ตอนที่ 1 ความผิดพลาดของการเริ่มต้น
ตอนที่ 1
ความผิดพลาดของการเริ่มต้น
‘จากความผิดพลาดในครั้งนี้ เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ คุณอาจทำให้คนในทีมต้องตายเพราะคุณ! ต่อไปนี้คุณห้ามเข้ามาทำงานในทีมอีก! จนกว่าคุณจะพิสูจน์ตัวเองได้ว่ามีความสามารถ!!’
ประโยคของผบ.ยังสร้างความเจ็บใจให้กับคนฟังไม่หาย สารวัตรรักษ์ หรือ จิรักษ์ วิสิทธิ์พงศ์ เธอเป็นตำรวจหญิงที่ถูกปลดออกจากทีมปฏิบัติการณ์พิเศษ ด้วยเพราะข่าวกรองที่เธอได้รับไม่แน่นเพียงพอ ส่งผลให้การนำกำลังเข้าจับกุมพวกค้ายาเสพติดผิดพลาด กำลังเสริมได้รับบาดเจ็บ ทีมของเธอเกือบถูกยุบ ทุกอย่างผิดพลาดไปหมดจากแผนโดยสิ้น
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ!!” จิรักษ์อยากจะบ้าในเวลานี้ ตอนนี้เธอไม่ต่างจากคนว่างงานที่ไม่มีอะไรต้องทำ
ร่างกายของหญิงสาวทิ้งตัวลงนอนกับเตียงอย่างแสนเบื่อ ผ่านมาแล้วสองอาทิตย์ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีเพียงการช่วยสืบคดีของคิมหันต์เพื่อนสนิทของเธอเท่านั้นที่เบาบางความเบื่อลงไปได้
‘หากคุณสามารถที่จะแฮ็กข้อมูลของนายอานนต์ ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดข้ามชาติได้ คุณจะได้กลับไปเข้าทีม แต่หากภายในเดือนธันวาคมนี้...คุณทำไม่สำเร็จ!! ผมคงต้องปลดระวางคุณ และไม่ได้ทำงานกับทีมปฏิบัติการพิเศษ’
“โอ๊ย!!!! นักโปรแกรมเมอร์ แฮกเกอร์ เป็นสิบคนแล้วยังแฮ็กไม่ได้เลย ทั้งประเทศไทยมันไม่มีใครทำเป็นแล้วหรือไงวะ!!” จิรักษ์เตะขาไปในอากาศด้วยความหงุดหงิด เธอทำอะไรไม่ได้เลย เธอไม่ใช่นักโปรแกรมเมอร์ และเธอก็ไม่สามารถหานักโปรแกรมเมอร์ได้เลย
ไม่ว่าจะติดต่อไปทางไหนก็ดูจะติดขัด ทุกอย่างยากลำบาก เหมือนมีคนคอยขัดขวางเธอตลอดเวลา ไม่มีนักโปรแกรมเมอร์คนไหนรับงานที่เธอจ้าง ไม่ว่าจะทุ่มเงินแค่ไหนก็ไม่เป็นผล มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่คอยขัดขวางอยู่
“เบื่อโว้ย!!” ปากพูดมือของจิรักษ์ก็รูดไปกับหน้าจอโทรศัพท์ และชื่อเดียวที่เข้ามาในหัวสำหรับปัญหานี้ก็คือ ‘คิมหันต์’ คิดแล้วมือเรียวก็กดต่อสายไปยังปลายทางทันที
(“มึงไม่มีงานทำหรือไงวะ”) ประโยคแรกของการทักทายของเพื่อน
ความจริงหากจิรักษ์เป็นคนที่รับสายก็คงจะรู้สึกแบบนั้น เพราะตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอโทรหาเขาทุกครั้งที่ตื่น ว่าง หลังกินข้าว หรือตอนไหนก็ได้ที่รู้สึกว่าเซ็งโลก
“กูโทรหาเพื่อนไม่ได้ไง”
(“มีไรก็ว่ามา”)
“เอิ่ม.. คือกูถามไรหน่อย ถ้าทั้งประเทศมึงหาคนมาทำงานสำคัญไม่ได้ งานแม่งโคตรสำคัญเลยนะ และแม่งหาทั่วละ แต่หาไม่ได้ มึงจะทำไง” คนตั้งคำถามพยายามถามอย่างรอบคอบที่สุด ด้วยเธอยังไม่พร้อมที่จะให้เพื่อนรับรู้ว่ากำลังจะถูกปลด
กว่าเธอจะดิ้นรนเพื่อให้ได้มาเป็นตำรวจไม่ใช่เรื่องง่าย เธอทุ่มเทตัวเองมาโดยตลอดแทบจะอุทิศชีวิต จนวันที่มันผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่เพียงครั้งเดียว กำลังจะถูกปลดในไม่ช้า เธอก็อยากที่จะพยายามด้วยตัวเอง
(“มึงมีปัญหาอะไรปะเนี่ย!”) คนปลายสายถาม แน่นอนว่าเพื่อนคนนี้มีความฉลาด จับผิดเก่งเป็นที่หนึ่ง แต่มันก็ไม่มากพอที่ตำรวจอย่างเธอจะยอมจำนน
“ตอบกูมาก่อน...”
(“กูก็ต้องหาใครสักคนมาทำให้ได้ ต้องแลกอะไรกูก็ยอม!”) เป็นคำปรึกษาที่มีประโยชน์มาก จิรักษ์กัดฟันอย่างใช้ความคิด เธอก็คิดแบบนั้น แต่เธอหาไม่ได้นั่นแหละคือประเด็น
“แต่กูหาทั่วแล้ว ไม่มี! กูไม่ต้องถ่อไปนอกโลกเลยเหรอ”
‘นอกโลกเหรอ นอกประเทศทำไมมึงไม่คิดวะไอ้รักษ์!’ ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงลุกนั่ง เธอคิดอะไรได้บางอย่างก่อนจะเปิดไปยังลิ้นชัก เธอมีเพื่อนที่ไปเรียนต่ออังกฤษ มันน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง
****คิมหันต์ เพื่อนสนิทของจิรักษ์ตัวละครหลักจากเรื่อง คิมหันต์ นิยายเช็ต Love story of the season
(“ถ้ามันสำคัญขนาดนั้น ออกนอกโลกกูก็จะไป ถ้าในไทยมันไม่มีจริง ๆ กูแนะนำให้มึงไปหาเอาที่ต่างประเทศ อย่างน้อย ๆ ก็ถือว่าไปพักผ่อน”) สิ่งที่ตอบกลับมาทำให้จิรักษ์มองหน้าจอโทรศัพท์ ริมฝีปากของเธอยกยิ้มเมื่อรู้สึกพอใจในคำปรึกษา ความจริงแค่ได้กวนประสาทกันก็หายเครียดไปได้บ้าง
“ถ้ามึงไม่มีเมีย รับกูไปเลี้ยงไหม อยากตกงาน” หญิงสาวพาเปลี่ยนเรื่องเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ เธอเปิดหน้าจอโน้ตบุ๊กติดต่อเพื่อนที่อยู่แดนไกล เธอคงต้องพึ่งพาคนไกลแล้ว
(“ให้กูตายเถอะ ถ้าต้องทำเรื่องแบบนั้น”)
“กูเลี้ยงง่ายนะ หากินเองได้ ไม่ต้องป้อน”
(“ไม่เอาด้วยหรอก ขอให้มึงไปเจอรักแท้ ที่ชอบ ๆ เอาข้างหน้าเถอะนะ กูขอบาย”) จากน้ำเสียงแล้วจิรักษ์อยากจะขำออกมา ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอรู้ดีว่าเพื่อนสนิทคนนี้ไม่เคยคิดว่าเธอคือผู้หญิง
“ใช่เส้.. มึงหลงผู้ช่วยใหม่นี่” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะพูดถึงใครบางคน ผู้ช่วยคนสวยที่กำลังถูกดึงเข้ามาอยู่ในแผนการของคิมหันต์
(“กูไม่คุยกับมึงแล้วดีกว่า เสียเวลาทำงาน”) พูดแล้วเพื่อนสนิทตัวดีก็วางสายไป คนที่กำลังสนใจมองหน้าจอโน้ตบุ๊กจึงได้แต่ขำ
‘ตอบไม่ได้ก็หนีนะมึง อย่าให้รู้ว่าเป็นสมภารกินไก่วัดนะเว้ย!’
สถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่จิรักษ์เคยเข้ามา ช่วงที่เป็นตำรวจเธอทำงานหนักมาก ทุ่มเทมากจนแทบจะห่างหายไปจากเพื่อน ๆ เต็มที่หญิงสาวก็เพียงแวะเวียนเข้ามาคุยกับเพื่อนแต่ไม่ได้นั่งจมปักนานนม แต่เพราะตอนนี้เธอว่างและไม่มีอะไรทำเลย การเอาเหล้ากรอกเข้าปากกับการนั่งฟังเสียงเพลงจึงดูจะน่าภิรมย์ที่สุด
“แหม ๆ ๆ พอรู้ว่ากูจะมารีบมานั่งรอเชียวนะ” เสียงทะเล้นของชายหนุ่มดังเข้ามาในหู สายตาที่กำลังกวาดมองไปรอบ ๆ ร้านจึงได้หันมาหาเจ้าของเสียง
สิ่งที่พบคือ ‘พรหมมินทร์’* ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลา เขาเป็นเพื่อนสนิทอีกคนที่วันนี้นัดรวมตัวกันได้ โดยปกติพรหมมินทร์จะอยู่ต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ มีช่วงหลังนี้ที่บินมาอยู่ไทยแบบยาว ๆ เพราะได้ข่าวว่าจะลบล้างคำของพ่อด้วยการหางานทำเสียที
“ก็ธรรมดา กูต้องมานั่งรอคนจ่ายเงินอยู่แล้ว” จิรักษ์ตอบเสียงเรียบ
“กูก็รออยู่เหมือนกัน เพราะมันเพิ่งมาใช้แผนชั่วหลอกให้กูจ่ายค่ากาแฟให้มันไป” ชายหนุ่มนั่งลงข้างกายเพื่อนหญิงที่ไม่เคยรู้สึกว่ามีตรงไหนเหมือนหญิง เขารับแก้วเหล้าจากจิรักษ์และจิบเบา ๆ หญิงสาวยังเป็นคนที่ชงเหล้าอร่อยเหมือนเคย
“มึงจ่ายให้มันแล้ว คราวนี้มึงต้องจ่ายให้กูบ้าง หล่อ! พ่อรวยไม่ใช่ไง!” สายตาของคนพูดมองคนที่ไม่น่ามาเป็นคนสุดท้าย ครั้งนี้ดูเหมือนว่าคิมหันต์จะได้เป็นคนเลี้ยง เพราะคนมาสุดท้ายมักจะได้จ่ายทุกครั้งไป
“เฮ้ย ๆ ๆ อะไรวะ กูเพิ่งได้งานเองนะเว้ย พวกมึงสิต้องเลี้ยงกู”
***พรหมมินทร์ เพื่อนสนิทของจิรักษ์ ตัวละครหลักจากเรื่อง พิรุณทิพย์ นิยายเช็ต Love story of the season
“เฮ้ย!! มีการงานทำกับเขาแล้วเหรอเพื่อน” จิรักษ์หันไปสวนคำพูด เพราะแต่ไหนแต่ไรเพื่อนคนนี้ทำตัวลอยน้ำ ไม่จมปลักกับอะไรสักอย่าง เป็นพ่อไม้เลื้อยดี ๆ นี่เอง
“แน่นอนสิครับ งั้นกูจะข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนทำไมตั้งไกล”
“ไหนมึงบอกว่าสาวไทยกินเบื่อ เลยต้องข้ามน้ำไปหาสาวนอกไง” จิรักษ์ยกเหล้าเข้าปากจนหมดแก้ว
ตอนนี้เธอได้รู้ว่าเพื่อนอีกคนมีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่เธอนี่สิที่ดูจะไม่เป็นท่า อนาคตที่กำลังจะมาถึงดูจะเอาไม่รอดซะแล้ว จะมีไหมคนที่สามารถแฮ็กโปรแกรมเข้าเครื่องของนายอานนต์ได้ ขึ้นชื่อว่าผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ การจะเอาข้อมูลเชิงลึกไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่บุกเข้าไปก็นับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว
“กูก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ไม่มีใครได้แอ้มกูหรอก เก็บไว้รอมึงเนี่ย เอาไงดีจ๊ะที่รัก” พรหมมินทร์เอามือเชยคางของเพื่อนหญิง เพียงได้สัมผัสหญิงสาวก็หันยิ้มหวานในทันที
“เปิดห้องไหม กูของขาดพอดี!” แต่เมื่อเพื่อนหญิงตอบรับเสียงหวานที่ผสมเยือกเย็น มือหนาของพรหมมินทร์ก็รีบชักออกอย่างหวาดกลัว แค่คิดว่าต้องเข้าห้องกับจิรักษ์ชายหนุ่มก็รู้สึกขนลุกแล้ว “นึกว่าจะแน่!!”
เวลาผ่านไปจนกินเวลานานที่คนเลี้ยงยังไม่มา แต่หญิงสาวในมาดสาวมั่นดื่มเหล้าเข้าไปอย่างมาก คุยกันทีเล่นทีจริงจนเวลาล่วงเลย พรหมมินทร์หันกลับมาอีกทีก็พบว่าหญิงสาวเมาคอพับคออ่อนเสียแล้ว
“อ้ายมินทร์ พากูเข้าห้องหน่อย กูว้อน!!”
“ว้อนเหี้-ยไร กูกลัวมึงนะเว้ย!!” ชายหนุ่มพยายามดันร่างกายของเพื่อนหญิงออกไป เวลาเมาทีไรกลายเป็นไม้เลื้อยบนตัวเขาทุกที
แต่ถึงจิรักษ์จะเป็นผู้หญิงเขาก็คิดอะไรกับเธอมากไปกว่านี้ไม่ได้ เธอมีความเป็นชายมากเกินไป มองภายนอกจิรักษ์อาจเหมือนผู้หญิงทั่วไป แต่เรื่องการต่อสู้และนิสัยที่ผู้ชายด้วยกันเองก็ยังต้องนับถือ
“โทษทีว่ะพอดีรถติด เฮ้ย!” คิมหันต์ที่เข้ามาทีหลังมองเพื่อนหญิงที่เมาไม่เป็นท่า ถึงจะคบกันมาหลายปีก็ไม่ชอบปล่อยให้เมาขนาดนี้ “ทำไมไอ้รักษ์มันเมาเหมือนหมาแบบนี้วะ”
“ไอ้ซัม มึงช่วยกูที ไอ้รักษ์มันจะปล้ำกูแล้ว” พรหมมินทร์พูดอย่างขอความช่วยเหลือ
“มึงต้องไปพูดให้ท่ามันแน่ ๆ เลยใช่ไหม มันถึงเป็นแบบนี้”
“กูแค่ล้อเล่น มึงเอามันออกไปดิ กูไม่อยากโดนฟ้าผ่า” คนถูกเพื่อนหญิงคุกคามร้องบอก เขารับไม่ได้จริง ๆ หากผู้หญิงที่นอนด้วยจะเป็นจิรักษ์
“อ้ายซัม เป็นไง ผู้ช่วยเด็ดไหม โอ๊ะ!!” คิมหันต์ดีดหน้าผากของเพื่อนหญิงก่อนที่จะจับยึดร่างกายออกจากพรหมมินนทร์ เขาจับคนเมาแยกออกแต่สุดท้ายก็มานัวเนียตนเอง “ไอ้รักษ์ มึงไหวปะเนี่ย ปกติมึงไม่กล้าเมากลัวทำงานไม่ไหวไม่ใช่เหรอ”
“นั่นดิวะ ปกติแม่งกลัวไปสืบคดีไม่ไหวไม่ใช่เหรอ”
“ฮื้อ ๆ ฮ่า ๆ สืบคดี ฮื้อ ๆ” คนเมาทั้งหัวเราะและร้องไห้ จะไม่ให้เศร้าได้อย่างไรเมื่อเธอกำลังจะถูกปลดแล้ว เธอยังหาทางออกไม่ได้เลย แม้เวลาจะเหลือเยอะแต่หนทางก็ดูริบหรี่ ข้อมูลที่ได้มาก็น้อยจนเธอหาทางออกไม่ได้ หน้าของนายอานนต์เธอยังสืบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“มึงเป็นไรเนี่ยไอ้รักษ์ งานมีปัญหาเหรอ” คิมหันต์ตบหน้าเพื่อนหญิงเบา ๆ พยายามจะให้สติแต่ก็ไม่เป็นผล
“ไอ้รักษ์ เกิดไรขึ้นวะ” พรหมมินทร์เข้ามาเขย่าถามอีกคนอย่างห่วงใย แต่ดูเหมือนคนที่กินเข้าไปหนักจะรับไม่ไหว อาหารและเครื่องดื่มในท้องกำลังเตรียมปะทุ มันพะอืดพะอมเต็มทีจนกระทั่ง! “ไอ้เหี้-ยรักษ์ ไอ้เวร!!!”
“เมียมึง มึงต้องรับผิดชอบถูกแล้ว” คิมหันต์ตบบ่าเพื่อนชายเบา ๆ อย่างให้กำลังใจ จิรักษ์เมากี่ครั้งก็ต้องเป็นพรหมมินทร์เสมอที่รับเคราะห์
“พี่รักษ์ตื่น!!! พี่รักษ์!!” จิรา น้องสาววัยยี่สิบสองปีส่งเสียงปลุกพี่สาวตามที่ได้บอกเอาไว้ เพราะก่อนหน้านี้สามวันเธอได้ทำหน้าที่จองตั๋วเครื่องบินให้กับพี่สาว กับการเดินทางไปอังกฤษเพื่อไปขอร้องใครบางคนมาช่วยเรื่องคดี
“ไอ้จิ ขอนอนอีกหน่อย อย่ากวน...” คนเมาแฮงค์รู้สึกหนักหัวจนลุกไม่ขึ้น เธอไม่สามารถที่จะยกหัวออกจากหมอนได้เลย ประหนึ่งมีของที่หนักมากกดอยู่บนหัวเธอเอาไว้
“แต่พี่มีไฟลต์บินวันนี้นะ!”
“เฮ้ย!!!!!” หัวที่หนักจนไม่อยากจะยกถูกดีดขึ้นด้วยความรวดเร็ว เธอลืมไปเสียสนิทว่าหลังปาร์ตี้จะเดินทางไปหาเพื่อน ไปเพื่อขอร้องคนที่มีความสามารถในการแฮ็กมาช่วยชีวิตเธอ
“หรือว่าพี่เปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว พ่อบอกว่าถ้าพี่เปลี่ยนใจให้ไปทำงานที่บริษัทได้ทุกเมื่อ!” จิราพูดตามคำสั่งของพ่อทุกคำ ตั้งแต่พี่สาวเรียนจบจนตอนนี้พ่อก็ยังมีความพยายามที่จะดึงตัวพี่สาวไปทำงานที่บริษัทให้ได้ เพราะพ่อและแม่ไม่เห็นด้วยที่พี่สาวของเธอทำงานเป็นสายลับที่ต้องเสี่ยงอันตราย
“ไม่เว้ย! จิไปเตรียมรถให้พี่หน่อย อาบน้ำสิบนาที” คนเมาไม่พูดเปล่าดีดตัวออกจากที่นอนอย่างรวดเร็ว เธอสาวเท้าเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเร็วแสง ความหวังที่เธอจะได้คนมาช่วยอยู่ในอนาคตอันใกล้
‘คนนี้เขาเป็นอัจฉริยะเลย ทำได้ทุกอย่าง มีความสามารถทุกด้าน ไอคิวสองร้อยพอดีเป๊ะ แล้วหน้าตาหล่อโคตร ๆ เรื่องแฮ็กโปรแกรมนี่กระจอก คุยกับคอมพิวเตอร์ยังรู้เรื่อง’ สิ่งที่ลินดาเพื่อนสนิทข้างบ้านเอ่ยบอกทำให้จิรักษ์มีความหวัง เธอเป็นเพื่อนบ้านที่ได้สามีและทำงานอยู่ที่อังกฤษ
เมื่อหาคนมีฝีมือในไทยแล้วมันหาไม่ได้ เธอก็จะไปหามันทุกที่จนกว่าจะพบ!! ให้รู้กันไปว่าเธอจะไม่สามารถกลับเข้าไปในทีมปฏิบัติการพิเศษได้
อดีตนายตำรวจมากฝีมือเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษด้วยความยากลำบาก ไม่ใช่เพราะการเดินทาง แต่เป็นเพราะเธอเมาค้างและรู้สึกว่าเครื่องบินลำนี้จะตกทุกเมื่อ ดีที่เธอสามารถเอาชีวิตบ้า ๆ นี่มาถึงจุดหมายปลายทาง
หลังจากที่เพื่อนสนิทมารับที่สนามบินลอนดอน จิรักษ์ก็เหมือนเครื่องยนต์ที่ปิดสวิตซ์สนิท เธอหลับอย่างตายบนที่นอนที่เพื่อนพามา นิสัยส่วนตัวคือไม่ชอบเดินทางด้วยเครื่องบินอยู่แล้ว และครั้งนี้มีอาการเมาค้างติดตัวมาด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจะแย่ขนาดไหน
LINE!!! LINE!!
พรหมมินทร์ : ไอ้รักษ์ เป็นไงบ้างวะ
คิมหันต์ : วันนี้ว่างไหม
จิรักษ์ปรือตาอ่านข้อความในโทรศัพท์แล้วคว่ำหน้าลงตามเดิม เพราะเธอไม่ได้บอกใครว่าเดินทางมาต่างประเทศ คิดว่าจัดการแค่วันสองวันก็จะบินกลับเลย
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ” ลินดาเข้ามาในห้องพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ ดูเหมือนว่าจะเป็นเอกสารที่จิรักษ์ต้องการแน่ “นี่เป็นข้อมูลของคนที่เธออยากได้ แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาจะยอมช่วยหรือเปล่านะ เขาเก่งมาก สามีของฉันทำงานกับเขาตอนที่ทำวิจัยเกี่ยวกับพื้นที่อะไรนี่แหละ...”
“ลินดา!! เราต้องการนักโปรแกรมเมอร์ แฮกเกอร์!! ไม่ใช่นักวิจัย” คนถือเอกสารพูดเสียงหลง เธอไม่ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อพบกับความผิดหวังนะ สิ่งที่เพื่อนพูดบอกว่าเก่งหนักหนาคือนักวิจัยนักวิทยาศาสตร์ เธอสื่อสารกับเพื่อนผิดไปอย่างนั้นเหรอ
“ใช่! เขาเป็นนักวิจัย แต่สามีของฉันบอกว่าเขาไม่เคยทำอะไรไม่เป็น ทำได้ทุกอย่างที่คนทั่วไปทำไม่ได้ ฉันเชื่อว่าคนคนนี้ช่วยเธอได้แน่นอน เขาเก่งมาก หล่อมากด้วย พูดจริง!”
“.....” จิรักษ์เอามือกุมขมับตัวเองอย่างอ่อนใจ แต่เมื่อมาแล้วก็ไม่มีอะไรจะเสีย ไม่ลองก็ไม่รู้ สองมือบางของหญิงสาวเปิดซองกระดาษ ก่อนที่เธอจะพบกับรูปภาพชายหนุ่มหน้าหวานราวกับน้ำอ้อย
สิ่งที่จิรักษ์คิดเป็นอย่างแรกหลังจากได้เห็นใบหน้าของชายที่เพื่อนว่าคือ ‘เป็นเกย์แน่เลย หน้าสวยกว่ากูอีก’
“ดอกเตอร์ เหมันต์ กนกอัมพร” หญิงสาวอ่านชื่อแล้วนึกไปถึงเพื่อนสนิท เพราะนามสกุลของคนทั้งคู่เหมือนกัน แต่เธอกลับไม่เคยรู้มาก่อนว่าครอบครัวของคิมหันต์มีคนที่เป็นอัจฉริยะ
‘ญาติฝ่ายไหนของไอ้ซัมเมอร์วะ! เราก็ไปบ้านมันบ่อย คนนี้ใครวะ!’ หญิงสาวได้แต่คิดใจในโดยไม่ได้พูดอะไรออกไป
“เพื่อให้แกเชื่อว่าเขาเก่งจริง ๆ นาซาติดต่ออยากจะได้เขาไปร่วมงานแต่เขาไม่ไป มีแต่คนอยากจะไปแต่ไม่มีปัญญา แกรู้ไหมว่าหัวสมองของเขาหาเงินได้เป็นร้อยล้าน ฉลาดมาก ยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์”
“พอเหอะ!” จิรักษ์บอกเพื่อให้เพื่อนหยุดพล่ามในสิ่งที่ไม่อยากฟัง เพราะสิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่หัวสมองของเขา ไม่ใช่งานวิจัยของเขา แต่คือการแฮ็กข้อมูล ซึ่งเกิดมาจนทุกวันนี้ก็ไม่ยักรู้ว่านักวิจัยทำได้