ล้อกูดีนัก...1
ล้อกูดีนัก…1
คณะนิติศาสตร์
ดรึ๊ง! ...ดรึ๊ง!
เสียงไลน์ดังขึ้นดึงความรู้สึกผมออกจากอารมณ์ที่กำลังหงุดหงิด มือหนาล้วงหยิบมือถือในกางเกงสแล็คสีดำของตัวเองออกมาดูขณะเดินออกจากตึกคณะนิติศาสตร์ตรงไปยังที่จอดรถ
6/3 ขาวเขียวพวกเดียวกัน
กรุ๊ปไลน์สมัยมัธยมของผมเอง ชื่อภัทรกรที่ปรากฏขึ้นมาทำให้ผมไม่ลังเลที่จะกดเข้าไป
Pattarakorn:
‘พวกมึงถึงเวลากูอีกแล้วคืนสู่เหย้าปีนี้เอาไง?’ 14:47น.
ผมมองไลน์ของอดีตหัวหน้าห้องที่ส่งเข้ามา เมื่อวานก็เจอกันไม่เห็นมันจะบอกผมสักคำที่พูดแบบนี้เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทแก๊งค์เดียวกัน มีผม ไอ้ภัทร ไอ้ยอด ไอ้ริว ไอ้เด๋อ (เป็นฉายาจริงๆ มันชื่อดรีม…หวานเกินหน้าไปหลายเบอร์เพื่อนเลยไม่เรียก)
อีกสองสามเดือนข้างหน้าคือวันครบรอบสถาปนาโรงเรียนเก่าผม ผ่านมา2ปีแล้วที่จากรั้วโรงเรียนมัธยมศึกษาก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัย
ยอดเขาอันเท่าแขน:
‘อย่างไวกูนึกว่าจัดไปเมื่อวาน555’ 14:48น.
สมเด๋อ:
‘มึงเจอพวกกูทุกวันไอ้เชี่ยยอด…’ 14:48น.
RYU_JI:
‘มึงไม่ต้องไปไอ้ยอดกูเบื่อหน้ามึง555’ 14:48น.
Pattarakorn:
‘ไปกัดกันไกลๆ วันนี้เอาสาระ
ปีนี้กูบังคับนะต้องไปทุกคน อ.กมล เกษียณปีนี้
กูว่าควรมีเซอร์ไพรส์รุ่นเราแม่งวุ่นวายสุดสำหรับจารละ’ 14:48น.
ยอดเขาอันเท่าแขน:
‘ไอ้ยีนส์หายว่ะ’ 14:49น.
Pattarakorn:
‘โต๊ะละห้าพัน หัวละห้าร้อยลงชื่อโอนตังเข้าบัญชีกูเหมือนเดิม' 14:50น.
'ได้ไม่ครบสี่โต๊ะ' 14:51น.
'ปีนี้กูอมตังนะใครอ่านแล้วลากแก๊งค์พวกมึงๆ มาโอนตังเดี๋ยวนี้’ 14:51น.
Nightlight:
‘กูไป’ 14:52น.
PoPPo:
‘เรื่องโอนไวไว้ใจกู’ 14:52น.
หลังจากนั้นไลน์ก็เด้งไม่หยุดเพราะทุกคนส่งรูปแสดงหลักฐานการโอนเงินให้ไอ้ภัทรในกรุ๊ปไลน์ ผมไล่ชื่อเพื่อนๆ ดูก็โอนกันไปเกินครึ่งห้องแล้ว
Pattarakorn:
‘พวกมึงที่เหลือกูให้เวลาถึงวันศ.
อย่าเนียนชิ่งกูตามตบที่บ้านรายตัวนะ!’ 15:08น.
แก๊งค์ผมก็โอนกันไปแล้ว
แต่…
‘ผมไม่อยากไป’
พอเห็นชื่อไอ้ไนท์ความรู้สึกที่มันคั่งค้างตกตะกอนอยู่ในใจก็กลับมาเมื่อนึกถึงหน้าเพื่อนรักของมัน คนที่แทบจะเรียกว่าเป็นศัตรูกันกับผมก็ว่าได้
ไอ้เชี่ยเต! ...
ดรึ๊ง! ดรึ๊ง!
ผมก้มลงไปมองหน้าจอมือถืออีกครั้งไอ้ภัทรมันทักมาในไลน์ส่วนตัว
Pattarakorn:
‘มึงต้องไปไอ้ยีนส์กูกราบ’ 15:14น.
Jeans:
‘คิดก่อน’ 15:15น.
Pattarakorn:
‘คิดเชี่ยไรเห็นแก่ อ.กมล
มึงไม่ไปทั้งสองปีกูก็ไม่เคยบังคับ
แต่ปีนี้ขอ’ 15:15น.
‘มึงอย่าคิด!’ 15:16น.
Jeans:
‘มันโอนยัง’ 15:18น.
Pattarakorn:
‘กูออกให้มึงก็ได้’ 15:20น.
‘มึงยุไหน?’ 15:20น.
Jeans:
‘อยู่มอกำลังกลับ’ 15:25น.
ผมเปิดประตูรถเมื่อเดินมาถึง เดินไปตอบแชทไปทำให้ผมใช้เวลาเดินนานกว่าที่เป็นความหงุดหงิดจากไอ้ฟู่เพื่อนสนิทในคณะจางหายไปเมื่อสมองมีสิ่งใหม่ให้ขบคิด สตาร์ทรถพารถยุโรปราคาหลายล้านออกจากมหาลัย
ผมควรไปดีมั้ยนะ? ...
สมองคิดพร้อมกับยกมือขึ้นมากัดเล็บขณะรถติดไฟแดงผมไม่ได้กลัวมันนะบวกมาบวกกลับไม่เคยเลี่ยง
แต่แม่ง! ...
ไม่อยากเห็นหน้ามันอ่ะเข้าใจมั้ยครับ?
ไฟเขียว
เข้าเกียร์เหยียบคันเร่งตรงกลับบ้านที่อยู่คนละฝากฝั่งกับมหาลัย
‘ไอ้ภัทร’
มองเพื่อนที่จอดรถมอไซค์หลบร้อนอยู่หน้าบ้าน กดรีโมทเปิดประตูรั้วมันก็รีบไถตัวที่คร่อมบนรถมอไซค์เข้ามาในบ้านผม
“ลงทุนไปนะมึงอ่ะ” ผมมองหน้ามันแบบไม่ชอบใจนักก่อนจะออกเดินนำเข้ามาในบ้านที่ใหญ่โตกว้างขวางและเงียบเหงา
“กูจริงจังไงกลัวมึงไม่ไปมากสุด” ไอ้ภัทรเดินตามเข้ามาในบ้านก่อนจะเดินแซงผมไปนั่งลงบนโซฟารับแขก
“ขาดกูจารเขาก็เกษียณอยู่ดีป่ะวะ” ผมย้อนพร้อมนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามมัน
“มึงเข้าใจคำว่ากตัญญุตามั้ยวะ?”
“พูดงี้ด่ากูก็ได้”
“ไปเหอะมึงจะกลัวแม่งทำไมวะ”
“กูไม่ได้กลัว!” ผมสวนกลับทันที
“ดีงั้นวันงานเจอกัน" ไอ้ภัทรยิ้ม “แล้วนี่บ้านมึงไม่มีใครอยู่เลยเหรอวะเงียบโคตร” มันถามพร้อมกับมองหาสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
“มีแม่บ้านมึงอยากเจอมั้ยล่ะ”
“กวนตีน!”
ผมยิ้มไม่พูดอะไรนอกจากลุกขึ้น ไอ้ภัทรก็ลุกตามผมขึ้นมาที่ห้องนอน มันเดินไปนั่งหน้าคอมจัดแจงเปิดใช้เหมือนเป็นเจ้าของห้องซะเอง ผมไม่ได้ว่าเดินเลี่ยงมันเข้ามาในห้องแต่งตัวเงียบๆ
“ไม่ได้มาบ้านมึงตั้งนานคิดถึงสมัยเด็กว่ะ” มันหันกลับมามองผมที่กำลังเปลี่ยนเสื้อ
“ไม่กี่ปีเอง...พูดงี้คือ?” ผมมองหน้ามันที่จ้องมาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
“เปล่า…” มันยิ้มแล้วก็เบือนหน้ากลับไปสนใจจอคอมฯ
ใช่...ผ่านมาแล้วไม่กี่ปี...
แต่สายตามันเมื่อกี้ทำผมอึดอัดขึ้นมาเฉย หลงลืมไปเลยว่าเราเคยผ่านช่วงเวลาแห่งความลับมาด้วยกันเพราะหลังจากนั้นผมกับมันแม่งเป็นเพื่อนกันได้อย่างสนิทใจ
ความลับที่สุดท้ายไม่กลายเป็นความรัก...
อารมณ์อยากลองของเด็ก17 ที่ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากสนุกตื่นเต้น คึกคะนอง
เดินมานั่งที่ปลายเตียงมองแผ่นหลังกว้างที่ยังสนใจภาพเคลื่อนไหวในจอสี่เหลี่ยมเล็ก
แต่ผม...
เคยรู้สึกพิเศษกับมันจริงๆถ้าพูดแบบไม่มีฟอร์มก็คือผมแอบชอบมัน ชอบมาก ชอบมาตลอดจนได้ลึกซึ้งกันแล้วความชอบของผมมันก็จางหายไปเหลือทิ้งไว้เพียงคำว่าเพื่อน
ไม่มีใครรู้
ไม่มีใครดูออก
ทั้งความรู้สึกในใจผมและเรื่องที่ผมกับมันทำร่วมกันช่วงม.5ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สดชื่นหอมหวานของผมและความหอมหวานก็จบลงตอนปิดเทอมใหญ่ก่อนจะได้ขึ้นม.6
แต่เมื่อกี้...
สายตาที่มันมองผมแม่งเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ผมตัดใจจากมันไปแล้วและมั่นใจว่าสายตานั้นมันก็ไม่ได้หมายความว่ามันรู้สึกอะไรพิเศษกับผม แม้มันจะไม่มีแฟนทั้งๆ ที่เป็นเดือนเภสัชมีคนเข้าหายินดีที่จะทำความรู้จักมันมากมาย
“กูไป…” ผมตอบกลับมันไปในที่สุดเพราะไม่รู้จะพูดอะไรหลังจากนั่งเงียบมาหลายนาที
“จริงอ่ะ?” มันหันกลับมาพร้อมรอยยิ้ม
“เออ” ผมพยักหน้า
“ก็แค่เนี้ย!” ไอ้ภัทรทำหน้าเหมือนหมันไส้ปลายจมูกย่นยู่แถมยังทำปากจู๋ใส่ผม
มึงน่ารัก...
ผมรีบตัดความคิดอกุศลออกไปอาจเพราะเราไม่ได้อยู่กันตามลำพังสองคนมานานสมองผมเลยพาลดึงตัวเองกลับไปในอดีต
“หิวมั้ย? ..ไปหาไรแดกกัน” ผมเปลี่ยนเรื่องพยายามดึงตัวเองกลับมา
“หึ…วันนี้กูต้องกลับไปกินข้าวบ้าน” ไอ้ภัทรบอกปัดพร้อมกับปิดคอมฯ “งั้น...กูกลับนะ”
“อือ…” ผมพยักหน้ามองมันที่เดินออกไปโดยที่ไม่ได้เดินออกไปส่ง
ผมคงอยู่ในช่วงอารมณ์สับสนมากไปหน่อยเพราะเรื่องงานคืนสู่เหย้าทำให้หัวผมมันวนคิดแต่เรื่องเก่าๆ ทั้งสิ้น