ฉันก็เบะปากมองบนใส่ คนมาอารมณ์ดีๆ มาทำให้อารมณ์เสียซะงั้น ไม่กงไม่กินมันแหละ!!!
พรึบ
“หล่อนจะไปไหนย่ะ?” เสียงเเหลมของคนคนเดิมเอ่ยถามฉันอีกเมื่อฉันยื่นมือไปเปิดประตูรถสปอร์ตของฉัน
“ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะมาตอบเธอ!” ฉันเอียงคอหันหน้าไปมองตอบเขาพลางกรอกตาไปมา ท่าทางของฉันทำให้เขากรี๊ดร้องหนักมากขึ้นกว่าเดิม ฉันจึงขึ้นรถอย่างไวเพื่อจะหนีจากเสียงกรี๊ดแหลมของกระเทยคนนั้นได้
“อารมณ์เสีย!” ฉันพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดและรีบขับรถออกมาจากตรงนั้นทันที กลับไปนอนสวยๆ ที่คอนโดดีกว่า นอนเก็บแรงไว้เพื่อคืนนี้ คืนที่สายปาตี้อย่างฉันจะได้ไปปลดปล่อยจากความเครียดเพราะมัวแต่อ่านหนังสือสอบหนึ่งเดือนเต็มเพื่อจะสอบเข้ามหาลัยที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ฉันเข้าไปเรียนให้ได้ เพราะพี่พายุของฉันก็เรียนที่นั้นเหมือนกัน พี่ชายฉันน่ะเก่ง เรียนไปด้วยช่วยคุณพ่อของฉันเคลียร์เอกสารที่โรงพยาบาลไปด้วย เขาทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันได้ยังไง ไม่เหมือนฉันที่วันๆ หนึ่งไม่ต้องทำอะไร นอกจากกินนอนและแต่งสวยเที่ยวไปวันๆ ที่จริงก็ไม่ต้องแต่งมากอ่ะน่ะ เพราะคนมันสวยอยู่แล้วไง
“สวัสดีครับคุณฝุ่น นี่ของคุณครับ” พี่ยามเอ่ยสวัสดีฉันทันทีที่เขาเห็นฉันเดินลงมาจากรถหรูมุ่งหน้าไปยังประตูทางเข้าคอนโดฉัน เขายื่นช่อดอกไม้ดอกกุหลาบสีแดงมาให้ฉัน
“สวัสดีค่ะพี่ยาม ขอบคุณนะคะ^_^” ฉันเอ่ยสวัสดีพี่ยามและหยิบช่อดอกไม้มาจากเขาพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ เป็นแบบนี้ประจำฉันมักจะได้ของขวัญจากบรรดาผู้ชายหน้าม่อทั้งหลายที่อยากจะเข้ามาขายขนมจีบให้ฉัน แต่พวกเขาไม่ค่อยกล้าเอามาให้ฉันต่อหน้าฉันตรงๆ หรอกเพราะว่าพวกเขากลัวฉันด่ากระเจิงยังไงล่ะ รู้น่ะว่าฉันปากดีแต่ก็ยังคิดที่จะเอาไปทำแม่พันธ์อีก ผู้ชายสมัยนี้ แพ้ผู้หญิงสวยและนมใหญ่ ฉันล่ะเบื่อจริงๆ ไอพวกหน้าม่อทั้งหลาย
พรึบ
“จิ๊” ฉันจิ๊ปากพร้อมกับโยนช่อดอกไม้ลงไปในถังขยะตรงทางขึ้นคอนโดฉัน ฉันมักจะทำแบบนี้เป็นประจำหลังจากที่ได้ของของคนที่ฉันไม่รู้จักและไม่อยากจะรู้จัก ฉันสวย ฉันรวย ฉันเริ่ด และฉันหยิ่ง อย่าหวังว่าจะได้แอ่มฉันนะจ๊ะพวกผู้ชายหน้าม่อเสี่ยแกๆ ทั้งหลาย หึๆๆ