เช้าวันต่อมา...
ณ โรงแรมหรูใจกลางเมืองโอซีเรีย
ก๊อก! ก๊อก! เสียงเคาะประตู
“คุณจิรัจฌาคะ คุณตื่นหรือยังคะ”
เสียงไกด์สาวดังมาจากหน้าห้อง
“อุ้ย!” จิรัจฌาสะดุ้งตื่นทันที ด้วยความตกใจเสียงที่ดังสนั่นหน้าห้องของเธอ
“ค่ะ!” จิรัจฌาขานตอบกลับไป
“เฮ้อ...นึกว่าจะไม่อยู่”
ไกด์สาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แกร๊ก! เสียงประตูถูกเปิด
“ขอโทษนะคะ...คือ”
จิรัจฌายังมึนงงอยู่ เนื่องจากตอนนี้เหมือนเธอจะยังไม่รู้สึกตัวดีเท่าไหร่
“คุณกิมกิมคะ...คุณไม่สบายหรือเปล่าคะ...เมื่อวานคุณก็ไม่ได้ลงไปรับประทานอาหารเย็นน่ะค่ะ...คือว่าพี่โทรมาแต่ว่าคุณไม่รับสายน่ะค่ะ”
ไกด์สาวมองใบหน้าสวยของหญิงสาว สำรวจดูทั่วร่างบาง ดูแล้วเธอยังคงใส่ชุดเดิมจากเมื่อวาน
“ตอนนี้เช้าแล้วเหรอคะพี่” จิรัจฌาตกใจหนักมาก
“ค่ะ...07.00 น.แล้วนะคะ หลายคนรับประทานอาหารเช้ากันบ้างแล้วนะคะ เรามีนัดตารางแรกตอน 08.30 น.นะคะ”
“ตายแล้ว! นี่กิมกิมหลับไปจนถึงเช้าเลยเหรอคะ”
“ห๊ะ! คุณกิมกิมหลับตั้งแต่มาถึง...นี่พึ่งตื่นหรอกหรือคะ”
ไกด์สาวตกใจเช่นกัน เมื่อวานมีลูกทัวร์บางคนก็ปฏิเสธจะรับประทานอาหารเย็น บางคนสะดวกออกไปไปข้างนอกเอง เธอเลยคิดว่าหญิงสาวคนนี้ ก็น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะเธอโทรติดต่อมาแล้ว แต่ทว่าเธอกลับไม่รับ เช้ามาเธอโทรมาเพื่อทวนนัดหมายของลูกทัวร์ทุกคน แต่ทว่าเธอคนนี้กลับเงียบ จึงได้ตามมาดู
“งั้นเดี๋ยวกิมกิม...จะรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ ส่วนข้าวเช้าไม่เป็นไรค่ะ คงไม่ทันแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่มาตาม”
“อ๋อ...ค่ะ ไม่ต้องรีบมากนะคะ แขกท่านอื่นบางคนก็พึ่งตื่นเหมือนกันกับคุณกิมกิมค่ะ...คงนอนสบายกันแน่ๆ เลยค่ะ”
“ค่ะ” จิรัจฌาปิดประตูลง พร้อมกับวิ่งแจ้นไปที่สัมภาระเตรียมตัวอาบน้ำโดยด่วน เธอหลับไปได้ยังไง ป่านนี้เตชินทร์คงพิมพ์จนแชทระเบิดแล้วแน่นอน ^^
....................
ณ สถานที่แห่งหนึ่งในเมืองโอซีเรีย
“อาบู...เจ้าแน่ใจนะว่าพวกมันจะนัดกันที่นี่จริงๆ”
ฮาริสมองบริเวณรอบๆ ด้วยความแปลกใจ เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเมืองไคเนีย ที่มีโอเอซีสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอับดับหนึ่งของโอซีเรีย ความงดงามทางธรรมชาติที่ถูกรายล้อมไปด้วยทะเลทรายสีทอง ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้และน้ำสีเขียวมรกต ความสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และวันนี้ก็เช่นกัน นักท่องเที่ยวมากมายเดินกันไปมา
“ขอรับนาย...ไม่พลาดแน่นอนขอรับ สายเรารายงานมาเรียบร้อย ตอนนี้พวกมันกำลังเดินทางมาขอรับ”
“อืม...ถ้าเช่นนั้น...พวกมันก็อาจจะคิดว่า...สถานที่มีคนเยอะมากเท่าไหร่...พวกมันก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้นสินะ”
ฮาริสกำลังติดตามของสำคัญที่ถูกขโมยมา ซึ่งจะถูกเปลี่ยนมือในวันนี้ เขาได้รับมอบหมายจากองค์สุลต่านของสหรัฐบาเกลโรเนียซึ่งเป็นภารกิจลับสุดยอด ที่ให้ติดตามอัญมณีล้ำค่าที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนั้นคือ ‘Painite’ ที่ถูกโจรกรรมมา
เขาได้เฝ้าติดตามมานับหลายเดือน ข่าวนี้มิได้ถูกเผยแพร่ออกไปแต่อย่างใด เพราะมันเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงขององค์สุลต่านสหรัฐบาเกลโรเนียที่ถูกจอมโจรฝีมือดี ได้โจรกรรมถึงในตำหนักพระราชวังของบาเกลโรเนียเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้องค์สุลต่านจึงมอบภารกิจลับนี้ให้เขาทำโดยที่ท่านพ่อของเขาก็มิอาจล่วงรู้เลย...
“นายขอรับ...ตอนนี้คนของเราจำนวนห้าสิบคน...ได้ปลอมตัวแทรกซึมไปทุกส่วนของสถานที่แล้วขอรับ”
“ดีมาก...ข้าไม่อยากให้พลาด...ถ้าพลาดเมื่อไหร่เราอาจจะไม่มีโอกาสนี้อีกเลยก็เป็นได้”
วันนี้ฮาริสก็ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวสวมชุดสบายๆ สวมเสื้อผ้าฝ้ายแบบโปร่ง กางเกงผ้าขายาวสวมหมวกแบบนักท่องเที่ยว ในมือถือกล้องถ่ายรูป พร้อมกับแกล้งเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
“วันนี้นายดูแปลกตามากเลยนะขอรับ”
อาบูมองผู้เป็นนายด้วยสายตาแห่งความชื่นชม ปกตินายจะสวมชุดกาลาไบยา (เป็นกางเกงขายาว กับเสื้อกรอมเท้า แขนกระบอก) แต่วันนี้กลับต่างออกไป
ใบหน้าคมคายที่ถูกปิดซ่อนมาตลอด ตอนนี้เผยให้เห็นรูปหน้าเรียวยาว จมูกของเขาโด่งเป็นสัน ปากได้รูปสวย ผมดกสนิทนั้นหยักศกนิดๆ ตัดได้รูปกับใบหน้าคมสันสะดุดตา… ใบหน้าคร้ามคมที่มีลูกผมตรงไรหูและไรเคราบางๆ ดูรับกับผิวเข้มตามแบบฉบับชายหนุ่มยิ่งทำให้เขาดูโดดเด่นกว่าผู้คนนับร้อยที่เดินผ่านไปมา...
อาบูอดที่จะชมนายของตนไม่ได้...ความหล่อชนิดหาตัวจับได้ยาก ไม่แปลกใจที่สาวๆ แต่ละคนก็อยากจะมาเป็นสนมในฮาเร็มของนาย โดยที่บางคนนั้นไม่ต้องการเงินทอง ขอเพียงแค่ได้เข้ามาใกล้ชิดกับนายก็พอ
ความหล่อของนายนั้น ก็ไม่รอดพ้นนายหญิงนูรีน บุตรสาวของชีคอัฟซาเช่นกัน รายนั้นเฝ้าติดตามและคอยกำจัดผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้นายฮาริส แต่ทว่านายกลับไม่สนใจเจ้าหญิงนูรีนแต่อย่างใด เธอเลยหันไปใช้วิธีให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจัดการแทน...ท้ายที่สุดนายเองก็ต้องยอมแต่งงานกับเธอ...ด้วยเงื่อนไขบางอย่างที่ได้รับมอบหมายจากองค์สุลต่านอีกเช่นเคย...
....................
ณ สถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโอซีเรีย (โอเอซีส)
“คณะลูกทัวร์ทุกท่านคะ...เราจะแวะชมและท่องเที่ยวกับสถานที่ตรงนี้ทั้งวันนะคะ...ทุกคนจะได้เต็มที่...ใครจะเก็บภาพสวยงามของที่นี่ได้ตามสบายเลยนะคะ ส่วนอาหารกลางวัน เรามีบริการให้ส่วนกลางนะคะ ถ้าใครไม่สะดวกเราก็มีแบบกล่องให้นะคะ...เที่ยวให้สนุกนะคะ...แล้วอีก 5 ชั่วโมงเจอกันที่ตรงนี้นะคะ”
ไกด์สาวอธิบายรายเอียดแก่ลูกทัวร์
จิรัจฌาสะพายกระเป๋าเป้คู่ใจ และสัมภาระในการเดินทางเพราะวันนี้เธอตั้งใจจะเก็บภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ ไว้ให้เยอะที่สุด และตัวเองก็พยายามทวนบทพูดของตัวเองไปด้วย การทำงานแบบมืออาชีพนั้น จิรัจฌาสามารถทำมันได้ดีทุกครั้ง โดยเธอจะใช้เวลาให้เต็มที่อย่างที่สุด
แชะ! แชะ! เสียงชัตเตอร์ถูกกด เพื่อเก็บภาพสวยงามไว้ หญิงสาวเลือกที่จะนำข้าวกล่องไปด้วย เผื่อเธอจะได้ไม่ต้องย้อนกลับมาอีก ซึ่งมันอาจเป็นการเสียเวลาในการทำงานของเธอ
“สวัสดี...Fc ของช่องกิมกิมชาแนลทุกคนนะคะ...วันนี้เรา $#@%&@#!%$”
จิรัจฌาเริ่มอัดวีดีโอภาพเคลื่อนไหว เธอพูดนำเสนอได้อย่างฉะฉาน การแต่งกายของเธอวันนี้ก็น่ารักเช่นกัน รอยยิ้มที่เธอนำเสนอผ่านกล้องของตัวเองนั้น ทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบ หันมามองอย่างสนใจ ความสวยและความน่ารักที่ตรึงใจใครหลายๆ คน และหนึ่งในนั้นก็แอบมีชีคหนุ่มคนหนึ่ง ที่เขากำลังส่องกล้องถ่ายรูปของตัวเองมาตรงจุดนั้นพอดี...ชายหนุ่มหยุดมองเธอทันที
‘อืม...เธอเป็นใครกัน...รอยยิ้มเธอช่างน่ารักเสียจริง’
ฮาริสกดชัตเตอร์ เพื่อเก็บภาพสาวน้อยหน้าใส ที่มีรอยยิ้มงดงามชวนตะลึงนั่นเก็บไว้
“นายขอรับ...เป้าหมายมาแล้วนะขอรับ”
อาบูเดินมาสะกิดนายตัวเอง ที่กำลังส่องกล้องถ่ายรูปไปยังสาวสวยนางหนึ่ง
“อืม...”
ฮาริสเปลี่ยนเป้าหมายทันที งานครั้งนี้จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด เก็บความงามเบื้องหน้าไว้ในกล้องของเขาก็แล้วกัน
“และสถานที่แห่งนี้...คือสุดยอดของโอซีเรียนะคะทุกคน”
จิรัจฌาเดินถือกล้องอัดคลิปไปเรื่อยๆ ส่องกล้องให้เห็นบริเวณโดยรอบอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงใสๆ น่ารักที่กำลังนำเสนอ เท้าบางเดินก้าวเข้าไปยังบริเวณตัวอาคารรูปสี่เหลี่ยมสีเปลือกไข่ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมของชาวอาหรับ
“และนี่คือ...สุดยอดสถาปัตยกรรมของชาวตะวันออกกลางคือสิ่งก่อสร้างที่งดงาม...อุ้ย!”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบประโยค ก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นทันทีด้วยความรวดเร็ว
“จับมัน!” เสียงสั่งการเป็นภาษาพื้นเมือง
“เฮ้ย! นะ หนีเร็ว”
“ว้าย!”
“โอ้ย!”
เสียงทุกเสียงชุลมุนกันหมดทุกอย่าง จอมโจรจำนวน 3 คน และคนบุลคลฝ่ายตรงข้ามอีก 3 คนและผู้หญิงต่างชาติอีก 1 คนถูกจับทันที ด้วยปฏิบัติการที่รวดเร็วของทหารที่ถูกฝึกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
“อุ๊บ!” บุคคลทั้ง 7 ถูกโป๊ะยาสลบทันที โดยที่ความรวดเร็วนี้ทั้งหมดยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ
“ของอยู่นี่ครับนาย” หนึ่งในทีมแจ้งเมื่อพบของที่ต้องการ
“เอาตัวไปให้หมด!”
....................
เวลาผ่านไปเกือบ 5 ชั่วโมง...
“อืม...” เสียงพึมพำของคนๆ หนึ่งดังขึ้น
“โอ้ย!”
จิรัจฌาร้องเป็นคนที่สอง ดวงตากลมโตเริ่มเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมกับปรับแสงที่สาดส่องเข้ามา
“ที่นี่?” หญิงสาวกระพริบตาอีกครั้ง แต่ก็ต้องตกใจอย่างที่สุดเมื่อมองไปบริเวณรอบๆ ห้อง
“ไม่! ที่ไหนเนี่ย” จิรัจฌาผุดลุกขึ้นทันที
“อุ้ย!”
จิรัจฌารู้สึกเจ็บที่ข้อมือของเธอทันที เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นใหญ่ และไกลออกไปนั้นมีร่างของชายทั้ง 6 ถูกมัดมือมัดเท้า รวมไปถึงปากที่ถูกปิดไว้เช่นกัน แต่เธอนั้นไม่ได้ถูกปฏิบัติเหมือนกับชายทั้ง 6 คน เธอถูกมัดมือไพล่หลังเอาไว้ โดยที่ปากของเธอยังอิสระอยู่
“อื้อๆ” เสียงชายทั้งหมดร้อง แต่ทว่าก็ไม่สามารถส่งเสียงได้ทั้งหมด เนื่องจากถูกปิดปากเอาไว้
“มันเกิดอะไรขึ้น!”
จิรัจฌาเอ่ยถามคนตัวใหญ่ที่คอยคุมอยู่ตรงหน้าประตู และภายในห้องทันที
“..........”
ไม่มีคำตอบใด มีเพียงปฏิบัติการที่เดินเข้ามาลากร่างของชายทั้ง 6 ออกไป โดยชายร่างใหญ่นับสิบคน แต่ละคนพูดภาษาพื้นเมือง จิรัจฌาฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก่อนเธอจะมาที่นี่ เธอก็พยายามเรียนรู้คำศัพท์ของภาษาที่นี่มาพอสมควร แต่ทว่าคนทั้งหมดนี่สื่อสารอย่างรวดเร็ว จนเธอฟังไม่ทัน จับใจความอะไรไม่ได้เลยซักประโยค
เวลาผ่านไปราว 1 ชั่วโมง
หลังจากที่ชายทั้ง 6 ได้นำตัวออกไปจากห้อง จิรัจฌาก็ได้สำรวจรอบๆ ทันที เธอพยายามไล่เรียงเหตุการณ์ต่างๆ เธออัดคลิปอยู่ดีๆ ก็มีชายฉกรรจ์เข้ามาจากตรงไหนก็ไม่ทราบได้ มันรวดเร็วเสียจนเธอเองก็มองไม่ทัน ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ว่าน่าจะมีกล้องของเธอที่บันทึกเหตุการณ์นั้นไว้ กล้องเธออยู่ไหน? ของเธอล่ะอยู่ที่ไหนหมด ‘ไม่นะมันจะหายไปไม่ได้ นั่นคือเครื่องมือหากินของเธอทั้งหมด’
“ช่วยด้วย!”
จิรัจฌาตะโกนออกไปอย่างสุดเสียง เธอโดนจับตัวมา เขาอาจจะเข้าใจผิดบางอย่าง เพราะว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่ชุลมุนวุ่นวาย คนที่อยู่ด้านนอกอาจจะได้ยินก็เป็นได้ เธอลองร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง
“ช่วยด้วย!”
“..........” ไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับ
เธอจะทำอย่างไรดี ป่านนี้ทางคณะทัวร์จะตามหาเธอหรือเปล่า จิรัจฌาก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอทันที... ‘คุณพระ! นี่มันผ่านมาเกือบ 6 ชั่วโมงแล้ว’
ตึ่ง! ตึ่ง! จิรัจฌาเอาร่างของตัวเองกระแทกประตู เพื่อส่งเสียงให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ยิน
“ช่วยด้วยค่ะ”
จิรัจฌาเอ่ยเป็นภาษาพื้นเมืองที่เตรียมไว้ ยามที่ฉุกเฉินต้องขอความช่วยเหลือ
“..........” ไม่มีเสียงตอบกลับเช่นเคย
ดวงตากลมโตเริ่มร้อนผ่าว ม่านตาถูกคลอไปด้วยน้ำใสๆ เริ่มก่อตัวเป็นน้ำตาไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้างทันที
“ฮือ ฮือ”
จิรัจฌาปล่อยโฮออกมาอย่างทันที เธองงกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างมาก ความกลัวเริ่มเกาะกุมเข้าไปในใจ เธอจะทำอย่างไรดี เธอจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่ตรงนี้หรือ ‘เตชินทร์ ป้าผิง จะเป็นอย่างไรบ้าง คงไม่รู้ว่าตอนนี้เธอตกอยู่ในอันตราย’
“ช่วยด้วย!”
จิรัจฌาร้องขอความช่วยเหลืออีกนับสิบครั้ง...เงียบอีกเช่นเคย และที่ไม่มีสิ่งใดตอบรับกลับมาเลยสักครั้ง...ทุกอย่างเงียบสนิท ราวกับว่าไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บริเวณนั้น...