พีรภัทรมองหาเธอ ผู้หญิงคนเมื่อกี้หายไปไหนนะ? ใบหน้ารูปไข่ ปลายคางเล็ก ดวงตากลมโต แม้จะดูน่ามองแล้วนัยน์ตาแฝงด้วยความเศร้า แต่ก็ชวนให้ใจชายละลาย
พีรภัทรประหลาดใจกับปฏิกิริยาในร่างกายของตนเอง เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกร้อนรุ่มเพียงแค่เห็นใบหน้าเธอคนนั้น ผู้หญิงสวยๆ เคยผ่านมือเขามากมาย พวกเธอขยันแต่งหน้าเปลี่ยนสีลิปสติก กระทั่งกลิ่นน้ำหอมจนเขาเวียนหัว แต่ความสวยบริสุทธิ์แบบนี้มันล่อหลอกให้เขาอยากลิ้มลอง
“ไอ้ต๋อง กูสนใจเด็กคนนั้น มึงติดต่อให้กูได้มั้ย” เสือหิวอย่างพีรภัทร ไม่ขอทนอีกต่อไป สมเจษต์หันมาทันควัน
“ไหน คนไหนวะ?” สมเจษต์หันไปหันมาเพื่อมองหาเด็กคนนั้น
“คนที่ยืนหน้าบาร์นั่นไง เมื่อกี้ไง”
“คนไหนวะ” คราวนี้เป็นศิวะที่ถามขึ้นบ้าง
“น่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟคนใหม่ของมึง กูไม่เคยเห็นหน้าเลย” จบคำพูดของพีรภัทร ทำให้เพื่อนทั้งสองคนตกใจ
“เฮ้ยๆ น้องพิม ไม่ได้ ๆ กูไม่ให้”
สมเจษต์ร้องบอกและส่ายหน้าอย่างแรง ทำหวงก้างขึ้นมาทันที
พีรภัทรมองแรงใส่เพื่อนอีกครั้ง เขาจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ไอ้ต๋อง ไอ้เชี่ย มึงจะเก็บไว้แดกเองรึไง ทำตัวให้มันดีๆ หน่อย สมภารอย่าคิดกินไก่วัด มันเสียระบบการบริหารโว้ย หรือว่าค่าตัวแพง ฮึ... แพงแค่ไหนกูก็สู้นะโว้ย ยังไงกูก็จะเอาคนนี้”
“ไม่ใช่แบบนั้นโว้ย กูไม่กินไก่วัดอยู่แล้ว แต่น้องพิมเป็นเด็กดี อายุก็เพิ่งจะพ้นคุกนะมึง ถ้ามึงลากน้องพิมไปแดก กูว่าไม่ดีแน่ ๆ ปล่อยน้องพิมเถอะนะกูขอ... ที่ให้มาทำงานที่นี่ ก็เพราะน้องมันเป็นคนกตัญญู จำเป็นต้องหาเงินไปดูแลแม่ที่ป่วยแบบเป็นสารพัดโรค กูเลยเห็นใจให้มาทำงานด้วย แต่ให้เป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น”
“มึง ไอ้เชี่ย!ไอ้หมาหวงก้าง” พีรภัทรชี้หน้าสมเจษต์ ถ้าลองเขาอยากได้ใคร ก็ต้องได้ ยิ่งเพื่อนขัดใจก็ยิ่งอยากได้ พีรภัทรไม่ชอบให้ใครขัดใจเขา
“ไม่ได้จริงๆ ว่ะไอ้พีช กูให้มึงไม่ได้จริง ๆ ว่ะ โทษทีนะเพื่อนนะ”
“แต่กูจะเอา” พีรภัทรตอบห้วน ๆ และจ้องหน้าเพื่อนไม่หลบสายตา
“ไม่ได้ ๆ โว้ย...” สมเจษต์ร้องเสียงดังและกำลังจะพูดต่อ แต่มีสายเรียกเขาพอดี เขาจึงลุกขึ้น และเดินออกไป
“กูไปขี้ก่อนนะ” ศิวะหันมาบอกอีกคน แล้วรีบวิ่งตามหลังสมเจษต์ไปติด ๆ เรื่องอะไรจะให้เขาอยู่กับไอ้เสือหิวคนเดียววะ
พีรภัทรมองตามเพื่อนทั้งสองออกไป แล้วจึงกระดกแก้วเครื่องดื่มของเขาถี่ ๆ สายตามองไปที่ประตูอย่างรอคอย เขาคิดถึงพิมมาลาอยากให้เธอเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง
และเขาก็สมหวัง เพราะไม่นานนัก พิมมาลาก็เดินเข้ามาในห้องนี้อีกครั้ง พีรภัทรจึงกระดิกนิ้วเรียกพิมมาลาเข้ามาใกล้ๆ
“พิม...มาหาพี่หน่อยสิ”
นาทีนั้นเองพิมมาลาตกใจจนขาสั่น เขาเรียกชื่อเธอ แม้จะรับรู้ว่างานบริการแบบนี้ ถ้าลูกค้าเรียกก็ต้องเข้าไปดูแลใกล้ชิด แม้จะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่เวลาที่ถูกเรียกจริงๆ ก็อดที่จะเดินเข้าไปหาเขาแบบขาสั่นๆ ไม่ได้
พิมมาลาเดินเข้าไปใกล้ๆ และยืนอยู่ข้างๆ โซฟาที่เขานั่ง
“คุณเรียกพิมหรือคะ? มีอะไรจะให้พิมรับใช้เหรอค่ะ” เธอพูดด้วยเสียงที่พยายามจะให้หวานที่สุด ถ้าเขาพอใจเธออาจจะได้ทิปหนักๆ ก็ได้
“ชื่อพิมเหรอเราน่ะ” พีรภัทรของหน้าสวยหวานตรงหน้าอย่างหลงใหล และตัดสินใจถามขึ้น วันนี้เขาจะต้องได้ผู้หญิงคนนี้ไปปี้
“ใช่ค่ะ ชื่อพิมค่ะ” พิมมาลาเอ่ยตอบรับเสียงหวาน
แค่ชื่อโคตรน่า....!!! เขาคิดว่าชื่อพิมเหมาะสมกับหน้าตาของเธอมากที่สุด ชื่อไทยๆ หน้าหวาน รูปร่างเล็กบอบบางน่าทะนุถนอม แบบหญิงไทย เขาคิดว่าตอนที่เขาคุยกับเพื่อนในตอนแรกเธอต้องได้ยิน เธอคงจะรู้ว่าเขากำลังหาเมียชั่วคราว พีรภัทรจึงตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ
“พิม!! พี่ไม่อ้อมค้อมแล้วนะ คือพี่อยากได้เด็กมาอยู่กับพี่สักคน...พิมพอจะว่างมาเป็นเด็กพี่ได้มั้ย?” พีรภัทรจึงตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ ตอนนี้เขาหน้าแดงมาก เพราะความเขินที่พูดโต้งๆ ออกไป
แต่พิมมาลาคิดว่าเขาหน้าแดงเพราะความเมาและเขาคงพูดด้วยความเมา ในใจของเธอคิดเรื่องนี้อยู่แล้วจึงไม่ตกใจมากนัก ตอนนี้เธออยากรู้ว่าถ้าเธอยอมตกลง เธอจะได้อะไรบ้าง
“......” พิมมาลายังไม่ได้ตอบอะไร เขาก็ถามขึ้นมาอีก
“น้องพิมมีแฟนมั้ย?”
เจอคำถามนี้เข้าไปอีก ทำให้พิมมาลาหน้าแดงมาก ๆ แม้จะเคยเจอผู้ชายมาจีบมากมาย แต่เธอยังไม่คุ้นชินกับคำเชิญชวนของผู้ชายแบบนี้ เขาพูดจาชวนขึ้นเตียงเหมือนกับการซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อ เขาช่างมั่นใจว่าตัวเขาเองจะไม่ถูกเธอตบด้วยคำถามจาบจ้วงไม่ให้เกียรติแบบนี้
“มะ ไม่มีค่ะ พิมยังไม่มีแฟนค่ะ” พิมมาลาส่ายหน้าระรัว
เธอตัวสั่นเป็นลูกกวางที่อยู่ในกรงเล็บเสือ แม้จะเตรียมใจมาบ้าง แต่เห็นสายตาเสือที่มองมา ก็อดที่จะกลัวไม่ได้
“แล้วเคยมั้ย?” พีรภัทรยิงคำถามตรงๆ
“..คะ เคย..อะไรค่ะ” เธอไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไรเพราะเธอตอบไปแล้วว่าไม่มีแฟน
“เคย..ก็คือเคยขึ้นเตียงหรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหรือเปล่า”
“...” เธอถึงกับตัวสั่น พูดไม่ออกตอบไม่ได้ ใครเขาถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงกัน เขาเมาเกินไปแล้ว
พีรภัทรเหลือบมองร่างเล็กที่ยืนกุมมือตัวเองแน่น เธอก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตาเขา เดาดูก็รู้ว่าคงไม่คุ้นชินกับพวกเสือสิงห์กระทิงแรดแบบเขา
..แต่ไม่ตอบแบบนี้ ยังซิงอยู่ป่าววะ...
“ถ้ามาเป็นเด็กพี่ นอกจากจะได้ความบันเทิงแบบถึงใจแล้ว ยังมีที่พักให้ พร้อมค่าเลี้ยงดู ถ้าทำตัวดีๆ ไม่จู้จี้ ไม่ตาม ไม่ถาม ไม่วีน จะมีโบนัสให้อีก” ข้อเสนอที่ให้เธอเพียงคนเดียว เขาคิดในใจ
พิมมาลาได้ยินข้อเสนอก็ใจสะท้าน ใบหน้าของแม่ที่นอนป่วยอยู่ที่ห้องเช่าลอยมาในหัว ถ้าเธอยอม..แม่ก็จะได้รับการรักษาที่ดี
“พิมต้องการแค่ค่ารักษาแม่ค่ะ” คนตัวน้อยเอ่ยขึ้นน้ำเสียงสั่น ร่างบางสั่นเทา มองเขาแบบขลาดกลัวแต่ก็มีแววตานักสู้
พีรภัทรเลิกคิ้วสูง ไม่คิดว่ามุขที่ผู้หญิงสมัยนี้ใช้โก่งค่าตัวจะน้ำเน่าเหมือนละครหลังข่าวสมัยก่อน ผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ต้องการแค่เงิน คิดจะโก่งค่าตัว เขาก็จะให้
“เดือนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท และมีพิเศษอีกต่างหากตามความเหมาะสม นอกสถานที่ต่างหาก ค่าเทอม ค่ากินอยู่ต่างหาก ว่าไงสนใจมั้ย?” คนเราเมื่ออยากได้ อะไรก็พร้อมเปย์ทุกสิ่งจริงๆพีรภัทรเอ้ย
บางทีการทำแบบนี้ อาจลดปัญหาของตัวเองและอาการเบื่อเซ็งก็ได้ เงินแค่นี้มันก็แค่เศษเงินสำหรับเขาเท่านั้น
พีรภัทรเผยยิ้มยียวน มองจ้องไปที่อื่นก่อนหันมามองคนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะยืนกลั้นใจเกือบตายไปแล้ว เขาใช้สายตาโลมเลียขึ้นมาจาก เรียวขาสวย สะโพกกลมเล็กแต่ผายรับช่วงไหล่ เอวคอดจนเดาไม่ถูกว่ากระโปรงที่สวมต้องขยับเอวเข้าหรือเปล่า
“ตกลงว่าไง....เป็นมั้ย?” เขาแทบอดใจไม่ไหว อยากจะเข้าไปตะครุบพิมมาลาแล้ว แต่ก็ยังติดว่าไม่อยากฝืนใจใคร
“.....” วินาทีนั้นพิมมาลาหลับหูหลับตาพยักหน้ารับคำเขาอย่างจำใจ น้ำตาแทบไหลร่วงลง หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก