Chapter 4: บ้าระห่ำ

2065 Words
Beyond เป็นคลับที่ซ่อนตัวอยู่ในดงป่าคอนกรีต ตั้งอยู่กลางย่านที่ไม่ได้เป็นเขตผับบาร์ ไม่ได้ใหญ่โตมากแต่ภายในตกแต่งหรูหราสวยงาม ตัวตึกเป็นอาคารพาณิชย์สูงเจ็ดชั้น ชั้นล่างสุดดูเหมือนจะเป็นคลับธรรมดาที่ถูกแบ่งเป็นโซนบาร์และโซนรับประทานอาหาร ชั้นสองที่สามารถเดินขึ้นบันไดไปได้เป็นโซนเต้นที่เปิดเพลงให้ขาแดนซ์วาดลีลา ชั้นสามเป็นผับหรู มีแสงไฟสลัว เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวที่คุยกันถูกคอจากชั้นหนึ่งและชั้นสองได้ขึ้นมาใช้เวลาพูดคุยกันโดยเปิดเพลงคลอไปด้วย ด้านขวาสุดของชั้นสามมีระเบียงยื่นออกไปและมีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ตรงระเบียงเปิดเป็นโซนปาร์ตี้สระว่ายน้ำได้อีกด้วย ครั้งที่แล้วไวน์เองก็เจอเกศเกล้าที่ชั้นหนึ่งแล้วพากันขึ้นมานั่งคุยที่ชั้นสามก่อนที่สาวเจ้าจะพาเขาขึ้นไปนอนคุยที่ชั้นเจ็ด เท่าที่เขาสังเกตดูจึงรู้ได้ว่าตั้งแต่ชั้นสามขึ้นไปน่าจะเป็นโซนออฟฟิศหรือไม่ก็ห้องพักสำหรับต้อนรับแขกของ Beyond เพราะต้องโดยสารลิฟต์เท่านั้นถึงจะขึ้นไปได้อีกทั้งยังต้องมีคีย์การ์ดโดยเฉพาะแตะตรงแผงบังคับลิฟต์ด้วยอีกต่างหากดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่คนนอกจะบุกรุกเข้าไป ดูจากระบบการจัดการที่เป็นระเบียบและรัดกุมแสดงว่าเจ้าของ Beyond ก็ไม่ธรรมดา อาจเป็นพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายของยัยเด็กซอมพอนั่นก็ได้ แต่ปู่บอกว่าเด็กซอมพอไม่มีพ่อแม่แล้ว... น่าสงสาร เด็กผู้หญิงตัวนิดเดียว... เฮ้ย! อย่าไปสงสารสิวะ! ความสงสารเป็นบ่อเกิดแห่งความรักนะไอ้ไวน์ ท่องไว้ตัวกู ท่องไว้! “ที่นี่เจ๋งดีนี่หว่าไอ้ไวน์ มึงไปรู้จักที่ดี ๆ แบบนี้จากไหนวะ? เล็กไปหน่อยแต่สาว ๆ โคตรเด็ดเลยมึง” ปพนกระซิบถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นในขณะที่สองหนุ่มเดินฝ่าฝูงชนแออัดที่กำลังเต้นกันอยู่บนชั้นสอง ทั้งปพนและไวน์ต่างก็เป็นหนุ่มหล่อในแวดวงสังคมชั้นสูง ไม่มีคลับหรือบาร์ไหนที่พวกเขาไม่เคยเข้าแต่ Beyond กลับรอดหูรอดตาพวกเขาไปได้ ก็เพราะมันไม่ใช่คลับธรรมดาน่ะสิ! ที่นี่มันซ่องเกรด A ชัด ๆ ไอ้ที่เห็นเต้นยั่ว ๆ นั่นก็คงมีอีตัวปนอยู่ไม่น้อย ไอ้พน... มึงรู้น้อยไป ไวน์คิดแล้วหันซ้ายหันขวามองหายัยตัวเล็กที่ชื่อซอมพอแต่กลับไม่เจอเขาจึงดึงเพื่อนเดินขึ้นไปบนชั้นสาม เมื่อไปถึงหนุ่มหล่อก็กวาดตาไปทั่วห้องจนเห็นหน้าตาที่คุ้นเคยของสาวคนหนึ่งที่กำลังหัวร่อต่อกระซิกกับแขกหนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐาน “ลูกเกด นายน้อยของเธออยู่ไหน?” ไวน์เดินตรงเข้าไปหาสาวสวยหุ่นเพรียวในชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงสดดูสวยคลาสสิค มองมุมไหนก็ไม่เหมือนสาวขายบริการเลยสักนิด เกศเกล้าหันมามองชายหนุ่มที่เรียกเธอแล้วมีอันต้องเบิกตากว้าง “คุณไวน์! คุณไม่ตายเหรอ? ไม่บาดเจ็บด้วยเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? วันนั้นคุณตกจากชั้นเจ็ดเชียวนะ ถึงว่าสิ นายซอมพอส่งคนไปหาร่างคุณแต่กลับไม่เจอ” เกศเกล้าพูดด้วยความตื่นเต้นปนตกตะลึง “ฉันจะตายหรือไม่ตายไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่านายของเธออยู่ที่ไหน? ฉันอยากเจอยัยตัวเล็กนั่นเดี๋ยวนี้!” หนุ่มหล่อถามเกศเกล้าเสียงเข้ม “เฮ้ย! อย่าทำเป็นดุกับคุณคนสวยสิวะไอ้ไวน์ พูดจาดี ๆ” ปพนสะกิดเตือนเพื่อนแล้วยิ้มให้เกศเกล้า สาวสวยก็ยิ้มตอบแถมเล่นหูเล่นตากับหนุ่มหน้าใสไม่เกรงใจหนุ่มใหญ่ที่เธอกำลังคุยด้วยอีกต่างหาก “สรุปยัยตัวเล็กอยู่ที่ไหน?” ไวน์ไม่สนใจคำเตือนของเพื่อนแต่กลับถามหญิงสาวซ้ำอีกรอบ “พี่มาหาหนูเหรอ?” เสียงใส ๆ ที่ถึงไวน์ไม่เห็นตัวก็รู้ว่าเป็นใครดังขึ้น หนุ่มหล่อหันหน้ากลับไปมองเจ้าของเสียง เขาเห็นสาวน้อยผมยาวมัดผมเป็นหางม้าหน้าตาสดใสจิ้มลิ้มน่ารักสวมเสื้อยืดสีฟ้าและกางเกงยีนยืนกอดอกยิ้มแป้นมองเขา ด้านหลังมีไอ้หมียักษ์กับไอ้เสือผอมแห้งยืนเป็นบอดี้การ์ดอยู่ “เออ! พี่มาหาน้องนั่นแหละ ปู่พี่ใช้ให้มาหา ปู่พี่ชื่อสุบรรณ พอจะคิดออกบ้างไหม? พ่อแม่น้องอยู่ไหน? เอามาคุยกันสิ” ไวน์ทำเสียงเข้มแล้วถามออกไป “หนูเคยได้ยินจากพ่อเรื่องคนชื่อสุบรรณ และพอรู้ว่าพี่น่าจะเป็นใคร ส่วนพ่อแม่ตายแล้ว จะให้ขุดหลุมงัดศพมานั่งคุยกับพี่ไหม?” สาวน้อยตอบแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้เขา ไวน์ได้แต่ถอนหายใจ ลืมตัวอีกแล้วว่าซอมพอไม่มีพ่อและแม่ตามคำบอกเล่าของปู่ “ไอ้เชี่ยไวน์ มึงอย่าบอกนะว่าเด็กนี่...” ปพนสะกิดบ่าเพื่อนแล้วกระซิบถาม พอเดาออกว่าเด็กสาวตัวน้อยเบื้องหน้าคือใคร “ถ้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ ตัวน้องก็ต้องมาคุยกับพี่ให้รู้เรื่อง” ไวน์ไม่ตอบเพื่อนแต่กลับบอกสาวน้อยแล้วยกมือขึ้นมากอดอกบ้าง “พี่อายุเท่าไหร่แล้ว? เข้าคลับเข้าบาร์ได้แล้วเหรอ? เอาบัตรประชาชนมาดูหน่อยดิ” เด็กสาวแบมือออกไปแล้วร้องขอ “พูดบ้าอะไร? พี่แก่กว่าน้องแน่ ๆ แล้วถ้าน้องเดินส่ายอาด ๆ ไปมาในนี้ได้ ทำไมพี่จะทำไม่ได้?” หนุ่มหล่อเชิดหน้าขึ้นแล้วถาม “เฮ้ย! ไอ้ไวน์ อย่าทะเลาะกับเด็ก น้องครับนี่บัตรประชาชนพี่ครับ พี่เกิน 20 มาเป็นสิบปีแล้ว” ปพนเตือนเพื่อนอีกครั้งแล้วล้วงบัตรประชาชนของตัวเองออกมาโชว์ “ไม่ได้จะดูบัตรพี่ จะดูบัตรพี่คนนี้” สาวน้อยเชิดหน้าขึ้นบ้างแล้วชี้ไปทางไวน์ “แม่ง... เรื่องมากฉิบ ใครได้เป็นเมียโคตรซวย” ไวน์บ่นงึมงำแล้วล้วงบัตรประชาชนออกมายื่นให้เธอดู “ไวนเตยะ ชนะนาคา... ชื่อพี่อ่านว่าอะไรอะ? อ่านยากจัง” สาวน้อยเอียงหัวแล้วขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยปากถามเขา “ไว-นะ-เต-ยะ ครับน้อง เรียกมันว่าไอ้ไวน์ก็ได้ พี่ชื่อปพน เรียกพี่ว่าพี่พนนะครับ” ปพนแนะนำตัวเองพร้อมเพื่อนเสร็จสรรพ “อ้อ... ไว-นะ-เต-ยะ โอเค สวัสดีพี่ไวน์” สาวน้อยรีบยกมือแล้วย่อตัวไหว้จนไวน์ตกใจแทบจะรับไหว้ไม่ทัน “หนูคอนเฟิร์มตัวตนของพี่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเราขึ้นไปคุยกันได้ พี่หมีโทรบอกให้แม่บ้านเตรียมห้องวีไอพีที่ชั้นสี่ไว้ให้หนูด้วย” ซอมพอบอกหนุ่มหล่อแล้วหันไปสั่งลูกน้อง “เฮ้ย! ไม่ขึ้นห้อง!” ไวน์คิดถึงการขึ้นห้องของเขาและเกศเกล้าเมื่อคราวก่อนก็ตกใจรีบปฏิเสธพัลวันกลัวโดนเด็กน้อยจับกดเป็นผัวเสียคืนนี้ “พี่ไม่ต้องกลัว ห้องที่จะขึ้นไปเอาไว้ ‘คุยกัน’ ไม่ได้เอาไว้ ‘เย่อกัน’ เหมือนที่พี่ขึ้นไปกับพี่ลูกเกดเมื่อคืนก่อน” เด็กสาวยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากแล้วบอกเขาเหมือนรู้ว่าไวน์คิดอะไรอยู่ในหัว “ให้เพื่อนพี่รออยู่ที่นี่ อยากสั่งอะไรกินหรือดื่มก็สั่งไป on the house ทางเรารับผิดชอบเอง แต่ถ้าอยากพาเด็กของเราขึ้นห้องก็ต้องจ่าย ไม่มีการยกเว้น พี่หมี พี่เสือคอยดูแลเพื่อนของพี่ไวน์ให้หนูด้วย” เด็กสาวบอกไวน์แล้วหันไปสั่งการลูกน้อง “แต่นายซอมพอจะขึ้นไปกับไอ้หนุ่มนี่แค่สองคนได้ยังไงครับ? ให้พี่ไปด้วยดีกว่าเผื่อมีอะไรเกิดขึ้น” เสือท้วงติงขึ้นมา “ไม่ต้องหรอกน่า พี่เสือก็รู้ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริงหนูจัดการได้ ไม่ต้องห่วง” ซอมพอบอกลูกน้องแล้วเดินนำหน้าไวน์ไปทางลิฟต์ หนุ่มหล่อพยักหน้าบุ้ยใบ้ให้เพื่อนไปนั่งรอที่ผับ ส่วนตัวเขาก็เดินตามเด็กสาวไป เธอก้าวเข้าลิฟต์แล้วล้วงคีย์การ์ดออกมาแตะที่แผงคอนโทรลก่อนจะกดเลขสี่ “พี่มารับหนูไปเป็นเมียเหมือนที่พ่อเคยบอกไว้จริง ๆ” สาวน้อยเกริ่นขึ้นมาก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด คำพูดประโยคนี้ทำให้ไวน์รู้ทันทีว่าสาวน้อยตระหนักดีว่าตัวเธอถูกกำหนดไว้ให้เป็นคู่หมายของเขา “น้องรู้?” ไวน์ถามแล้วเลิกคิ้วหนาขึ้น “รู้ พ่อบอกไว้ตั้งแต่เด็ก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง เพิ่งเชื่อว่าเรื่องที่พ่อพูดมันจริงก็ตอนเห็นปีกของพี่คืนก่อน...” “หือ? น้องเห็นปีกพี่?” ไวน์ขมวดคิ้วขึ้นทันที “อือ ก็เห็นน่ะสิวะ ถ้าไม่เห็นจะยอมเชื่อถึงขนาดพาขึ้นไปคุยบนห้องเหรอ?” สาวน้อยหันหน้าไปเผชิญกับเขาแล้วขมวดคิ้วบ้าง “คือน้อง... ก่อนอื่นเลยนะ หยุดพูดวะ พูดโว้ย หยุดพูดหยาบคาย มันทำให้หน้าสวย ๆ ของน้องสวยน้อยลงเยอะ พูดแทนตัวเองว่า ‘หนู’ เสียน่ารัก มาลงท้ายด้วย ‘วะ’ เสียอารมณ์ฉิบ” “อุ๊ย! พี่ต้องการอารมณ์ด้วยเหรอ? ได้ ๆ หนูจะพยายามไม่พูดวะพูดโว้ยนะ หนูอยู่แต่กับพวกพี่หมีพี่เสือ เลยติดไปหน่อย ขอโทษที” สาวน้อยรีบแก้ตัว “คือ... พี่ไม่ได้ต้องการอารมณ์ มันแค่เป็นการพูดให้เห็นภาพน่ะ น้องเข้าใจไหม?” สาวน้อยพยักหน้ารับคำก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออกแล้วเธอจึงเดินนำหน้าหนุ่มหล่อออกจากลิฟต์ไป เธอเดินตรงไปยังห้องที่อยู่สุดปลายโถงกว้าง พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบโต๊ะทำงานตัวใหญ่อยู่ติดกำแพงด้านในสุด ด้านหน้าโต๊ะทำงานมีชุดรับแขกสีดำทำจากหนัง ซอมพอผายมือเชิญเขานั่งที่โซฟาเดี่ยวตัวใหญ่ก่อนที่เธอจะนั่งลงที่ฝั่งตรงกันข้าม บนโต๊ะรับแขกมีกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบวางอยู่สองกระป๋อง น่าจะเป็นแม่บ้านของเธอจัดเตรียมไว้ให้ ไวน์จึงยื่นมือไปหยิบเบียร์กระป๋องหนึ่งขึ้นมาเปิดดื่ม “ในเมื่อน้องน่าจะรู้แล้วว่าเราสองคนอยู่ในฐานะอะไรกันพี่ก็ขอพูดตรง ๆ เลยนะ พี่ไม่อยากแต่งกับน้อง” หนุ่มหล่อจัดเริ่มเปิดหัวข้อสนทนาก่อนพลางยกเบียร์ขึ้นมาจิบ “โอเค รู้เรื่อง” สาวน้อยพูดแล้วเริ่มถอดเสื้อยืดสีฟ้าของเธอออกทางศีรษะโชว์อกอวบอิ่มเกินส่วนสูงและเอวคอดเว้าทำให้ไวน์ที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับสำลักเบียร์ที่ดื่มอยู่ “แคก! เฮ้ย! น้อง! ทำอะไรวะ? ถอดเสื้อทำไม?!” เขาโวยวายขึ้นมาทันที “ก็พี่บอกว่าพี่ไม่อยากแต่ง พ่อหนูบอกไว้ว่าพอหนูอายุครบ 20 ตระกูลของพี่จะมารับหนูไปดูแล พวกพี่อยากได้ลูกครุฑที่เกิดจากท้องหนู ถ้าพี่ไม่อยากแต่ง หนูก็ต้องคลอดลูกของพี่ออกมาก่อนใช่ไหม? ถ้าคลอดเด็กออกมาแล้วจะไม่แต่งก็ได้นี่นา” ซอมพอพูดแล้วลุกขึ้นยืนทำท่าจะรูดซิปกางเกงยีนลงต่อทันที “เฮ้ย! หยุด! คุยกันก่อน! ไหนว่าห้องนี้เอาไว้คุยไม่ได้เอาไว้เย่อไงวะ?!” ไวน์ร้องโวยวาย “ไม่ได้จะเย่อกัน จะทำให้น้องชายพี่ตื่นแล้วพี่ก็ฉีดลูก ๆ ของพี่เข้ามาในท้องหนู ให้เรียกมันว่า ‘การทำปฏิสนธิลูกครุฑ’ ก็แล้วกัน” ซอมพอยักไหล่แล้วตอบออกไปก่อนจะรูดซิปกางเกงยีนลง เหี้ยยยยยย!!! ปู่ไปหาเมียกูมาจากไหนวะเนี่ย? แม่งโคตรบ้าระห่ำ สรุปยัยเด็กนี่จะจับกูรีดลูกครุฑไปไว้ในท้องจริง ๆ หรือวะเนี่ย?!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD