Chapter 6: หมาหวงก้าง

2099 Words
ยัยเด็กซอมพอนี่มันอะไรกันวะ?! หน้าอ่อน ๆ แต่งตัวด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนแต่ทำตัวจัดจ้าน ต่อยตีไม่เกรงกลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม เห็นใสซื่อ คิดว่าคงไม่เป็นงานแต่กลับใจกล้าโดดคร่อมขาผู้ชายแถมยังมาร้องจะทำลูกให้อีก? เชี่ย!!! ทำไมว่าที่เมียกูเป็นคอมบิเนชันที่แปลกขนาดนี้วะ? งงใจปู่กับพ่อจริง ๆ ไปเลือกมาเป็นเมียให้กูได้ไงวะเนี่ย? “ซอมพอ! นี่สรุปน้องจะไม่ยอมล้มเลิกการแต่งงานใช่ไหม?” ไวน์ถามเสียงเข้ม “หนูบอกแล้วว่าไม่แต่งก็ได้ แต่หนูต้องมีลูกครุฑให้พี่ตามที่พ่อสิงห์คำสัญญาไว้กับปู่และพ่อของพี่ ถ้าพี่มาเพื่อจะพูดเรื่องแค่นี้กลับไปได้แล้ว พร้อมจะรับหนูไปทำลูกครุฑเมื่อไหร่ค่อยมาเหยียบที่ Beyond” ซอมพอผละออกจากร่างใหญ่ของหนุ่มหล่อแล้วลุกขึ้นยืน เธอผายมือเป็นการเชิญให้ไวน์ลุกเดินออกจากห้อง “ปู่บอกให้พี่พาน้องไปหา ว่างเมื่อไหร่? จะได้มารับ หรือจะไปวันนี้เลย?” ไวน์ลุกขึ้นแล้วถามสาวน้อย “หือ? ปู่ของพี่ที่ชื่อสุบรรณใช่ไหม? พ่อบอกว่าเป็นพญาครุฑที่มีอำนาจเก่งกาจม้าก มาก แล้วพ่อของพี่ล่ะ? ไม่อยากเจอหนูเหรอ?” สาวน้อยถามขึ้นมาทันทีด้วยความตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าเรื่องพญาครุฑที่พ่อสิงห์คำเล่าให้เธอฟังตั้งแต่ยังเด็กล้วนเป็นเรื่องจริง “ใช่ ปู่ของพี่ชื่อสุบรรณ ชนะนาคา ส่วนพ่อ... พ่อไม่ได้อยู่แถวนี้ พี่ไม่ได้เจอพ่อมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว” ไวน์พูดเสียงขรึมก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางประตูโดยมีซอมพอเดินตามมาติด ๆ “หนูอยากเจอปู่พี่แหละ แต่วันนี้ยังไม่พร้อม คืนนี้มีแขกสำคัญจะมา เขาเหมาชั้นสามทั้งฟลอร์ หนูต้องอยู่คุมงาน” สาวน้อยตอบ ในน้ำเสียงมีความเสียดายปนอยู่ “หือ? น้องมีแขกคนอื่นสำคัญกว่าว่าที่ผัวอีกเหรอ? ปู่ของพี่สำคัญน้อยกว่าแขกของน้องอีกเหรอ?” ไวน์ขมวดคิ้วแล้วถามพลางเดินตรงเข้าไปในลิฟต์ “ก็ไหนพี่บอกว่าไม่เอาหนูเป็นเมีย? ถ้าไม่เอาหนูเป็นเมียพี่ก็ไม่ใช่ว่าที่ผัวของหนูไง” สาวน้อยตอบยิ้ม ๆ นัยน์ตามีแววเจ้าเล่ห์ “เหอะ! น้องจะเห็นใครสำคัญก็เรื่องของน้อง พี่ไม่สนหรอก แค่ถามเพราะอยากรู้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวแลกไลน์กัน ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็บอก จะมารับไปหาปู่ ปู่อยากเจอ” หนุ่มหล่อตอบเสียงห้วนขณะที่ซอมพอกดปิดประตูลิฟต์ “พี่ขอไลน์หนูเหรอ?” สาวน้อยยกยิ้มที่มุมปากแล้วถาม “เออสิวะ! ถ้าไม่ขอไลน์จะให้ถ่อมาหาที่คลับทุกครั้งที่มีเรื่องให้ต้องติดต่อกันหรือยังไง?” ไวน์ถามอย่างหัวเสีย รู้สึกเหมือนตัวเองถูกซอมพอต้อนให้จนมุม “งั้น... หนูมีข้อแลกเปลี่ยน หนูจะให้ไลน์พี่ แต่พี่อย่าเรียกหนูว่า ‘น้อง’ ได้ไหม? พี่เรียกแทนตัวหนูว่า ‘หนู’ หรือ ‘ซอมพอ’ ได้ไหม?” สาวน้อยพูดแล้วทำเสียงหวานจนใจไวน์แทบละลาย “ทะ... ทะ... ทำไม? ทำไมต้องให้พี่เรียกน้องว่า ‘หนู’ ด้วย?” ไวน์ถามเธอเสียงตะกุกตะกัก พอซอมพอทำเสียงหวานแล้วเขาจั๊กจี้ที่ใจชอบกล “ไม่มีคนเรียกหนูว่า ‘หนู” มานานแล้วตั้งแต่พ่อหนูตาย พวกพี่เสือพี่หมีก็เรียกหนูว่า ‘นาย’ หรือไม่ก็ ‘นายน้อย’ ขนาดหนูพยายามแทนตัวเองว่า ‘หนู’ ทุกคนก็ยังเรียกหนูว่า ‘นายซอมพอ’ หนูแค่อยากมีใครสักคนเรียกหนูแบบที่พ่อเรียก” ซอมพอก้มหน้ามองพื้นแล้วทำเสียงเศร้า บางทีการได้ขึ้นเป็นหัวหน้าคนตั้งแต่อายุยังน้อยก็ทำให้เธอกลายเป็นราชินีผู้โดดเดี่ยวได้เหมือนกัน “เอาไลน์หนูมาสิ พี่จะได้แอด” ไวน์พูดแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอปพลิเคชันไลน์ เพียงเสี้ยววินาทีที่ไวน์เรียกสาวน้อยว่า ‘หนู’ ดวงหน้าสวยหวานที่เศร้าสร้อยของซอมพอก็มีรอยยิ้มแต้มทันที สาวน้อยรีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาให้พี่ไวน์ของเธอกดแอดไลน์ก่อนที่ประตูลิฟต์จะเปิดออก ติ๊ง! ทันทีที่ลิฟต์จอดที่ชั้นสามและประตูเปิดออกร่างเล็กของซอมพอก็ถูกใครคนหนึ่งที่รูปร่างสูงใหญ่ฉุดลากออกไปจากลิฟต์แล้วเจ้าของร่างใหญ่ก็กระหวัดกอดว่าที่เมียของครุฑหนุ่มอย่างแนบแน่น “เฮ้! นายน้อย! หายไปไหนมาตั้งนาน พี่ตามหาแทบแย่ พี่หมีบอกว่านายซอมพอมีธุระ ธุระอะไรกันที่สำคัญไปกว่าพี่?” ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวขาวเหลืองหน้าตาหล่อสะอาด หางตาชี้ขึ้นเหมือนคนจีน ถามซอมพอเสียงดังในขณะที่วงแขนกว้างล่ำสันที่กอดเธออยู่กระชับร่างน้อยให้แนบแน่นไปกับตัวเขามากขึ้น ไวน์หรี่ตามองปฏิกิริยาของซอมพอที่อยู่ในวงแขนของหนุ่มหล่อหน้าตี๋ สาวน้อยไม่ปัดป้องหรือแข็งขืน เธอหัวเราะร่าอยู่ในอ้อมกอดของชายอื่นต่อหน้าว่าที่ผัวของตัวเอง แม่ง... วันก่อนกูจูบนิดเดียวสั่งลูกน้องให้จับเอากูไปถลกหนัง ไอ้หนุ่มนี่กอดแนบแทบรวมร่างเสือกยิ้มร่า ไม่เกรงใจว่าที่ผัวบ้างเลยหรือไงวะ? “ปล่อยซอมพอได้แล้ว กอดแรงขนาดนั้นหายใจไม่ออกพอดี” ไวน์ขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงเข้ม หนุ่มหล่อหน้าตี๋คลายวงแขนออกแล้วมองหน้าไวน์ที่เดินตามหลังซอมพอออกมาจากลิฟต์ “นี่แขกของนายน้อยที่บอกว่าไปคุยกันที่ห้องวีไอพีชั้นสี่เหรอ?” หนุ่มหน้าตี๋ถามขึ้นมา ไม่รู้ว่าถามใครแต่ซอมพอเป็นคนชิงตอบก่อนคนอื่น “ใช่ ว่าที่ผัวหนูเอง” ซอมพอฉีกยิ้มแล้วประกาศออกไป คำประกาศของสาวน้อยทำเอาคนทั้งผับหันมามองสาวน้อยและหนุ่มหล่อจัดที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นตาเดียวกัน ไวน์ยกมือขึ้นกุมขมับ ปวดหัวกับว่าที่เมียตัวน้อยขึ้นมาตุ้บ ๆ เขาเหลือบมองปพนที่ยักคิ้วส่งมาให้เขาอย่างยียวนแล้วยิ่งปวดหัว เจ้าเพื่อนตัวดีคงหัวเราะเยาะเขาอยู่ในใจเป็นแน่ “นายซอมพอ... นี่มันเรื่องอะไรกันครับนาย? ทำไมไอ้บ้ากามที่จูบนายเมื่อวันก่อนกลายเป็นว่าที่ผัวของนายได้?” ไอ้หมียักษ์เดินเข้ามาหานายน้อยแล้วก้มตัวกระซิบถาม “เรียกเขาว่า ‘พี่ไวน์’... ว่าที่ผัวคนนี้ของหนูชื่อพี่ไวน์ พ่อสิงห์คำเป็นคนหมั้นหมายไว้ให้หนู พ่อบอกหนูไว้แล้วว่าพอหนูอายุครบ 20 ปีพี่เขาจะมารับ อีกไม่นานหนูจะไปเจอคุณปู่พี่เขาด้วย” ซอมพอชี้ไปที่หน้าของไวน์แล้วพูดเจื้อยแจ้วแนะนำว่าที่สามีไม่มีติดขัด ไวน์ยกมือขึ้นมาปัดนิ้วน้อย ๆ ของน้องที่ชี้มาทางเขาทันที “ซอมพอ... ไอ้หมอนี่ใคร?” ครุฑหนุ่มถามแล้วจ้องตากับไอ้หล่อหน้าตี๋ “อ้อ... คนนี้ แขกสำคัญของหนูวันนี้ที่บอกพี่ไวน์ไปไง พี่ทิวเขา พี่ทิวเคยเป็นคนของพ่อสิงห์คำ แต่เขาออกไปทำกิจการของตัวเองนานแล้ว” ซอมพอรีบแนะนำตัวทิวเขาให้ว่าที่สามีรู้จักทันที “คนที่หนูบอกว่าเหมาชั้นสามทั้งฟลอร์เหรอ?” หนุ่มหล่อจัดถามแล้วเลิกคิ้วขึ้น “อืม ใช่ พี่ทิวมาทางนี้เร็ว หนูให้เขาติดตั้งเครื่องเสียงใหม่ พี่ทิวต้องชอบแน่ ๆ” ซอมพอพยักหน้ารับว่าใช่แล้วรีบส่งมือน้อยไปจูงมือทิวเขาให้เดินตามเธอ ไวน์ได้แต่นิ่วหน้าแล้วมองเด็กสาวตัวน้อยพาชายอื่นไปดู ‘เครื่องเสียง’ บ้าบออะไรนั่นก่อนที่ปพนจะเดินเข้ามาหาเขาแล้วตบบ่าเพื่อนรักเบา ๆ “มึงไม่ต้องหาแผนการให้น้องเขาถอนหมั้นแล้ว กูว่าน้องเขาไม่น่าจะสนมึงว่ะ ผู้ชายของเขาก็เด็ดใช่ย่อย” ปพนกระซิบบอกเพื่อน “ไม่สนเชี่ยไร เมื่อกี้ตอนลากกูไปคุยข้างบนเกือบจะปล้ำกูแล้ว แต่กูยืนกรานว่ากูไม่เอาเป็นเมียเด็ดขาดถึงยอมถอย” ไวน์ตอบเพื่อนเสียงเขียวแต่กลับมองตามหลังซอมพอไม่ละสายตา เด็กสาวที่เขาคิดว่ายังไม่เป็นสาวเต็มตัวกำลังหัวเราะร่าเริงพูดจาราวนกแก้วนกขุนทองกับไอ้หนุ่มหน้าตี๋ที่ชื่อทิวเขา ที่สำคัญกิริยาก้าวร้าวของเธอดูอ่อนโยนลงเมื่ออยู่กับไอ้หนุ่มคนนั้นมันยิ่งทำให้ไวน์อารมณ์เสียอย่างบอกไม่ถูก เลือกที่รักมักที่ชัง! ทีกูเจอกันวันแรกแม่งเอามีดจ่อหน้ากูแล้ว เชี่ย! “สรุปตอนนี้พวกเรากลับกันได้หรือยัง? มึงคุยกับน้องเขาเสร็จแล้วใช่ไหม? ไอ้ที่มึงคิดจะหลอกกูมาให้จีบน้องก็ลืมไปได้เลย เขาอ้อร้ออยู่กับผู้ชายของเขาแล้ว” ปพนบอกเพื่อนเพราะเห็นลูกน้องหลายคนของซอมพอเริ่มเชิญแขกบนชั้นสามให้ย้ายไปชั้นหนึ่งและชั้นสองเพื่อเตรียมเคลียร์ฟลอร์รับแขกกลุ่มใหญ่ของทิวเขา “สรุปมึงรู้ว่ากูหลอกมึงมาตกเบ็ดซอมพอ? แล้วอ้อร้อเชี่ยไรมึง? น้องเขาแค่คุยกันเพราะไอ้หมอนั่นเคยเป็นลูกน้องพ่อเขาโว้ย” ไวน์บอกเพื่อนน้ำเสียงกึ่งหงุดหงิดกึ่งรำคาญ ใจมันยังอยากจะอยู่ต่อ อยากรอดูว่ายัยเด็กซอมพอจะรุกผู้ชายอื่นเหมือนกับที่รุกเขาไหม ทำงานคุมซ่อง ตัวคนคุมเองก็คงไม่เบา กูเกลียดนัก พวกผู้หญิงนิสัยกากี! “กูจะไม่รู้ได้ไง แค่มึงอ้าปากกูก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ว่าแต่... กูบอกตรง ๆ ลักษณะมึงตอนนี้ไม่มีความเป็นครุฑอยู่เลยว่ะ...” ปพนบอกเพื่อนแล้วยิ้ม “เชี่ยพน! ก็กูไม่ได้กางปีก จะเหมือนครุฑได้ไงวะ?” ไวน์ด่าเพื่อนอย่างหัวเสีย ไม่รู้ระหว่างเรื่องที่ปพนแซวกับการที่เห็นซอมพอกำลังรินเหล้าใส่แก้วแล้วชงอย่างคล่องแคล่วส่งให้ไอ้ทิวเขาเรื่องไหนมันทำให้เขาหัวเสียมากกว่ากัน “มึงไม่เหมือนครุฑ มึงเหมือนหมาว่ะ หมาที่มันหวงก้างเหี้ย ๆ อะมึง” ปพนพูดแล้วยักคิ้วยียวนส่งให้เพื่อน ไวน์มองเพื่อนรักตาเขียวแล้วตัดสินใจเดินเข้าไปหาซอมพอที่กำลังนั่งคุยกับทิวเขา “อ้าว! มึงจะไปไหนวะไอ้ครุฑ?!” ปพนตะโกนถามเพื่อนเมื่อเห็นครุฑหนุ่มเดินฉับ ๆ ตรงไปหาว่าที่เมียและทิวเขา “ถึงกูเป็นหมากูก็ไม่ใช่หมาหวงก้างโว้ย! และซอมพอก็ไม่ใช่ก้างของกู ซอมพอเป็นกระดูกของกู หมากินก้างไม่ได้แต่มันแทะกระดูกของมันได้ ไอ้เชี่ยพน ไม่เชื่อมึงก็คอยดู!” ไวน์ตะโกนกลับมาแต่ไม่หันหน้ามามองเพื่อนเลยสักนิด สองตาคู่คมของหนุ่มหล่อจับจ้องมองคู่หมายที่กวักมือเรียกเด็กสาวอีกหลายคนมานั่งเป็นเพื่อนทิวเขา แม่ง... ทำตัวอย่างกับแม่เล้าแล้วยังเสือกบอกว่าไม่ได้คุมซ่อง ต้องเริ่มขึ้นมาคุมคลับตั้งแต่อายุเท่าไหร่ถึงคล่องขนาดนี้วะ? แล้วพ่อแม่ตายตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงต้องคุมคลับเอง? แล้วเด็กน้อยขนาดนี้คุมพวกผู้ชายตัวโตเป็นควายตั้งหลายคนได้ยังไงกันวะ? แล้ว... เชี่ย! กูจะอยากรู้เรื่องยัยเด็กซอมพอมากเกินกว่าคนที่กำลังจะกลายเป็นแค่อดีตคู่หมายแล้ว ต้องเตือนตัวเองไว้ว่าอย่าหลงกลยัยเด็กนั่น เห็นหน้าซื่อ ๆ ถ้ากูเผลอมีหวังจับกูทำผัว พอลูกครุฑเกิดมาก็คงจะไม่ยอมปล่อยให้กูไปมีคนอื่นแน่ ๆ อย่าหลงหน้าใส ๆ อย่าไปอยากรู้เรื่องเด็กนั่น แค่เดินเข้าไปแสดงความเป็นเจ้าของให้ไอ้ทิวเขานั่นมันรับรู้ว่ากูน่ะ... เป็น-เจ้า-ของ-ยัย-นั่น ก็พอแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD