ตอนที่ 1 : แม่เลี้ยงคนใหม่
โรงแรมเคเจ
"ขอเชิญพบกับ ท่านเจ้าสัว ยุทธนา และภรรยาสายคนสวยที่เพิ่งจดทะเบียนกันไปหมาดๆ เมื่อเช้านี้ คุณมีนนารา ศุภัสสราสวัสดิ์ ณ บัดนี้ได้เลยค่ะ" เสียงเพลงและเสียงปรบมือดังกระหึ่มกึ่งก้องไปทั่วฮอล์เมื่ิอพิธีกรสาวประกาศเสียงดัง
ทำให้ชายหนุ่มที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามายังฮอล์ถึงกับต้องตกตะลึงเมื่อเห็นหญิงสาวที่อยู่บนเวทีเคียงคู่กับพ่อของเขา พร้อมกับคิดย้อนไป เมื่อหกปีก่อน
"นราวิชญ์ฉันจะให้แกหมั้นกับผู้หญิงที่ฉันเลือกให้ พรุ่งนี้ไปทำความรู้จักกันเอาไว้ก่อน เมื่อเรียนจบก็ค่อยแต่งงาน แล้วแกทั้งคู่ค่อยมาช่วยกันดูแลและสานต่อกิจการที่พ่อสร้างขึ้น พ่อจะได้วางมือเสียที"
"อะไรนะครับ แต่งงาน ผมไม่แต่ง"
"นราวิชญ์ฟังพ่อก่อนสิ ผู้หญิงคนนี้เธอเป็นเด็กดีน่ารัก มีความกตัญญู รู้คุณ ฉันให้แกหมั้นไว้เฉยๆ ยังไม่ต้องแต่งงานก็ได้ ไปทำความรู้จักกันเอาไว้ก่อน พ่อเชื่อว่าแกต้องตกหลุมรักเธอแน่ๆ"
"ไม่ครับ ผมไม่ไปและยังไงผมก็ไม่หมั้นด้วย"
"เธอเป็นคนน่ารักจริงๆ นะนราวิชญ์ ฉันอยากให้แกได้เจอกับเธอก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้นี่"
"ผมไม่อยากเจอเธอคนนั้น และผมจะไม่หมั้นไม่แต่งงานกับคนที่พ่อเลือกให้เด็ดขาดครับ พ่ออยากแต่งก็แต่งเองไปเลยสิ"
"ฉันถือว่าฉันให้โอกาสแกแล้วนะ"
"ผมก็ถือว่าผมได้ทิ้งโอกาสนี้ไปก็แล้วกันครับพ่อ ขอบคุณที่หวังดีกับผมนะครับ"
"เจ้าลูกคนนี้หัวรั้นเหมือนฉันตอนหนุ่มๆ ไม่มีผิด ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้สินะ ฉันคงต้องหมั้นกับเด็กคนนั้นเอาไว้ก่อนแล้วพาเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศสักสี่ปี ป่านนั้นฉันคงจะแก่ตายไปแล้วก็ได้"
"อะไรนะครับ พ่อจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับว่าที่เมียสาวคนนั้นเหรอครับ"
"ใช่ ฉันอยากให้เธอได้เรียนต่อที่ต่างประเทศน่ะ เอาล่ะฉันจะคงจะไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยสักสี่ห้าปี แกต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ"
"ผมดูแลตัวเองมาตลอดอยู่แล้ว พ่อไม่ต้องห่วงผมหรอก คนที่น่าห่วงคงจะเป็นพี่นรินทิรากับยายน้ำชาโน่น แล้วสองคนนั้นรู้หรือยังล่ะว่าพ่อกำลังจะหมั้นน่ะ"
"ยังหรอก ทุกอย่างมันกระทันหันเกินไปฉันกลับมาจากต่างประเทศเมื่อไหร่ค่อยบอกพวกเธอก็แล้วกัน"
"แล้วพ่อจะไปเมื่อไหร่ล่ะครับ"
"อีกสามวัน"
"อะไรนะ อีกสามวันทำไมกระทันหันนักล่ะ"
"ไม่มีเวลาแล้ว"
"อะไรคือไม่มีเวลาแล้วเหรอครับพ่อ"
"แกอยู่ที่นี่ตั้งใจศึกษางานบริษัท ฝึกทำงานกับคุณธนวัฒน์ให้คล่องและชำนาญฉันจะได้วางใจฝากบริษัทไว้ที่แกได้"
"ทำไมพ่อไม่ทำเองล่ะครับ จะทิ้งบริษัทแล้วไปอยู่ต่างประเทศกับผู้หญิงคนนั้นทำไมกัน"
"แกเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของฉัน ยังไงวันหนึ่งบริษัทนี้ก็ต้องเป็นของแกอยู่แล้ว ฉันทิ้งวันนี้หรือวันหน้าก็ไม่ต่างกันหรอกเข้าใจที่พ่อพูดไหมนราวิชญ์"
"ครับ ผมเข้าใจทุกอย่าง"
"ดี ถ้าอย่างนั้นก็เตรียมตัวเป็นประธานบริษัทเอาไว้ด้วย"
"ครับ"
มหาวิทยาลัยS
"อะไรนะ มีนนาราลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว มันเป็นไปได้ยังไงทำไมเธอไม่บอกอะไรฉันสักคำล่ะ"
"พวกเราก็เพิ่งรู้เหมือนกัน มีนเขาก็ไม่บอกอะไรพวกเราเช่นกัน ฮือๆ" เพื่อนคนนึงในกลุ่มของมีนนาราเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา
"ไม่นะ ไม่สิ มีนตอบข้อความผม ตอบข้อความผมสิมีน" นราวิชญ์พยายามส่งข้อความซ้ำๆ หาแฟนสาว น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว มือของชายหนุ่มสั่นไปหมด
"โธ่โว้ย มีน มีอะไรทำไมคุณถึงไม่บอกผม ทำไมถึงเลือกที่จะทิ้งผมไปแบบนี้มีน ฮื้อ ฮือ"
'เพี๊ยะ' โทรศัพท์เครื่องหรูรุ่นใหม่ล่าสุดของนราวิชญ์ถูกขว้างออกไป กระทบลงบนพื้นปูนซีเมนต์ หน้าจอแตกกระจาย ชายหนุ่มถึงกับหมดอาลัยตายอยากนั่งลงกับพื้นอย่างคนสิ้นหวัง
ตัดภาพมาตรงที่ปัจจุบัน
"หึ เหตุผลแบบนี้สินะ คุณถึงไม่อยากบอกผม เพราะมาแต่งงานกับพ่อของผมนี่เองจึงพยายามปิดบังเรื่องทุกอย่างมาตลอด ผมนี่โคตรโง่เลย ที่หลงรักคุณจนหัวปักหัวปำ ตอนคุณทิ้งผมไปผมก็แทบจะเป็นบ้าอยู่คนเดียวแต่ดูคุณวันนี้สิ คุณใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่กับพ่อของผมมาตั้งห้าหกปี วันนี้ผมควรจะตาสว่างเสียทีสินะ มีนนารา"
บนเวที
"คุณมีนนารามีอะไรจะบอกท่านเจ้าสัวในค่ำคืนที่แสนพิเศษนี้ไหมคะ" พิธีกรเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แจ่มใส
"นางอยากจะบอกคุณยุทธนาว่านางจะรักและดูแลคุณยุทธนาตลอดไปค่ะ"
"จนกว่าชีวิตของฉันจะหาไม่เลยนะหนู"
"ค่ะ"
"โอ้โห เป็นคำสัญญาที่หวานสุดๆ เลยนะคะ เอาล่ะค่ะในตอนนี้ก็ขอให้ญาติฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้ขึ้นมาถ่ายรูปร่วมกันค่ะ" พิธีกรสาวเอ่ยเชิญขึ้น ซึ่งก็มีแต่ญาติของเจ้าสัวยุทธนาเท่านั้นที่ร่วมกันขึ้นไปถ่ายรูปรวมถึงนราวิชญ์ด้วย
"ยินดีด้วยนะครับพ่อ และขอโทษด้วยที่ผมมาช้า"
"วิชญ์" มีนนาราถึงกับสะดุ้งเฮือกทั้งตกใจและประหลาดใจในเวลาเดียวกันที่รู้ว่าอดีตชายคนรักของเธอคือลูกชายของเจ้าสัวยุทธนาที่เธอกำลังแต่งงานด้วยในขณะนี้
"นี่ครับพ่อ ของขวัญวันแต่งงาน"
"ขอบใจมากไอ้ลูกชายมาช้ายังดีกว่าไม่มานะ"
"ยินดีด้วยนะคะคุณลุง นี่ค่ะของขวัญวันแต่งงานขอโทษหนูที่มาช้าเหมือนกันนะคะ พอดีหนูยุ่งๆ น่ะคะ" หญิงสาวผมยาวสยายในชุดเดรสสีแดงยื่นกล่องของขวัญให้กับเจ้าสัวยุทธนา
"ไม่เป็นไรๆ มาได้ก็ดีมากแล้ว เออ นี่มีนนารานี่วิชญ์ลูกชายคนเดียวของฉัน และลูกแก้ว"
"คนรักของพี่นราวิชญ์ค่ะ" หญิงสาวชิงพูดแทรกออกมาก่อนที่เจ้าสัวยุทธนาจะพูดซะก่อน
"นราวิชญ์นี่มีนนาราแม่เลี้ยงคนใหม่ของแก"
"สะ สวัสดี... ขะ" มีนนารากำลังจะทักทายเขา ชายหนุ่มรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อน
"ผมขอตัวก่อนนะครับ"
"อ้าว จะรีบไปไหนล่ะยังไม่ได้ถ่ายรูปร่วมกันเลยนะ"
"ไม่จำเป็นหรอกครับคุณพ่อถึงผมจะดีใจกับพ่อที่ได้แต่งงานใหม่ แต่การแต่งงานครั้งนี้ ผมก็ไม่ได้ยินดีมากมายอะไรสักเท่าไหร่หรอกครับ" สายตาของนราวิชญ์ สบเข้าไปยังนัยตาของมีนนารา อย่างกับจะกินให้กินเนื้อเธอเสียให้ได้
"ไหนบอกว่าจะรักกันจนฟ้าดินสลายยังไงล่ะ เปลี่ยนไปยังไม่พอ ยังคิดจะมาจับพ่อของฉันอีก เธอเป็นใครกันแน่มีนนารา" นราวิชญ์กัดกรามแน่นคิดในใจ
มีนนารายืนตัวแข็งทื่ออยู่บนเวที หญิงสาวคิดย้อนไปเมื่อตอนที่ได้เจอกับเจ้าสัวยุทธนาเป็นครั้งแรก
"ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะหนูนาง ฉันจะดูแลหนูให้เหมือนลูกสาวอีกคนหนึ่งของฉันเลยนะ ขอบใจหนูมากที่ทำเพื่อฉันขนาดนี้ แต่หนูจะต้องเข้ามาดูแลฉันในฐานะเมียของลูกชายฉันเท่านั้น เพราะหากเข้ามาตำแหน่งอื่น ฝั่งโน้นต้องหาทางเล่นงานหนูแน่ๆ อีกอย่างลูกๆ ของฉันจะต้องไม่พอใจหนูมากแน่ๆ แต่ในเมื่อลูกชายของฉันเองมันก็ไม่ยอมแต่งงานกับหนู หนูจะต้องมาแต่งเป็นเมียของฉันแทนก็แล้วกันนะ เราสองคนจะแต่งกันในนามเท่านั้นไม่ต้องมีอะไรกันแบบสามีภรรยาหรอก เพราะฉันเองก็แก่แล้ว ต้องการคนดูแลมากกว่าคนมาเป็นเมีย หนูแค่แต่งเข้ามาดูแลฉันและสมบัติของฉันก็เพียงพอแล้ว ฉันรู้ว่าคงจะอยู่ได้อีกไม่นานหรอกและคนที่ฉันอยากให้หนูดูแลมากที่สุดก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกชายคนเดียวของฉันที่คงจะอายุและรุ่นราวคราวเดียวกับหนูนี่แหละ”
"แล้วเขาจะยอมให้หนูดูแลเหรอคะ"
"มันต้องยอมแน่นอน กลับไปเมืองไทยฉันจะแนะนำให้เธอสองคนรู้จักกันเพื่ออนาคตหนูจะต้องดูแลมันแทนฉันยังไงล่ะ"
"ค่ะ คุณลุง ชีวิตของหนูเป็นของคุณลุงแล้ว ก็แล้วแต่คุณลุงจะบัญชาเถอะค่ะ"
"ฉันจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อและแม่ของหนู ฉันจะดูแลหนูไปตลอดชีวิต นี่คือคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อและแม่ของหนูก่อนเขาสองคนจะจากโลกนี้ไป"
"ค่ะ คุณลุง ฮือๆ"
"อย่าร้องไห้ไปเลยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง เชื่อฉันเถอะหนูนาง"
ตัดมายังภาพปัจจุบัน
ห้องพักรับรอง
"เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมากหรือเปล่าหนูนาง"
"ไม่เหนื่อยค่ะคุณลุง คุณลุงล่ะคะเหนื่อยมากไหมคะ เดี๋ยวหนูไปเอายามาให้นะคะ"
"อืม ขอบใจมาก ยืนนานๆ ปวดขามากเลยนะเนี่ย"
"งั้นเดี๋ยวหนูนวดให้นะคะ อันที่จริงไม่เห็นต้องจัดงานใหญ่โตเลยค่ะ คุณลุงเหนื่อยเปล่าๆ"
"ถ้างานไม่ใหญ่ก็ไม่เป็นข่าวน่ะสิ"
"นั่นสินะคะ"
"ว่าแต่เจอหน้าเจ้าวิชญ์แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ"
"ดูท่าคุณวิชญ์ไม่ค่อยชอบหน้านางสักเท่าไหร่ค่ะคุณลุง"
"แน่นอนมันต้องไม่ชอบอยู่แล้วเพราะมันกังขามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อย่าไปสนใจมันเลยนะหนู อีกไม่นานมันก็จะรู้เองแหละว่าฉันได้มอบสิ่งที่มีค่าที่สุดให้กับมันอดทนหน่อยนะหนูมีนนารา นราวิชญ์น่ะเขาก็เป็นคนแบบนั้นแหละ ตั้งแต่ฉันพาหนูไปต่างประเทศไอ้เจ้าวิชญ์มันก็เปลี่ยนไป จากที่เป็นคนสดใสร่าเริงก็กลับกลายเป็นคนเงียบขรึม ฉันเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรมันถึงเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้"
"ค่ะ หนูะทำตามที่คุณลุงแนะนำค่ะ"
"ดีมาก ไปเตรียมน้ำอุ่นให้ฉันเถอะ ฉันจะอาบน้ำและเข้านอนละ"
"ค่ะ เดี๋ยวหนูนวดขาให้ก่อนนอนนะคะ"
"อืม ขอบใจๆ"
..........
สวัสดีค่ะ เปิดเรื่องใหม่แล้วนะคะ ฝากเดือนมีนนารากับนราวิชญ์ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ สวัสดีปีใหม่ 2567
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง เหลือกินเหลือใช้ ตลอดปี และตลอดไปเลยนะคะ... รักมากๆ ค่ะ?