“แล้วเป็นไงบ้าง ไปค้างบ้านพี่สนุกไหม” อินดี้ถามพลางเดินไปถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าที่ฉันเตรียมไว้สำหรับเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว
“ก็ดี เหมือนเดิมแหละ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ” ไม่ได้ชอบโกหกนะ พอโกหกก็ต้องโกหกต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด
แต่ให้มาพูดอธิบายก็ไม่จำเป็น เพราะเราเป็นเพื่อนกัน แค่เพื่อนกัน บางเรื่องไม่จำเป็นต้องเล่าให้ฟัง
“เออ เหมือนหลายวันก่อนกูเห็นเอกสารฝึกงานของมึงอะ ไม่ใช่ชื่อบริษัทที่พี่มึงทำ หรือพี่มึงเปลี่ยนที่ทำงานแล้วเหรอ”
“เขาฝากให้กูทำอีกที่ มันดีกว่ากันน่ะ” นี่ไม่ใช่เรื่องโกหก แค่ไม่ได้พูดรายละเอียดยิบย่อย
“ไม่เห็นมึงเล่าให้ฟัง”
“กูคิดว่ามึงไม่ได้อยากรู้ ก็เลยไม่ได้เล่า”
“อ้อ” อินดี้เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
ฉันคิดว่าเรื่องจบแล้ว จึงทำกับข้าวต่อ กับข้าวง่าย ๆ ได้ไข่เป็ดมาจากยายของพี่เรย์ ทำไข่ดาวราดพริกเมนูโปรดของอินดี้ มันชอบสั่งให้ฉันทำเมนูนี้บ่อย ๆ ไม่รู้ว่ามันชอบหรือแค่เพราะเป็นเมนูเดียวที่ฉันทำพอกินได้
ห้านาทีต่อมาอินดี้ออกมาจากห้องน้ำ หายไปใส่เสื้อผ้าแล้วก็เดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว ฉันยกข้าวราดด้วยไข่ดาวเยิ้ม ๆ ราดด้วยพริกป่น บีบมะนาว ทำสองจาน ของฉันและของอินดี้
ฉันไม่ได้หิว ยังอิ่มที่กินข้าวกับพี่เรย์อยู่เลย ที่กินก็เพราะไม่อยากจะตอบคำถามอินดี้ว่าทำไมไม่กินข้าว ถ้าฉันบอกว่ากินมาแล้ว อินดี้ก็จะถามอีกว่ากินอะไร กินกับใคร ถึงเวลานั้นก็ต้องโกหกอีก สู้ฝืนกินข้าวพร้อมมันอีกครั้งก็ไม่ต้องอึดอัดใจ แค่ทนแน่นท้องเท่านั้น
“งั้นมีอะไรที่มึงคิดว่ากูไม่ได้อยากรู้ ก็เลยไม่ได้เล่าอีกไหม” อินดี้ถามเมื่อฉันวางเหยือกน้ำกับแก้วลงที่โต๊ะแล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้
“อะไรอะ” ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมอินดี้ถึงถามคำถามนี้ มันรู้อะไรมา หรือมันอยากรู้อะไร
“ก็เรื่องที่มึงไม่บอกกูเพราะคิดว่ากูไม่อยากรู้”
“ไม่มีนะ ทำไมอะ มึงอยากรู้อะไร” มีเยอะแยะเลยแหละ
แต่พูดไปมีแต่จะทำให้เราสองคนแย่ลง ไม่พูดย่อมดีกว่า
“ไม่ได้อยากรู้อะไร แค่ถามเผื่อว่ามีปัญหาอะไรที่มึงเจอแล้วไม่เล่าให้กูฟัง”
“ไม่ กูไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“อืม งั้นก็ดี กูเห็นมึงกลับบ้านไง นึกว่าไปเจอเรื่องอะไรไม่ดีมาอีก”
“กูไม่ได้กลับบ้านแม่ ไปค้างบ้านพี่ ไม่มีอะไรหรอก”
“อือ งั้นก็แล้วไป”
“แล้วมึงอะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า ตอนโทรหากูน้ำเสียงมึงไม่ดีเลย”
“ก็แค่ฝึกงานเหนื่อย เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ไม่มีไร” อินดี้ยิ้ม ก่อนจะตักข้าวกิน ท่าทางมันดูแปลกไปนิดหน่อย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ
“อีกไม่กี่เดือน เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้วน่า” ไม่รู้ว่าอินดี้เจอเรื่องอะไรมา เมื่อมันไม่พูดฉันก็ไม่ควรจะซักไซ้ บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่อยากจะพูด
“แล้วมึงกินข้าวน้อยจัง กินอะไรมาแล้วหรือไง”
“เปล่า ก็แค่ฝึกงานเหนื่อยจนกินอะไรไม่ค่อยลง” นั่นไง ฉันโกหกจนได้
ก็ถ้าบอกว่าไม่ค่อยหิว อินดี้ก็จะถามอีกว่าทำไม ไม่สบายหรือว่ากินอะไรมา
“อือ” อินดี้พยักหน้า
เราสองคนจึงนั่งกินข้าวด้วยกันเงียบ ๆ บรรยากาศมันเงียบจนเกิดความรู้สึกแปลก ๆ
ทำไมฉันรู้สึกว่าวันนี้อินดี้มันเปลี่ยนไป
หรือเป็นเพราะเราห่างกันนานเกินไปเหรอ
หรือที่จริงมันเริ่มเบื่อฉันแล้ว
ถ้าเป็นอย่างหลัง ฉันควรจะทำยังไงต่อ
แต่บางทีอาจจะเป็นฉันที่คิดมากไปเอง ที่จริงมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
ช่วงสามทุ่มเราสองคนเข้าห้องนอน มีอะไรกันก่อนนอนมันเป็นเรื่องที่ปกติมาก ๆ สำหรับเราทั้งคู่ แต่คืนนี้มันไม่ค่อยปกติเพราะอินดี้มันรุนแรงเกินไป กระแทกเข้าแต่ละครั้งฉันจุกจนหายใจไม่ออก เหมือนมันโมโห ทั้งที่สีหน้ามันก็ยังปกติดี
หรือโมโหคนอื่นแล้วมาระบายอารมณ์ใส่ฉันงั้นเหรอ
“ฮื้อ มึงทำแรงทำไม มันเจ็บอิน” ฉันกำกลุ่มผมของอินดี้แล้วกระชาก เพื่อให้มันเงยหน้าขึ้นจากหน้าอก ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ “เป็นอะไรของมึงเนี่ย กระแทกกูโคตรแรง แล้วยังเสือกดูดนมกูจนเป็นรอย ยังไม่พอ ยังกัดอีก มึงเป็นหมาหรือไง”
“หึ” มุมปากอินดี้ยกยิ้ม จากนั้นมันก็ยื่นมือใหญ่มาบีบลำคอฉัน กระแทกลำเอ็นเข้าร่องฉันเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับ ตับ ตับ แรงมือที่บีบคอเดี๋ยวบีบเดี๋ยวคลาย เสียงทุ้มเอ่ยด้วยสีหน้าท้าทาย “ครางดิมิว ถ้าเจ็บก็ร้องออกมา ร้องดัง ๆ กูอยากได้ยินเสียงมึง”
“...” ฉันมองหน้าอินดี้ด้วยความตกใจเพราะไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้
“ร้องดิมิว ครางออกมา” ไม่พูดเปล่า มือบีบคอฉันแรงขึ้น
ฉันถึงได้ทำตามที่อินดี้มันต้องการ ครางออกมาดัง ๆ ทำให้มันพอใจ
ตั้งแต่เรามีอะไรกัน ฉันไม่เคยเห็นอินดี้เป็นแบบนี้
เป็นการมีอะไรกันที่ฉันอยากให้มันจบเร็ว ๆ อยากให้อินมันเสร็จสักที แต่กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
เกือบชั่วโมงที่ร่างกายฉันเจ็บปวด ถูกบีบคอ ถูกดูดตามร่างกาย กัดตามร่างกาย จับเปลี่ยนท่าตามใจโดยที่ไม่ถามฉันก่อน บีบก้น ฟาดก้นแรง ๆ มันอาจเป็นเรื่องปกติ ถ้ามันเคยเกิดขึ้น
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเจอแบบนี้ มันไม่ปกติ
และที่ไม่ปกติยิ่งไปกว่านั้นคือ หลังจากเรามีอะไรกันแล้ว อินดี้ทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้ฉันทันที ต่างจากเมื่อก่อนที่มันจะเป็นคนเช็ดล้างทำความสะอาดให้ฉันแล้วก็นอนกอดกัน
ฉันลุกมาล้างตัวแล้วก็กลับมานอน หันมองอินดี้ที่นอนหันหลังให้ฉัน มองอยู่หลายนาทีแล้วก็ตัดสินใจขยับเข้าไปใกล้ สอดมือเข้าไปกอด
บอกกับตัวเองว่า วันนี้ที่อินดี้มันแปลกไปก็เพราะมันเหนื่อย มันเจอเรื่องไม่ดีมา ก็เลยเป็นแบบนี้ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
ฉันเข้าใจดี เรื่องบางอย่างก็ยังไม่อยากจะเล่าให้ใครฟัง ฉันเคยเป็นบ่อย ขอแค่มีคนอยู่ข้าง ๆ ก็จะรู้สึกดีขึ้น ฉันใช้การกอดเงียบ ๆ ครั้งนี้เป็นการสื่อว่า ‘กูอยู่ข้าง ๆ มึงเหมือนที่มึงเคยอยู่กับกูนะ’
ทำได้แค่คิดในใจ ใช้การกอดเป็นสื่อระหว่างเรา
สามอาทิตย์ต่อมา
ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจว่าอินดี้อาจจะเจอเรื่องแย่ ๆ มาทำให้มันไม่ปกติกับฉัน บางทีมีเซ็กซ์รุนแรงอาจจะเพราะเครียดเลยอยากระบาย นอนหันหลังให้กันอาจจะเป็นเพราะมันอยากอยู่ลำพัง
แต่นี่ผ่านมาสามอาทิตย์แล้ว อินดี้ยังทำเหมือนเดิม มีอะไรกับฉันรุนแรงกว่าเดิม รุนแรงจนฉันไม่อยากมีอะไรกับมัน ฉันกลัวเวลาที่มันแตะเนื้อต้องตัวฉัน
ฉันกลัวที่จะมีอะไรกับมัน ฉันไม่อยากเจ็บตัว แล้วที่แย่ไปกว่านั้น ทุกเช้าจะมีเงินห้าพันวางอยู่โต๊ะข้างเตียงฝั่งที่ฉันนอน มีทุกเช้า แรก ๆ ฉันถามว่าอะไร มันก็บอกเอาไว้ใช้ ถ้าคิดว่าน้อยให้บอก จะเพิ่มให้ ฉันก็เลยบอกว่าพอ ที่จริงไม่ต้องให้ก็ได้
อินดี้ก็ตอบกลับมาว่า เอาไปเถอะ เงินแค่นี้ไม่ได้ทำให้กูเดือดร้อน
แบบนี้มันเริ่มไม่ปกติแล้ว ฉันได้รับเงินห้าพันทุกเช้า กินข้าวด้วยกันก่อนไปฝึกงาน แต่เราคุยกันน้อยมาก
ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป ระหว่างฉันกับอินดี้เราเหมือนห่างกันเรื่อย ๆ ห่างทีละนิด ทีละนิด ทีละนิด รู้ตัวอีกทีเราก็เอื้อมหากันไม่เจอแล้ว
ฉันเริ่มกลัวการอยู่กับอินดี้ นั่นทำให้ฉันตัดสินใจมาหายายของพี่เรย์ มาค้างที่บ้านยายบ่อย ๆ คือฉันรู้ว่าไม่ควรรบกวนคนอื่น แต่ฉันไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหน
บ้านยายของพี่เรย์เป็นที่เดียวที่ฉันรู้สึกว่ามาแล้วมีความสุข ยายต้อนรับฉันอย่างดี รู้สึกว่าไม่ต้องต่อสู้กับอะไรทั้งนั้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้นกับชีวิตของฉันอีกครั้ง อินดี้กำลังเปลี่ยนไป มันกำลังเบื่อฉัน กำลังอยากมีคนอื่น
ฉันไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง ทุกวันนี้มันยังพูดเสมอว่าเราคือเพื่อนกัน
เหมือนมันพยายามย้ำให้ฉันรู้สถานะของตัวเอง อย่าได้คิดมากไปกว่านั้น
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วฉันจะพูดอะไรได้