📗☀️ เช้าแรกที่ไม่อยากแยกจาก ✴︎ • ·̭ •̥

2374 Words
☀️ เช้าแรกที่ไม่อยากแยกจาก เสียงคลื่นยังคงดังซัดเข้าหาฝั่งอย่างสม่ำเสมอ แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ จนเกิดเงาอ่อน ๆ บนผ้าปูเตียงสีขาว รอบ ๆ เกาะเงียบสงบกว่าที่ไหนที่คาริสาเคยตื่นมา เธอค่อย ๆ ขยับตัว รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่แนบอยู่ด้านหลัง แขนของธีรภพยังโอบเธอไว้จากด้านหลัง นิ้วเขาวางหลวม ๆ บนข้อมือเธอ เหมือนตั้งใจจะกอดไว้จนกว่าเธอจะเป็นฝ่ายปล่อย คาริสาอยากให้เช้านี้เวลาเดินช้าลง อยากหยุดเวลาเอาไว้ก่อนที่โลกจริงจะกลับมาดึงเธอออกไป เธอไม่เคยคิดเลยว่า แค่ตื่นมาข้างใครสักคน จะทำให้รู้สึกปลอดภัยและสงบได้มากขนาดนี้ “คุณยังไม่อยากลุกใช่ไหม” เสียงทุ้มของเขาดังเบา ๆ ข้างหู เหมือนรู้ดีว่าเธอตื่นแล้ว เธอพยักหน้าแทนคำตอบ มือของเขาขยับจากข้อมือมาทาบบนหลังมือ กดแน่นขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องลุก” คาริสาหลบตาลง ก่อนจะกระซิบ “ฉันไม่เคยอยู่เฉย ๆ แบบนี้ได้เลย ไม่เคยคิดเลยว่าการตื่นขึ้นมาเฉย ๆ ข้างใครสักคนจะมีค่าขนาดนี้” ธีรภพตอบทันที น้ำเสียงมั่นคง “เพราะคุณไม่เคยเจอคนที่ทำให้คุณอยากอยู่เฉย ๆ มาก่อน” เธอหัวเราะเบา ๆ พลางหันไปมองเขา “คุณมั่นใจจังนะ ว่าตัวเองมีผลต่อฉันขนาดนั้น” เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบกลับด้วยสายตาจริงจัง “ผมไม่ได้มั่นใจในตัวเอง…ผมแค่มั่นใจในแววตาคุณเมื่อคืน” ✦ มื้อเช้าที่ไม่เคยคิดว่าจะมี เธออาบน้ำเสร็จแล้วใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา ขณะที่ธีรภพจัดโต๊ะอาหารง่าย ๆ ไว้บนระเบียงไม้ มีแค่ขนมปังอบใหม่ กล้วยปิ้งหอม ๆ กาแฟดำ และชาอู่หลงที่เขาต้มให้เธอเอง เธอเดินออกมานั่งตรงข้าม เขาสังเกตเห็นผ้าพันคอบาง ๆ คลุมไหล่ และใบหน้าเปลือยเครื่องสำอางที่สวยจนเขาไม่อยากหันมองที่อื่น “คุณรู้ไหมคะ ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้นั่งกินมื้อเช้าเงียบ ๆ แบบนี้ โดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเช็กทุกห้านาที” เขายิ้มบาง ๆ แล้วตอบว่า “เพราะที่นี่ไม่มีสัญญาณ…หรือเพราะคุณอยากวางมันลงจริง ๆ” เธอวางแก้วชาลง มองตาเขาตรง ๆ แล้วพูดเบา ๆ “เพราะฉันเริ่มไม่อยากกลับไปฟังเสียงจากโลกข้างนอกแล้วค่ะ” ✦ คำถามที่ค้างอยู่ในใจ หลังอาหาร ทั้งคู่เดินเล่นริมชายหาด มือสอดกันเงียบ ๆ ไม่มีใครเริ่มก่อน แต่ก็ไม่มีใครปล่อยออก “คุณเคยคิดไหมคะ ว่าเราจะอยู่แบบนี้ได้นานแค่ไหน” เธอถาม “ไม่นาน” เขาตอบทันที เธอหันมามองเขาเล็กน้อย ยังไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร เขาพูดต่อช้า ๆ “เพราะโลกจริงจะตามเราทันทั้งข่าวลือ คนที่ไม่พอใจ และความจริงที่คุณยังไม่ได้บอกผม มันจะทำให้เราไกลกันในที่สุด” เธอหยุดเดิน แล้วถามด้วยเสียงที่เหมือนกำลังขอความหวัง “แล้วคุณจะยังอยู่ไหมถ้าวันหนึ่งคุณรู้ว่าฉันไม่ได้ซื่อสัตย์กับคุณตั้งแต่แรก” ธีรภพเดินเข้ามาใกล้ ใช้มือประคองใบหน้าเธออย่างมั่นคง “ผมไม่ต้องการผู้หญิงที่ไม่เคยโกหก ผมต้องการผู้หญิงที่กล้ายืนอยู่ตรงหน้าผมต่อไป ถึงแม้ว่าในตอนแรกเธอจะเคยโกหกผมก็ตาม” ✦ เสียงเรียกจากกรุงเทพฯ ตอนบ่าย เรือสปีดโบ๊ทที่บริษัทส่งมาแล่นเข้ามาจอดที่ท่า เขามองเธอ เธอมองเขา “ฉันต้องกลับแล้ว” เธอพูดเสียงเบา “ผมรู้” เขาพยักหน้า “แต่ถ้าคุณอยากอยู่ ผมจะไม่ให้เรือมารับ” เธอยิ้มเศร้า ๆ แล้วตอบ “แต่ฉันต้องกลับไปเจอโลกที่ฉันทิ้งไม่ได้ค่ะ” เขาเดินมาส่งจนสุดสะพานไม้ ไม่ได้พูดคำลาหวาน ไม่ได้ให้สัญญาใด ๆ แต่เธอรู้ดี…ว่าเขาจะรอ ✦ หันกลับไปอีกครั้ง คาริสาหันกลับไปมอง เขายังยืนอยู่ที่ปลายสะพานเหมือนเดิม เหมือนเมื่อคืน เหมือนทุกครั้งที่เธออยากให้ใครสักคนอยู่ที่เดิม แม้เธอเองจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม ครั้งนี้…เธอหลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะก้าวขึ้นเรือ ทั้งที่ใจยังไม่อยากกลับ แต่เธอตัดสินใจ “กลับ” เพราะรู้ดีว่า ถ้าเขาคือความสุข… เธอก็ยังมี “หน้าที่” ที่ต้องทำให้เสร็จก่อน ถึงจะสมควรได้รับมัน 🖋️ “เธอกลับสู่เมืองใหญ่” เมื่อคาริสากลับถึงกรุงเทพฯ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป ข่าวลือในบริษัททวีความร้อนแรงขึ้น ภัทรกรเริ่มรุกเข้ามาใกล้กว่าเดิม และสิ่งที่รอเธออยู่อาจไม่ใช่แค่ความจริงเกี่ยวกับพ่อ… แต่เป็นความรู้สึกของเธอเอง ที่ต้องเลือกและตัดสินใจเสียที ✦ การกลับสู่ความจริง การกลับมาของคาริสา เหมือนโลกในเมืองที่เธอเคยพยายามหนี เริ่มไล่ตามมาทัน พร้อมกับสายตาของคนรอบตัวที่ไม่เหมือนเดิม และบททดสอบเงียบ ๆ จากคนที่ไม่พูดตรง ๆ แต่เหมือนรู้มากกว่าที่ควรรู้ ✦ วันที่เธอกลับมาสู่เมืองใหญ่ เสียงประตูรถเบนซ์หรูปิดลงทันทีที่เธอก้าวออกมา รองเท้าส้นสูงแตะลงบนพื้นกระเบื้องหน้าตึก Artemis Group คาริสารู้สึกได้ถึงแรงกดดันทันที ไม่ใช่เพราะแสงแฟลช ไม่ใช่เพราะเสียงนักข่าว แต่เป็นเพราะ “สายตาของคน” ที่มองมา เธอเดินผ่านพนักงานที่เคยยิ้ม เคยทักทาย วันนี้รอยยิ้มนั้นหายไป กลายเป็นแววสงสัยและเหมือนตัดสินเธอเงียบ ๆ โดยไม่ต้องพูดออกมา “เธอกลับมาคนเดียวเหรอ?” “ผู้หญิงที่ได้สิทธิพิเศษขนาดนี้…เป็นใครกันแน่?” “ที่ปรึกษาพิเศษ หรือมีอะไรพิเศษกว่านั้น?” เสียงเหล่านี้ไม่ได้ดังให้ได้ยินจริง แต่เหมือนกระซิบอยู่ข้างหลัง อยู่ในแชทกลุ่มที่เธอไม่มีชื่อ อยู่ในคำพูดที่ไม่เรียกตรง ๆ แต่เธอก็รู้…ว่าได้ยินมันทั้งหมด ✦ ห้องทำงานที่ไม่เหมือนเดิม คาริสากลับขึ้นไปที่โต๊ะประจำชั้น 28 ทุกอย่างยังอยู่ที่เดิม แต่ความเงียบรอบตัวทำให้เธอรู้ว่า อะไรบางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว แม้แต่เลขาฯ ของธีรภพ ที่ปกติจะยิ้มทักทายสุภาพ วันนี้ก็หลบตา ก่อนจะวางแฟ้มบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว “คุณธีรภพจะเข้าประชุมสายค่ะ เขาฝากให้คุณดูแฟ้มนี้ก่อน” คาริสารับแฟ้มมาโดยไม่พูดอะไร แต่ในใจรู้ดีว่า…สิ่งที่รอเธออยู่ข้างหน้า ไม่มีใครบอกล่วงหน้าแน่นอน ✦ ภัทรกรรออยู่ก่อนแล้ว ในห้องประชุมเล็กที่มีกระจกใสเห็นวิวเมือง คาริสาเดินเข้าไปแล้วนั่งตรงข้ามภัทรกร ผู้ชายที่ไม่เคยพูดตรง ๆ แต่ทุกคำของเขามีน้ำหนัก “ทริปเงียบ ๆ น่าสนใจนะครับ” เขาพูดเสียงเรียบ “ยิ่งพอกลับมา คนในบริษัทก็พูดถึงมันมากกว่างานจริง ๆ เสียอีก” คาริสาวางแฟ้มลง ยิ้มบาง ๆ “บางทีการเงียบ ก็ทำให้เสียงอื่นดังขึ้นเองค่ะ” “แต่เสียงเหล่านั้น…บางครั้งก็ไม่เลือกว่าจะทำลายใคร” เขามองตรง “ผมเตือนในฐานะคนที่รู้ว่าวงการนี้ ไม่ยอมให้ใครขึ้นมาได้ โดยไม่มีต้นทุน” เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดชัดถ้อยชัดคำ “ฉันไม่สนใจว่าใครจะคิดว่าฉันขึ้นมาด้วยอะไร สนใจแค่ว่าฉันกำลังทำอะไรเพื่อบริษัทนี้” ภัทรกรยิ้ม แต่แววตายังคงกดดัน “ดีครับ เพราะอีกสามวัน ผมจะเชิญคุณพรีเซนต์โครงการใหม่ต่อหน้าคณะกรรมการทั้งหมด” เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย “โครงการไหนคะ?” “SkyEast Revival Initiative” เขาตอบทันที “โครงการที่จะฟื้นฟูชื่อเดิมของบริษัท…ชื่อที่เคยล้มเพราะคดีเก่า และชื่อที่พ่อคุณเคยเกี่ยวข้องด้วย” หัวใจเธอชะงัก แต่สีหน้ายังคงนิ่ง เธอพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันจะเตรียมตัวให้พร้อม” ✦ ด้านธีรภพ ช่วงบ่ายแก่ ๆ หลังกลับจากประชุมใหญ่ ทันทีที่รู้ว่าเธอกลับมาแล้ว ธีรภพก็ตรงขึ้นมาที่ชั้น 28 ทันที เขาเปิดประตูเข้าไป เห็นคาริสากำลังอ่านเอกสาร ใบหน้าสงบเหมือนเดิม แต่เขารู้ดีว่าภายในใจ เธออาจจะไม่สงบขนาดนั้น “ผมควรอยู่ตอนคุณกลับมา” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม เธอเงยหน้ามองเขาแล้วส่ายหัว “คุณมีประชุมสำคัญ ฉันเข้าใจค่ะ” เขาก้าวเข้ามา ยืนตรงหน้าเธอ “มีใครพูดอะไร ทำให้คุณรู้สึกผิดบ้างไหม?” เธอส่ายหน้าอีกครั้ง ก่อนตอบเบา ๆ “ไม่ค่ะ เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” เขานิ่งไปสักพัก ก่อนวางมือลงบนแฟ้มเอกสารตรงหน้าเธอ “งั้นอย่าลังเลอีก เพราะถ้าคุณไม่กลัวจะอยู่ข้างผม ผมก็จะไม่ปล่อยให้คุณต้องเผชิญอะไรคนเดียว” 🖋️ เกมในห้องประชุม อีกสามวัน คาริสาจะต้องเผชิญหน้าคณะกรรมการ ที่บางคนยังเชื่อข่าวลือ และบางคนอาจเกี่ยวพันกับอดีตของพ่อเธอ การประชุมครั้งนี้จะไม่ใช่แค่การเสนอแผน แต่คือบทพิสูจน์ว่าเธอจะยืนตรงไหนต่อไป คาริสากับธีรภพที่เปลี่ยนไป หลังจากคืนที่ทั้งคู่ได้ “วางใจ” อยู่ข้างกัน ✦ เกมในห้องประชุม เช้าวันอังคาร ห้องประชุมชั้นบนสุดของ Artemis Group เต็มไปด้วยความเงียบกดดัน โต๊ะหรู โทนสีเทาเงิน ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายเลย คาริสา ผู้หญิงเพียงคนเดียวในห้อง ยืนอยู่หน้าจอโปรเจกเตอร์ สายตาทุกคู่จับมาที่เธอ ไม่ใช่เพราะแผนงานที่เธอจะเสนอ แต่เพราะตัวตนของเธอ ลูกสาวอดีตซีอีโอ SkyEast ผู้หญิงที่ใกล้ชิดประธานบริษัทที่สุด และเจ้าของแนวคิดจะฟื้นชื่อที่ใคร ๆ คิดว่าควรหายไปแล้ว ✦ การเริ่มต้นที่ไม่ง่าย เธอกดรีโมต เปลี่ยนสไลด์ขึ้นจอ “SkyEast Revival Initiative” ตัวอักษรสว่างชัด เสียงเธอนิ่ง เรียบ แต่หนักแน่น “ฉันเชื่อว่า แบรนด์ที่เคยล้มเหลว ถ้าได้รับการฟื้นด้วยข้อมูลจริงและกลยุทธ์ที่ถูกต้อง มันจะไม่ใช่ความเสี่ยง แต่เป็นทรัพย์สินที่ถูกทิ้งไว้” ห้องยังเงียบ ไม่มีแม้แต่การพยักหน้า เธอกล่าวต่อ “ชื่อ SkyEast ยังคงมีฐานลูกค้ากว่า 5 แสนคน และยังถูกค้นหาและพูดถึงออนไลน์ทุกเดือน โดยที่เราไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาเลย” เธอเดินขึ้นไปข้างหน้าอีกก้าว ไม่ใช่เพื่อท้าทาย แต่เพื่อให้เสียงของเธอถึงทุกคนที่ยังลังเล “วันนี้ฉันไม่ได้มาพิสูจน์ว่าฉันเก่งกว่าทุกคน แต่ฉันอยากถามว่า…เราจะทำให้ชื่อที่เคยถูกเกลียด กลายเป็นชื่อที่คนกลับมาเชื่อใจได้อีกครั้งไหม” ✦ คำถามที่เธอรู้ว่าจะต้องเจอ คุณชัยณรงค์ กรรมการอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลเงยหน้าจากเอกสาร แล้วถามเสียงเรียบ “คุณรู้ไหมว่าทำไมชื่อ SkyEast ถึงไม่มีใครอยากพูดถึง?” เขาหยุดเล็กน้อยก่อนพูดต่อ “เพราะมันเคยโกงทั้งประเทศ แล้วก็หายไปโดยไม่เคยขอโทษใคร” คาริสานิ่งไปเสียงในอกแทบสั่น แต่เธอตอบตรง ๆ “ใช่ค่ะ ฉันรู้” “แต่ฉันไม่ได้มาที่นี่ในฐานะลูกสาวใคร ฉันมาในฐานะคนที่เห็นว่าความผิดพลาดควรถูกแก้ไข ไม่ใช่ถูกลืม” คุณชัยณรงค์จ้องเธอ แล้วถามต่ออย่างชัดถ้อย “ถ้าโครงการนี้ล้ม คุณกล้ารับผิดชอบแทนพ่อคุณไหม?” คาริสาหยุดหายใจแค่เสี้ยววินาที ก่อนตอบโดยไม่ถอย “ค่ะ…ฉันกล้า” ✦ ธีรภพพูดครั้งแรก เขานั่งเงียบอยู่ปลายโต๊ะ ตลอดการนำเสนอไม่พูดแม้แต่คำเดียว จนกระทั่งตอนนี้ เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นและมั่นคง “ถ้าแผนนี้ล้ม ผมจะรับผิดชอบด้วย” ทุกคนหันมามองเขา แม้แต่คาริสาก็หยุดชะงัก “Artemis Group จะไม่ปล่อยให้ใครต้องรับทุกอย่างคนเดียว ถ้าเธอกล้าที่จะพูดในสิ่งที่ไม่มีใครกล้า ผมในฐานะ CEO ก็พร้อมจะรับมันเป็นของเราเหมือนกัน” เขาหันมามองตาเธอตรง ๆ สายตานิ่ง ไม่อ่อนโยน แต่ชัดเจนจนไม่มีใครตีความอย่างอื่นได้ “เธอไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวอีกแล้ว” ✦ หลังประชุม เมื่อประตูห้องประชุมปิดลง คาริสากลับมาที่ห้องทำงาน วางแฟ้มลงบนโต๊ะอย่างช้า ๆ เธอนั่งพิงเก้าอี้ ถอนหายใจยาว ไม่นาน ธีรภพก็เดินตามเข้ามา เขาปิดประตูแน่น แล้วก้าวมาหยุดตรงหน้าเธอ “ผมรู้ว่าผมไม่ควรพูดแทรก” เขาเอ่ยเสียงเรียบ “แต่ตอนที่เขาพูดถึงพ่อคุณ…ผมเห็นคุณกำมือแน่นมาก ผมไม่อยากให้คุณล้มตรงนั้น” คาริสาเงยหน้าขึ้น ตาแดงเล็กน้อย แต่ไม่ร้องไห้ “คุณช่วยฉันอีกแล้ว…ทั้งที่ฉันไม่ได้ขอ” ธีรภพนั่งลงข้างเธอ เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเบา “ก็ให้ชินไปเลย เพราะต่อจากนี้…คุณไม่ต้องขอ ผมจะอยู่ตรงนี้เอง” คาริสายิ้มบาง ๆ ตอบกลับด้วยเสียงที่แทบเป็นกระซิบ “งั้นอยู่ให้นาน…จนกว่าฉันจะไม่ต้องกลัวอดีตของตัวเองอีกนะคะ” 🖋️ “เงาที่ซ่อนในไฟล์” เมื่อเหมือนว่าทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้น จู่ ๆ ก็มีอีเมลลึกลับส่งเข้ามาในเครื่องของคาริสา เป็นไฟล์เก่าที่เกี่ยวข้องกับ SkyEast ข้อมูลที่ไม่เคยอยู่ในฐานระบบบริษัท และชื่อผู้ส่งคือ “C. Sirinthorn”…ชื่อเดียวกับพ่อของเธอ ❤️‍🩹☀️. ˗ˏˋ ♡ ˎˊ˗ ♡̷̷̷. ᙏ̤̫͚. ✿. ( *´ސު`*)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD