📗🌒
การนัดดินเนอร์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ “ชวนไปกินข้าว”
แต่มันคือการเปิดพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่เคยให้ใครมาก่อน
⸻
✦ มื้อค่ำใต้ไฟระย้า
คาริสาได้รับข้อความจากเบอร์เดิม ไม่มีชื่อ ไม่มีคำหวาน
“คืนนี้ 19:30 Artemis Sky Lounge อย่าแต่งตัวทางการเกินไป”
แค่นั้น
ไม่มีการขอ แต่เป็นการบอก ตรง ๆ เหมือนเขาไม่ได้ให้เธอเลือก แต่ก็ไม่ได้บังคับ
และนั่นต่างหากที่ทำให้ผู้ชายคนนี้น่ากลัว
คาริสาเลือกใส่ส้นสูงสีเบจ ชุดเดรสผ้าไหมสีน้ำผึ้งที่เรียบง่าย ไม่รัดรูปเกินไป ปล่อยผมยาวตามธรรมชาติ
เธอไม่รู้ว่าแต่งไปเพื่ออะไร แต่เธออยากให้การมาของเธอเป็นสิ่งที่เลือกเอง
⸻
✦ Artemis Sky Lounge
ที่นี่อยู่บนชั้นสูงสุดของ Artemis Tower ปกติใช้จัดงานสำหรับผู้ถือหุ้นหรือแขกสำคัญเท่านั้น
แต่คืนนี้ ทั้งชั้นถูกปิดไว้เพื่อใครบางคน และเธอคือแขกเพียงคนเดียว
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก สิ่งที่เห็นคือห้องเงียบ ๆ ไม่มีดนตรี ไม่มีพนักงานเดินไปมา
มีเพียงไฟแชนเดอเลียร์ส่องแสงอุ่น ๆ คลุมโต๊ะอาหารเล็ก ๆ สำหรับสองคน
รอบด้านเป็นกระจกใส มองเห็นวิวเมืองทั้งเมือง 360 องศา
ธีรภพยืนอยู่ริมกระจก สูทสีเทาเข้ม ถือแก้วไวน์ขาวในมือ
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอ เขาหันมา มองเธอสักพัก ก่อนพูดเสียงเรียบ
“คุณไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย”
คาริสายกคิ้วเล็กน้อย “ฉันต้องชมคุณกลับไหมคะ?”
ธีรภพหัวเราะเบา ๆ ก่อนเดินเข้ามาใกล้ แล้วยื่นแขนให้
“คืนนี้ ผมจะไม่ถามอะไร และคุณก็ไม่ต้องตอบอะไร แค่กินข้าวด้วยกัน ในฐานะคนธรรมดาสองคน”
✦ บทสนทนาใต้แสงไวน์
อาหารถูกเสิร์ฟทีละจานโดยไม่มีเสียงวุ่นวาย พนักงานหายออกจากห้องไปหลังจากเสิร์ฟจานสุดท้าย
เหลือเพียงเสียงไวน์รินลงแก้ว เสียงช้อนส้อม และเสียงหัวใจของเธอที่เต้นแรงจนเธอเองยังไม่เข้าใจ
คาริสามองเขาแล้วถาม
“คุณเคยมีผู้หญิงนั่งตรงข้ามคุณแบบนี้ไหม?”
ธีรภพสบตาเธอ น้ำเสียงนิ่ง แต่มีบางอย่างลึกซึ้ง
“เคยมีคนมานั่ง แต่ไม่เคย ‘อยู่จริง ๆ’ เหมือนคุณ”
“คุณนั่งอยู่ตรงหน้า แต่ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณไม่หายไปไหน”
คำพูดนั้นทำให้เธอค่อย ๆ วางช้อนลง มือที่วางบนตักรู้สึกอุ่นขึ้น ทั้งที่ไม่มีใครแตะ
เธอพูดเบา ๆ เหมือนแหย่เขา
“บางที…ฉันอาจจะไปก็ได้”
เขาตอบทันที
“ผมก็จะตามไป”
✦ ระเบียงกระจก
หลังอาหาร เขาพาเธอออกไปที่ระเบียง ลมเย็นพัดผ่าน ปลายผมของเธอปลิวเบา ๆ
คาริสายืนข้างเขา มองแสงไฟของเมืองใหญ่ที่ส่องสว่างอยู่เต็มเบื้องล่าง
“คุณกลัวอะไรมากที่สุด?” เขาถามเสียงเบา
เธอเงียบไปสักพัก ก่อนพูดช้า ๆ
“ฉันกลัวว่า…ความรักจะไม่พอ เวลาต้องเลือกระหว่างหัวใจกับความจริง”
ธีรภพพยักหน้า เหมือนเข้าใจมากกว่าที่เธอคิด
“ผมกลัวอย่างเดียว” เขาว่า
“กลัวว่าคุณจะไม่ให้โอกาสผม ได้เป็นส่วนหนึ่งในความจริงนั้นไปกับคุณ”
✦ ระยะห่างที่ถูกละลาย
คาริสาเอนตัวพิงกระจกช้า ๆ แต่สายตาของเขายังมองไม่ละจากเธอ
จนเธอต้องถามออกมา
“คุณรู้ใช่ไหมคะ ว่าฉันมีบางอย่างซ่อนอยู่”
เขาพยักหน้า
“ผมรู้ตั้งแต่วันที่คุณเดินเข้ามาในห้องนั้นแล้ว”
“แล้วคุณยังจะจีบฉันอยู่เหรอคะ?”
ธีรภพก้าวเข้ามาใกล้ทีละก้าว ช้า แต่มั่นคง
“ยิ่งเพราะคุณไม่ใช่คนที่ใครจีบง่าย ๆ…ผมถึงอยากจีบคุณ”
✦ คำขอที่ไม่ต้องพูด
มือของเขายกขึ้นแตะแก้มเธอเบา ๆ
ไม่รุก ไม่ขออนุญาต แค่สัมผัสอย่างอ่อนโยนและมั่นคง
คาริสาหลับตาลง ครั้งแรกที่เธอไม่รู้สึกว่าต้อง “เตรียมคำตอบ” ให้ตัวเอง
เธอแค่นิ่ง ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของเขา ฟังเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาข้างหู และจดจำว่าอ้อมกอดนี้อบอุ่นแค่ไหน
“ฉันจะไม่ถามว่าเราคืออะไรนะคะ” เธอพูดเบา ๆ
“ดี” เขาตอบสั้น ๆ
“เพราะผมยังอยากจีบคุณต่อ”
🖋️ “คำเชิญที่ไม่มีในตาราง”
ธีรภพพาเธอเข้าสู่งานประมูลที่เต็มไปด้วยคนระดับโลก และต่อหน้าทุกสายตา เขาประกาศชัดว่าเธอคือ “คู่ประมูลของเขา”
ไม่ใช่แค่ในงาน แต่ยังหมายถึงในชีวิตเขาด้วย
เข้าสู่บรรยากาศ “งานเลี้ยงประมูลระดับสูง”
ธีรภพใช้เวทีนี้เปิดตัวคาริสาอย่างไม่เป็นทางการในวงการธุรกิจ
และทำให้เห็นว่าการกระทำของเขาไม่ได้เป็นแค่การจีบ แต่คือ “การวางหมาก” ที่มีเธอเป็นศูนย์กลาง
✦ คำเชิญที่ไม่มีในตาราง
“มีบัตรเชิญส่งมาค่ะ คุณคาริสา”
เสียงพนักงานตรงล็อบบี้เรียกเธอด้วยน้ำเสียงทั้งตื่นเต้นและงง ๆ
คาริสาหันไปมอง เห็นกล่องสีดำหรูในมือของพนักงาน ด้านบนผูกริบบิ้นสีเงินเรียบ ๆ และมีการ์ดแนบอยู่
บนการ์ดเขียนว่า:
“ค่ำคืนการประมูล Helios — เฉพาะ Black Tie
สำหรับ: คุณ Karisa
จาก: T. Akkarawat”
คาริสาพับการ์ดเก็บลงเงียบ ๆ แล้วมองกล่องในมือพนักงานอย่างลังเล
“แล้วข้างในคืออะไร?” เธอถาม
“เหมือนจะเป็นชุดราตรีค่ะ”
คาริสาขมวดคิ้วเล็กน้อย ธีรภพส่งชุดให้เธอ?
มันไม่ใช่วิธีของเขาเท่าไร แต่พอเปิดกล่องออก เธอก็ต้องหยุดมอง
ภายในคือชุดราตรียาวผ้ากำมะหยี่สีดำสนิท ประดับเพชรเล็ก ๆ อย่างเรียบหรู ไม่หวือหวา แต่สวยจนสะกดสายตา
และสิ่งที่ทำให้มือของเธอช้าลง คือกระดาษใบเล็กที่แนบอยู่ในกล่อง
“ไม่ใช่เพราะคุณไม่มีชุดจะใส่
แต่เพราะผมอยากเห็นคุณในแบบที่ผมฝันไว้”
คาริสากำการ์ดแน่นในมือ หัวใจสั่นไหวโดยไม่ตั้งใจ
ธีรภพ…คุณไม่ควรรู้จักคำพูดแบบนี้
เพราะมันกำลังทำให้ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองแข็งแรงอย่างฉัน…เริ่มหวั่นไหวแล้วจริง ๆ
✦ The Helios Auction Night
คืนนั้น พิพิธภัณฑ์ศิลป์กลางกรุงเทพฯ ถูกจัดให้เป็นงานประมูลของสะสมระดับโลก
ภายในตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้สีขาวและม่วงอ่อน ไฟแชนเดอเลียร์คริสตัลส่องลงมาเป็นแสงอุ่น ๆ คลุมห้อง ทำให้แขกในชุดราตรีดูหรูหราราวกับภาพวาด
คาริสาเดินเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูงที่ส่งเสียงเบา ๆ
เธอสวมชุดราตรีสีดำที่ธีรภพส่งมาให้ มันเข้ารูปพอดี สง่างามแต่ไม่เกินงาม
ทันทีที่เธอปรากฏตัว หลายคนหันมามอง แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่า คือชายในชุดทักซิโด้สีดำที่เดินตรงเข้ามาหาเธอโดยไม่สนใจใครเลย
ธีรภพ
เขายื่นแขนให้เธอ พูดเสียงเรียบ แต่ชัดเจนเหมือนประกาศ
“คุณคือคู่ประมูลของผมคืนนี้”
✦ ด้านในห้องประมูล
แถวหน้าสุดของห้อง คือที่นั่งสำหรับผู้สนับสนุนรายใหญ่
และคาริสากำลังนั่งข้างชายที่สามารถซื้องานศิลปะหลักร้อยล้านได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร
เธอกระซิบถามเขาเบา ๆ ระหว่างพิธีกรกำลังเปิดการประมูล
“คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร?”
เขาตอบทันทีโดยไม่หันมามอง
“เพราะผมอยากให้ทุกคนเห็นว่าคุณอยู่ข้างผม”
“ในฐานะที่ปรึกษา…หรือ?” เธอถามย้ำ
เขาหันมามองแล้วตอบสั้น ๆ
“ในฐานะ ‘คุณ’ ที่ผมกำลังจีบ”
คาริสาหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ ทั้งที่ไม่ควร
เพราะน้ำเสียงของเขาไม่ได้เหมือนพูดเล่น แต่มันคือความจริงใจที่ชัดเจน
✦ เมื่อการประมูลถึงไคลแมกซ์
ชิ้นสุดท้ายของคืน คือภาพวาดจากศิลปินผู้ล่วงลับ
ภาพเดียวในโลกของหญิงสาวที่หันหลังมองออกไปยังทะเลกว้าง
ราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท ภายในไม่กี่นาที ขึ้นไปถึง 28 ล้านบาท
ธีรภพยกมือขึ้น พร้อมเสนอราคาใหม่ที่ทำให้ทั้งห้องเงียบลงทันที
“ห้าสิบล้านบาท”
เสียงฮือดังขึ้นทั่วห้อง คาริสาหันมามองเขาด้วยความตกใจ
แต่เขาหันกลับมามองเธอ ตอบเสียงเบา
“ผมไม่ได้ซื้อเพราะภาพ แต่ซื้อเพราะสายตาคุณตอนที่คุณมองมัน”
เขาชนะการประมูลโดยไม่มีใครแข่งต่อ และในคืนนั้น
คาริสากลายเป็นผู้หญิงที่ทุกคนพูดถึงมากที่สุด ทั้งที่เธอแทบไม่ได้พูดอะไรเลย
✦ หลังจบงาน
ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวไปยังห้องรับรองบนชั้นสูงสุดของพิพิธภัณฑ์ มองเห็นวิวกรุงเทพฯ ยามค่ำ คืนนี้ไม่มีผู้คน ไม่มีเสียง ไม่มีแม้แต่กล้อง
ธีรภพถอดสูทออก ปลดกระดุมข้อมือ แล้วเดินไปหยิบไวน์มารินให้เธอ
คาริสามองเขาแล้วพูดตรง ๆ
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล แล้วทำไมต้องเปิดตัวฉันแบบนั้น?”
เขาเดินเข้ามา ยื่นแก้วไวน์ให้เธอ ตอบเสียงเรียบแต่ชัด
“เพราะผมอยากให้คุณรู้ ว่าผมไม่ได้ซ่อนคุณจากโลก ถึงแม้คุณยังไม่แน่ใจว่าจะอยู่ในโลกของผมหรือเปล่า”
เธอรับแก้วไว้ แตะขอบแก้วช้า ๆ ก่อนถามต่อ
“คุณเชื่อในความรักเหรอคะ?”
ธีรภพเงียบไปครู่หนึ่ง มองตาเธอลึก ๆ ก่อนตอบ
“ไม่เคยเชื่อ จนวันที่เห็นคุณเดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์วันนั้น”
🖋️ “ข้อความที่ไม่ควรเห็น”
คืนนั้น คาริสากลับถึงห้อง เธอนั่งเงียบบนเตียง นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนพอดี
ความรู้สึกเหมือนเพิ่งผ่านฝันที่เธอไม่รู้ว่าควรเชื่อหรือควรกลัว
ความอ่อนโยนของธีรภพมันอันตราย ไม่ใช่เพราะเสแสร้ง แต่เพราะมันจริงเกินไป
และเธอไม่เคยเตรียมใจรับกับ “ความจริง” แบบนี้มาก่อน
เธอถอดต่างหูเพชรที่เขาใส่ให้ วางข้างนาฬิกา แล้วหยิบกล่องหนังเล็ก ๆ ออกมาจากลิ้นชัก
ในกล่องมีมือถือเครื่องหนึ่งที่ไม่มีซิม ไม่มีใครรู้ว่าเธอใช้ ยกเว้นคนที่ส่งข้อมูลมาให้
เธอเปิดเครื่อง หน้าจอมีข้อความใหม่ขึ้นมาเพียงบรรทัดเดียว
“มันกำลังจะเริ่มแล้ว รูปถ่ายแรกจากระบบของเขาจะถูกส่งพรุ่งนี้”
หัวใจเธอกระตุก กดเข้าไปดู ไฟล์แนบคือเอกสารเก่าของการโอนหุ้นเมื่อสิบปีก่อน
ชื่อที่อยู่บนสุดไม่ใช่พ่อของเธอ แต่เป็น นายอภิชัย อัครวัฒน์ …พ่อของธีรภพ
✦ ความเงียบที่ไม่ใช่ความสงบ
มือเธอสั่นเล็กน้อยขณะเลื่อนดูทีละหน้า วันที่ ลายเซ็น ชื่อผู้ถือผลประโยชน์
นี่คือหลักฐานที่เธอตามหามาตลอด เอกสารที่ไม่มีในฐานข้อมูลบริษัท แต่หลุดออกมาจากระบบของเขาเอง
สิ่งที่เจ็บยิ่งกว่าข้อเท็จจริง คือรูปถ่ายสุดท้ายที่แนบมา
ภาพเก่าซีดจาง พ่อของเธอจับมือกับพ่อของเขาอยู่หน้าตึก SkyEast Bio Lab
ทั้งคู่ยิ้มให้กล้องเหมือนเพื่อนร่วมทางที่ไว้ใจกันที่สุด ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะหายไป
✦ เสียงหัวใจในห้องที่ไม่มีเสียง
คาริสาหลับตา สูดลมหายใจช้า ๆ แล้ววางโทรศัพท์ลง
คืนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองอยู่ใกล้ไฟเกินไป
ความอบอุ่นที่คิดว่าเป็น “ความรัก” อาจเป็นเพียงไอร้อนก่อนถูกเผาจริง
เธอมองต่างหูที่เขาใส่ให้ จากที่เคยดูหรูหรา ตอนนี้กลับเหมือนสัญลักษณ์ที่ทำให้เธอลดการ์ดลง
“ทำไมต้องเป็นเขา…” เธอพึมพำ
“ทำไมต้องเป็นคนที่หัวใจฉันเริ่มจะเชื่อ…”
✦ เช้าวันถัดมา
คาริสาแต่งตัวในชุดสูทสีเทาอ่อน เรียบแต่แข็งแรง ราวกับเกราะสำหรับสู้มากกว่าผู้หญิงที่เพิ่งถูกจีบ
รถของธีรภพยังรอที่เดิม เขายืนพิงประตูรถในชุดสูทสีเทากราไฟต์เหมือนทุกเช้า
“คุณดูเงียบกว่าปกตินะ” เขาทัก
“คิดเรื่องงานค่ะ” เธอยิ้มบาง ๆ แต่ในใจเต็มไปด้วยแผนการ
✦ บนรถ
“คืนนี้คุณว่างไหม?” เขาถามขณะนั่งเคียงข้าง
“ทำไมคะ?”
“มีบางอย่างอยากให้คุณดู”
“เกี่ยวกับงาน?”
“เกี่ยวกับผม”
คาริสาเงียบ สายตาเขาดูตรงและมั่นคง แต่เธอรู้แล้วว่า ความจริงไม่ได้อยู่ในแววตา มันอยู่ในเอกสารที่เขาไม่เคยอยากให้เธอเห็น
✦ ที่ทำงาน
บ่ายวันนั้น เธอใช้สิทธิ์ที่ปรึกษาเข้าสู่ระบบบัญชีอีกครั้ง
และพบชื่อหนึ่ง A. Akarawat ผู้ถือหุ้นใน SkyEast ที่โอนหุ้นออกก่อนบริษัทล้มเพียง 3 วัน
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้บริษัทพ่อเธอล้ม และชื่อพ่อเธอกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเรื่องฟอกเงิน
✦ ค่ำคืนแห่งการเผชิญหน้า
ธีรภพพาเธอไปยังเรือนรับรองบนดาดฟ้าโรงแรมเก่า บรรยากาศโรแมนติกด้วยเทียนหลายสิบเล่ม
แต่คืนนี้ไม่มีไวน์ ไม่มีแชมเปญ มีเพียงแฟ้มสีดำและจอภาพเล็กบนโต๊ะ
เขานั่งลงข้างเธอ มองตรงแล้วพูด
“ผมอยากให้คุณเห็นสิ่งที่ครอบครัวผมไม่อยากให้ใครเห็น”
คาริสาขมวดคิ้ว แต่ก็เปิดแฟ้มออก ข้างในคือรูปถ่ายเหมือนที่เธอเพิ่งเห็นเมื่อคืน
ต่างกันตรงที่มีเอกสารแนบเขียนด้วยลายมือ
“ฉันรักษาสัญญาไว้ไม่ได้ พวกเขาเอาทุกอย่างไป แต่ขอให้ลูกชายฉันอย่าเดินทางเดียวกับฉัน”
ลายเซ็นด้านล่าง: อภิชัย อัครวัฒน์
✦ คำถามที่เธอไม่คิดว่าเขาจะถาม
“คุณอยากรู้ใช่ไหม ว่าผมเกี่ยวข้องกับเรื่องพ่อคุณหรือเปล่า”
คาริสาเงียบ แต่มือกำแน่นบนตัก
เขาลุกขึ้น เดินไปมองวิวเมือง
“ผมไม่แน่ใจว่าพ่อผมมีส่วนหรือไม่ แต่ผมรู้ว่าผมไม่อยากให้คุณเป็นศัตรูผม ถ้าคุณต้องเลือกข้าง”
คาริสาลุกตามไป ยืนข้างเขา เสียงเธอสั่นเล็กน้อย
“แล้วถ้าฉันเลือกไม่ได้ล่ะคะ…”
ธีรภพหันมาจับมือเธอแน่น
“งั้นคุณไม่ต้องเลือก ผมจะเป็นฝ่ายเลือกคุณ แม้ว่าคุณยังไม่แน่ใจในตัวผมก็ตาม”
🖋️ “เธอเริ่มถูกจับตา”
ภัทรกรเริ่มสังเกตความใกล้ชิดระหว่างธีรภพกับคาริสา และได้รับข้อมูลลับบางอย่างจากวงใน
เขาเริ่มสงสัยแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้…ไม่ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตธีรภพเพียงเพราะโชคชะตา
⟡ ⸝⸝ ✿ 𓈈 𓂂 𓏸