bc

เล่ห์รัก ดอกไม้ริมทาง (พ่อเลี้ยงมาเฟีย)

book_age18+
91
FOLLOW
1K
READ
dark
love-triangle
HE
age gap
mafia
heir/heiress
blue collar
drama
tragedy
sweet
bxg
lighthearted
serious
kicking
brilliant
office/work place
childhood crush
friends with benefits
assistant
like
intro-logo
Blurb

เหตุการณ์วันฝนตกคือพรหมลิขิต หรือเป็น "เวรกรรม" ที่ทำให้เขาและเธอได้พบกัน..กันแน่?

------------------------------------------------------------------------------------------------

จะทำอย่างไรเมื่อพี่ชายติดการพนันจนเป็นหนี้หัวโต

เป็นหนี้ แต่ไม่มีเงินใช้คืนจนเดือดร้อนถึงคนในครอบครัว

และแน่นอนว่า คนที่ได้รับผลกระทบที่สุดนั่นก็คือลูกรักลูกชังของมารดา อย่าง 'ปิ่นมุก วิสุทธิ์สงค์' ที่ต้องมาตกที่นั่งลำบาก ทั้งที่ความตั้งใจของปิ่นมุกหลังจากที่เรียนจบแล้วคือ การทำงานเก็บเงินซื้อบ้านสักหลังให้นายเมศและนางมาลีผู้เป็นบิดาและมารดา

ในทีแรกความคิดที่ว่าจะต่อรองกับพ่อแม่ได้ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมดจนกระทั่งนายเตผู้เป็นพี่ชายและนางมาลีหลอกล่อให้เธอเข้าไป 'ปรนนิบัติ' 'พ่อเลี้ยงภูผา เดชะดำรงษ์แห่งไร่ดำรงรักษ์' ผู้เป็นเจ้าหนี้ของพี่ชาย

แต่มีหรือที่ปิ่นมุกจะยอมให้เขากินเธอได้ง่าย ๆ

ปิ่นมุกได้หนีออกมาจากรีสอร์ทที่ที่ภูผาต้องเข้าไปพักในคืนนี้ และในวันที่ฝนตกแบบนี้ พอหนีออกมาได้ก็ต้องหาทางกลับบ้านที่กรุงเทพฯ

เธอหนีออกมาทั้งที่นายเตและลูกน้องของภูผายังคงตามมาติด ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว ด้วยความที่ฝนกำลังตกอยู่ทำให้รถคันนั้นเกือบชนเธอเข้า

แต่โชคดีที่เจ้าของรถรีบหยุดรถจนแทบหักเข้าข้างทาง เธอจึงรีบใช้โอกาสนี้ขอความช่วยเหลือโดยที่ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอคาดไม่ถึงและไม่อยากจะพบเจอด้วย!

chap-preview
Free preview
บทนำ
คำเตือน นวนิยายเรื่อง เล่ห์รักดอกไม้ริมทาง (พ่อเลี้ยงมาเฟีย) เป็นหนึ่งในนวนิยายจักรวาล ‘โซ่รัก’ แต่จะแยกชื่อเรื่องออกไปเป็นชื่ออื่นแทนการใช้คำว่า โซ่รักต่อด้านหน้า เนื้อหาภายในอาจมีการเอ่ยถึงสถานที่ต่าง ๆ ที่มีอยู่จริง และสถานที่ที่ไม่มีอยู่จริงเพื่ออรรถรสภายในเรื่อง ทั้งนี้ อาจมีคำพูดที่รุนแรง กิจกรรมทางเพศ หรือฉากที่รุนแรงอยู่ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือฉากที่มีความรุนแรงทางด้านอารมณ์ ด้วยเหตุนี้ นักเขียนขอความกรุณาให้นักอ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านเสพผลงานค่ะ ขอบคุณค่ะ ปทุมวดี บทนำ ท่ามกลางความวุ่นวายในตลาดมหาศาล พ่อค้าแม่ค้าขายของกันอย่างชำนาญกันทุกแผง คุณนายเจ้าของตลาดเดินดูของไปด้วยพร้อมเก็บค่าเช่าไปด้วยตามสไตล์คุณนายสะใภ้จีน พร้อมกันนั้นมีสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งอยู่ที่แผงผักและปลา สามีขายปลา ภรรยาขายผัก “ตอนไหนนังมุกมันจะมาสักทีวะ ฉันรอตั้งนานแล้วนะ” ว่าไปพร้อมกับฟาดผักลงบนแผงทับ ๆ ไว้ไม่กลัวผักช้ำ “ก็มันทำงานอยู่ จะไปเร่งมันทำไม มีเงินให้เอ็งใช้ทุกวันก็ดีแล้วมาลี” สามีบอกพร้อมกับส่งถุงใส่ชิ้นส่วนปลาที่ทำการถอดเกล็ดและสับเป็นส่วน ๆ ให้แก่ลูกค้าหน้าร้าน “พี่ก็ด้วยพี่เมศ เลิกกินเหล้าได้แล้ว จะเป็นตับแข็งอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก” นายเมศส่ายหน้าเนือย ๆ ให้กับความขี้บ่นของนางมาลีผู้เป็นภรรยา ตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำงานดีกว่าไปต่อล้อต่อเถียงกับคนขี้บ่นเห็นทีจะมีประโยชน์กว่า “อ้าว ๆ เป็งงะมั่ง อาเมศ อามาลี ขายดีไหมลื้อสองคน” เสียงของคุณนายกิมลั้วเจ้าของตลาดดังขึ้นหน้าแผงขาย มาลีที่เห็นแบบนั้นก็รีบเอาใจ ยกมือไหว้ใหญ่ “สวัสดีค่ะคุณนาย แหม วันนี้มาเดินตรวจตลอดเป็นยังไงบ้างจ๊ะคุณนาย” “ขายดีจ้ะคุณนาย” เมศบอก แต่ดันโดนภรรยาหันไปค้อน เพราะเดี๋ยวจะโดนเก็บดอกที่ยืมไปเพิ่ม แต่ดีที่คุณนายกิมลั้วเป็นคนใจดี พ่อค้าแม่ค้าจากหลายที่จึงค่อย ๆ ทยอยมาขายของที่ตลาดมหาศาลกันมากขึ้น “ก็ดี ไม่มีอาไรผิดปกกาติ” “แล้วลูกสาวลื้อสองคน อาปิ่นมุก อีเป็งไงมั่ง” “โอ๊ย มันสบายดีสุด ๆ เลยค่ะคุณนาย นี่มันกำลังจะมาหาฉันกับพี่เมศด้วย คุณนายอยู่คุยกับมันก่อนไหมล่ะจ๊ะ” “อั๊วก็อยากอยู่คุยกับอีอยู่หรอก แต่ถ้าอาตี๋มันรู้คงจะหอบงานการมาทำถึงแผงผักแผงปลาของพวกลื้ออา แล้วอามาลีนา ลื้อทยอยคืนเงินต้นอั๊วด้วยนา อั๊วอุตส่าห์ลดดอกให้ อั๊วไปล่ะ” ว่าพร้อมรับไหว้ของพ่อค้าแม่ค้าสามีภรรยา “พี่เมศฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้บอกว่าขายไม่ดี” “อย่าทำแบบนั้นเลยน่ามาลี ขอเถอะ ผลัดแบบนี้ตอนไหนหนี้มันจะหมด” ปัดรำคาญ ประจวบกับลูกค้าเข้ามาพอดี จึงช่วยหยุดทัพทั้งสองคนได้ ตกเย็นเป็นเวลาตลาดเย็นของตลาดมหาศาล หญิงสาวมัดผมทรงหางม้า ชุดสาวออฟฟิศแบบทะมัดทะแมง กางเกงผ้าลื่นใส่สบายสีดำขายาวเอวสูง เสื้อกล้ามสีขาวปิดทับด้วยเสื้อเชิ้ตคลุมสีดำพื้น พับแขนทั้งสองข้าง ข้างกันมีกระเป๋าสะพายข้างใบใหญ่พร้อมถุงผ้าใส่อาหาร ปิดท้ายด้วยบัตรพนักงานที่ยังไม่ได้ถอดเพราะความเร่งรีบ “มาแล้วจ้ะ มาแล้ว” “มาสักทีนะนังมุก ช้าจริง ๆ” “ไม่ช้าเลยแม่ มุกเพิ่งเลิกงาน” “ยังจะมาเถียงอีก มาเก็บของช่วยฉันกับพ่อแกได้แล้ว” พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ แต่ปิ่นมุกก็ไม่ได้โกรธกับการกระทำที่ไม่มีเหตุผลของนางมาลีเพราะปกติก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วจึงได้แต่ปล่อยผ่าน “จ้า ๆ พ่อกับแม่ไปพักเถอะกินข้าวเถอะ มุกซื้อข้าวมาให้ด้วย เดี๋ยวทางนี้มุกเก็บให้” “ไม่เป็นไรหรอกลูก เสื้อกล้ามด้านในเป็นเสื้อขาวเดี๋ยวมันเปื้อนเลือดปลาเปล่า ๆ ไปเก็บของแม่เถอะ เดี๋ยวพ่อเก็บทางนี้เอง” “นี่พี่ ผ้ากันเปื้อนก็มีให้ไอ้มุกมันใส่ไปสิ เสื้อคลุมมันก็สีดำ คงไม่เปื้อนเท่าไรหรอกน่า” รับข้าวมาจากลูกก่อนจะนั่งลง “มากินข้าวสิพี่เมศ กลับบ้านไปก็ให้นังมุกมันทำให้ไอ้เตกินคนเดียวไปแล้วกัน ฉันเหนื่อย จะนอน” “เออไอ้มุก กลับไปแกกวาดบ้านแทนแม่ด้วยล่ะ” เสียงอ่อนลง “ได้จ้ะ เดี๋ยวมุกทำให้” “พ่อมากินข้าวเถอะ” “แล้วนี่แกได้คุยกับคุณธาวินเขาบ้างไหม” ในระหว่างที่ปิ่นมุกกำลังเก็บของแผงปลาอยู่ นางมาลีก็หันมาถามลูกสาว “ลูกคุณนายกิมลั้วน่ะเหรอแม่” “ใช่ เขาดูชอบแกนะ ไม่ลองสานต่อดู เผื่อว่าพ่อกับแม่แกจะได้สบายบ้าง” “คุณธาวินไม่ใช่อย่างที่ฉันชอบเท่าไร แล้วแต่งไปก็คงไม่ได้เป็นเมียออกหน้าออกตาอะไรขนาดนั้นหรอกแม่” “โอ๊ย เอ็งนี่ เงินกับหน้าตาเลือกเงินไม่ดีกว่าเหรอ อีกอย่างคุณนายกิมลั้วใจดีจะตายไป แกชอบคนขยัน ยังไงก็เอ็นดูเอ็งอยู่แล้ว” “โถ ๆ นังมาลี เอ็งจะไปบังคับลูกไปทำไม๊ ในเมื่อมันไม่ชอบ เออนังมุก แกน่ะรีบปฏิเสธคุณธาวินไปเลย นังโฉมลูกสาวฉันจะได้เสียบต่อ” “จริงแม่” เสียงของแม่ค้าข้างแผงลอยมาคุยกับมาลีด้วยน้ำเสียง กระแนะกระแหน “แหม วาสนาคนมีผัวรวยมันก็ไม่พ้นนังมุกล่ะวะ คุณนายกิมลั้วกับคุณธาวินเขาชอบคนขยัน ลูกเอ็งมันขี้เกียจสันหลังยาว ไม่เหมือนลูกข้า” “พูดแบบนี้อยากโดนตบกลางตลาดรึไงป้า” “พูดว่าลูกซะเต็มปาก กูล่ะอยากจะประกาศโทรโข่งจริง ๆ ว่านังมุกมั...” “พอ ๆ พอทั้งคู่เลย” ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค เมศก็สวนขึ้นยกมือห้ามทั้งสองฝ่ายให้เลิกรากันไป ปิ่นมุกเองก็ขมวดคิ้วมอง เพราะ ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง “มุก เสร็จหรือยังลูก มา พ่อกินข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวพ่อช่วย” ภาคเหนือ ไร่ดำรงรักษ์ “ไอ้แสน” เสียงเรียกดังขึ้นทั่วบริเวณบ้าน เจ้าของเสียงเดินขึ้นห้องไปแล้วรอบหนึ่งและลงมาหยุดยืนอยู่กลางบ้านหันซ้ายหันขวามอง “ไอ้แสน!!” พร้อมกับตะโกนเรียกจนเสียงดังขึ้นอีกเท่าตัว แสนผู้เป็นลูกน้องลูกไล่ที่กำลังนอนอย่างสบายใจอยู่บนเปลใต้ต้นไม้หลังบ้านสะดุ้งตื่นจนตกเปล “ครับ ๆ พ่อเลี้ยง มาแล้วคร้าบ” “กูเรียกตั้งแต่ชาติที่แล้วจนป่านนี้มึงเพิ่งมา” “พ่อเลี้ยงไปทำอะไรชาติที่แล้วครับ ไปได้ด้วยเหรอ” ว่าพลางตาโต “กูประชด เดี๋ยวเถอะมึง” “กูยังไม่ลืม มึงทำไมไม่ไปรับกูที่สนามบิน ปล่อยให้ไก่มันมารับได้ไง ใบขับขี่ก็ไม่มี” พูดถึงเด็กสาวอายุสิบเจ็ดปี หลานของป้าพร แม่บ้าน “อุ่ย ขอโทษครับพ่อเลี้ยง ไอ้แสนคนนี้มันขี้ลืมไปหน่อย ขออภัยครับเจ้านาย” “เดี๋ยวกูลืมออกเงินเดือนของมึงด้วยดีไหม” “โอ้ อย่าขนาดนั้นเลยครับลูกพี่ มา ๆ เดี๋ยวไอ้แสนช่วยถือ จะเอาไปไว้ที่ไหนดีครับ” “เอาของฝากไปให้พวกคนงาน เสร็จแล้วตามมาที่โกดัง” “พ่อเลี้ยง นี่มันเย็นแล้วนะครับ จะไปอีกเหรอครับ” “เออ จะไปเช็คดูว่าทำงานกันจริงไหม โดยเฉพาะมึงไอ้แสน” ว่าจบก็เดินลิ่วออกจากบ้านไป ไอ้แสนผู้เป็นลูกน้องสนิทมองเจ้านาย พ่อเลี้ยงภูผา เดชะดำรงษ์ ยิ้มแหะและมองขนมในถุงพร้อมกับแอบกินก่อนจะรีบเดินตามหลังเจ้านายออกไป ระยะเวลาที่จบคดีเรื่องอาสนัย เพื่อนสนิทของเขารวม ๆ แล้วก็ผ่านมาสามปีแล้ว เขาได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น เห็นคนคุ้นเคยอย่างหลาน ๆ ของบ้านนเรศอัศวกุลเติบโตขึ้นจนตามไม่ทัน บ่อยครั้งก็ถูกพ่อเลี้ยงอัคนีเอ่ยแซวอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อไรจะแต่งงานสักที ลูกคงอยากมาเกิดแล้ว แต่เรื่องนั้นเขายังไม่คิด สามปีกับสิบกว่าปี คิดว่าใครจะทำใจได้เร็วขนาดนั้นกันล่ะ ไม่มีทาง แม้เขาจะทำใจได้บ้างแล้ว แต่นั่นก็เพราะว่าแก้วกานต์มีความสุข มีครอบครัวที่อบอุ่นกับนธีธรอย่างที่แก้วกานต์ต้องการ “พ่อเลี้ยงครับ นี่เอกสารจากฟาร์มครับ ปีนี้นักท่องเที่ยวมากันเยอะ พวกเราประชุมกันได้ข้อสรุปว่า ต้องจ้างพนักงานเพิ่มครับ และต้องรู้ภาษาอังกฤษด้วยครับ” ที่โกดังเพาะชำพืช ผู้จัดการจากฝ่ายฟาร์มโคดำรงรักษ์เดินทางมาที่ไร่ เขายื่นรายงานการประชุมให้กับภูผาพร้อมกับบอกรายละเอียดสำคัญให้เจ้านายได้รับรู้ด้วย ภูผาเปิดดูเอกสารคร่าว ๆ “เดี๋ยวผมจะคิดดูอีกที” ว่าเพียงแค่นั้น ผู้จัดการก็ขอตัวกลับเพราะงานที่ฟาร์มค่อนข้างรัดตัว ภูผาจะอยู่ที่ไร่ดำรงรักษ์ความคุมการผลิตผลผลิตมากกว่า ส่วนงานในฟาร์ม เขาจะเข้าไปแค่วันพฤหัสบดีกับวันเสาร์เท่านั้น เพราะฉะนั้นทีมบริหารตั้งแต่ผู้จัดการฟาร์มลงไปจนถึงลูกน้องจะต้องช่วยกันดูแลให้รอดพ้นการประเมินคุณภาพสุดโหดช่วงปลายเดือน ถ้าใครทำไม่ได้ก็ไล่ออก และใครทนไม่ได้ก็ออกไป แค่นั้น ไม่มีอะไรแปลก ภูผาไม่ใช่คนที่ทารุณกับลูกน้องมากขนาดที่ว่าจะตึงทุกระเบียดนิ้วหรอก แต่ก็ต้องคงไว้ด้วยระเบียบวินัยในการทำงาน กฎบางกฎที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัดก็ต้องยอมรับให้ได้ ส่วนกฎในที่หยวนได้ก็จะพิจารณาทีหลัง เช่นว่าการลาป่วย ลากิจ ลาป่วยได้ตลอดไม่มีข้อแม้ ส่วนลากิจต้องเป็นธุระที่สำคัญ พ่อตายแม่ป่วย ปู่ย่าตายายเข้าโรงพยาบาล ถ้ามีหลักฐานก็ไปได้หมด เขาไม่บ่ายเบี่ยงอยู่แล้ว ทำให้พนักงานไม่ต้องทนกับอะไรมากมาย ยกเว้นท้ายเดือนที่มีการประเมินที่ทุกสิ้นเดือนจะต้องมานั่งตัวเกรงรอผลออกวันที่หนึ่ง ถ้าไม่นึกว่าเป็นการทำงาน การเกร็งรอผลก็คงจะเป็นเกร็งรอหวยออกแทน “พ่อเลี้ยงครับ ๆ” แสนเดินเข้ามาหาผู้เป็นนาย ทำท่าเหมือนจะกระซิบกระซาบบางอย่าง ทำให้ภูผาต้องโบกมือให้ผู้จัดการออกไปและหันมาถามลูกน้องตน “มีอะไรวะ” “บัญชีรายชื่อลูกหนี้ที่ปิดหนี้เดือนนี้ครับ” “มีแค่สี่คนเองเหรอ ที่มึงส่งไปให้กูดูเมื่อเดือนที่แล้ว รายชื่อที่ต้องปิดหนี้ภายในเดือนนี้ต้องมีห้าคนไม่ใช่เหรอวะไอ้แสน” ขมวดคิ้ว “เรื่องนี้แหละครับที่จะพูด คือว่า..พ่อเลี้ยงครับ พวกผมติดต่อลูกหนี้คนนี้ไม่ได้ แบบว่ามันคงหนีหนี้แล้วอะครับ” แสนยิ้มแห้งบอกเจ้านาย จนภูผาเบนหน้าออกจากเอกสารขึ้นมามองหน้าลูกน้อง ทำให้แสนทำหน้าตาขึงขังขึ้นทันที “มันเป็นใคร รู้ข้อมูลมันไหม” “รู้ครับ เอกสารที่มันให้ไว้อยู่นี่ครับลูกพี่” ยื่นให้ พ่อเลี้ยงภูผารับเอกสารขนาดเท่ากับกระดาษเอสี่สีขาวมาอ่านรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ เป็นข้อมูลส่วนตัวที่เจ้าตัวเต็มใจทำสัญญาไว้ “ติดต่อผู้ค้ำประกันได้ไหม” ถามลูกน้อง “ยิ่งแล้วใหญ่เลยครับลูกพี่ ติดต่อไม่ได้สักเบอร์” “เบอร์เก่า..” เขาพูดกับตัวเอง “มันตั้งใจบิดเงินเราตั้งแต่แรก” เขาบอก “แล้วแบบนี้จะเอายังไงดีล่ะครับพ่อเลี้ยง” “หาตัวมันให้เจอ เอาตามข้อมูลที่มีอยู่ กูว่ามันคงไม่ฉลาดพอที่จะหนีหนี้กูเท่าไรหรอก ไอ้นี่..เป็นแค่นักเลงกระจอกยังจะกล้ามาตลบหลังกู”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.4K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
16.9K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.6K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
2.1K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

หยุดหัวใจไม่รักดี

read
4.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook