“หยุด! หยุดก่อน! นี่น้องจะทำอะไร?” ไวน์ร้องลั่นแล้วส่งมือใหญ่ไปจัดการรูดซิปกางเกงยีนของซอมพอกลับขึ้นมาที่จุดเดิมทันที
“ก็บอกแล้วไง มันคือ ‘การทำปฏิสนธิลูกครุฑ’ เอามือออกสิวะ!” สาวน้อยพูดแล้วปัดมือของคนเป็นพี่ออก
“ไม่ต้องปฏิสนธิอะไรทั้งนั้น แล้วบอกไปแล้วไงว่าอย่าพูดวะ พูดโว้ย เฮ้อ! กูจะบ้าตาย ใส่เสื้อผ้าให้ครบก่อนแล้วมานั่งคุยกัน” ไวน์ส่ายหน้าอย่างระอาใจแล้วสั่งเธอเสียงเข้ม
ซอมพอทำหน้ามุ่ยก่อนจะสวมเสื้อยืดกลับคืนแล้วนั่งลงไปที่โซฟาฝั่งตรงข้ามเขาดังเดิม
“ก็คุยกันไปแล้วไง พี่บอกว่าไม่อยากแต่งกับหนู แต่พ่อบอกหนูไว้ว่าพอพี่มารับหนูไปดูแลหนูต้องมีลูกครุฑให้พี่” สาวน้อยพูดแล้วทำหน้างอเหมือนไม่พอใจที่ไวน์ปฏิเสธ ‘การทำปฏิสนธิลูกครุฑ’ กับเธอ
“พี่พูดตรง ๆ นะน้อง น้องไม่ใช่สเปกพี่ว่ะ พี่เองก็อาจไม่ใช่สเปกน้อง ถึงพี่จะหล่อแต่พี่เลวนะน้องนะ เพื่อนที่พี่พามาด้วยหน้าตาหล่อน้อยกว่าพี่แต่ก็ถือว่าใช้ได้ น้องสนไหม? ถ้าสนน้องถอนหมั้นแล้วไปบอกปู่กับพี่วันนี้เลย ดีไหม?” ไวน์เริ่มแผนการด้วยการกล่อมสาวน้อยอย่างใจเย็น
“ทำไมหนูไม่ใช่สเปกพี่?” ซอมพอเอียงหัวแล้วถามเขาทันที
“ก็...”
“คืนนั้นที่พี่มาที่นี่เพราะพี่มาหาหนูใช่ไหม? แต่พี่ขึ้นห้องกับพี่ลูกเกด... พี่ลูกเกดสเปกพี่เหรอ? ถ้าคู่หมั้นของพี่คือพี่ลูกเกดพี่ก็โอเคที่จะเอาเขาทำเมียใช่ไหม? แต่ทำไมพี่ไม่เอาหนูเป็นเมีย?” สาวน้อยรัวคำถาม
“ก็... ลูกเกดดูเป็นสาว โตเต็มตัว ดูพูดจารู้เรื่อง ถ้าเกิดพี่ได้เขาจริงคงจะเคลียร์กันง่ายกว่าน้อง น้องดู... เป็นเด็กน้อย พี่ไม่รังแกเด็ก ไอ้พนเพื่อนพี่ดีนะน้องนะ ถึงมันจะหล่อน้อยกว่า รวยน้อยกว่า แต่มันเอาใจสาว ๆ เก่งนะน้อง” ไวน์เริ่มกล่อมน้องอีกครั้ง
“แต่พ่อบอกให้หนูมีลูกครุฑให้ตระกูลพี่...” สาวน้อยทำหน้าง้ำแล้วพูดออกไป
“คือ... น้องไม่มีคนอื่นที่น้องต้องการจะรักและแต่งงานด้วยเหรอ? พ่อแม่น้องก็ไม่อยู่แล้ว ทำไมน้องต้องยอมถูกคลุมถุงชนด้วย ที่สำคัญ... น้องก็รู้ว่าพี่เป็นทายาทครุฑ ตอนน้องเห็นปีกพี่ น้องไม่กลัวเหรอ?” ไวน์ถามออกไปแล้วคิดถึงตอนที่เด็กสาวบอกว่าเห็นปีกของเขา นี่ก็อาจเป็นเหตุผลอีกข้อที่ปู่และพ่อเลือกเด็กซอมพอให้เป็นเมียเขา
ความจริงครุฑถือเป็นสัตว์ทิพย์ มีอยู่แต่เพียงในเมืองทิพย์อันเป็นโลกคู่ขนานของมนุษย์แต่เมื่อครุฑเกิดรักและสืบทายาทข้ามเผ่าพันธุ์จึงทำให้มีสายเลือดครุฑอย่างเขาอยู่ในโลกมนุษย์ ด้วยความว่าเป็นสัตว์ทิพย์โดยดั้งเดิมดังนั้นแม้เวลาที่เขากางปีกออกคนทั่วไปก็ไม่อาจเห็นปีกของเขาได้ เว้นแต่ว่าคนคนนั้นมีจิตวิญญาณผูกบุญผูกกรรมกับเขา ซึ่งก็หมายความว่าเด็กซอมพอมีจิตวิญญาณผูกบุญหรือไม่ก็กรรมกับเขา
“แค่หนูเหมือนเด็กพี่ก็ไม่เอาหนูทำเมียแล้วเหรอ? หนูว่าหนูทำตัวเป็นสาวได้ มีอย่างอื่นอีกไหมอะ? อย่างอื่นที่พี่ไม่พอใจเกี่ยวกับหนู?” เด็กสาวไม่สนใจจะตอบคำถามของเขาที่ว่าเธอมีชายอื่นในดวงใจหรือไม่แต่ถามกลับเขาแทน
“คือ... เออ... หนูคุมซ่อง เท่าที่พี่ดูอาชีพของหนูคือคุมซ่อง พี่ไม่ชอบ เด็กอายุ 20 ควรเรียนหรือเปล่าวะ? เด็ก 20 ที่ไหนคุมซ่องวะ?” ไวน์หาเหตุผลมาตำหนิเจ้าหล่อนจนได้
“อย่าเรียกว่าซ่อง ที่นี่คือ ‘คลับ’ แล้วหนูก็ฉลาด สอบเทียบและเรียนจบปริญญาตรีตั้งแต่ 18 แล้ว” สาวน้อยบอกอย่างภูมิใจ
แม่ง... เสือกหัวดีเกินคาดอีกต่างหาก แต่ก็พอเดาได้จากระบบการจัดการที่นี่นั่นแหละ
“ไม่เรียก ‘ซ่อง’ ได้ไง? กะหรี่เต็มไปหมด” หนุ่มหน้าหล่อท้วง
“อย่าเรียกพี่ ๆ ของหนูว่า ‘กะหรี่’ ที่นี่เน้นเด็กเอน และเขาไม่ได้บริการแขกถึงบนห้องทุกคน บางคนก็แค่เอนธรรมดา บางคนก็รับงานเอนบิกินีแบบสวมชุดว่ายน้ำลงเอนในสระ บางคนก็เป็นเอนแรง พวกที่เป็นเอนวีที่ขึ้นห้องกับแขกได้ก็มี มันแล้วแต่ว่าพวกพี่เขาจะเลือกทำแบบไหน” สาวน้อยพยายามอธิบายประเภทของเด็กเอนเตอร์เทนใน Beyond ให้หนุ่มหน้าหล่อฟัง
“มันต่างกันยังไง? แล้วน้องก็หากินกับเรือนร่างของเขาอยู่ดี พี่ไม่ชอบ” ไวน์พูดแล้วเบือนหน้าหนี
“พี่ไวน์ ฟังนะ พ่อสิงห์คำของหนูไม่ได้ตั้งใจจะสร้างคลับนี้ขึ้นมาเพื่อให้เป็นซ่อง เขาสร้างมันขึ้นเพื่อให้พี่ ๆ ผู้หญิงที่ต้องการหาเงินมีที่ทำมาหากินแบบที่มีคนคุ้มครอง พวกเราอยู่กันแบบครอบครัวมากกว่าที่จะรีดไถเงินจากพี่เขา ผู้หญิงทุกคนที่ทำงานที่นี่ได้เงินสามในสี่ของรายได้ที่เขาหาได้ เวลามีปัญหาเรื่องแขกไม่สุภาพ แขกทำร้ายร่างกาย แขกไม่จ่ายเงิน พวกเราจัดการให้ทั้งหมด ดังนั้นการที่พี่ใส่ร้ายว่าหนูหากินกับเรือนร่างพี่ ๆ เขามันไร้สาระสิ้นดี” ซอมพออธิบายให้เขาฟังเสียงจริงจัง
สาวน้อยกอดอกแล้วมองหน้าไวน์ ในใจสงสัยอยู่ว่าคนคนนี้คือคนที่พ่อสิงห์คำเคยบอกเอาไว้ว่าจะรักเธอไม่แพ้กว่าพ่อของเธอจริง ๆ หรือ? ไม่เห็นมีตรงไหนที่เขาทำท่าจะรักเธอเลยสักนิด เจอหน้ากันคืนแรกก็มีเรื่องทะเลาะกันแล้ว พอเจอกันครั้งที่สองก็ปฏิเสธการทำลูกครุฑกับเธอ
หรือหนูสวยไม่พอ? หรือหนูมันดูเด็กไป? หรือเหมือนที่พี่เขาว่าเอาไว้ว่าหนูมึงมาพาโวย?
“โอเค จะกะหรี่หรือจะเด็กเอนก็ช่าง พี่ไม่ชอบให้เมียของพี่ทำงานแบบนี้ งานที่ต้องเกี่ยวข้องกับอะไรพวกนี้ ดังนั้นพี่ถึงไม่คิดเอาน้องเป็นเมีย” ไวน์ย้ำอีกครั้ง
“หนูรู้แล้วไง และหนูก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเอาหนูเป็นเมียก็ได้ แค่ทำลูกครุฑกับหนูก็พอ” สาวน้อยนิ่วหน้าแล้วเถียงเขา
“โอ๊ย! ซอมพอ! พูดไม่รู้เรื่องหรือไง? พี่มีผู้หญิงที่รอเป็นเมียอีกเพียบ พี่ยังไม่อยากหยุดที่ใคร พี่แค่ 30 พี่ยังอยากสนุกกับชีวิต น้องเข้าใจไหม?” ไวน์พูดออกมาอย่างเหลืออด
“แต่หนูไม่มีลูกครุฑให้พี่ไม่ได้! นี่... ปู่พี่ไม่ได้บอกหรือไงว่าทำไมหนูถึงต้องมีลูกครุฑให้พี่?” ซอมพอเริ่มเอะใจแล้วถามเขา
หนุ่มหล่อส่ายหน้าพรืด เขาไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองมีคู่หมาย แล้วจะเสือกรู้ได้ยังไงว่าทำไมคู่หมายของเขาถึงต้องเป็นยัยเด็กซอมพอนี่
“งั้นเราก็ต้องมาคุยกันให้รู้เรื่อง พี่จะไม่นับว่าหนูเป็นเมียก็ได้ พี่จะมีผู้หญิงหรือชู้รักอีกสักสิบคนก็ได้ หนูไม่สน แต่หนูต้องมีลูกครุฑให้พี่ โอเคไหม?” สาวน้อยสรุป
“เชี่ย! ที่กล่อมมาตั้งนานนี่ไม่ได้ฟังเลยเหรอวะ?” ไวน์สบถออกมาแล้วทำหน้างุนงง
“ฟัง หนูถึงบอกไงว่าพี่จะมีใครหนูไม่สน แต่หนูต้องมีลูกครุฑให้พี่ อ้อ... แล้วไม่ต้องมากล่อมให้หนูไปสนผู้ชายอื่นด้วย หนูจะไม่มีใครจนกว่าหนูจะคลอดลูกครุฑให้พี่” สาวน้อยตอบเสียงดังฟังชัดก่อนจะเดินเข้ามาหาเขาแล้วตวัดขานั่งคร่อมตักของหนุ่มหล่อ
ซอมพอเลื่อนดวงหน้าเล็กสวยเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อเหลาของเขา ลมหายใจอุ่นของสาวน้อยกระทบเรียวปากของไวน์ทำให้ใจของหนุ่มหน้าหล่อมันวูบไหวโดยไม่รู้ตัว
ไวน์เห็นริมฝีปากอิ่มสีสวยของน้องแล้วมีอันต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนที่เขาขโมยจูบเธอเพื่อสั่งสอนปากกล้าที่สบถด่าไม่หยุด
จุ๊บ!
สาวน้อยก้มใบหน้าลงไปจูบแผ่วเบาบนริมฝีปากหนาร้อนของหนุ่มหล่อ หัวใจของเธอมันเต้นรัวราวกับจะกระเด้งกระดอนออกมานอกอกแต่ภายนอกเด็กสาวดูสุขุมเยือกเย็น
ริมฝีปากนิ่มนุ่มที่ประกบลงมาบนปากของไวน์เหมือนส่งกระแสไฟวิ่งผ่านไปทั่วร่างเขา หนุ่มหล่อผ่านการจูบเร่าร้อนมานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งบดปาก แลกลิ้น ดูดเลีย เขาเคยมาหมด แต่ทำไมหนอจูบแผ่วเบาของซอมพอกลับหอมหวานเย้ายวนกว่าจูบครั้งใด ๆ ในชีวิตเสียอีก?
จูบหวานนิ่มนวลดำเนินต่อไปอีกหลายวินาทีก่อนที่ซอมพอจะถอนจูบออกมาแล้วประกาศกร้าวต่อหน้าเขา
“หนูคืนจูบที่พี่ให้หนูเมื่อคืนก่อน และต่อไปนี้ถึงพี่จะปฏิเสธหนูยังไงหนูก็จะทำให้พี่มีลูกกับหนูให้ได้ และพี่ก็จำเอาไว้ ถ้าเมื่อไหร่หนูได้พี่เป็นผัว หนูจะยั่วให้พี่คลั่งเลย คอยดู!”