๘ รักครั้งแรก & เมียคนแรก

1490 Words
โรสรินทร์ลอบมองเสี้ยวหน้าของเรวัต นานมาแล้วที่หล่อนแอบชื่นชมเขาอยู่เงียบๆ ลูกชายของผู้มีอุปการคุณเป็นผู้ชายที่นอกจากรูปหล่อแล้วยัง ‘เคย’ ใจดี แม้เขาจะไม่ค่อยสุงสิงกับหล่อน แต่ทุกวันเกิดหรือวันสำคัญ เขาก็มักจะมีของขวัญมอบให้เสมอ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไปหลงรักผู้หญิงที่กำลังอุ้มท้องลูกของคนอื่น มันคงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนัก หากผู้หญิงคนนั้นไม่พยายามแทรกแซงครอบครัวของคนอื่นมาก่อน เมื่อคุณผกามาศรับรู้ท่านจึงรับไม่ได้กับเรื่องนี้ และหล่อนก็เข้าใจท่านดี เพราะโดยพื้นฐานนิสัยของท่านนั้นเป็นคนดีมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ หากอภิญญาจะเป็นเพียงผู้หญิงที่ถูกคนรักทิ้งธรรมดา และลูกชายท่านไปชอบพอจนถึงขั้นอยากแต่งงานด้วย ท่านก็คงพอทำใจยอมรับได้ แม้จะเสียดายลูกชายของตนเองที่ต้องไปกินแตงเถาตายอยู่ก็ตามที แต่สิ่งที่ท่านยอมไม่ได้ก็คือ อภิญญาคือผู้หญิงที่เกือบจะทำให้ครอบครัวลูกสาวของคนที่ท่านรู้จักอับปาง ที่เลวร้ายไปกว่านั้น เด็กในท้องอาจไม่ใช่ลูกของนักธุรกิจคนนั้นด้วยซ้ำไป... นี่ต่างหาก คือสิ่งที่ทำให้ท่านยอมหักแต่ไม่ยอมงอกับลูกชายที่รักสุดหัวใจ และเช่นเดียวกัน เรวัตเหมือนแม่มากเกินไป เขาทำอย่างที่แม่ทำ นั่นคือยอมหักแต่ไม่ยอมงอ แต่เขาไม่เคยรู้ ว่าทำให้คุณผกามาศต้องเสียน้ำตาไปมากเท่าไร... “คุณไม่มีสิทธิ์อยู่ที่นี่นะคะ ถ้าฉันไม่อนุญาต” หญิงสาวมองเขาอย่างระมัดระวัง ขณะที่คนฟังทำหน้าตึง “คุณอาจยังไม่ทราบ คุณแม่ยกบ้านนี้ให้กับน้องรันแล้ว และฉันในฐานะแม่ของแก มีสิทธิ์ที่จะอนุญาตให้ใครอยู่หรือไปก็ได้ เพราะงั้น...” “บ้านของลูกก็เหมือนบ้านฉันและฉันจะอยู่ที่นี่ จะค้างกับลูก เธออย่าเรื่องมาก ไม่งั้นฉันจะฟ้องศาลขอลูกมาเลี้ยงเอง!” คนฟังหน้าซีดเผือดสลับแดง ริมฝีปากเม้มแน่นกับการข่มขู่ครั้งที่สอง “คุณคิดว่าฉันกลัวคุณนักหรือไง อย่าลืมนะว่าคุณขอหย่ากับฉันก่อน แล้วคุณก็มีผู้หญิงอื่นก่อนที่จะหย่ากับฉัน ศาลต้องฟังฉันไม่ฟังคุณ คุณมันร้ายกาจ เอาแต่ใจตัวเอง ไม่เคยคิดถึงคนอื่น ทุเรศที่สุด” หญิงสาวน้ำตาคลอ ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความโกรธปนเจ็บใจ ภาพตรงหน้า ทำให้เรวัตหน้ามืดลงวูบหนึ่ง คล้ายกับว่าเขาเคยเห็นภาพนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วภาพหญิงสาวที่ต่อปากต่อคำกับเขาเมื่อครั้งหนึ่งที่เขาดึงดันจะคบหากับอภิญญาก็วนกลับมาให้เห็นอย่างชัดเจน ที่แท้หล่อนก็คือแม่สาวฝีปากกล้าในคราวนั้น แต่ภาพน้ำตาที่เอ่อคลอออกมา ทำให้เขาพยายามคิด ก่อนจะยกมือขึ้นกุมขมับ มันจางมาก จางจนไม่อาจปะติดปะต่อเรื่องราวเข้ากันได้ ‘คุณเร คุณเร’ เสียงเรียกสั่นเครือดังขึ้น ‘ตาเร อย่าเป็นอะไรนะลูก ตาเร’ เสียงของมารดา เสียงของโรสรินทร์ เขาจำได้แล้ว! แม้เลือนราง แต่เสียงนั้นคือเสียงของคนทั้งสองก่อนเขาหมดสติจากอุบัติเหตุ ชายหนุ่มคลึงขมับตนเองอยู่อึดใจ ขณะที่หญิงสาวนิ่วหน้ามองเขาอย่างนึกเป็นห่วง “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนถาม ใบหน้าของเขาค่อนข้างซีดเล็กน้อย ราวกับคนป่วย ทำให้คนที่กำลังโกรธเขาอยู่เมื่อครู่ใจไหววูบไป รู้สึกเป็นห่วงเขาขึ้นมาแทน “ปวดหัวหรือคะ” เขามักเป็นแบบนี้เสมอๆ เวลามีภาพจำแวบเข้ามาในสมอง “อือ ขอยาแก้ปวดสักเม็ดสิ” เขาร้องขอเสียงแผ่ว แต่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมกลับไปง่ายๆ หญิงสาวหันไปพยักหน้ากับพี่เลี้ยงสาว แนนออกไปไม่นานนักยาแก้ปวดกับน้ำดื่มก็วางลงตรงหน้า ชายหนุ่มกินยาเรียบร้อยก็เอนหลังอิงโซฟา หลับตานิ่งแบบนั้นอยู่เป็นนาน จนหญิงสาวชักอึดอัด จึงเอ่ยออกมา “ฉันขอพาลูกไปเข้านอนก่อนนะคะ” เมื่อหญิงสาวช้อนอุ้มลูกน้อยขึ้นแนบอก ร่างสูงก็ผุดลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณจะไปไหน” เห็นเขาเดินตามก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้าเอ่ยถาม “ก็จะไปด้วยน่ะสิ” คำตอบห้วนๆ แบบมะนาวไม่มีน้ำทำให้หญิงสาวเม้มปากนัยน์ตาขุ่นขึ้ง “ไม่ได้ค่ะ ฉันไม่อนุญาต” คนฟังไหวไหล่ ท่าทางไม่ยี่หระ “ฉันอนุญาตตัวเองเธอจะทำไม” “คุณนี่นะ เกิดจะมาหน้าด้านหน้าทนอะไรกันตอนนี้ ไม่สบายก็กลับไปเถอะค่ะ” โรสรินทร์บอกปัด รู้สึกไม่สบอารมณ์กับผู้ชายจอมกวนตรงหน้า “ก็บอกว่าไม่กลับ เธอไม่ต้องจัดห้องพักให้ฉันหรอก เพราะฉันก็จะนอนกับลูก” หญิงสาวชะงักเท้า ทำแบบนั้นได้ไง ในเมื่อลูกนอนกับหล่อน! หญิงสาวคิดอย่างหงุดหงิด ขณะที่พี่เลี้ยงสาวที่อยู่ไม่ห่างนายจ้างมองคนนั้นทีคนนี้ที “แนน ช่วยพาน้องรันเข้านอนก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่จะตามไปจ้ะ” แนนทำท่าจะรับคุณหนูไปอุ้ม แต่กลายเป็นว่าร่างสูงใหญ่ของเรวัตก้าวเข้ามาแทรก แล้วช้อนรับลูกชายไปอุ้มแทนอย่างรวดเร็ว “เอ๊ะ! คุณนี่ยังไงนะ” หญิงสาวถลึงตาใส่ แต่อีกฝ่ายไม่สนใจแย่งลูกไปจนได้ ขณะที่โรสรินทร์ก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเพราะเกรงว่าลูกจะตกใจตื่นขึ้นมาร้องไห้งอแง “น้องรันก็ลูกฉันเหมือนกัน” “คุณยังไม่อาบน้ำ ไปเจอใครมาบ้างก็ไม่รู้ สกปรก เอาลูกฉันคืนมาเลยนะ” คนฟังหน้าแดงเมื่อถูกกล่าวหาว่าสกปรก แต่ยังไม่ทันได้ตอบโต้เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากใครบางคน ชายหนุ่มจำต้องคืนลูกชายให้กับหญิงสาว แต่ยังส่งสายตาบอกว่าเขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “อืม ว่าไง” โรสรินทร์ปรายตามองเขาแวบเดียวก่อนหมุนตัวเดินเข้าไปด้านใน ขณะที่ชายหนุ่มมองตามจนลับสายตาขณะรับสายของจริยา “แหม ทำเสียงห่างเหินจังเลย จ๋าคิดถึงคุณ วันนี้มาหาจ๋านะคะ จ๋าจะทำอาหารเอาไว้รอ” น้ำเสียงออดอ้อนของจริยาทำให้เขาเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย เขาดึงหล่อนเข้ามาในแผนการนั่นคือความจริง เมื่อแผนลุล่วง เขาก็เบื่อที่จะเอาใจหล่อน และไม่คิดจะเอาใจอีก “ไม่ล่ะ ผมมีธุระอื่นต้องทำ” คนฟังชักสีหน้าทันที “อะไรกันคะ คุณหายไปนานเป็นอาทิตย์ๆ แล้ว ไม่คิดถึงจ๋าเลยหรือไง นี่ก็คงหายไปกกเมียเก่าใช่ไหม ไหนคุณว่าไม่เคยรักมันยังไงล่ะ...” ตื๊ดๆๆๆ จริยาอ้าปากค้าง เมื่อจู่ๆ ก็ถูกตัดสาย จนต้องร้องกรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บใจ “อ๊ายย ไอ้บ้าเร!!” หมดกัน ไอ้แผนที่วางไว้ว่าจะไถเงินอีกสักล้านสองล้านเป็นอันพังเพราะความติสต์แตกของไอ้บ้าเรคนเดียว! เวลาเดียวกัน เรวัตรู้สึกขุ่นเคืองใจไม่น้อยเช่นกัน ที่จริยาก่นด่าโรสรินทร์ออกมาแบบนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักหล่อน แต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาด่าทออดีตภรรยาของเขาเช่นกัน โรสรินทร์อาจมีความผิดที่เคยคิดฉวยโอกาสกับเขาตอนจำอะไรไม่ได้ แต่หล่อนก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไร ตรงกันข้าม ออกจะน่ารักน่า... จี๊ด... ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว พร้อมกับภาพวูบวาบที่ผ่านมาผ่านไปให้งงงวย ชายหนุ่มยืนโงนเงน และหลับตาลง แปลกใจว่าจู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงความอ่อนหวานที่เคยมีต่อโรสรินทร์จนขนลุกซู่ ไม่อยากเชื่อว่าจะเคยมีความรู้สึกแบบนี้กับหญิงสาว เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้งกับคนที่เขาคิดว่าเป็นรักแรก เพราะตอนนั้นมีเพียงเขาที่รักอยู่ข้างเดียว แต่ครั้งนี้ ไม่ใช่ ราวกับว่าทั้งเขากับโรสรินทร์ต่างก็ ‘รักกัน’ จริงๆ หัวใจกระตุกวูบก่อนเต้นโลดแรง ทำไม จู่ๆ เขาก็รู้สึกแบบนี้กับเมียคนแรกซึ่งเป็นเมียที่เขาไม่คิดว่าจะรักได้ล่ะ... ดวงตาสีเข้มมองไปตามทางที่หญิงสาวอุ้มลูกเดินหายไป พร้อมความรู้สึกมากมายที่ประเดประดัง เขาต้องรู้ให้ได้ ว่าระหว่างหนึ่งปีที่ความทรงจำหายไป เกิดอะไรขึ้นบ้าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD