บุรุษน้อยจอมซนVSเจ้าลิงทะโมนจอมแสบ

1630 Words
เงียบอีก บุรุษร่างเล็กที่กำลังโกรธแค้นรีบป่ายขาลงจากโขดหินก้อนใหญ่ เมื่อเท้าเหยียบยืนบนพื้นก็ค่อยย่องเข้าไปใกล้เป้าหมายนั้น กะว่าหากเจอตัวเมื่อไหร่ เขาไม่มีวันปล่อยมันไว้แน่ คนถูกประทุษร้ายร่างกายยื่นมือแหวกพุ่มไม้ตรงหน้า พลันเห็นเจ้าตัวการทันที "เจ้าเองเรอะ!" เป็นลิงทะโมนตัวเก่าเจ้าเดิมแอบอยู่ตรงนั้นนั่นเอง ฝ่ายเจ้าลิงทะโมนที่กำลังนั่งยองแหงนหน้ามองคนชะโงกหน้ามาใกล้มัน พอถูกจับได้ ก็รีบทะลึ่งตัวขึ้นยืน ทั้งปาลูกท้อใส่หน้าเจ้ามนุษย์ตัวน้อยอย่างแม่นยำซ้ำอีกรอบ ผลท้อกระทบหน้าผากฉีอันฉีอย่างจัง “โอ้ย! มารดามันเถอะ! เดรัจฉานเยี่ยงเจ้า! ไฉนเอาแต่รังแกข้า อูย..” ไม่รู้ด้วยซ้ำเขาเคยไปทำอะไรไว้กับบรรพบุรุษลิงทะโมนตัวนี้กันแน่ เหตุใดมันถึงเอาแต่ตามราวีเขาไม่เลิกไม่รา เจ้าลิงร้องตอบเป็นภาษาลิง เจี๊ยก เจี๊ยก! แยกเขี้ยวยิงฟันดูคล้ายว่ามันกำลังหัวเราะเยาะหยัน แล้วรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด เมื่อเห็นว่าฉีอันฉีทำท่าจะคว้าตัวมันให้จงได้ “คิดหนีเรอะ! ดูสิว่าวันนี้ข้าจะถลกหนังเจ้าทันหรือไม่ เจ้าลิงบ้าเอ้ย! อย่าหนีนะ” หนุ่มน้อยในอาภรณ์นางกำนัลรีบรวบชายกระโปรงวิ่งหน้าตั้งตามเจ้าลิงไปอย่างไม่คิดชีวิต ผ่านกิ่งไม้ใบหญ้าระหว่างทาง ปากก็ก่นด่าเจ้าเดรัจฉานจอมเกกมะเหรกเกเรไม่หยุดหย่อน เขาอารมณ์เดือดพล่านใครก็อย่าคิดมาขวาง วันนี้ตายเป็นตายสิน่า พลางเร่งสาวเท้าวิ่งไล่ล่าตามลิงทะโมนมาไกลเท่าไหร่มิอาจรู้ได้ พอถึงที่แห่งหนึ่งเขาจำต้องชะงักเท้าไว้ก่อน เอามือจับหน้าอกหอบหายใจแฮกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเงยหน้ามองไปตรงหน้า ที่แห่งนี้มีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน ดูงดงามไม่แพ้ตำหนักส่วนพระองค์ขององค์ชายอิ้งเยว่ไปเลยสักนิด แต่ที่เป็นปัญหาตอนนี้นั้น เจ้าลิงจอบแสบดันทะลึ่งวิ่งเข้าไปข้างในตำหนักนี่สิ ที่แห่งนี้เป็นของใครกัน หากเขาคิดบุกเข้าไปข้างในอาจโดนข้อหาบุกรุกสถานที่ต้องห้ามหรือไม่ หากต้องโทษขึ้นมาเล่า ใครล่ะจะรับประกันศีรษะน้อยๆ ของเขา มิต้องถูกคมดาบบั่นทิ้งหรือไร โอ้ว์..ชีวิตหนอ คิดจะรอดพ้นแต่ละวันมันช่างยากเย็นแสนเข็ญเสียนี่กระไร ฉีอันฉีขบกรามหนึบ ตรึกตรองอยู่ว่า เขาจะตามมันไปดีหรือไม่ไปดี ทว่าหากไม่รีบตามเข้าไปตอนนี้ ไฉนจะจับเจ้าลิงแสบมาสั่งสอนให้หายแค้นได้เล่า "ช่างเถอะ ข้าไม่สนแล้ว" คนกำลังเดือดดาลถึงขีดสุดรีบวิ่งตามเจ้าลิงไปทันที ที่แห่งนี้จะเป็นตำหนักของราชวงศ์องค์ใดก็สุดแล้วแต่เถิด ขอเพียงจับเจ้าลิงมาถลกหนังตากแห้งได้เป็นพอ.. หนุ่มน้อยวิ่งหน้าเริด มือสองข้างหอบชายกระโปรงวิ่งตึงตังเข้ามาในตำหนักกว้างใหญ่อย่างไม่เกรงกริ่งต่อสิ่งใดทั้งสิ้น เขาวิ่งผ่านธรณีประตูเข้ามา ในโถงนั้นกว้างขวางยิ่งนัก มีเครื่องใช้ไม้สอยล้วนเป็นของดีมีราคาแพง แต่เขาไม่ต้องการเสียเวลาชื่นชมสิ่งของล้ำค่าเหล่านี้หรอกนะ ฉับพลันนั้นเขาก็เห็นตัวก่อเหตุวุ่นวายแอบซ่อนอยู่หลังฉากกั้นลวดลายมังกรตรงนั้น.. เจ้าลิงทะโมนแย้มหน้ามองเขาเช่นกัน ลำตัวแอบอยู่หลังฉากกั้น มันยิงฟันแหลมคมอวดเจ้ามนุษย์ตัวน้อย แล้วรีบผลุบหายเข้าไปหลังฉากทันที ราวกับเด็กกำลังเล่นซ่อนหาอยู่อย่างไรอย่างนั้น “เจ้าลิงบ้าเอ้ย! เจ้าอย่าให้ข้าต้องเหนื่อยเพราะเจ้า มาให้ข้าจับเจ้าเสียดีดี” ฉีอันฉีกระโจนเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิต ตัวก่อเหตุอยู่ตรงหน้าแล้ว จะไม่มีวันปล่อยไปเป็นแน่ เป็นไงเป็นกันสิน่า ต้องจับมันมาลงโทษให้จงได้.. ขณะที่เจ้าหน้าขนกระโจนขึ้นไปบนแจกันลายครามขนาดใหญ่ มันเหยียบยืนสิ่งนั้นด้วยสองขารอท่า เมื่อเป้าหมายอยู่ตรงหน้าพอดิบพอดี หนุ่มน้อยก็โถมตัวเข้าใส่ทันที ลิงทะโมนกระโดดหย่อยหนีไปได้อย่างหวุดหวิด แจกันรับน้ำหนักฉีอันฉีที่โถมมาไม่ไหว จึงล้มตึงไปแล้ว บุรุษน้อยอยู่ในท่าคว่ำหน้า พลางเงยหน้ามองแจกันล้ำค่านั้นล้มไปต่อหน้าต่อตาอย่างเสียวไส้ ถือเป็นโชคดีนักที่สิ่งนั้นมันยังคงสภาพเดิมเอาไว้ได้ มิได้แตกเป็นเสี่ยงอย่างที่หวาดกลัว หากต้องชดใช้สิ่งของล้ำค่าปานนั้น แม้ชีวิตน้อยๆ ของเขาคงไม่พอชดใช้เป็นแน่ คราวนี้เจ้าลิงยืนทรงตัวอยู่บนฉากกั้นลวดลายมังกรนั่งเอง ฉีอันฉีรีบลุกยืนพรวดพราด มือไม้สั่นเทาด้วยแรงโทสะขณะชี้ไปที่มัน "เจ้า! เจ้าอย่าได้หลบหนีข้าอีก" สีหน้าหนุ่มน้อยสื่อถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า คราวนี้ต้องจับมันมาลงโทษให้จงได้ พลันออกแรงกระโจนเข้าหาเป้าหมายอีกครั้ง ทว่าลิงตัวนั้นกลับไวกว่าไปก้าวหนึ่งเสมอ มันหนีไปยืนบนชั้นวางม้วนตำราไม้ไผ่ที่กองพะเนินอีกฝั่งหนึ่ง ส่วนฉากกั้นลวดลายมังกรนั้น ล้มครืนไปอีกแล้ว เจ้าลิงทะโมนยืนจังก้าตบมือเปาะๆ ราวกับว่ากำลังแสดงท่าทีเย้ยหยันมนุษย์เช่นเขา มือเล็กเรียวเต็มไปด้วยขน ยื่นฉวยเอาดอกเหมยกุ้ย(ดอกกุหลาบ)ในแจกันเล็กตั้งอยู่ข้างๆ มันขึ้นมา ออกแรงปาใส่ฉีอันฉีไปสองสามดอก ฉีอันฉีเดือดดาลถึงขีดสุด เขาใช้มือขยี้ขยำกลุ่มผมของตัวเองแรงๆ “โว้ย! จะเจ้าลิงบ้า! เจ้ายังกล้าทำร้ายข้าอีก รอให้ข้าจับเจ้าให้ได้ก่อนเถอะ ข้าสาบาน วันนี้ข้าต้องลอกหนังเจ้ามาทาเกลือ อีกทั้งข้า! จะ.. จะถลกหัวของเจ้าอีกด้วย ถึงตอนนั้นเจ้าก็จงอย่าได้โทษข้า” ด้วยแรงอารมณ์กรุ่นโกรธจนมิอาจหยุดยั้ง เขาหมายมั่นปั้นมือจะต้องเอาคืนเจ้าลิงเกเรให้จงได้ ทว่านายน้อยแห่งบ้านสกุลฉี ยังไม่ได้ทำตามความคิดสำเร็จด้วยซ้ำ กลับมีเสียงคนผู้หนึ่งลอยมา หยุดยั้งการกระทำของคนอยู่ในอารมณ์เดือดดาลเอาไว้ก่อน “นั่นผู้ใดกัน เข้ามาในที่ของข้า ทำลายข้าวของของข้าไม่พอ ยังคิดทำร้ายสัตว์เลี้ยงของข้าอีก” คนผู้นั้นมีรูปกายสูงโปร่ง แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยอาภรณ์เลิศหรูอลังการ อาภรณ์ผ้าแพรสีแดงด้านใน สวมใส่เสื้อแขนสั้นสีดำทับอยู่ด้านนอก ทั้งปักลวดลายหงส์สีทองทะยานบินเป็นสัญลักษณ์ ดูก็รู้ได้ เขามิใช่บุคคลธรรมดาเป็นแน่ มือเรียวขาวสะอาดของคนผู้นั้นถือพัดจีบภาพเขียนเอาไว้ ร่างสูงย่างกรายเข้ามา แล้วหยุดยืนตรงหน้าผู้บุกรุก เขาชะโงกหน้ามามองฉีอันฉีใกล้ๆ ขณะที่ผู้บุกรุกที่อยู่อาศัยของคนอื่นกำลังคุกเข่ามือเท้าพื้นอยู่ในท่าคลานสี่ขา ผู้เอ่ยอ้างว่าเป็นเจ้าของสถานที่พูดว่า “แม่นาง เจ้าเป็นบ่าวในตำหนักผู้ใดกัน ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเลยนี่ ไฉนเจ้าคิดทำร้ายสัตว์เลี้ยงของข้าเล่า” คนถูกถามอย่างฉีอันฉี หาได้เกรงกลัวราชวงศ์องค์นี้ไม่ กลับลุกขึ้นยืนเชิดหน้า ตะเบ็งเสียงโต้กลับไปว่า “ลิงของท่านเองรึ! เช่นนั้น ท่านก็ดูแลมันให้ดีดีสิ! อย่าได้ปล่อยให้เจ้าลิงนิสัยเสียตัวนี้ เที่ยวเกกมะเหรกเกเร เอาแต่รังแกผู้อื่น!” “อ๋า! เจ้าจะบอกว่า เป็นสัตว์เลี้ยงของข้า รังแกเจ้าก่อนงั้นสินะ” “แหงล่ะ สองครั้งสองคราเชียวนะ ท่านดูสภาพข้าตอนนี้สิ เหมือนอะไรเล่า” อีกฝ่ายกลับใช้พัดในมือป้องปากหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจ “ฮ่าๆ ข้าดูเจ้า เจ้าเองก็ไม่ต่างอะไรกับเป่าเป้ยลิงของข้าสักเท่าไหร่ ฮ่าๆ” ฉีอันฉีพอได้ฟังคำพูดไม่เขาหูถึงเพียงนี้ ยิ่งเพิ่มความโมโหของเขาขึ้นมาถึงขีดสุด “นี่!! ท่าน ท่านว่าข้าดูคล้ายสัตว์เลี้ยงของท่านอย่างนั้นเรอะ!” เขารวบพัดไว้ในมือ “โถๆ เอาน่า เจ้าอย่าเอาแต่โมโหนักเลย” “เหอะ!!” ฉีอันฉีที่ยังอยู่ในอารมณ์เดือดดาลทำเสียงขึ้นจมูกอย่างแค้นเคือง เขารูปงามปานนี้ ไฉนคนผู้นี้มากล่าวหาว่าเขาคล้ายลิงเสียได้ ฝ่ายตรงข้ามรีบตีสีหน้าสำนึกผิดอย่างไม่จริงใจ “ก็ได้ๆ ข้าขอโทษ ข้าขอโทษเจ้าๆ เมื่อครู่ข้าพูดผิดไปจริงๆ นั่นแหละ.. แม่นางเจ้าอย่ามัวโมโหอีกเลย พวกเราพูดกันดีๆ เถอะ” มิเพียงพูด เขายังช่วยปัดฝุ่นบนไหล่ขวาทั้งซ้ายของฝ่ายตรงข้ามอย่างมีน้ำใจ ก่อนเดินหมุนรอบกายผู้บุกรุกสถานที่ของเขาโดยผีไม่รู้เทพไม่เห็น ดวงตาคมวาวหากแฝงไว้ซึ่งความขี้เล่นอยู่ในที จ้องหน้าบุรุษน้อยในคราบนางกำนัลอยู่นาน ถามว่า “เจ้าเป็นสตรีแน่หรือ?” “ข้าเป็นสตรีเห็นๆ ไฉนท่านถามข้าเยี่ยงนี้เล่า!” คนถูกสงสัยในความเป็นสตรีใช้หัวแม่มือชี้เข้าหาตัวเอง พลางเชิดหน้าเปื้อนโคลนใส่ “เช่นนั้น ข้าขอถามเจ้าใหม่ เจ้าเป็นนางกำนัลแน่หรือ?” “ถูกต้อง ข้าเป็นนางกำนัล ข้ารับใช้อยู่ในตำหนักไฉ่หงขององค์ชายอิ้งเยว่” “จุๆ เจ้าดูไม่เหมือนสักนิด”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD