ตอนที่ 3 เดินทางกลับไทย

2627 Words
ตอนที่ 3 เดินทางกลับไทย เหมันต์กลับเข้ามาในห้องพักของตัวเองด้วยความสับสน สิ่งที่หญิงสาวแปลกหน้าที่ให้ความรู้สึกน่าเบื่อยังวกวนในหัว คำพูดที่เธอบอกว่าเป็นเมียของคิมหันต์ยังทำให้ครุ่นคิด มันมีอะไรที่มันแตกต่างไปจากที่ควรหรือเปล่า พี่ชายของเขามีรสนิยมแบบนี้แล้วอย่างนั้นเหรอ เมื่อหาคำตอบเพื่อไขข้อสงสัยไม่ได้ ดอกเตอร์เหมันต์จึงโทรติดต่อกลับไปที่บ้านด้วยการ VDO conference ก่อนจะติดต่อเขาได้แฮ็กเข้าไปหาข้อมูลของหญิงสาวจากชื่อที่จดจำได้ และฐานข้อมูลของพาสปอร์ตเธอ จนรู้ว่าเธอชื่อ จิรักษ์ วิสิทธิ์พงศ์ เป็นคนไทยที่มีอายุเท่ากับพี่ชายพอดิบพอดี นอกจากนี้ในประวัติยังบอกด้วยว่าเป็นนายตำรวจหญิงผู้มากความสามารถ รายละเอียดยิบย่อยที่หากไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงก็เชื่อว่าเป็นชาย “เฮ้ย!! วันนี้ฝนท่วมแน่” คิมหันต์จ้องมองหน้าจอที่น้องชายกำลังปั้นหน้าหล่อหวานนิ่ง เขาทักทายก่อนจะส่งเสียงเรียกน้องสาวคนดี “เรนนี่ คุยกับวินเปล่า!!” “คุยค่ะ!! คิดถึงพี่วินจังเลย” เรนนี่ปรี่เข้ามาหาในมือมีคุกกี้หนึ่งชิ้นที่ยัดเข้าปาก คนที่อยู่ปลายทางเพียงยิ้มและรู้สึกคิดถึงน้องสาวเช่นกัน พรุ่งนี้ก็จะเดินทางกลับแล้วคงหายคิดถึงไปได้มาก “แกบินไฟลต์ไหน ถึงกี่โมง จะได้ไปรับถูกน้องชาย!” คิมหันต์ปัดแก้มน้องสาวที่มีขนมติดอยู่ น้องสาวตัวดีเอาเก้าอี้มานั่งข้างด้วยความดีใจ “น่าจะถึงประมาณ 10.00น. จากความเร็วของ..” “พอ ๆ” คิมหันต์รีบพูดแทรกก่อนที่น้องชายจะอธิบายไปถึงกลไกลการทำงานของเครื่องบิน “งั้นเดี๋ยวไปรับนะ พ่อกับแม่บ่นถึงใหญ่ ปู่กับย่าก็นับวันรอที่แกจะกลับเลยนะเว้ย!” “ผมคิดถึงทุกคน!” “พี่วิน! เรนทำผมมาใหม่สวยเปล่า” หญิงสาวหัวชมพูสะบัดผมใส่หน้าจอโน้ตบุ๊ก เธอออกจะภูมิใจสีนี้อย่างมากด้วยมีโทนสีที่ไล่แบบไม่ร้อนแรงมาก มีความอบอุ่นและเด่นปลายชมพู “ก็ดีนะ! จับคู่สีได้ดี บลอนด์ทองส่วนบนตัดปลายด้วยสีชมพูเมื่อมองภาพรวมแล้วเหมือนรับดีเอ็นเอจากพรินซ์ จาร์ดีนเออร์** เป็นดอกกุหลาบสายพันธุ์หายากจากทวีปยุโรป แต่ถ้าไล่ให้สีชมพูมันสูงกว่านี้สักยี่สิบเปอร์เซ็นต์ แล้วเฟดให้สีมันฟุ้งกว่านี้อีกหน่อย พี่ว่าโอเคเลยนะ” พิรุณทิพย์ได้แต่ยิ้มแห้งในคำตอบที่ได้จากพี่ชายคนรอง มันเกินกว่าที่เธอคาดไว้อย่างมาก เป็นการอธิบายโดยละเอียดชนิดทะลุปรุโปร่งเลย **ดอกกุหลาบสีชมพูอ่อน มีกลิ่นหอมหวานโรแมนติกของพีช ได้รับรางวัลเหรียญดอกประมาณ 60 กลีบต่อหนึ่งดอก เมื่อบานเต็มที่จะเผยให้เห็นเกสรด้านใน โดยชื่อ Prince Jardinier ตั้งเพื่อถวายพระเกียรติแด่เจ้าชาย Louis Albert De Broglie (หลุยส์ อัลเบิร์ต เดอ บรอยล์) แห่งประเทศฝรั่งเศส ซึ่งโปรดการทำสวนเป็นอย่างมาก จึงเป็นที่มาของชื่อ Price Jardinier (Prince หมายถึง เจ้าชาย หลุยส์ อัลเบิร์ต และ Jardinier หมายถึง ชาวสวน รวมกันหมายถึง The Gardener Prince)ทองในการประกวดกุหลาบปี 2012 ที่ประเทศโมนาโก “ไงล่ะ!! ลึกซึ้งซะยิ่งกว่าตอนที่พี่บอกว่า...เหมือนขนมปุยฝ้ายเยอะเลย” คิมหันต์เอ่ยขึ้นหลังจากให้น้องสาวพรีเซนต์สีผม เขาลุกไปหยิบน้ำมาให้น้องสาวที่กินขนมเต็มปาก “ก็พี่ซัมไม่ใส่ใจรายละเอียดนี่นา ดูพี่วินสิ วิเคราะห์ละเอียดเลยเนี่ย” พิรุณทิพย์พูดยิ้ม ๆ “ไม่ละเอียดเกินไปหน่อยหรือไง” พี่ชายคนโตว่า ตอนนี้เขากำลังจะกลายเป็นหมาหัวเน่าแล้ว “ผมอยากถามอะไรบางอย่างพี่ซัมเมอร์” “ว่ามาดิ! เรื่องอะไร” “ผมอยากรู้ว่า พี่รู้จักผู้หญิงที่ชื่อ จิรักษ์ วิสิทธิ์พงศ์ ไหม” เหมันต์ถามออกไปโดยละเอียด คนฟังที่อยู่ปลายทางทั้งพี่ชายและน้องสาวหันมองหน้ากันเล็กน้อย “ผมหมายถึงเธอมีความสำคัญอะไรกับพี่ซัมหรือเปล่า” “เอิ่ม.. สำคัญสิ มันเป็นคนสำคัญในชีวิตฉัน” คนตอบตอบในฐานะเพื่อนที่รักและสนิทกันจนรู้นิสัย แน่นอนว่าเพื่อนจะต้องเป็นคนสำคัญ “อย่างนั้นเหรอ” เหมันต์เหมือนทำหน้าไม่ถูก ระบบประมวลผลในหัวติดขัด เขาประเมินรสนิยมพี่ชายผิดไป หรือการที่ไม่ได้เจอกันหลายปีจะทำให้มีอะไรเกิดขึ้น “มีอะไรหรือเปล่าคะพี่วิน แล้วพี่วินไปรู้จักพี่รักษ์ได้ไงคะ พี่รักษ์เขาเป็นคนที่น่ารักมาก ๆ สวยด้วยนะ” น้องสาวที่พรีเซนต์ผมในตอนแรกเปลี่ยนมาพรีเซนต์พี่สาวเพื่อน ด้วยอยากจะให้พี่สักคนได้มาเป็นแฟน เธอแอบกลัวว่าพี่ของเพื่อนจะเป็นทอมแล้วเมินชายไปเสีย ด้วยรูปร่างหน้าตาก็สะสวยจนผู้หญิงทั่วไปอาย ระหว่างที่กำลังนั่งอยู่บนเครื่องเหมันต์รู้สึกผิดในใจ เมื่อเขาต่อว่าหญิงสาวผู้เป็นภรรยาของพี่ชายไปถึงสี่ข้อ สุดท้ายแล้วเธอคนนั้นก็เป็นคนที่สำคัญต่อใจพี่ชายจริง ๆ หากเขาได้เจอเธออีกสักครั้งคงอยากที่จะขอโทษ ไม่อยากให้รู้สึกติดค้างที่ได้ว่าเธอเอาไว้ และเหมือนฟ้าจะได้ยินสิ่งที่ดอกเตอร์เหมันต์พูดในใจ เมื่อหลังจากความคิดนั้นสิ้นสุดลงร่างกายของหญิงสาวที่ดูทะมัดทะแมงก็เดินเข้ามาหา มากไปกว่านั้นเธอคือคนที่จะนั่งข้างกายของเขาตลอดการเดินทางนี้ “โลกกลมสุด ๆ เลย นี่เธอก็กำลังจะเดินทางกลับไทยเหรอ พอดีเลย เราถามอะไรหน่อยสิ เธอเคยทำอะไรที่แบบ แฮ็กข้อมูล หรือสืบข้อมูลของใครอะไรแบบนี้ไหม” “ผมขอโทษ!” เหมันต์เอ่ยพูดโดยไม่ตอบคำถามคนถาม เมื่อเธอพูดร่ายยาวไม่ยอมเปิดโอกาสให้เขาพูดอะไรออกไปบ้าง จิรักษ์ที่กำลังหาทางหว่านล้อมเพื่อรู้ให้ได้ว่าเขาสามารถที่จะแฮ็กข้อมูลได้ไหม เธอหยุดชะงักพูดอะไรไม่ออกกับคำขอโทษ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะขอโทษด้วยเรื่องอะไร เรื่องที่ไม่ยอมช่วยเมื่อวันก่อน เรื่องที่ด่าแล้วเดินหนี หรือเรื่องอะไรกันแน่ “ผมรู้แล้วว่าคุณเป็นคนรักของพี่ซัมเมอร์ ขอโทษอีกครั้ง” ‘กูไปเป็นคนรักของไอ้ซัมตอนไหนวะ’ จิรักษ์อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เธอยังตั้งสติไม่ได้กับเหตุการณ์ตอนนี้ จากเรื่องที่โกหกทำไมเป็นเรื่องที่เขากลับมาขอโทษได้ “ขอน้ำเปล่าสักแก้วนะคะ จะกินยา” จิรักษ์เอ่ยพูดเมื่อพนักงานแอร์โฮสเตสส์เดินผ่าน ก่อนที่เธอจะหันมาสนใจชายข้างกายและคลำหายา “คือเราก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงขอโทษเรานะ แต่ช่างมันเถอะ เรามาคุยกันเรื่องเฮ้ย!!” มือของจิรักษ์ที่พยายามดึงยาออกจากกระเป๋าติดอะไรบางอย่างดึงไม่ออก จนเธอออกแรงดึงมากกว่าเดิมกระทั่งชนเข้ากับข้อแขนดอกเตอร์เหมันต์เต็ม ๆ ของบางอย่างในมือของเขากระเด็นไปทางเดียวกับยาจิรักษ์ “เราขอโทษ กระเป๋าบ้านี่ไม่รู้ติดอะไร” “นี่ยาคุณผู้หญิงค่ะ” แอร์โฮสเตสส์ที่เอาน้ำมาให้เป็นฝ่ายเก็บยากระปุกสีขาวทั้งสองกระปุกมาคืนให้ จิรักษ์หยิบเอาหนึ่งกระปุกมาเปิดกินยากินน้ำก่อนที่เครื่องจะขึ้น เธออยากที่จะหลับมากกว่ามีสติครบถ้วนบนเครื่อง “ค่อยโล่งหน่อยได้กินยาแล้ว เรามาคุยเรื่อง อ๊ะ! อะไรอีก!!” จิรักษ์อุทานเมื่อชายที่นั่งข้างกายจับข้อแขนของเธอแน่น เธอป้องกันตัวและสามารถทำร้ายเขาได้แน่ แต่ที่ไม่ทำเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร “อะไรของเธอคะ” “คุณไม่ดูหรือไง!! ว่ายาที่คุณกินเข้าไปมันผิด คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกินยาอะไรเข้าไป มันคือ GHB Gamma-hydroxybutyrate**” เหมันต์อยากจะบีบคอเธอที่นั่งข้างกาย ทั้งที่อ่านประวัติมาแล้วว่าเป็นตำรวจก็ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่ไม่รอบคอบขนาดนี้ “เหี้-ย!! แล้วเธอเก็บยาแบบนี้ไว้ทำไม เธอต้องมีตัวช่วยแบบนี้เลยเหรอ ทำไงดีวะกู แม่งยาเสียสาวด้วย!!” จิรักษ์ร้อนรน เป็นเพราะเธออยากที่จะหลับก่อนเครื่องขึ้นทำให้รีบร้อน และเธอก็คิดว่าการที่เขามียาสีขาวเหมือนกันก็น่าจะเป็นยานอนหลับเหมือนกัน “มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ” แอร์โฮสเตสส์คนหนึ่งเดินเข้ามาถามเมื่อคนทั้งคู่ดูจะมีอะไรบางอย่างขัดข้อง “คือผมอยากจะ..อื้ม” สองมือของจิรักษ์ปิดปากของเหมันต์ทันที เธอจะยอมให้เขาบอกคนอื่นว่าเธอกินยาเสียสาวเข้าไปไม่ได้ ****GHB Gamma-hydroxybutyrate (ในอเมริกาเรียกว่า GHB) หรือที่รู้กันในชื่อภาษาไทยเรา มักจะเรียกว่า “ยาเสียสาว” ยาชนิดนี้เป็นพวกวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีผลออกฤทธิ์กระตุ้น ทำให้รู้สึกตื่นตัว มีพฤกรรมรู้สึกสนุกที่นำไปสู่การที่อยากมีเพศสัมพันธ์ มีทั้งชนิดเม็ด ชนิดผง หรือชนิดเหลว หลังได้รับยาเข้าไปในร่างกายใช้เวลา 15-20 นาที และอาจมีฤทธิ์อยู่ได้นานราว ๆ 3-4 ชั่วโมง โดยผู้ที่ได้รับยาจะมีอาการดังต่อไปนี้ มีอารมณ์สนุก มีความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น ความยับยั้งชั่งใจลดลงต่ำสุด มีอากาารสั่น คลื่นไส้อาเจียน ง่วงนอน มึนงง เป็นต้น “ไม่มีอะไรค่ะ เราเป็นเพื่อนสาวกัน และกำลังคุยถึงเรื่องผู้ชายที่หล่อมาก” จิรักษ์ว่าพลางดึงชายตัวโตกว่าเข้ามากอด มือยังปิดปากของเขาไม่ยอมให้พูดอะไร “อื้ม..คุณพูดอะไร ผมไม่ใช่เพื่อนสาวของคุณ และคุณควรที่จะให้เขาช่วย” เหมันต์ต่อว่าทันทีที่ร่างกายหลุดออกจากการยึดของหญิงสาวแปลกหน้าผู้เป็นแฟนของพี่ชาย “เธอจะบ้าเหรอ เธอจะให้เราบอกคนอื่นว่าเรากินยาเสียสาวเข้าไปเนี่ยนะ เธอเป็นคนทำให้เรากินยานี้เข้าไป เธอจะต้องเป็นคนหยุดเรา ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ไม่งั้นเราจะจับเธอทำผัว!!! เข้าใจไหม!!!!” “......” ดอกเตอร์ผู้มีไอคิวสองร้อยถึงกับพูดอะไรไม่ออก “วินเทอร์ ทางนี้!!” “พี่วินเทอร์ทางนี้จ้า!!” เสียงเรียกส่งประสานของพี่ชายและน้องสาวดังเข้ามาในหู ชายตัวสูงในชุดเสื้อโค้ทตัวยาวสีดำจึงได้ละสายตามองหา ดวงตาคมหวานกรอกสายตาไปโดยรอบพร้อมกับเข็นกระเป๋าสัมภาระตัวเองเข้าไปหา ทั้งที่เป็นการกลับมาไทยในรอบสามปี แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขามีสีหน้าดีใจเท่ากับคนที่มารอรับก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง เพราะการเป็นนักวิจัยมากความสามารถ เป็นทรัพยากรบุคคลที่หลายองค์กรต่างพยายามดึงตัวเพื่อไปทำงานด้วย ยอมเสียเงินมากมายหลายร้อยล้านเพื่อได้เขาไปอยู่ในทีมวิจัย แต่หนุ่มอายุน้อยที่เป็นถึงดอกเตอร์กลับไม่ชายตา เขาเลือกที่จะทำงานที่ชอบและอยากทำเท่านั้น เรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัย “พี่วินเทอร์กลับมาปีนี้หล่อมาก น้องจำไม่ได้เลย หล่อกว่าพี่ซัมเมอร์อีก คิกคิก” น้องสาวตัวแสบอย่างพิรุณทิพย์เอ่ยแซวพร้อมกับกระทบกระเทียบพี่ชายอีกคน ความจริงแล้วพี่ชายของเธอทั้งสองหล่อคนละแบบ คนเป็นพี่ชายคนโตคิมหันต์เป็นผู้ชายหล่อร้าย มาดนิ่ง เนี้ยบ แฟชั่นจ๋าก็ว่าได้ แต่เรื่องคมปากนี่กรรไกรยังอาย ส่วนพี่ชายคนที่สองอย่างวินเทอร์ เป็นชายที่หล่อนิ่งจนได้รับฉายาว่า หล่อเย็น ที่เป็นแบบนั้นเพราะเขานิ่งเฉยราวกับน้ำแข็ง เวลาคุยด้วยก็จะเป็นวิชาการไปหมดทุกอย่าง สาวไหนก็เป็นอันคุยกับพี่ชายของเธอคนนี้ไม่รู้เรื่อง บ่อยครั้งที่พี่ชายคนโตมักไล่ให้ไปไกล ๆ “ชมกันเข้าไป ได้พี่ใหม่ ก็ลืมพี่เก่า!” คิมหันต์พูดอย่างน้อยใจ แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากน้องสาว เพราะมัวแต่ตื่นเต้นกับพี่ใหม่ที่ยืนหล่อมาดเนี้ยบเรียกสายตาสาว ๆ โดยรอบ “ที่พี่บอกจะเลี้ยงชาบูอาทิตย์หน้า ไม่เลี้ยงแล้วนะ” พี่ชายคนโตที่ถูกว่าถึงความหล่อพูดลอย ๆ และนั่นก็ทำให้นางสาวพิรุณทิพย์กระโจนเข้าไปกอดแขนอย่างออดอ้อน เธอผิดไปแล้วที่กล้าว่าพี่ชายอย่างซัมเมอร์ไม่หล่อ เขาทั้งหล่อและป๋ามากเลยเวลานี้ “โถ! พี่ซัมเมอร์สุดหล่อของน้องเรนนี่ ใครกล้าว่าพี่ไม่หล่อ ไม่ต้องน้อยใจนะ เดี๋ยวน้องซื้อไอติมให้กิน” เพียงเท่านี้คนที่ตีสีหน้าโกรธก็ยิ้มออกมาได้ เพราะน้องสาวตัวแสบของเขานั้นรู้จุดอ่อนพี่ชายดี น้อยคนนักที่จะรู้ว่าซัมเมอร์ผู้ชายเจ้าระเบียบชอบกินไอศกรีม พี่ชายคนโตที่ร้ายกับคนทั้งโลกแต่เขาจะยอมโอนอ่อนให้กับน้องสาวสุดที่รักแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น “ไปกันเถอะ ป่านนี้พ่อกับแม่รอแกแย่แล้ว” คิมหันต์เข้าไปทำหน้าที่เข็นรถที่บรรทุกกระเป๋าใบใหญ่ให้น้องชาย “เดี๋ยวสิพี่ซัม รอจิรากับพี่รักษ์ก่อน” พิรุณทิพย์เอ่ยบอกเมื่อจิราแยกไปเข้าห้องน้ำ “เฮ้!! เรนนี่ พี่รักษ์มาแล้ว!!” เสียงใสของใครบางคนทำให้กลุ่มสามพี่น้องต้องหยุดนิ่ง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งปรี่เข้ามาหา ‘จิรา วิสิทธิ์พงศ์’ เพื่อนสนิทซึ่งเรียนคณะเดียวกับพิรุณทิพย์ เธอเป็นเพื่อนสนิทที่ทำเรื่องแก่นเซี้ยวที่มหา’ลัยกับเธอเสมอ “นี่น้องชายกูไง วินเทอร์ ที่เล่าให้ฟังว่าไปทำงานวิจัยเมืองนอก วินเทอร์นี่เพื่อนพี่ ชื่อ...” คิมหันต์ไม่ทันที่จะได้แนะนำจบ หนุ่มหน้าใสที่ไร้รอยยิ้มก็เดินเรียบไปตามทางเดิน ไม่บอกก็รู้ว่าชื่อเสียงเรื่องความเย็นชาของเขาเป็นที่ประจักแจ้งขนาดไหน คนถูกแนะนำแต่ไม่ได้รับควานสนใจทำท่าทางอึดอัด เพราะกว่าจะลงเครื่องได้เธอกับเขาก็ฟาดฟันกันมาหลายรอบกว่าที่ยาจะหมดฤทธิ์ “ดอกเตอร์วินเทอร์คงไม่อยากรู้จักกูเท่าไหร่” จิรักษ์พูดออกมา เพราะเท่าที่เธอจำได้ก็ไม่รู้ว่าจับ ลูบ ล้วงร่างกายของเขาไปกี่ที่ และในส่วนเวลาที่สติหลุดจำไม่ได้ก็ขอไม่พูดถึงมัน “พี่รักษ์อย่าไปเรียกชื่อเล่นของพี่วินเทอร์นะ ไม่อยากนั้นเขาจะเป็นมนุษย์น้ำแข็งมากกว่านี้ ต้องเรียกเหมันต์ค่ะ” พิรุณทิพย์เอ่ยแนะนำ เธอรู้จักพี่ชายของเธอทั้งสองคนดี ทั้งคู่ต่างไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่น “รับทราบครับน้องเรนนี่!” “ไอ้รักษ์ กูว่าหน้ามึงซีด ๆ นะ เป็นไรปะวะ” คิมหันต์เอ่ยถามจากความผิดปกติ “แล้วมึงไปทำอะไรอังกฤษ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน” “มึงอย่ารู้เลย ไม่มีไรหรอก กลับเถอะ กูเมื่อยไปทั้งตัว!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD