ตอนที่1
ตอนที่ 1
บริษัทไอแอนด์ที
แผ่นกระดาษถูกโปรยไปทั่วห้องด้วยความไม่พอใจของคนเป็นเจ้านาย เนื่องจากงานที่สั่งไปมันไม่ตรงคอนเซปต์กับที่เสนอมาในใบงานพวกนี้
“ทำงานไม่ได้เรื่อง ชุ่ย ไร้ความเป็นมืออาชีพ ตอนประชุมแผนงานฉันพูดไว้ชัดเจนมากเลยนะ เธอไม่ได้เอาหูมาฟังรึไง!”
เลขาสาวหดศีรษะแล้วทำได้เพียงรับฟังคำก่นด่าพร้อมไล่ตามเก็บเอกสารที่หล่นตามพื้น ตั้งแต่วันแรกที่ได้ก้าวเท้าเข้ามาทำงานเป็นเลขาเธอก็ไม่เคยมีวันไหนเลยที่จะไม่โดนท่านประธานต่อว่า ถ้าให้นับก็เกือบหนึ่งเดือนเห็นจะได้ และวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้าย เธอไม่ไหวจะทนกับคนแบบนี้แล้วนะ
ขอลาออก!
“เก็บเสร็จละไสหัวออกไปซะ หงุดหงิด!”
เมื่อเก็บเสร็จก็ไสศีรษะออกมาตามคำสั่งของคนเป็นเจ้านาย เลขาสาววางกองเอกสารลงที่โต๊ะทำงานด้านนอกก่อนจะพ่นลมหายใจหนักออกมา
“อีกแล้วเหรอคะคุณเลขา” พนักงานหญิงคนหนึ่งเอ่ยถามพร้อมกับลุกจากที่นั่งทำงานมา
“ค่ะ เหนื่อยมากเลย” เลขาสาวตอบพลางทอดถอนใจแล้วมีสีหน้าเหนื่อยล้า
“สู้นะคะ”
“ไม่สู้แล้วค่ะ ไม่ไหวจริงๆ”
“จะลาออกแล้วเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ”
“โถ่ คุณเลขา…”
“ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ”
“จะทิ้งกันไปอีกคนแล้วเหรอคะเนี่ย ไม่มีใครทนกับท่านฯได้เลยรึไงคะ”
“ขอตัวก่อนนะคะ”
เอ่ยจบเลขาสาวก็เดินคอตกออกมาแล้วเดินตรงไปที่ห้องของท่านประธานใหญ่เพื่อที่จะทำการลาออก
ช่วงเย็น
ภายในห้องทำงานท่านประธานใหญ่
ชายหนุ่มนั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ที่โซฟาตัวหรูพลางเลื่อนดูสื่อต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ
หญิงวัยกลางคนยืนเท้าเอวอยู่ไม่ไกลแล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอาเนื่องจากไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาต่อว่าหลานชายตัวดีอย่าง อินทัช แล้วล่ะนะ
“คุณย่ามีอะไรอีกไหมครับ พอดีผมมีนัดต่อ” อินทัชเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบพลางลุกขึ้นยืน
“ลาออกคนที่เท่าไหร่แล้ว ย่าไม่รู้จะสรรหาเลขามาจากไหนให้แกแล้วนะอิน ที่หามาได้แกก็เล่นซะพวกเธอทนไม่ไหวจนต้องลาออกกันไปหมด” นับรวมเกือบสิบห้าคนเกือบจะได้ในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาที่ท่านคว้านหาคนมีความสามารถมาช่วยงานหลานชาย แต่สุดท้ายก็จบที่ขอลาออกกันไม่เป็นท่าแทบทุกคน และเหตุผลคือทนนิสัยแย่ๆ ของหลานชายท่านไม่ไหว
“ย่าก็ไม่ต้องหาแล้ว งานพวกนี้ผมทำเองได้ครับ สบายๆ” ไม่มีผู้ช่วยเขาก็ทำงานเองได้ไม่เดือดร้อนอะไร
“เฮ้อ…” ผู้เป็นย่าลอบถอนหายใจก่อนจะปัดป่ายมือเป็นเชิงอนุญาตให้หลานชายไปได้
“ขอบคุณครับ” อินทัชโค้งศีรษะทำความเคารพคนโตกว่าก่อนจะเดินออกมาแล้วตรงไปที่ลานจอดรถทันที
ตัดมาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
หญิงสาวนั่งจิบกาแฟพลางจ้องหน้าจอมือถือเพื่อรอการแจ้งเตือนอะไรบางอย่างเช่น วันนี้คุณสอบสัมภาษณ์ผ่านได้เข้าทำงานที่บริษัท… แต่ความเป็นจริงเงียบกริบ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดใด สมัยนี้จะเข้าทำงานที่ไหนสักที่นี่มันช่างยากเย็นจริงๆ
“เงียบจังแฮะ” ณาลัลน์ เอ่ยเสียงแผ่วพลางผ่อนลมหายใจ วันนี้เธอไปสอบสัมภาษณ์งานมาหลายที่แต่ดูแล้วคงจะไม่ผ่านสักที่ ไม่ใช่ความสามารถเธอไม่ถึง แต่อาจจะเพราะข้อตกลงที่เธอระบุไปนั้นมันมากไปแหละมั้ง
คิดไปคิดมามันก็ไม่มากอะไรนี่นา แค่…
หนึ่ง…ขอเข้างานช้ากว่าเวลาที่กำหนดสิบนาทีเนื่องจากมีเหตุผลที่จำเป็นมากๆ
สอง…ขอเลิกงานก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมงเนื่องจากมีเหตุผลที่จำเป็นมากๆ เช่นกัน
สาม…อาจจะมีลางานฉุกเฉินบ้างเป็นครั้งคราวแต่ไม่บ่อย
ก็มีแค่นี้สำหรับข้อตกลงที่เธอร้องขอ มันไม่มากมายอะไรเลย…มั้ง
ติ๊ง~
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นทำให้ณาลัลน์รีบวางแก้วกาแฟลงแล้วกดเข้าดูข้อความนั้นทันที ก่อนจะแห้วกินเมื่อนั่นเป็นการแจ้งเตือนสำหรับค่าใช้จ่ายของค่าอินเทอร์เน็ตที่เธอติดค้างไว้สองเดือน
ตั้งแต่ตกงานมารอบนั้นเธอก็ไม่รู้จะไปทางไหนดี หนำซ้ำยังถูกคนในครอบครัวหักหลังด้วยการหลอกเงินไปจนแทบหมดตัว แถมยังทิ้งภาระชิ้นใหญ่ไว้ให้อีก เฮ้อ…
“เดี๋ยวจ่ายเองแหละน่า” เธอพึมพำแล้ววางโทรศัพท์คว่ำหน้าลงกับโต๊ะ ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นมากระดกดื่มเพื่อดับความน้อยเนื้อต่ำใจให้สิ้น ยังไงวันนี้เธอก็ต้องหางานทำให้ได้
ช่วงเย็นหน้าบริษัทไอแอนด์ที
ท่านประธานใหญ่หรือคุณหญิงอัญชันกำลังจะเดินไปขึ้นรถยนต์ส่วนตัวที่จอดรอรับอยู่หน้าทางเข้าบริษัท ทว่าจังหวะนั้นดันเหลือบไปเห็นสิ่งที่เข้าตาและมันเหมือนมีอะไรดลจิตดลใจ ท่านเห็นครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าคนนี้แหละที่จะมาปราบพยศคนอย่างอินทัช
“สิน” คุณหญิงอัญชันเอ่ยเรียกคนดูแลส่วนตัว
“ครับคุณท่าน” สินรับคำแล้วรีบเข้ามาในระยะประชิดเพื่อรอฟัง
“ไปเรียกเด็กผู้หญิงคนนั้นมาทีสิ ฉันมีอะไรอยากจะคุยกับเธอน่ะ” ท่านชี้ไปที่ณาลัลน์ซึ่งตอนนี้เธอยืนอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
“ได้ครับท่าน” สินรับคำสั่งก่อนจะรีบเดินไปหาหญิงสาวเพื่อเรียกมาพบกับคุณหญิง
ณาลัลน์ที่เห็นมีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาหาก็ทำตัวไม่ถูก เธอเหลียวมองซ้ายมองขวาก่อนจะเกร็งร่างกายและเตรียมตั้งท่าป้องกันตัวรอไว้ เผื่ออีกฝ่ายเข้ามาแบบไม่ประสงค์ดีจะได้ไม่พลาดท่า
“คุณครับ”
“คะ?”
“พอดีว่าคุณหญิงอัญชันอยากจะพบน่ะครับ” สินพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มและมีกริยาที่ดูสุภาพไม่น่ากลัว
ณาลัลน์ลดมือที่ตั้งท่าลงเมื่อเห็นว่าคุณลุงคนนี้ไม่มีความประสงค์ร้าย เธอถามกลับถึงสิ่งที่เขาเอ่ยมาในทีแรก “ไม่ทราบว่าคุณหญิงอัญชันนี่คือใครคะ” เธอรู้สึกคุ้นๆ ชื่อ มันติดอยู่ในหูแต่นึกไม่ออกว่าคือใคร
“คือเจ้าของบริษัทนี้น่ะครับ” สินชี้ไปที่บริษัทไอแอนด์ทีที่อยู่ทางด้านหลัง
“อ๋อ” ถึงกับร้องอ๋อทันที คุณหญิงอัญชันคือท่านประธานใหญ่ของไอแอนด์ที และณาลัลน์กำลังจะมากรอกใบสมัครงานที่บริษัทนี้พอดี แต่ดันมีคนบอกว่าให้มาใหม่พรุ่งนี้เนื่องจากมันเป็นเวลาเลิกงานแล้ว “คุณหญิงอยากพบฉันเหรอคะ?” เธอถามย้ำอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
“ใช่ครับ”
“ค่ะๆ” ณาลัลน์รู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อเจ้าของบริษัทอยากพบทั้งที่เธอยังไม่ทันได้สมัครงาน
...ตัด...