ตอนที่ 2 ขอร้องด้วยผู้ชาย

2732 Words
ตอนที่ 2 ขอร้องด้วยผู้ชาย สถานบันเทิงในกรุงลอนดอนที่ดูแปลกตา สถานที่ที่ชายอย่างเหมันต์ไม่เคยย่างกรายเข้ามาก่อน แต่เพราะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เขาได้ทำงานวิจัยร่วมกับทุกคน ด้วยงานของเขาเสร็จสมบูรณ์แบบตลอดสามปีที่ผ่านมา เขาคือชายหนุ่มวัยยี่สิบหกผู้มากความสามารถ เขาสามารถสอบเทียบปริญญาตรีตั้งแต่อายุสิบเก้า และยังสามารถทำงานวิจัยร่วมกับศาสตราจารย์มากมายด้วยวัยยี่สิบด้วยความสามารถที่ระดับศาสตราจารย์ยังต้องยอมรับ เขาเรียนและทำงานวิจัยจนตัวเองได้เป็นดอกเตอร์ด้วยอายุยี่สิบสี่ปี เป็นบุคคลผู้มีไอคิวสูงที่สุด และเป็นบุคคลที่นาซาอยากจะได้ตัวมาก “วันนี้จะเป็นวันที่เราฉลองกัน ผมดีใจที่ดอกเตอร์เหมันต์ยอมออกมากับพวกเรา” หนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าเอ่ยพูดพร้อมกับส่งเครื่องดื่มสีแปลกตาให้กับเขา เหมันต์คือชายที่อายุน้อยที่สุดในทีมวิจัย แต่เขาเป็นคนที่มีความสามารถที่สุดจนได้รับการยอมรับจากทุกคน คนที่เข้ามาในสถานที่แบบนี้ครั้งแรกกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้วยความคิด เขารับเครื่องดื่มจากเพื่อนร่วมงานก่อนจะวางมันไว้บนโต๊ะกระจกใส “เฮ้! ผมว่าคุณควรดื่มมัน มันเป็นเครื่องดื่มที่พิเศษมากนะ” ชายอีกคนพูดกับเขาด้วยภาษาฝรั่งเศส “......” เหมันต์ไม่ได้พูดตอบอะไรทั้งนั้น นอกจากเขาจะไม่สนใจเครื่องดื่มที่เพื่อนร่วมงานเอามาให้ เขายังเอาหนังสือเล่มหนึ่งออกจากกระเป๋ามาอ่าน มันไม่ใช่ภาพแปลกตาสำหรับคนที่ทำงานวิจัยด้วยกัน แต่มันแปลกตาสำหรับคนทั่วไปที่มอง เขากำลังอ่านหนังสือในสถานบันเทิงที่เสียงเพลงดังอึกกระทึก มีหญิงสาวใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นเต้นยั่วยวน กลิ่นเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์คละคลุ้งไปทั่ว ทุกอย่างดูไม่น่าเชื่อหากใครจะมองเห็นเขาเวลานี้ “โอ้มายก้อด คุณควรเอ็นจอยกับมันมากกว่านี้” คราวนี้เป็นหญิงสาวในชุดสายเดี่ยวกระโปรงสั้น เธอเดินเข้ามาหาด้วยความสนใจ ร่างกายเบียดเสียดเข้าหาคนที่อ่านหนังสือได้ลงในเวลานี้ “ให้ฉันอยู่คุยเป็นเพื่อนคุณเอาไหมคะ..” ดวงตาคมของเหมันต์ที่ฉาบเคลือบด้วยความหวานเสียยิ่งกว่าผู้หญิง เขาละสายตาจากหน้าหนังสือที่กำลังอ่านก่อนจะหันมองคนพูด สายตากวาดมองเรือนร่างของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า อากาศในประเทศอังกฤษไม่ได้อุ่นเท่ากับประเทศไทยที่เขาเกิด แต่เธอก็ยังทนหนาวใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น แม้ในสถานที่แห่งนี้จะมีฮีตเตอร์ให้ความอุ่นแต่มันก็ดูไม่มากพอในความคิดของเหมันต์ “หยุดนะเว้ย!!! เอากระเป๋าคืนมา!!” เสียงของใครบางคนดังขึ้นในภาษาไทยที่ทำให้เหมันต์ละสายตาจากหญิงสาวช่างยั่ว เขามองไปยังต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับชายร่างอ้วนวิ่งเบียดเสียดเข้ามา ตามด้วยร่างกายหญิงสาวผู้สวมทับด้วยแจ็กเก็ตหนังสีดำ เธอกระโจนเข้าใส่พร้อมกับกระชากกระเป๋ากลับคืน วงขายกสูงเตะฟาดเข้าที่ปากของชายร่างอ้วนจนล้มไปกับโต๊ะ ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างแตกตื่นกันไปคนละทิศละทาง ขวดเบียร์ขวดหนึ่งถูกใช้เป็นอาวุธ ชายที่ถูกกระชากกระเป๋ากลับไปเหมือนคนจนตรอก เขาสะบัดมือที่กำขวดเบียร์แน่นจ้วงแทงใส่หญิงสาวแปลกหน้า เธอใช้ความเร็วหลบก่อนจะยกเก้าอี้ทั้งตัวฟาดใส่จนหมอบไปกับพื้น “ไม่มีอาชีพอื่นทำหรือไงวะ อยากตายใช่ไหม!!” จิรักษ์ตั้งท่าจะเอาเก้าอี้ที่ตัวเองถืออยู่ฟาดใส่คนที่ริจะเป็นขโมย เธอตั้งใจจะมาหาเครื่องดื่มเล็กน้อยกรอกลงคอ แต่ก็ต้องมาเห็นคนชั่วคิดจะขโมยกระเป๋า จนตำรวจหญิงอย่างเธอทนไม่ไหวต้องยื่นมือเข้ามาช่วย “ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ขอบคุณที่ช่วยเอากระเป๋าคืนมาให้ฉัน” หญิงสาวเจ้าของกระเป๋าวิ่งตามมาอย่างดีใจ เธอกล่าวขอบคุณหญิงไทยใจดีที่ช่วยเอาไว้ เธอออกดีใจที่ได้เจอคนไทยด้วยกัน “เป็นคนไทยเหรอ ดีใจจัง” จิรักษ์ยื่นกระเป๋าให้ด้วยรอยยิ้ม สายตาของเธอมองไปเห็นชายที่บังเอิญเจอหน้า ชายที่เธอคิดว่าเธอจะไม่ออกไปหาเขา เพราะเขาทำไม่ได้แน่ “ใช่ค่ะ แอนนี่เป็นคนไทย โอ้ว้าว โลกกลมมาก พี่เหมันต์” หญิงสาวหันไปพบกับคนไทยอีกคน เธอรู้จักกับเขาเพราะพ่อของเธอเป็นคนติดต่อเหมันต์ให้มาร่วมงานวิจัย และเธอก็ชอบเหมันต์มาก การมาสถานบันเทิงวันนี้ก็เพื่อทำใจที่เขาจะเดินทางกลับไทยแล้ว แต่เจ้าของชื่อกลับไม่สนใจการทักทาย เขาเดินออกไปจากฝูงชนที่ดูจะน่าเบื่อ เขาไม่ชอบความวุ่นวายแบบนี้ แต่ท่าทางการเมินต่อหญิงสาวกลับทำให้จิรักษ์คิดว่า ‘ชัวร์เลย ไอ้ดอกเตอร์เหมันต์อะไรนี่เป็นเกย์ชัวร์ กูจะเอาผู้ชายไหนไปล่อดี ไหน ๆ ก็มาเจอแล้ว’ จิรักษ์วิ่งตามเหมันต์ออกจากสถานบันเทิงด้วยความรวดเร็ว ตอนแรกเธอถอดใจแล้วว่าการมาครั้งนี้ถือว่าสูญเปล่า ตั้งใจว่าพรุ่งนี้ก็จะบินกลับอย่างช่วยไม่ได้ ยังไงเสียนักวิจัย นักฟิสิกส์ก็ไม่สามารถที่จะแฮ็กข้อมูลให้เธอได้ เพราะคนที่ทำได้คือนักโปรแกรมเมอร์ คนที่เก่งทางด้านคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่หน้าหวานปากแดงแบบเขา แต่เมื่อเจอเขาโดยบังเอิญราวกับชะตาขีดเส้นเอาไว้ หากเธอไม่ได้ลองทำอะไรเลยก็จะถือว่าสูญเปล่า เสียค่าเครื่องบินฟรีซะอย่างนั้น อย่างน้อยก็ขอให้ได้ลองก็ยังดี “เธอ ๆ เธอคุยกับเราก่อน” จิรักษ์ใช้คำพูดแสดงความเป็นมิตร ใช้คำว่า ‘เธอ’ ในการเรียกเพราะคิดว่าดูจะเหมาะสม เหมันต์หยุดเท้าทั้งสองข้างที่กำลังเดินไปข้างหน้า เขาจำเธอได้และฟังออกทุกคำที่เธอพูด ก็เขาเป็นคนไทยเหมือนกันจะฟังไม่รู้เรื่องได้ยังไง แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือ...เขาไม่มีอะไรจะต้องคุยกับเธอ “เราเป็นคนไทยนะ แล้วเราก็รู้จักญาติเธอด้วย” เหมันต์หรี่ตามองคนพูดที่เอาคำว่าญาติมาเอ่ยพูด มันดูไม่ค่อยเป็นคำทักทายสักเท่าไหร่ “คือ เอิ่ม.. เราชื่อจิรักษ์นะ” “......” เหมันต์เดินหนีออกจากการขวางกั้นของหญิงสาวโดยไม่พูดโต้ตอบอะไร จากที่ประเมินแล้วหญิงสาวตรงหน้าอาจจะไม่ปกติ “เฮ้! ไม่เอานะ เราก็ผู้หญิงเหมือนกัน คือเราอยากให้เธอช่วยอะไรเราหน่อย แต่ไม่รู้ว่าเธอทำได้ไหม” “.......” “เราให้ค่าตอบแทนนะ ถ้าเธอทำได้ หรือเธอไม่อยากได้เป็นเงิน อยากได้เป็นผู้ชาย เรามีเพื่อนหล่อ ๆ นะ” จิรักษ์คิดวิธีนี้ขึ้นมาได้และคำพูดที่เธอพูดออกไปก็ทำให้เหมันต์หยุดเดินหนี ‘เอาแล้ว นางอยากได้ผู้ชายแน่ ๆ ของมันก็แหงอะนะ’ จิรักษ์คิดในใจก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์เปิดหารูปภาพของเพื่อนชายทั้งสอง มันต้องดึงดูดใจให้เขายอมที่จะช่วยเธอแน่ “ผมคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจอะไรผิด” “ไม่ต้องคิดมากเธอ เธอดูข้อเสนอเราก่อน เราก็ยังไม่รู้ว่าเธอทำได้ไหม แต่ลองดูก็ไม่เสียหาย เพื่อนเราหล่อนะ” จิรักษ์เปิดไปยังรูปของพรหมมินทร์ เพราะเห็นว่าคิมหันต์นามสกุลเดียวกันก็คงไม่น่าสนใจ ไม่ดึงดูดได้เพียงพอ เมื่อได้รูปที่คิดว่าเพื่อนชายดูหล่อดึงดูดมากที่สุดหญิงสาวก็หันหน้าจอให้ชายตัวสูงตรงหน้า สายตาคมแต่หวานหยดมองหน้าจอของเธอเล็กน้อย ก่อนที่สายตาจะกลับมาจับจ้องหญิงสาว สองเท้าก็พลันเดินหนีไปอีกครั้ง “โถ่! เธอ เพื่อนเราคนนี้มันร้อนแรงนะ เธอไม่สนใจเหรอ” จิรักษ์ยังตามตื๊อ เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ทำได้ไม่ได้ก็ขอให้พยายามดูก่อน “.......” แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากชายหนุ่ม “เธอ หยุดเดินก่อน เราหาคนอื่นให้เธอได้ หรือเธออยากได้อะไร ว้าย!!” ร่างกายของจิรักษ์สะดุดล้มไปกับพื้น สมาร์ตโฟนเครื่องสวยของเธอหลุดออกจากมือ มันกระเด็นไปอยู่ตรงเท้าของดอกเตอร์เหมันต์พอดิบพอดี ชายตัวสูงที่กำลังก้าวเท้าไปข้างหน้าต้องหยุดชะงัก ด้วยภาพถ่ายบนหน้าจอโทรศัพท์ของหญิงสาวเป็นรูปของพี่ชายตนเอง รูปถ่ายที่ดูจะใกล้ชิดด้วยทั้งสองเอาหน้าชิดกัน คนเป็นหญิงจับเนกไทคิมหันต์แล้วถ่ายภาพ คล้ายจะถูกบังคับแต่รอยยิ้มก็ชัดเจนว่ามีความสุข “ตายแล้ว โทรศัพท์ฉัน แตกเลย!! แต่ช่างเถอะ” จิรักษ์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปัด ๆ ก่อนจะเก็บลงในกระเป๋า เธอเห็นว่าดอกเตอร์เหมันต์ยังไม่หนีไปไหนจึงเงยหน้ามายิ้มให้ “เอาอย่างนี้นะ ถ้าเธอไม่ชอบเพื่อนเราคนนี้ เรามีเพื่อนตำรวจที่หุ่นล่ำ ๆ แน่น ๆ รับรองเลยว่าเธอต้องชอบ แต่ถ้าเธอแบบต้องคีพลุคเป็นความลับ เราเก็บความลับเก่งมาก เรานี่..” “หยุดพูด!” เหมันต์ขยับตัวเข้าไปหาคนที่กำลังส่งเสียงพูดจนน่ารำคาญ ตั้งแต่เขาเกิดมาก็มีแค่น้องสาวคนเดียวเท่านั้นที่จัดอยู่ในกลุ่มพูดมาก แต่สำหรับคนตรงหน้าดูเหมือนจะเกินเลเวลการพูดมากไปแล้ว “เราหยุดก็ได้ แต่เธอบอกเราได้ไหม ว่าเธอสามารถแฮ็กคอมพิวเตอร์คนอื่นได้ไหม คือยังไงดี...เพื่อนเราน่ะ บอกว่าเธอเก่งมาก เธอทำได้ แล้วก็ยังบอกว่าเธอหล่อมากด้วยนะ แต่ก็แบบนี้แหละ เขาไม่รู้กันไงว่าความต้องการของเธอที่แท้จริงเป็นแบบไหน แต่เรารู้!! เราตอบสนองความต้องการของเธอได้ เราสามารถที่จะ..” “หยุดพูด!” เหมันต์พูดประโยคเดิมกับคนตรงหน้าอีกครั้ง เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะมองหน้าชัด ๆ ในหัวยังจำได้ว่าเธอแนะนำว่าชื่อจิรักษ์ “ผู้ชายที่อยู่ในโทรศัพท์ของคุณ เป็นอะไรกับคุณ” “.....” จิรักษ์กระพริบตาปริบปริบคิดย้อน เธอหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาอย่างงง ๆ ก่อนจะพบว่าเป็นรูปถ่ายที่บังคับให้คิมหันต์ถ่ายด้วย กว่าจะได้รูปนี้มาก็เล่นเอาเหนื่อยไม่น้อย “รูปนี้เหรอ” เหมันต์พยักหน้าเป็นคำตอบ เมื่อรับรู้ว่าเขาสนใจรูปนี้ทำให้จิรักษ์คิดอะไรได้บางอย่าง ‘ถ้าบอกว่าเป็นเพื่อนก็คงไม่ยอมช่วยเราแน่ ก็บอกว่าเป็นเมียไปเส้ จะยากอะไร เมียญาติต้องสำคัญกว่าเพื่อนญาติ ทำไมกูฉลาดจังเลยเนี่ย’ “เราเป็นเมียของเขา เรากับซัมเมอร์รักกันมานานแล้ว กำลังจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้ด้วย” “เป็นไปไม่ได้!” “เอ้า!!” จิรักษ์ร้องเสียงหลงเมื่อคนตรงหน้าตอบแบบไม่ต้องคิด คนโกหกเริ่มที่จะหาทางออก ทำไมคนตรงหน้าถึงไม่เชื่อ แล้วต้องทำยังไงถึงจะเชื่อ “ไหน อะไรที่เธอจะไม่เชื่อว่าเราเป็นเมียซัมเมอร์” “หนึ่ง!! พี่ซัมเมอร์ไม่มีทางชอบผู้หญิงที่วิ่งไล่ตามผู้ชายแบบนี้ สอง!! พี่ซัมเมอร์ไม่มีทางชอบผู้หญิงที่ใช้กำลังแก้ปัญหา สาม!! พี่ซัมเมอร์ไม่มีทางชอบผู้หญิงที่แต่งตัวแบบนี้ และ..” “พอก่อน!!” จิรักษ์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นญาติฝ่ายไหนของเพื่อน แต่จากการเรียกน่าจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่คบกันมานมนานทำไมไม่เคยรู้มาก่อน “เรากับซัมน่ะ รักกันจริง แล้วเราก็ได้เสียกันแล้วนะ” “งั้นผมก็ควรที่จะพูดข้อสุดท้าย ข้อที่สี่!! ต่อให้พี่ซัมเมอร์จะเมามากแค่ไหน ก็ไม่มีทางเลือกผู้หญิงแบบคุณมาเป็นภรรยา!” จิรักษ์อยากจะตะโกนออกไปดัง ๆ ว่า ‘เออ..เธอคิดถูก แม่นมากด้วย’ เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะรู้จักคิมหันต์มากขนาดนี้ รู้ดีไม่ต่างจากเธอที่รู้ว่าเพื่อนไม่มีทางที่จะคิดอะไรไปมากกว่านี้ “แหม!! ผู้หญิงแบบเราเป็นยังไงเหรอ เราก็มีเนื้อนมไข่นะ ถึงมันจะไม่มากก็เถอะ จะดูไหมล่ะ เอามะ! เอามะ!!” หญิงสาวทำท่าจะจับคอเสื้อ คนที่ตัวสูงกว่าจึงเบี่ยงสายตาหนี เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะเดินแยกออกไปอีกครั้ง จิรักษ์ไม่ตามไปตื๊อเพราะเธอคิดว่ายังไงเสียเขาก็คงทำไม่ได้ ดูจากฝีปากที่ว่าเธอไปสี่ข้อก็คิดว่าไม่ควรที่จะตาม เธอคิดว่าควรที่จะกลับไปตั้งหลักแล้วคิดว่าจะมีใครที่ช่วยชีวิตได้อีกบ้าง กลับมายังบ้านของเพื่อนซึ่งเป็นที่พักเมื่ออยู่ที่ลอนดอน เป็นความโชคดีเพราะสามีสุดสวาทของเพื่อนไปทำงานต่างรัฐ ร่างกายของหญิงสาวอดีตนายตำรวจรู้สึกอ่อนล้า เธอมาเสียเที่ยว เสียเวลา เสียอะไรหลาย ๆ อย่างไปหมด “รักษ์ จะไม่ลองไปคุยกับดอกเตอร์เหมันต์จริง ๆ เหรอ ฉันเชื่อว่าเขาทำได้พันเปอร์เซ็นต์” ลินดาเข้ามากอดเพื่อนหญิงเสียงอ่อน เพราะเธอรู้สึกว่าดอกเตอร์เหมันต์ทำได้ทุกอย่างจริง ๆ ยกเว้นเรื่องมีความรักและมนุษย์สัมพันธ์ที่ห่วยมาก เป็นที่รู้จักและเลื่องชื่อลือชามาก “ฉันคุยกับเขาแล้ว เขาทำไม่ได้ แล้วเขาก็เป็นเกย์ที่เลเวลการเลือกผู้ชายห่วยมาก คงชอบแบบดิบ ๆ เถื่อน ๆ เพราะเอาไอ้มินทร์ไปล่อก็ไม่สนใจ” จิรักษ์ยังคงเซ็งกับเรื่องนี้ เธอเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเพราะพรุ่งนี้จะเดินทางแล้ว “เดี๋ยวนะ! เกย์ ผู้ชาย แกพูดถึงอะไรรักษ์” “ก็ไอ้ดอกเตอร์เหมันต์อะไรนั่นน่ะ มันเป็นเกย์ แกไม่รู้เหรอ” คนเชื่อมั่นในสายตาหันมาหาเพื่อน นี่เธอคงเป็นคนเดียวที่มองออกใช่ไหมว่าผู้ชายแบบไหนที่แมน แบบไหนที่เกย์ “ไม่นะรักษ์ ตาแกมีปัญหาแล้ว เขาเป็นชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์” ลินดาพยายามให้สติเพื่อน หรือที่ใครมักบอกว่าจิรักษ์ชอบคบเพื่อนผู้ชายจนแยกเพศตัวเองไม่ออกจะเป็นเรื่องจริง “แกตั้งสตินะ เขาเป็นผู้ชาย และแกเป็นผู้หญิง แกรู้ตัวปะว่าแกเป็นผู้หญิง!” “ไอ้บ้า รู้สิวะ ถามได้!!” “งั้นแกก็จงรู้ไว้ว่าเขาเป็นผู้ชาย มีผู้หญิงเข้าหาเขาเยอะมาก แต่เขาไม่สนใจใคร สาว ๆ มักพูดว่าเขาเป็นผู้ชายที่เย็นชาและคุยกับใครไม่รู้เรื่อง” ลินดาว่าต่อ ครั้งหนึ่งเธอเคยได้ยินบทสนทนาของเขาและสามี ถึงการที่มีคนสามารถถ่ายรูปบนดาวอังคารได้ และยังเชื่อว่าบนดาวอังคารมีแหล่งน้ำที่ยังไม่สามารถค้นพบได้ หญิงสาวที่เบื่อหน่ายอยากจะไปจากที่นี่จนใจจะเถียง เธอเชื่อสายตาที่เธอเห็น สายตาของเธอวิเคราะห์แล้วว่าเขาเป็นเกย์ที่แอ๊บได้เนียนมาก ขนาดด่าเธอได้สี่ข้อโดยที่หาทางแก้ต่างไม่ได้ถือว่าเจ็บสุด ๆ แล้ว LINE!! จิรา : พี่รักษ์ โอเคใช่ไหม เป็นไรเปล่า จิรักษ์ : โอเค พรุ่งนี้บินกลับแล้ว จิรา : จิไปรับกับเรนนะ เรนจะไปรับพี่ชายพอดี “พี่ชาย พี่ชายไหนวะ?” จิรักษ์ตั้งท่าจะพิมพ์ข้อความถาม แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะไม่ถาม “ช่างเถอะ จะไปอยากรู้ทำไมวะ” จิรักษ์ : ไว้เจอกันไอ้น้องสาวตัวแสบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD