ตอนที่ 9 เปิดตัวนูรีน Nc++

2219 Words
ณ ปราสาทหลังใหญ่ใจกลางเมืองรัฐโคเชกเมียร์ “จริงหรือคะท่านพ่อ...ท่านพี่ฮาริสตกลงที่จะแต่งงานกับลูกแล้วหรือคะ” หญิงสาวผู้งดงามนามว่า ‘นูรีน’เอ่ยถามบิดาด้วยความดีใจ สิ่งที่นางเฝ้ารอมาตลอด ก็เป็นจริงดังที่นางหวัง “อืม...ทางโน้นเขาตกลงมาเรียบร้อย...อีกหนึ่งเดือนพิธีแต่งงานก็จะถูกจัดขึ้น เจ้าเตรียมตัวไว้เถอะ” ชีคอัฟซามองบุตรสาวของตัวเอง ที่แสดงความดีใจเป็นอย่างมาก ที่นางจะได้แต่งงานกับคนที่นางหมายปองและถูกใจ เมื่อบุตรสาวดีใจ แต่กับเขาดีใจยิ่งกว่า เพราะตนก็ได้คาดหวังบางอย่างจากการแต่งงานครั้งนี้ของบุตรสาวเช่นกัน “งั้นลูกต้องไปเตรียมตัวแล้วค่ะท่านพ่อ ลูกดีใจเหลือเกิน” “ลูกไปเตรียมตัวเถอะ ท่านแม่เจ้าก็กำลังเตรียมงานให้ลูกเหมือนกัน” “ค่ะท่านพ่อ” นูรีนดีใจจนใจเต้นระรัวไปหมด ไม่คิดว่าท่านพี่ฮาริสจะเปลี่ยนใจมาแต่งงานกับเธอ หลังจากที่เธอนั้นโดนปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว ‘เกิดอะไรขึ้นกับท่านพี่ฮาริสนะ อะไรทำให้ท่านพี่ตัดสินใจเช่นนี้ได้’ แกร๊ก! นูรีนเปิดประตูและเดินเข้าห้องนอนของตัวเองด้วยความสุขใจ พร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ อย่างคนอารมณ์ดี เธออยากจะโทรไปหาท่านพี่ฮาริสเลยตอนนี้จะดีหรือเปล่านะ ด้วยความตื่นเต้น ที่ทั้งเธอและเขาจะได้แต่งงานกัน... ‘เอาไว้วันหลังแล้วกัน’ หมับ! มือหนาของใครบางคน คว้าเอวบางของเธอมาจากด้านหลัง “อุ้ย!” นูรีนตกใจ เธอหันไปมองทันที “ราชิต! นี่เจ้าเข้ามาได้อย่างไรนี่” “ข้านอนรอเจ้าตั้งนานสองนาน จนข้าเริ่มเบื่อแล้ว เจ้าก็ไม่มาสักที ข้าคิดถึงเจ้ามากเลยรู้มั้ยนูรีน” ราชิตกระชับอ้อมกอด พร้อมกับหอมแก้มนวลอย่างชื่นใจ “อุ้ย!...ต่อไปเจ้าจะมาหาข้าแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วนะราชิต” นูรีนบอกชายชู้ที่นางคบหากันอย่างลับๆ โดยที่ท่านพ่อของเธอเองนั้นไม่รู้เลย “เจ้าจะไปไหนนูรีน ไม่ให้ข้ามาหา” ราชิตเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ปกติเขานั้นเข้านอกออกในปราสาทนี่เป็นประจำ เขาต้องติดสินบนพวกทหารทุกครั้งก่อนเข้ามามาหาเธอ “ข้าจะแต่งงานกับท่านพี่ฮาริส” นูรีนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สดใส และแววตาเป็นประกาย เธอรอเวลานี้มาเนิ่นนาน “ไหนเจ้าบอกจะไม่แต่งงานกับฮาริสแล้ว...เจ้าบอกว่าจะแต่งงานกับข้านี่นูรีน และเจ้าบอกกับข้าว่าจะหาทางที่จะบอกท่านพ่อถึงเรื่องของเรา...” “ใช่! เมื่อก่อนข้าบอกเจ้าเช่นนั้น แต่ว่าตอนนี้ท่านพี่ฮาริส ตกลงที่จะแต่งงานกับข้าแล้ว เพราะฉะนั้นเจ้ากับข้า ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องแต่งงานด้วยกันแล้วนี่” นูรีนนั้นต้องเลือกฮาริสมากกว่าราชิตอยู่แล้ว เพราะราชิตเป็นเพียงลูกชายของลูกน้องคนสนิทของท่านพ่อเท่านั้น ไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรมากมาก เพียงแต่ที่เธอคบกับราชิตก็เพราะความเสน่ห์หาราคะที่มีต่อกันในยามเหงาเท่านั้น “ข้ารักเจ้านะนูรีน ข้าไม่ยอมให้เจ้าไปแต่งงานกับฮาริสหรอกนะ” แววตาของราชิตแรงกล้าเป็นอย่างมาก อะไรที่เคยเป็นของเขาแล้ว ไม่มีวันที่จะตกเป็นของคนอื่น โดยเฉพาะสิ่งที่เขารักและหวงแหน “ใจเย็นสิราชิต ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องโมโหนะ อีกตั้งหนึ่งเดือนเชียวนะที่ข้าจะแต่งงาน ในระหว่างนี้เจ้ากับข้าก็ไปมาหาสู่กันได้นี่” นูรีนใช้สองมือประคองใบหน้าคมเข้ม พร้อมกับประกบริมฝีปากบางเข้ากับริมฝีปากหนาได้รูปทันที ลิ้นเล็กควานหาลิ้นหนาอย่างเอาใจ “อืม...แต่เจ้าจะต้องไม่ลืมข้านะนูรีน ข้ารักเจ้ามากแค่ไหนเจ้าก็รู้นี่” ราชิตพึมพำกับริมฝีปากบาง “ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไรราชิต เจ้าคือรักแรกของข้านะ อีกไม่นานข้าจะกลับมาหาเจ้า รอให้ข้าแต่งงาน และทำตามความประสงค์ของท่านพ่อเสียก่อนเถิด” นูรีนหว่านล้อมชายหนุ่ม อย่างน้อยราชิตก็ยังมีประโยชน์กับเธอนัก เรื่องที่เธอพูดกับราชิตนั้นเป็นเพียงคำโกหกหลอกลวงทั้งนั้น นูรีนเป็นคนฉลาดในการเลือกใช้คน “ข้ารักเจ้านูรีน” ราชิตรักนูรีนจนไม่อาจเผื่อใจให้ใครได้อีก เธอคือคนที่เขาทุ่มเทให้มาตลอด “โอววว์ ราชิตตอนนี้ข้ารู้สึกร้อนไปทั่วร่างกายของข้าแล้ว” นูรีนออดอ้อน เบียดร่างอวบอิ่มเข้าหาอกแกร่ง “ข้าก็เช่นกันนูรีน” ริมฝีปากหนาประกบมาอย่างทันที ด้วยท่วงท่าที่ร้อนแรง ปลายลิ้นหนากวัดแกว่งลิ้นเล็ก จูบที่เร่าร้อนปลุกกำหนัดของชายหนุ่มขึ้นมาอย่างฉับพลัน “โอวว์ ข้าต้องการเจ้าราชิต” นูรีนเติมเชื้อไฟ ร่างทั้งสองกอดรัดฟัดเหวี่ยง ต่างฝ่ายต่างโหยหาราคะของกันและกัน ราชิตคือสิ่งที่เติมเต็มในสิ่งที่นูรีนขาดหาย ถ้าฮาริสรักเธอแค่ครึ่งหนึ่งของราชิตก็คงจะดีไม่น้อย “วันนี้ข้าอยากสนุกกับเจ้าจนถึงเช้าเลย...ราชิต” “ได้สินูรีนที่รัก” สิ้นประโยคราชิตก็ช้อนร่างบาง เดินตรงไปที่โซฟาใหญ่ทันที เขาวางร่างของเธอ พร้อมกับปลดเปลื้องอาภรณ์ทั้งเธอและเขาอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาจูบริมฝีปากบางอย่างดุเดือดราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ ฝ่ายของร่างบางก็เช่นกัน เธอนั้นจัดเจนเรื่องแบบนี้อยู่ไม่น้อย มือบางลูบไล้ไปมาทั่วร่างแกร่ง ไล่ลงไปเบื้องล่าง เพื่อพบกับเจ้าดุ้นเอ็นใหญ่ นูรีนสัมผัสด้วยมือ เจ้าดุ้นเอ็นกระตุกรับมือบางอย่างทันที เธอดันร่างของตัวเองสไลด์ลงไปอยู่เบื้องล่างของร่างแกร่ง ใบหน้าสวยอยู่ตรงหน้าเจ้าดุ้นเอ็นใหญ่พอดี โดยไม่รอช้า ลิ้นเล็กโลมเลียเข้ากับเจ้าดุ้นเอ็นใหญ่ราวกับว่าเธอนั้นได้ดูดดื่มไปมากับแท่งมหัศจรรย์ “โอววว์ ซีสสสส์ นูรีน! ข้ารักเจ้าเหลือเกิน” มือหนาของราชิตจับศีรษะเล็กของเธอเอาไว้ “อืม ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน...ราชิต” นูรีนมีแต่คำหลอกลวง จริงๆ แล้วในหัวเธอตอนนี้ก็คือจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ‘ฮาริส’ คนที่เธอใฝ่ฝันมานาน ว่าจะมีบทรักแบบนี้กับชายหนุ่มให้จงได้ “โอววว์ โอ๊ะ! ซีสสส์ ริมฝีปากเจ้าช่างวิเศษอะไรอย่างนี้ โอววว์ นูรีน” ราชิตหลงเธอ รักเธอก็เพราะสิ่งนี้ เธอเร่าร้อนเสมอไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เสพสมกัน มือหนาผลักร่างบางลง จับขาเรียวยาวของเธอแยกออก สวบ! เจ้าดุ้นเอ็นกระแทกเข้าร่องรูอย่างไม่พลาดเป้า “อ๊ะ!” เสียงหญิงสาวดังขึ้นทันที เมื่อร่องรูโดนกระแทก ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง “อะ อ๊ะ! อ๊ะ! ซีสสส์ โอวว์ ราชิต ข้าชอบเหลือเกิน อ๊ะ!” “โอวว์ ข้าก็ชอบเจ้า...นูรีน...ตอดข้าอีกที ที่รัก ซีสสส์” ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! เอวหนาเด้งกระแทกเจ้าดุ้นเอ็นใหญ่ “อ๊ะ! อ๊ะ ซีสสส์ อะ แรงๆ ราชิต ข้าชอบ แรงอีก” “โอววว์ ได้สิ” ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! เจ้าดุ้นเอ็นใหญ่ กระแทกร่องรูจนน้ำรักทะลักออกมาชโลมทั่วหว่างขาเรียวและสะโพกมน “อ๊ะ! อ๊ะ! ซีสสส์ โอววว์ ราชิต อ๊ะ!”เสียงหญิงสาวครางอย่างไม่เป็นภาษา “โอววว์ ตอดข้าอีก โอวว์” ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! เจ้าดุ้นเอ็นใหญ่กระหน่ำแรงกระแทก “อ๊ะ! อ๊ะ! ซีสสส์ อ๊ะ อะ อ๊ะ!” ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! “ซีสสสส์ โอววว์ ขะ ข้ารักเจ้า ซีสสส์” ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! “อ๊ะ! อ๊ะ! ซีสสส์ โอววว์ อ๊ะ! อ๊ะ! อร๊ายยยย” ร่างบางกระตุกเฮือก เมื่อความเสียวซ่านขึ้นถึงขีดสุด โหนกนูนเด้งขึ้นไปจนสุดเพื่อระเบิดความซาบซ่านตอดรัดอย่างรัวๆ ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! เอวหนาซอยถี่ยิบ เพื่อเร่งเครื่องยนต์ให้ไปถึงฝั่งฝัน “โอววว์ ซีสสส์ โอะ” ตับ! ตับ! ตับ! ตับ! เครื่องยนต์กระแทกอย่างดุเดือด “โอววว์ โอวว์ โอะ ซีสสสส์ โอ๊ะ! โอ๊ะ!” ราชิตเด้งตัวเองไปข้าง โดยสะโพกหนากระแทกเจ้าดุ้นเอ็นใหญ่ไปให้สุด ก่อนที่ลาวาจากภูเขาไฟจะระเบิดออกมา เขาก็ถอดถอนเจ้าดุ้นเอ็นใหญ่ออกมาฉีดน้ำรักลงบนเรือนร่างอันงดงามของหญิงสาว “แฮ่ก แฮ่ก นูรีนข้ารักเจ้ามากเหลือเกิน” ราชิตซบใบหน้าลงกับซอกคอขาวผ่อง “ถ้าเจ้ารักข้า เจ้าจะต้องสนับสนุนข้านะราชิต” นูรีนใช้เสน่ห์ของตัวเองเพื่อปลุกปั่นราชิต ให้ยอมเป็นข้ารับใช้ของนาง “เจ้าจะให้ข้าทำสิ่งใดหรือนูรีน” ราชิตมองใบหน้าสวยด้วยแววตาอันลึกซึ้ง ที่มิอาจปิดซ่อนได้ทางสายตา “ข้าจะแต่งงานกับพี่ฮาริส เพื่อช่วยท่านพ่อ เจ้าคงเข้าใจข้านะราชิต” นูรีนใช้ข้ออ้างของบิดาบังหน้า ที่เธอยังไม่ทิ้งราชิต นั่นก็เพราะว่าชายหนุ่มคนนี้ยังมีประโยชน์กับเธอนั่นเอง “ข้าเข้าใจนูรีน ข้าเองจะไม่ขัดขวางเจ้าหรอก แต่เมื่อเจ้าช่วยพ่อเจ้าสำเร็จแล้ว ข้าจะไปเอาเจ้าคืนกลับมา...นูรีน” แววตาของราชิตแข็งกล้ามากขึ้น จนทำให้นูรีนเสียวสันหลังทันที ‘นี่เธอคงไม่ได้ล้อเล่นกับไฟอยู่ใช่ไหม’ “อืม...ข้าก็ต้องกลับมาหาเจ้าสิราชิต ข้าน่ะรักเจ้ามาก เจ้าคือคนที่รักข้า และดีกับข้า ไม่มีวันที่ข้าจะไปหลงรักคนอื่นได้” นูรีนหยอดคำหวานเพื่อชโลมลงหัวใจชายหนุ่ม “ข้ารักเจ้า...นูรีน!” .................... อีกด้านหนึ่งของ ‘จิรัจฌา’ หญิงสาวปาดน้ำตาด้วยมือเรียวบาง เธอลุกขึ้นยืน และมองไปรอบๆ ห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ บนโต๊ะมีถาดอาหารวางอยู่ เธอยังไม่ได้แตะอะไรเลยสักนิด ถึงแม้ท้องจะอุทรณ์เพราะความหิว แต่ทว่าความเครียดที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ ที่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นทำให้ไม่อาจนึกถึงสิ่งอื่นใดได้ นอกจากการหาทางหนีจากที่แห่งนี้ ‘ต้นกล้า ฉันคงไม่มีโอกาสกลับไปหาแกอีกแล้ว ฉันไม่น่ามาที่นี่เลย’ จิรัจฌาพึมพำกับตัวเอง เธอนึกโทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นสิบๆ รอบ ‘แกเป็นคนที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ นะกิมกิม...ฉันชอบนิสัยแก ที่แกเป็นแบบนี้นะ ไม่ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับแกขนาดไหน แกแมร่งก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้งเลยนะ ฉันนับถือแกจริงๆ’ คำพูดของชายหนุ่มผุดขึ้นมาในห้วงความคิดของจิรัจฌา เขาต้องเป็นห่วงเธอมากแน่ๆ แต่ว่าเธอจะมามัวนั่งร่ำไห้อยู่แบบนี้ไม่ได้ เธอจะต้องสู้สิ ถึงจะถูก ‘อาหาร!’ ท้องเธอจะต้องอิ่ม เธอจะได้มีแรง ทั้งแรงสมองและแรงกายของเธอจะต้องมีกำลัง จิรัจฌาเดินมานั่งลงที่บนโต๊ะมีถาดอาหารวางอยู่ เธอมองถาดอาหาร ถึงแม้จะไม่หิว แต่เธอก็ต้องกิน ‘กินเพื่อเอาตัวรอด เธอเคยผ่านความลำบากมาหลายครั้ง ทำไมครั้งนี้เธอจะผ่านมันไปไม่ได้’ จิรัจฌาตักอาหารใส่ปาก อาหารคำแรกของเธอมันช่างฝืดคอยิ่งนัก คำที่สอง คำที่สามตามมาเรื่อยๆ เมื่อนึกถึงเป้าหมายของตัวเองทำให้เธอมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป... ‘ต้นกล้า ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!’ เวลาผ่านไปหลายนาที... จิรัจฌากินอาหารจนเริ่มรู้สึกอิ่ม เธอก็หยุดกิน สมองของเธอกำลังคิดทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ อย่างช้าๆ ‘ผู้ชายคนนั้นเขาคือใครกัน ทำไมเขาดูน่าเกรงขาม และมีแต่คนเคารพนอบน้อมให้เขา’ หรือ ‘เขาจะเป็นคนใหญ่คนโต’ จิรัจฌามองบริเวณห้องสี่เหลี่ยม ที่มีข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงประดับประดา ‘หรือที่นี่คือ ฮาเร็ม’ จิรัจฌาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ภาษามาพอสมควร เมื่อมีสติ เธอจึงได้คิดทบทวน ปะติดปะต่อเหตุกาณ์ ‘แกคงถูกจับมาเป็นนางบำเรอ ในฮาเร็มสินะกิมกิม’ กลับไปเล่าให้ใครฟัง ใครจะเชื่อนะ ว่าเราจะต้องเป็นนางบำเรอในฮาเร็ม ‘ถ้าเป็นสถานการณ์ธรรมดา ฉันคงตลกเอามากๆ’ “อืม...เอาล่ะ...ในเมื่อโชคชะตา มันเล่นตลกกับเรา...เราเองก็จะเอาชนะมันให้ได้ คนหยั่งกิมกิม ไม่มีวันแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้ว” จิรัจฌาพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่เท้าบางจะเดินขึ้นไปยังเตียงกว้าง ‘อย่างน้อย เราก็ควรจะพักผ่อนเอาแรง ผู้ชายคนนั้นคงไม่กลับมาทำอะไรเราแล้ว เขาแค่อยากได้ตัวเราเท่านั้น ไม่ได้เอาเรามาฆ่านี่นา’ จิรัจฌาล้มตัวลงนอน ความเหนื่อยล้าที่เธอต้องผจญมาทั้งวัน มันทำให้ม่านตาของเธอ ค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ และหลับลงในที่สุด... ....................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD